พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่216 เขาคือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์

บทที่216 เขาคือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์

บทที่216 เขาคือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์

เมื่อศศินัดดาเห็นโยษิตาแล้ว หน้าถอดสีทันที ถึง แม้จะผ่านมานานแล้ว แต่ความกลัวของศศินัดดาที่มีต่อ โยษิตานั้นยังคงเหมือนเดิม เพียงแค่เห็นโยษิตา ขาของ ศศินัดดาก็สั่นขึ้นมาทันที

เธอมองไปที่โยษิตากลืนน้ำลายลง แล้วถาม

“คุ….คุณมาได้ยังไง? นี่มันเป็นเรื่องของครอบครัวฉัน คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่ง”

รพีพงษ์เป็นหลานชายของฉัน แกพูดสิว่าฉันไม่

สนได้ไหม?” โยษิตาพูดอย่างเยือกเย็น สีหน้าศศินัดดาถอดสีทันที แล้วกล่าว “คุณหยุด โกหกได้แล้ว เขาจะเป็นหลานชายคุณได้ยังไงกัน คุณ

เป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ใช่หรอ รพีพงษ์เป็นแค่

สวะตัวหนึ่งของเมืองริเวอร์เท่านั้น”

รพีพงษ์ก็คิดไม่ถึงว่าโยษิตาจะปรากฏตัวในตอน นี้ แล้วยังพูดถึงตัวตนของเขาออกมาอีก นี่ทำให้เขาต้อง ขมวดคิ้วขึ้นมา

“คุณมาที่นี่ทำไม เรื่องของผมคุณไม่ต้องมายุ่ง” รพีพงษ์กล่าว

“แกทนต่อการดูถูกของไอ้คนพวกนี้ได้ แต่ฉันไม่ ยังไงแกก็ตอบรับที่จะกลับเกียวโตกับฉันแล้ว พูดเรื่องนี้ ออกมาแล้วจะทำไม รพีพงษ์ แกคือทายาทของตระกูล ลัดดาวัลย์ เป็นผู้สูงส่ง ไม่ใช่ใครจะมารังแกได้ง่าย” โยษิตากล่าว

“คุณพูดว่าอะไรนะ! เขาคือทายาทของตระกูลลัด ดาวัลย์??!!” ศศินัดดาตะลึง

ศักดาตาโต คำพูดเมื่อกี้ตอนที่โยษิตาเข้ามานั้น ทำให้เขารู้สึกตกใจอย่างมาก ตอนนี้โยษิตาพูดว่ารพี พงษ์เป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ เหมือนดั่งเสียง ฟ้าผ่าข้างๆหูเลยจริงๆ

อารียาก็ตื่นตระหนก เมื่อก่อนเธอรู้เพียงว่ารพี พงษ์เป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์ แต่ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเขาจะเป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ แล้วเมื่อกี้โย ษิตาก็บอกว่าเขาตัดสินใจกลับเกียวโตกับโยษิตาแล้ว เขาตัดสินใจกลับไปสืบทอดมรดกแล้วหรอ?”

ต่อไปเขายังกลับมาอีกไหม? ทันในนั้น ภายในใจ ของอารียาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ เกรงว่าไม่นาน รพีพงษ์จะต้องทิ้งเธอไปแน่ๆ

ศักดารีบเดินไปที่ข้างๆของศศินัดดา แล้วพูด อย่างเสียใจว่า “ผมบอกกับคุณตั้งนานแล้วว่ารพีพงษ์ เป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์ คุณก็ไม่เชื่อ ตอนนี้ไงล่ะ คนของตระกูลลัดดาวัลย์เค้ามาถึงที่ แล้วรพีพงษ์ยังเป็น ทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์อีก คุณคิดดูดีๆนะเมื่อก่อน ที่คุณทำเขาไว้ ถ้าเขาจะหาเรื่องคุณล่ะก็ พื้นที่เล็กๆของ พวกเรานี้ จะทนทานต่อเรื่องโมโหของเขาได้ยังไงกัน”

ศศินัดดามองไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตาที่เกรงกลัว ถ้ารพีพงษ์เป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์จริงๆล่ะก็การกระทำทุกสิ่งทุกอย่างของเธอก่อนหน้านี้ เกรงว่าจะ สามารถทำให้รพีพงษ์ถล่มเธอได้เป็นร้อยๆครั้ง

ชนิสรามองไปที่ห้องรับแขกด้วยท่าทีที่มีนงงสุดๆ เธอไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าตระกูลลัดดาวัลย์เป็นอย่างไร แต่ดู จากท่าทีของโยษิตาแล้วสามารถรับรู้ได้ว่า ตระกูลนี้จะ ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

หรือที่รพีพงษ์สามารถอยู่วิลล่าที่ดีที่สุดของเมือง ริเวอร์ได้นั้น เพราะแท้ที่จริงแล้วเป็นคนของตระกูลใหญ่ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็ทำให้ชนิสราได้เปิด โลกทัศน์ เมื่อก่อนที่เขาอยู่บ้านในชนบทนั้น ไม่มีทางได้ เห็นเหตุการณ์แบบนี้

อาจจะ มีแค่ตระกูลใหญ่ๆเท่านั้นที่จะเกิด เหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

“รพีพงษ์ แกบอกฉันสิ เธอพูดจริงหรือไม่? แกคือ ทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์?” ศศินัดดาถามด้วยเสียง สันคลือ

รพีพงษ์เห็นว่าโยษิตาพูดเรื่องนี้ออกมาแล้ว จะ ปกปิดก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป แล้วอีกไม่นานเขาก็ ต้องกลับไปเกี่ยวโต ตลอดหลายปีมานี้ก็อดทนมามาก พอแล้ว พูดออกมาก็ไม่เป็นไร

เขาพยักหน้าให้กับศศินัดดา ศศินัดดาและศักดา ทั้งคู่ถึงแม้มั่นใจแล้วว่ารพีพงษ์คือทายาทของตระกูลลัด ดาวัลย์ แต่เมื่อเห็นเขายอมรับด้วยตนเอง ในใจก็ยังรู้สึก บอกไม่ถูกอยู่ดี
ถึงเวลานี้ ศศินัดดาและศักดาทั้งคู่เพิ่งจะเข้าใจ ว่าทำไมตอนนั้นคุณย่าฉัตรอยากให้อารียาแต่งกับรพี พงษ์ ตอนนั้นคุณย่าฉัตรจะต้องรู้ถึงตัวตนของรพีพงษ์ เป็นแน่ ถึงได้ทำแบบนี้

ถ้าแบบนี้ คุณย่าฉัตรก็ไม่ได้ทำร้ายครอบครัวพวก เขา แต่กลับมอบโอกาสครั้งใหญ่ให้กับครอบครัวพวก เขา

แต่ทว่าหลายปีมานี้ศศินัดดารังเกียจเดียจฉันท์รพี พงษ์มาโดยตลอด อะไรอะไรก็จะให้อารียาหย่ากับรพี พงษ์ให้ได้ แล้วเขายังด่ารพีพงษ์บ่อยๆอีกด้วย เมื่อใน สมองปรากฏภาพความทรงจำเหล่านี้ขึ้นมา เหงื่อก็เริ่ม

ไหลออกมาทุกอนูรูขุมขน

ช่วงหลายปีมานี้ถึงแม้การกระทำของศักดาที่มีต่อ รพีพงษ์จะไม่ได้เลวร้ายเท่ากับศศินัดดา แต่ก็ไม่ได้ดีไป กว่าเท่าไหร่หรอก ที่สำคัญเป็นเพราะเขาไม่ค่อยมีความ กล้า หลังจากที่รู้ว่ารพีพงษ์เป็นทายาทของตระกูลลัดดา วัลย์แล้วนั้น ขาทั้งสองข้างก็ไม่ฟังคำสั่งของเขาอีกต่อ ไป ได้แต่สั่นไม่หยุด

“ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ฉันทำอะไร รพีพงษ์เป็น สวะที่ไหนกัน เป็นลูกเขยที่ยอดเยี่ยมต่างหาก แล้วฉัน ยังจะไล่เขาออกอีก ฉันชั่งโง่งมงายเหลือเกิน!” ศศิ นัดดาพูดกับตัวเอง

โยษิตาเห็นท่าทางของศศินัดดาและศักดาแล้ว สีหน้าก็เริ่มดีขึ้นมา เธอเดินไปด้านหน้าของศศินัดดา แล้วกล่าว “ไปขอโทษรพีพงษ์”
ศศินัดดาไม่กล้าต่อต้าน รีบเดินไปที่ด้านหน้ารพี พงษ์ มองไปที่รพีพงษ์ด้วยสีหน้าที่เสียใจ

“รพีพงษ์ ฉันขอโทษคุณ ขอโทษนะ เมื่อก่อนฉัน ไม่ควรทำแบบนั้นกับคุณ คุณอย่าถือสาอะไรฉันเลยนะ ฉันคนนี้ในบางครั้งพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง ความจริงฉันฟัง คนนอกมา ถึงได้รู้สึกว่าคุณไม่ดี ถ้าฉันรู้ว่าคุณคือทายาท ของตระกูลลัดดาวัลย์ล่ะก็ จะไม่มีทางทำแบบนั้นกับคุณ แน่นอน” ศศินัดดากล่าว

ศักดาก็เดินไปข้างหน้าของรพีพงษ์ ด้วยสีหน้าที่ อับอาย แล้วโค้งคำนับ กล่าว “รพีพงษ์ เมื่อก่อนฉันทำไม่ ดีไว้หลายอย่าง ฉันจะมาขอโทษคุณ หวังว่าคุณจะยก โทษให้ฉัน ถึงแม้เมื่อก่อนฉันจะไม่ได้ดีกับคุณมาก แต่ไม่ เคยทำแบบแม่คุณอย่างนั้นแน่นอน ดังนั้น… ”

เขายังไม่ทันพูดจบ ศศินัดดาก็ตบไปที่หัวเขา หนึ่งฉาด แล้วด่า “ศักดา แกไอ้หน้าด้าน แกว่าใครทำไม่ ดีต่อรพีพงษ์ แกขอโทษก็ขอโทษสิ จะมาพูดถึงฉันทำไม แกไม่อยากอยู่ครอบครัวนี้อีกต่อไปแล้วใช่ไหม?”

ศักดารีบห่อไหล่ ไม่กล้าต่อต้าน ได้เพียงฟังคำ ด่าของศศินัดดาเท่านั้น

เทียบกับรพีพงษ์แล้ว ศักดาจึงจะเรียกได้ว่าเป็น ไอ้เศษสวะของจริง

รพีพงษ์มองดูทั้งคู่ที่อยู่ตรงหน้า อย่างเอื้อมระอา

“พอแล้ว พวกคุณยังจะใส่ใจเรื่องนี้อีก ผมไม่มี ทางเอาเรื่องของอดีตมาทำอะไรพวกคุณหรอก พวกคุณก็ไม่ต้องเพราะตัวตนของผมแล้วระวังตัวมากขนาดนั้น เพียงแค่ต่อไปอย่าทำอะไรที่มันเกินไปก็พอแล้ว” รพี พงษ์กล่าว

ศศินัดดาและศักดาทั้งสองพยักหน้า ตอบรับรพี พงษ์ ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ไม่กล้าใช้กิริยาท่าทางเหมือน เมื่อก่อนกับรพีพงษ์แล้ว

“แม่ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว งั้นคุณก็ขอโทษพี่สา หน่อยล่ะกัน เธอยังคงทำงานที่บ้านนี้ต่อไป ผมหวังว่าจะ ไม่เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นอีก” รพีพงษ์กล่าว

ศศินัดดาพยักหน้า แล้วเดินไปที่ข้างหน้าของ ชนิสรา จับมือเธอด้วยความตื่นเต้น แล้วกล่าว “น้องสาว เรื่องนี้เป็นความผิดของฉันทั้งนั้น คุณต้องให้อภัยฉันนะ ต่อไปฉันจะไม่มีทางทำแบบนี้กับคุณอีก ฉันดีใจที่คุณมา เป็นแม่บ้านให้ฉัน ต่อไปฉันจะฟังรพีพงษ์ ให้ความ เคารพคุณ”

ชนิสราได้ยินศศินัดดาพูดดังนี้ สายตาที่ เคร่งเครียดก็ผ่านคลายลง แล้วพูดกับศศินัดดาว่า “พี่ นัดดา คุณเกรงใจไปแล้ว เพียงแค่ต่อไปพวกเรามี มิตรภาพที่ดีต่อกันก็พอแล้ว”

อารียาเห็นสถานการณ์ดีขึ้น ก็ถอนหายใจ ยิ้มแล้ว ถาม “แม่ ตอนนี้ไม่อยากไล่รพีพงษ์ออกไปแล้วหรอ?”

ใบหน้าของศศินัดดาอับอายขึ้นมาทันที แล้ว กล่าว “รพีพงษ์ดีขนาดนี้ ฉันจะไล่เขาออกไปทำไม ครอบครัวเราห้ามขาดรพีพงษ์ ต่อไปนี้ฉันจะเปลี่ยนนิสัยเสียเหล่านั้นของฉันซะจะไม่มีทางเหมือนเดิมอีก”

อารียาได้ยินศศินัดดาพูดแบบนี้ ก็ชื่นใจขึ้นมา ถ้า ศศินัดดาสามารถเปลี่ยนได้จริงๆ งั้นครอบครัวของเธอก็ จะไม่ต้องมีการทะเลาะเบาะแว้งมากมายขนาดนั้นอีกต่อ ไป

รพีพงษ์เห็นปัญหาได้ถูกแก้ไขแล้ว ก็รู้สึกผ่อน คลายลง จากนั้นก็มองไปที่โยษิตา แล้วถาม “คุณมาที่นี่ คงจะไม่ใช่เพราะเห็นว่าครอบครัวเรากำลังครึกครื้น หรอกนะ?”

โยษิตายิ้ม แล้วกล่าว “ฉันมานี่เพื่อเตือนแกสัก หน่อย เวลาที่เรานัดกันเอาไว้หนึ่งเดือน ก็เหลืออีกไม่กี่ วันแล้ว

“รู้แล้ว ถึงเวลานั้นผมจะกลับไปกับคุณ” รพีพงษ์ กล่าว

อารียาได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ ในใจก็เริ่มเครียด ขึ้นมา แล้วถาม “รพีพงษ์ ครั้งนี้ที่คุณกลับไป ยังกลับมา ไหม?”

รพีพงษ์ยิ้ม ลูบผมของเธอแล้วกล่าว “กลับมา แน่นอน ผมจะไม่ไปเป็นทายาทอะไรทั้งนั้น กลับไปเพื่อ ทำความเข้าใจกับบางเรื่องเท่านั้น จัดการเสร็จเมื่อไหร่ ก็ จะกลับมาทันที คุณอยู่ไหน ผมก็อยู่นั่น”

โยษิตาจดจำท่าทีที่รพีพงษ์มีต่ออารียา ดวงตา ของเธอมองไปที่อารียา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท