พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่201

บทที่201

บทที่201 พ่ายแพ้อยู่ใต้เงื้อมมือเท่านั้น

“แกเป็นใคร?” ฌัลล์มองไปคนทั้งหกที่โผล่เข้ามา ในซอยทันใด ก็ถึงกับตกใจ คิดไม่ถึงว่าคนทั้งหกคนนี้ จะปรากฏตัวขึ้นในซอยตันนี้

ทั้งหกคนนี้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของจิรายุศ วันนี้ ตอนที่จิรายุศมารับรพีพงษ์ ได้จัดให้ทั้งหกคนนี้ซ่อน ตัวอยู่ใกล้ๆนี้

เมื่อตอนที่อารียาพวกเขาทั้งสามคนออกไปซื้อ ของ ทั้งหกคนก็ค่อยติดตามอยู่ ในเวลานั้นเด็กผู้หญิง คนนั้นล่อให้อารียามาที่ในซอย ทั้งหกคนก็สังเกตเห็น พวกคนของวัลลีแล้ว

เพียงแต่ตอนนั้นพวกเขาไม่รู้ว่าพวกคนของฌัลล์ ต้องการจะทำอะไร ดังนั้นจึงสังเกตดูอย่างลับๆ ะ

แต่เมื่อได้ยินฌัลล์บอกว่ามีคนจ่ายเงินจ้างพวกเขา

มา ทั้งหกคนก็รู้เป้าหมายของวัลลีทันที ดังนั้นพวกเขา

จึงออกมาเพื่อขัดขว้างพวกเขา

“พวกเราเป็นใครไม่สำคัญ แกรู้เพียงแค่ว่า ถ้าแก ทำอะไรพวกเขาทั้งสามคน คือแกตัดสินใจผิดพลาด ที่สุดเท่าที่เคยทำมา” ผู้นำของทั้งหกคนก็แสยะยิ้ม คน คนนี้ชื่อว่าชัยสิทธิ์ เป็นนักฆ่ามือทองมือหนึ่งของโลก

คนอย่างฌัลล์เทียบกับชัยสิทธิ์แล้ว ก็เหมือนเทียบกับกระต่ายและเสือ ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน ด้วยซ้ำเลย

อารียาพวกเขาทั้งสามคนก็คิดไม่ถึงว่าทั้งหกคนจะ ปรากฏตัวมาช่วยพวกเขาในเวลานี้

“ลูก แล้วพวกเขาจะทำอะไรอีก?”ศศินัดดาถาม สั้นๆ

“หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่ดูท่าทางพวกเขาแล้ว น่าจะมาช่วยเรานะคะ”อารียาขมวดคิ้วแล้วกล่าว

“พระเจ้าช่วย วันนี้ขออย่าให้เกิดเรื่องอะไรเลย พวกเราก็กำลังจะไปจากที่นี่แล้ว ทำไมต้องมาเจอเรื่อง แบบนี้ด้วย “ศศินัดดาอธิษฐาน

ฌัลล์เหลือบมองไปทั้งหกคนที่อยู่ตรงหน้า คิดใน ใจฝั่งตัวเองมีคนมากกว่า ไม่มีความจำเป็นที่ต้องกลัว พวกเขาทั้งหกคน

“ฉันขอเตือนพวกแกทั้งหกคนรีบไสหัวออกไปซะ จะบอกพวกแกให้ ฉันเป็นนักฆ่า!”ณัลล์พูดอย่างเย็นชา

ชัยสิทธิ์พวกเขาทั้งหกคนก็หัวเราะเสียงทันที เสียงหัวเราะก็เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย

การอ้างตัวว่าเป็นนักฆ่ามือหนึ่งตรงหน้าชัยสิทธิ์ เท่ากับเป็นแค่กลลวงเท่านั้น

“ระดับอย่างแกเหรอ ถ้าไปเป็นนักฆ่า ก็กลัวว่าจะ ถูกฆ่ามากกว่า”ชัยสิทธิ์กล่าว
ฌัลล์ปล่อยเสียงออกมาแผ่วเบา และพูดว่า: “อย่า มาพูดจาเล่นลิ้นกับฉัน คนที่ตายในเงื้อมมือฉันมี จำนวนเลขสองหลัก พวกแกคิดว่าฉันพูดเล่นเหรอ! ”

ศศินัดดาพวกเขาทั้งสามคนก็ตกตะลึง คิดไม่ถึงว่า คนที่มาหาเรื่องพวกเขาจะฆ่าคนมามากมายขนาดนี้

ชัยสิทธิ์เบะปาก จากนั้นร่างก็หายเหมือนกับผี และไปข้างหลังของวัลลีอย่างเงียบๆ แล้วโน้นตัวไป ข้างหูเขาและพูดว่า “จริงเหรอ?”

สีหน้าของวัลลีเปลี่ยนไปกะทันหัน เขาไม่รู้ว่าชัย สิทธิ์ไปอยู่หลังเขาได้ยังไง ขนบนร่างก็ลุกขึ้นพร้อมกัน

หมด

เขาก้าวไปข้างหน้าสองกล้า แล้วหันกลับไปมอง ด้านหลัง ก็พบว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแล้ว

เขาก็หันกลับมาอีกครั้ง เห็นว่าชัยสิทธิ์ไม่รู้ว่ากลับ ไปอยู่ฝั่งเดียวกับทั้งหกคนตั้งแต่เมื่อไหร่ “แค่การซ่อนตัวแบบพื้นฐานแกอย่างมองไม่ออก

จะมีหน้ามาบอกว่าตัวเองนักฆ่าอีกเหรอ?”ชัยสิทธิ์พูด

ด้วยรอยยิ้ม

ฌัลล์กลืนน้ำลาย เขารู้แล้วว่าครั้งนี้อาจเจอกับ ปรมาจารย์เข้าแล้ว

“จะบอกให้แกนะ พี่ใหญ่ของเราเป็นถึงนักฆ่าที่ มีชื่อเสียงระดับโลก เขาก็ถือว่าเป็นนักฆ่าตัวจริง อย่างแกก็แค่เด็กเล่นบ้านก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว ชื่อเล่นของพี่ใหญ่เราชื่อชัยสิทธิ์ แกเคยได้ยินมั้ย?”ชายข้างๆ ชัยสิทธิ์พูด

สีหน้าของวัลลีเปลี่ยนไป แม้ว่าเขาจะเป็นนักฆ่า แต่ก็เคยได้ยินชื่อเสียงของในบรรดานักฆ่าระดับโลก มาบ้าง

เมื่อตอนที่ได้ยินสองคำชัยสิทธิ์ ฌัลล์ก็เริ่มรู้สึก เสียใจ “แก..แกนะเหรอคนที่มันเคยหลอกใช้ยืมมือคน

อื่น ไอ้ชัยสิทธิ์ที่ใบหน้ามันฉาบไว้ด้วยหน้ากากลอบ

สังหารทั้งองค์กรป่าเถื่อนนั่น”ฌัลล์ร้องอุทานออกมา

“คิดไม่ถึงว่าแกจะเคยได้ยินชื่อของฉันด้วย ถ้า อย่างนั้น วันนี้แกยังจะหาเรื่องพวกเขาทั้งสามคนอีก มั้ย?”ชัยสิทธิ์พูดด้วยรอยยิ้ม

ฌัลล์กลืนน้ำลาย จ้องมองชัยสิทธิ์ด้วยความหวาด กลัว แล้วพูด : “ท่านชัยสิทธิ์ ผม..ผมเองก็ไม่ได้มี เจตนาจะล่วงเกิน ผมก็รับเงินค่าจ้างมาแล้ว ถ้าพวก เขาก็อยู่ในคุ้มครองของท่านชัยสิทธิ์ อย่างงั้นพวกเรา ก็ไม่จัดการพวกเขาแล้ว ผมจะพาคนออกจากที่นี่เดี๋ยว

นี้ครับ”

เมื่อพูดจบ ฌัลล์ก็จะรีบพาคนของตัวเองออกจาก

ที่นี่

ชัยสิทธิ์ก็ส่งสายตาให้ทั้งห้าคนที่อยู่ข้างหลัง ทั้ง ห้าคนก็ปิดล้อมทางออกของซอยทันที
“อยากมาก็มา อยากไปก็ไป แบบนี้มันก็คงไม่เห

มาะมั้ง มาก็มาแล้ว งั้นก็อยู่ก่อนซิ พวกเราก็ต้อง รายงานให้เจ้านายก่อน ทุกคนก็ควรจะทำความเข้าใจ ซึ่งกันและกันหน่อย นายว่ายังไง? “ชัยสิทธิ์

มีคนว่าจ้างให้มาจัดการบ้านศศินัดดาทั้งบ้าน หลัง จากที่จิรายุศกลับมา ก็ต้องตรวจสอบว่าใครเป็นคนว่า จ้างมาแน่นอน สู้ตอนนี้หยุดพวกคนของฌัลล์ไว้ที่นี่ ก่อนดีกว่า ถึงเวลารายงานกับจิรายุศก็ง่ายขึ้น

สีหน้าของวัลลีเคร่งเครียดมองไปที่ชัยสิทธิ์ ใน ใจเขารู้ดีว่า ที่ชัยสิทธิ์พูดมาทั้งหมดเกี่ยวกับเข้าใจซึ่ง กันและกันหน่อย ก็เป็นเรื่องตลก ถ้าเขาอยู่ต่อ ถึงเวลา คนที่ซวยก็คือเขา

“ขอโทษด้วยครับ แต่พวกเราไม่อยากอยู่ต่อ ไป ก่อนล่ะ!”

ฌัลล์ตะโกน หลังจากนั้นก็ไม่สนใจคนที่เขาพามา ด้วย วิ่งเข้าไปทางออกซอยอย่างรวดเร็ว ในมือขอเขา มีกริชสีดำเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น และแทงไปที่คนหนึ่งคน ที่ยืมอยู่ปากทางออกซอย

เมื่อคนนั้นคนเห็นเช่นนี้ ก็แสยะยิ้ม ก็ลงมืออย่าง รวดเร็ว ก่อนที่ฌัลล์ยังไม่ถึงตัวเขา ก็กระโดดออกไป เตะหนึ่งที ที่หน้าท้องของวัลลี

ณัลล์ก็พุ่งออกไป และล้มลงบนพื้นอย่างแรง

“ล้มลงไปให้หมด ใครก็อย่าคิดจะหนี”ชัยสิทธิ์สั่งอย่างเย็นชา

ทั้งห้าคนที่เหลือต่างก็เริ่มขยับ ในตอนนั้นซอยทั้ง แถวก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น นกกระจอกที่เพิ่งบินมา เกาะก็ตกใจแตกตื่นบินหนี

เขตชานเมืองอำเภอหยก

ด้านหน้าอาคารที่เหมือนกับโรงยิม รถของจิรายุศ จอดอยู่ที่หน้าประตูรพีพงษ์และจิรายุศทั้งสองคนลง

มาจากรถ

ที่นี่คือสถานที่จัดประมูลหยก เนื่องจากไม่มี สถานที่ใดเหมาะสำหรับจัดงานในอำเภอหยกเท่ากับที่ นี่แล้ว และการจัดประมูลนี้จะจัดขึ้นทุกปี ดังนั้นผู้คน ในอำเภอหยกจึงยอมจ่ายเงินเพื่อสร้างห้องนิทรรศการ หยกไว้ที่นี่ เพื่อจัดการประมูลโดยเฉพาะ

ปกติเมื่อไม่มีการจัดประมูล ที่นี่ก็จะมีการจัด นิทรรศการหยก เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ผู้คนที่มาดู หยกที่อำเภอหยก ก็จะมาเยี่ยมชมที่นี่

ในเวลานี้มีรถหรูจำนวนมากจอดอยู่หน้าห้อง นิทรรศการ และมีผู้คนเดินเข้าไปเที่ยวชมด้านใน มากมาย

หลังจากที่จิรายุศจอดอยู่ตรงหน้าประตูห้อง นิทรรศการ ก็เป็นที่น่าดึงดูดสนใจของผู้คนมากมาย ทั้งอำเภอหยกมีรถโรลส์ – รอยซ์แฟนทอมแค่คันเดียวซึ่งนั่นหมายความว่าจิรายุศมาอยู่ที่นี่แล้ว

ตอนนั้นผู้คนมากมายก็เข้ามาทักทายจิรายุศ จิรา ยุศเองก็ทักทายพวกเขาไปตามมารยาท หันหน้ามายิ้ม ให้กับรพีพงษ์แล้วพูด:”พี่รพี บางทีผมก็รู้สึกว่าพี่เป็นคน ฉลาด พี่รู้จักอ่อนถ่อมตน ออกไปข้างนอกก็ไม่มีผู้คน มาทักทาย ทุกวันนี้คนพวกนี้ทำให้ผมรำคาญมาก”

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูด : “ทุกคนมีวิถีชีวิตของตัวเอง ไม่มีอะไรที่ต้องบ่น ”

ในตอนนั้นทัตพงศ์ก็เดินเข้าไปหาทั้งสองคน มอง เห็นรพีพงษ์เดินตามจิรายุศมา ก็ขมวดคิ้วทันที

“ท่านยุด นี่ท่านพาเขามาที่นี่จริงเหรอ วันนี้ท่าน ตั้งใจจะให้เขาเป็นคนเลือกก้อนหิน? นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะ”ทัตพงศ์ก็ยังพูดด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

“ท่านทัตพงศ์ ท่านไม่ต้องกังวล ตราบใดที่พี่รพี ของผมบอกว่าไม่มีปัญหา เรื่องนั้นก็ไม่มีปัญหาอย่า แน่นอน”จิรายุศพูดด้วยรอยยิ้ม

ทัตพงศ์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ก็ยังรู้สึกว่ารพี พงษ์ไม่น่าเชื่อถือ แต่ว่าจิรายุศกลับเชื่อใจรพีพงษ์มาก เขาก็ทำได้เพียงแค่หุบปาก

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีรถLengthen Hummerขับ

เข้ามาหน้าห้องนิทรรศการ ทุกคนมองไปที่รถคันนั้น

ด้วยความสงสัย พวกเขาไม่เคยเห็นรถคันนี้มาก่อนใน

อำเภอหยก
ในไม่ช้า ก็มีคนลงมาจากในรถสามคน หนึ่งในนั้น มีชายวัยกลางแต่งตัวดูดี ก็คือทิวัตถ์คนที่จิรายุศกล่าว ถึง

และทั้งสองคนที่อยู่ข้างเขา ก็คือจารุพิชญ์และ ลูกศิษย์ จารุกิตติ์

หลังจากที่ทัตพงศ์เห็นจารุพิชญ์ แววตาก็เปล่ง ประกายทันที แล้วพำพึมว่า: “นั่นคือท่านจารุพิชญ์ท่าน อาจารย์จารุพิชญ์ใช่มั้ย? ถึงว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่รู้ว่า ชาตินี้ จะสามารถไปถึงจุดสูงสุดอย่างท่านได้ไหม”

ทัตพงศ์ก็ยังมีความเทิดทูนจารุพิชญ์ เนื่องจากว่า อยู่ในวงการนี้ด้วย จารุพิชญ์สำหรับทัตพงศ์แล้ว คือ ท่านอาจารย์ สำหรับท่านอาจารย์แล้ว เขาก็ยังมีความ เคารพให้เป็นอย่างมาก ซึ่งนั้นก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมไม่ สามารถช่วยจิรายุศเอาหินหยาบที่ดีที่สุดให้ได้ในครั้ง

นี้

“ความสามารถของเขาก็แค่ทั่วไปเอง สู้ฉันก็ยังไม่ ได้ ยังจะมีหน้ามาเรียกอาจารย์อีก” รพีพงษ์กล่าว

สีหน้าของทัตพงษ์ก็เปลี่ยนไปทันที จ้องมองไปที่ รพีพงษ์และพูด:”นายกำลังพูดจาไหลเหลวอะไร ความ สามารถระดับท่านอาจารย์จารุพิชญ์เป็นที่ชื่นชมรู้จัก กันดีในพื้นที่ทั้งหมดของแถบเมืองชลาลัย นายกล้าพูด ได้ยังไงว่าท่านสู้นายไม่ได้” LEGO LLEGO

เมื่อเห็นจิรายุศเห็นทัตพงษ์พูดเช่นนี้ ก็ขมวดคิ้ว

แล้วพูด: “ท่านทัตพงษ์ ทำไมท่านถึงพูดให้คนอื่นมั่นใจได้ แต่กลับทำลายความมั่นใจของตัวเอง อย่าลืมนะว่า วันนี้พวกเขาคือคู่แข่งของเรา

ทัตพงษ์มองไปที่จิรายุศอย่าลำบากใจ แล้วพูด: “ขอโทษครับ ผมก็แค่พูดไปเนื้อเรื่องเองครับ ความ สามารถระดับท่านอาจารย์จารุพิชญ์ มันไม่ใช่สิ่งที่ผม สามารถสู้ได้”

“ท่านสู้ไม่สามารถได้ แต่พี่รพีขอผมสามารถสู้ได้ ดังนั้นท่านก็อย่ามาดูถูกตัวเองมากเกินไป”จิรายุศพู ดอย่าไม่พอใจ

ทัตพงษ์ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย แต่ในใจก็ค่อนข้าง จะเหยียดหยาม คิดในใจรพีพงษ์ก็ยังหนุ่มอยู่ ต่อให้ จะเก่งแค่ไหน แต่ก็ไม่มีทางที่จะสู้ท่านอาจารย์จารุ พิชญ์ได้

เมื่อทิวัตถ์มองไปแวบเดียวก็เห็นจิรายุ ก็รีบพาจารุ พิชญ์และจารุกิตติ์ทั้งสองคนเดินเข้าไปหา “เถ้าแก่จิรายุศ ไม่เจอกันมานานเลยนะ ท่านยิ่ง

อยู่ยิ่งมีสง่าราศี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ดูเหมือนว่า

ธุรกิจหยกจะรุ่งเรือง ไม่รู้ว่า เถ้าแก่จิรายุศจะแบ่งปัน

ให้ผมหน่อยได้มั้ย? “ทิวัตถ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

จิรายุศแสยะยิ้ม แล้วพูดว่า: “แบ่งปันได้หรือแบ่ง ปันไม่ได้ ก็ขึ้นความสามารถของคุณเอง คุณก็อย่ามา ทำตัวเจ้าเล่ห์ที่นี่กับฉัน”

ทิวัตถ์ยิ้มอย่างชัย และชี้ไปที่จารุพิชญ์และจารุกิตติ์ที่อยู่ด้านหลังเขา และพูดด้วยรอยยิ้ม: “ถ้าอย่าง นั้นผมก็คิดว่าจะได้ส่วนแบ่งปันจากเถ้าแก่จิรายุศใน ครั้งนี้ ทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังผม คือนักประเมินมือ หนึ่งเมืองริเวอร์ของพวกเรา จารุพิชญ์ท่านอาจารย์ จารุพิชญ์ลูกศิษย์ของตัวเขาเอง เถ้าแก่จิรายุศน่าจะ เคยได้ยินชื่อเสียงของท่านอาจารย์จารุพิชญ์ใช่มั้ย? ”

ทัตพงศ์ก็เดินขึ้นมาข้างหน้าทันที ด้วยสีหน้าที่เต็ม ไปด้วยความเคารพแล้วพูด: “ท่านอาจารย์จารุพิชญ์ ผมชื่อทัตพงศ์ ก็เป็นคนในแวดวงวัตถุโบราณ ผม ชื่นชมบารมีของท่านอาจารย์จารุพิชญ์มานาน การพบ เจอแบบนี้หาได้ยากจริงๆ”

ในเวลานั้นรพีพงษ์ก็ยิ้ม แล้วพูด: “ท่านอาจารย์ห่า ไร เพียงแค่อยู่ใต้เงื้อมมือฉันพ่ายแพ้อยู่ดี มีอะไรดีน่าอวด

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท