พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่246 รู้จักตัวเองให้ดีก่อน

บทที่246 รู้จักตัวเองให้ดีก่อน

บทที่246 รู้จักตัวเองให้ดีก่อน

เข้าวันรุ่งขึ้น รัมภ์รดาวิ่งเข้าไปในห้องของรพีพงษ์ และ บอกกับรพีพงศ์ว่าพวกเขาก็รู้จักกันมาตั้งสองวันแล้ว ดังนั้นก็ ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องจัดแต่งงานกันอย่างเรียบง่าย ไม่ อย่างนั้นถึงเวลาที่รัมภ์รดาท้องขึ้นมาจริงๆ ก็จะถูกคนอื่น หัวเราะเยาะได้

รพีพงษ์มองไปที่คุณหนูใหญ่ที่ไร้เดียงสาคนนี้อย่างหมด หนทาง และบอกกับเธอว่าไม่มีใครที่รู้จักกันแค่สองก็แต่งงาน กัน ที่สำคัญไม่มีทางที่รัมภ์รดาจะท้อง

รัมภ์รดาไม่พอใจ โดยบอกว่าในทีวีมีมากมายรู้จักกันแค่ หนึ่งวันก็แต่งงานกัน และเพียงแค่วันเดียวที่แต่งกัน วันที่สองก็ จะคลอดลูกแล้ว

รพีพงษ์อธิบายให้กับรัมภ์รดาว่าเหตุการณ์แบบนั้นเป็น ไปไม่ได้ รัมภ์รดาเกียงกลับอย่างมีเหตุผล และถึงขนาดเอ่ย ชื่อละครออกมาด้วย เพื่อให้รู้พงษ์ไปดู

รัมภัรดามองไปที่รัมภ์รดาอย่างเอือมระอา แล้วพูด: “ถ้า หากว่าละครเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงแล้ว ก็จะผิดไปจากวัฏจักร ของมนุษย์ เขาแค่ตัดต่อเอง ถ้าจะมีลูกจริงๆ ไม่ใช่แบบนี้ ละครเรื่องนี้แค่รวมสิ่งพวกนี้เข้าด้วยกันรายละเอียดบางอย่าง จึงถูกมองข้ามไป”

“อย่างนายก็บอกมาว่าจะมีลูกยังไง รายละเอียดอะไรที่ ถูกมองข้ามไป? นายก็ต้องแสดงหลักฐานออกมาสิ” รัมภ์รดา เบิกตากว้างจ้องมองไป สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

รพีพงษ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาคงไม่สามารถจะมา สอนเพศศึกษาให้กับรัมภ์รดาได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเด็กผู้หญิง อายุสิบเก้าปี ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ กีน่าจะเคยดูวิดีโอพวกนั้นมาบ้าง ก็น่าเรียนเรื่องรู้วิธีการให้กำเนิดมนุษย์มาบ้าง เช่นเดียวกับรัมภ์รดาที่ยังบริสุทธิ์ ทั้งเกียวโตก็จะมีอยู่แค่ ไม่กี่คน

เพื่อปายเบี่ยงจากการถูกถามจากรัมภ์รดา รพีพงษ์ก็ เรียกประดิพุทธิ์เข้ามา และโยนคำถามยากๆให้กับประดิพุทธิ์

และเขาก็ใช้โอกาสขณะที่รัมภ์รดากำลังพยายามไล่จี้ ถามประดิพุทธิ์อยู่ แอบหนีออกไปจากคฤหาสน์ ออกไปข้าง นอกผอนคลายข้างนอกเพียงลำพัง

ตามที่รพิพงษ์ศิดไว้คือ อาการบาดเจ็บบนร่างกายของ เขา คาดว่าอีกแค่วันเดียวก็จะหายแล้วที่เหลือก็คือหาวิธี กำจัดฤทธิ์ยาที่เหลืออยู่ในร่างกายของเขาให้ออกไป

รอให้ร่างกายกายฟื้นฟูปกติหมดแล้ว รพีพงษ์ก็สามารถที่ จะกลับไปเมืองริเวอร์ได้

รพีพงษ์มาถึงที่พลาซาถือว่ามีชื่อเสียงพอสมควรใน อำเภอโชซิง และว่าจะหาเก้าอี้สักตัวนั่งสักพัก

ในตอนนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่ามีหญิงสาวในชุดเสื้อเชิตสึ เบจอยู่ตรงหน้าซึ่งกำลังถือกล้องและถ่ายรูปไปด้วย มองจาก ด้านหลังคุ้นมาก

รพีพงษ์นึกไม่ออกว่าตัวเองเคยเห็นด้านหลังแบบนี้จาก ที่ไหนมาก่อน นึกว่ามันเป็นเพียงแค่ภาพหลอน จากนั้นเข้าก็ เดินไปที่ม้านั่ง

ในขณะนี้ ผู้หญิงคนนั้นก็หันกลับมา ว่าจะไปถ่ายรูปที่ ด้านหลัง

แต่เมื่อหันเธอหันกลับไป ก็มองเห็นรพีพงษ์ยืมอยู่ที่ด้าน หลัง ก็นิ่งอึ้งไปเลยทันที

“รพีพงษ์ คุณมาทำอะไรที่นี่?”
เมื่อรพิพงษ์เห็นทาทางของหญิงสาว ก็ถึงกับชะงักไปเลย จากนั้นก็ยิ้ม และพูดว่า : “บังเอิญจังเลย ที่มาเจอคุณที่นี่” หญิงสาวที่ถือกล้องถ่ายรูปและกำลังถ่ายรูปอยู่ ไม่ใช่ ใครที่ไหน ตอนที่รพีพงษ์กลับมาที่เกียวโต ก็คืออันนาที่เจอ กันบนเครื่องบิน

หลังจากที่อันนาตั้งสติได้ ก็เดินเข้าไปหารพีพงษ์ ด้วย สีหน้าทำทางที่เขินอายุ

“คุณมาทำอะไรที่อำเภอโชชิงเหรอ? สองวันก่อนฉันส่ง ข้อความวีแซตให้คุณ ทำไมคุณถึงไม่ตอบเลยฉันเลย? “อันนา ถาม หลังจากที่ตัวเองถูกรพีพงษ์ช่วยตอนอยู่ที่janhao KTV ชนนาก็รู้สึกดีกับรพีพงษ์ และอยากจะเจอรพีพงษ์อีกครั้งอยู่ ตลอดเวลา

จากนั้นเธอก็เลยส่งข้อความวีแชตหารทพีพงษ์ รฟัพงษ์กั ไม่ตอบเธอ เธอคิดว่ารพีพงษ์ลืมเธอไปแล้วเสียอีก หรือจะคิด ว่าเธอเป็นแค่คนที่พบกันโดยบังเอิญ ก็เลยไม่ได้สนใจเธอ

สิ่งนี้ทำให้จิตใจของอันนาหดหู่ แล้วพอดีกับคุณน้าจันทร์ ของเธอก็ชวนมาเที่ยวที่อำเภอโซชิง เธอก็คิดว่าต้องการมาพัก ผ่อนอยู่พอดี ก็เลยมา คิดไม่ถึงว่าจะมีเจอรพีพงษ์ที่นี่อีก

เมื่อกี้ตอนที่เห็นรพีพงษ์ ในหัวสมองของอันนาก็คิดออก มาประโยคหนึ่งคือ พรหมลิขิต

รพีพงศ์ก็ยิ้มออกมาอย่างลำบากใจ สองวันก่อนเขาพบ เจอกับเรื่องมากมาย จะมีเวลาที่ไหนไปตอบวีแชต แล้วเขาก็ ไม่ทันสังเกตเห็นว่าอันนาส่งข้อความวีแชตให้เขา

“ผมมาที่นี่ก็มีธุระนิดหน่อย แล้วก็ไม่ทันได้เห็นข้อความวี แชทของคุณ ขอโทษด้วยนะ คุณมาเที่ยวที่นี่เหรอ?”รพีพงษ์
บ อันนาพยักหน้า แล้วพูด: “บ้านคุณน้าจันทร์ของฉันอยู่ใน อำเภอโชชิง พอดีว่าพี่สาวฉันก็อยู่บ้าน ฉันก็เลยมาเที่ยวเล่น สองวัน

– “แล้วตอนนี้คุณมีธุระอะไรมั้ย พี่สาวของฉันและแฟนของ เธอกำลังไปซื้อน้ำ พวกเราว่าจะไปเล่นเกมในโซนเครื่องเล่น เกม คุณจะไปด้วยกันมั้ย?”อันนาเหมือนกับจะกลัวว่ารพิพงษ์ จะบอกว่าคุณไปเล่นกันก่อนเถอะ ดังนั้นจึงรีบถามออกไป

รพีพงษ์ครุ่นคิดอยู่สักพักถึงยังไงตัวเองก็ออกมาเพื่อ ผ่อนคลาย แล้วมาเจอกับอันนาที่นี่ ไปเล่นพร้อมกับพวกเขาคง ไม่เป็นอะไร ดังนั้นจึงพยักหน้า

เมื่ออันนาเห็นว่ารพีพงษ์ตอบตกลง สีหน้าก็เต็มไปด้วย ความดีใจทันที

ในเวลานี้ก็มีชายหญิงคู่หนึ่งถือน้ำมาสองสามขวดเดินเข้า มาที่นี่ ทั้งคู่ก็คือรชนิขลพี่สาวของอันนาและจิรโชติแฟนของ หล่อน

“อันนา เอาน้ำเธอไป อาวแล้วผู้ชายคนนี้คือใครเหรอ เพื่อนเธอเหรอ?”รชนิชลจ้องมองไปที่รพิพงษ์แล้วถาม

อันนาก็รีบพยักหน้าทันที แล้วพูด: “พี่ คนนี้ก็คือรพีพงษ์ที่ ฉันเคยเล่าให้พี่ฟังไง ฉันก็คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอเขาที่นี่”

รชนิชลก็จ้องมองไปที่รหัสงษ์ทันที เดิมทีตอนที่อันนา เล่าเรื่องราวของรพีพงษ์ให้กับรชนิชลฟัง รชนิชลก็ค่อนข้าง เห็นด้วยให้อันนาหาแฟนสักคน ที่สำคัญอันนายังเล่าเรื่องราว ที่เกิดขึ้นที่janhao KTVให้รชนิชลฟังด้วย ดังนั้นในความคิด ของรชนิชล รพีพงษ์กีน่าจะเป็นเหมาะสม แล้วก็น่าจะเป็นคนมี เงินด้วย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีเกียรติยศใหญ่ถึงขนาดที่ว่า ที่ ทำให้ชิตวรช่วยเหลือได้

แต่ตอนนี้เห็นตัวจริงของรพีพงษ์แล้ว รชนิซลก็รู้สึกเหยียดหยามดูถูกทันทีบนตัวรพีพงษ์สวมใส่แค่เสื้อผ้า ธรรมดา มองแวบแรกก็รู้ว่าคือสินค้าข้างถนนตัวคนก็ดูไม่ออก มาเลยว่ามีความพิเศษอะไรตรงไหน ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆเอง

ฐานะครอบครัวของอันนาและรสนิลอยู่ในระดับชนชั้น กลาง จากความคิดของเธอ เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมให้อันนาหา ผู้ชายธรรมดาๆมาเป็นแฟน

หลายปัจจัยรวมกันแล้ว ทำให้ครั้งแรกที่รชนิขลเจอรพี พงษ์รู้สึกแย่มาก ตอนแรกเธอจะยืนน้ำให้รฟีพงษ์ แต่หลังที่ เห็นสภาพของรพีพงษ์แล้ว ก็เก็บน้ำคืนกลับมา

รพีพงษ์ก็ไม่ได้สนใจ แล้วทักทานรชนิชลและจิรโชติไป

อย่างมีสุภาพ

“อันนา เธอจะหาแฟนฉันก็ไม่ว่า แต่อย่างน้อยก็น่าจะหาที่ มันเหมาะสมกว่านี้ ถ้าหากแตกต่างกันมาก ทางที่ดีเธอก็ไม่ ต้องมีเลยดีกว่า” รชนิชลพูดอย่างตรงไปตรงมา

อันนาก็หน้าแดงขึ้นมาทันที แล้วพูด: ” พี่ ฉันบอกฟีเมื่อ ไหร่ว่าฉันจะหาแฟน”

“การกระทำของเธอทำไมฉันจะมองไม่ออกถ้าเกิดเธอ ไม่ได้ชอบนายรพีพงษ์คนนี้ เธอจะพูดถึงเขาให้ฉันฟังเหรอ? แต่ว่าสภาพอย่างเขาก็แย่เกินไปนะ พวกเธอสองคนไม่มีทาง เป็นไปได้หรอก เธอจะหา ก็น่าจะหาเหมือนแบบจิรโชติจะดี กว่า”รชนิชลหันหน้ามองไปที่จิรโชติ

จิรโชติเหมือนจะรู้ ก็เดินไปที่ตรงหน้ารพีพงษ์ กล่าวด้วย รอยยิ้ม: “เพื่อน ฉันก็จะไม่ปิดบังนายน ฐานะครอบครัวของ อันนานายกน่าจะมองออกนะ ถ้าเกิดนายชอบเธอ ฉันเตือน นายตัดใจตั้งแต่เนิ่นๆเลยจะดีกว่านะ พวกนายสองคนไม่มีทาง

เป็นไปได้

รพีพงษ์ยิ้มแล้วเหลือบมองไปที่จิรโชติ แล้วพูด: “ฉันและหล่อนเพิ่งรู้จักกันเอง จะชอบหล่อนได้ยังไง ที่สำคัญคือฉันก็ แต่งงานแล้วด้วย

“อย่างนั้นก็ดี ไปเล่นด้วยกัน แต่นายก็รู้ว่านายไม่คู่ควร กับอันนา”จิรโซติกล่าว

เมื่ออันนาเห็นรชนิชลและจิรโชติทั้งคู่เริ่มรุมรพีพงษ์ ก็ รู้สึกไม่พอใจ แล้วพูด : “พี่เขาเป็นเพื่อนของฉัน พวกพี่อย่ามา พูดจาไร้สาระอะไรอีกเลย ถ้าพวกพี่ยังทำแบบนี้อีก ฉันก็จะไม่ เที่ยวกับพวกพี่แล้ว”

“ก็ได้ก็ได้ พวกเราก็กลัวว่าเธอจะถูกหลอก นายคนนี้ก็ แต่งงานแล้ว ยังจะมาเที่ยวเล่นกับหญิงสาวอย่างเธออีก ฉันว่า มันแปลกๆนะ จับตาดูไว้หน่อยมันก็ไม่ผิดอะไรไม่ใช่เห รอรชนิชลูกล่าว

“รพีพงษ์ไม่ใช่คนอย่างที่พวกพี่คิดนะ” อันนาพูดแก้ตัว

“พวกเรารู้แล้ว ดังนั้นก็ไม่ได้ว่าจะไล่เขาไป ไปกันเถอะ เราไปเล่นเครื่องเล่นกันเถอะ ชวนเขาไปด้วย วันนี้ฉันเลี้ยง เอง”จิรโชติ

หลายคนเดินไปที่โซนเครื่องเล่นเกมที่อยู่ใกล้ๆ

อันนาเดินตามรพีพงษ์ ก็พูดขึ้นอย่างรู้สึกเสียใจ “ขอโทษด้วยนะ พี่สาวของฉันค่อนข้างอ่อนไหว คุณก็อย่า ถือสาเลย”

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูด: “ไม่เป็นไร”

ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อเห็นว่ารพีพงษ์มีท่าทางที่ไม่เฉยชา จู่ๆ ในใจของเธอก็รู้สึกหดหู รชนิชลพูดถูก เธอมีความรู้สึกบาง อย่างกับรพีพงษ์ และดูเหมือนว่า รพีพงษ์ไม่ได้รู้สึกอะไรกับ เธอเลย ไม่อย่างนั้นก็คงจะทนการดูถูกของรชนิชลและจิร โชติไม่ได้ถามเข้าฟิตเนส ดูท่าทางของนายแล้ว ปกติน่าจะไม่ค่อยได้ออก ก้าลังกายเลยสินะ รูปร่างอย่างนาย ก็คงจะไม่สามารถ ปกป้องอันนาได้

“ที่ฉันไปฝึกมวยก็เพื่อสั่งสอนคนที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์ แต่ยังคงยืนกรานที่จะเข้าใกล้กับเขา หน้าที่ ของฉัน ก็คือต่อยตีคนพวกนี้ให้วิ่งหนีไป”

หลังจากพูดเสร็จ เขาก็ชกบนเครื่องวัดพลังหมัด เขา รู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นชัดเจนอยู่แล้ว หลังจากที่รพิพงษ์เห็น พลังของหมัดของเขา ก็น่าจะล่าถูอยไปเอง

ในไม่ช้า คะแนนแปดร้อยเก้าสิบสองคะแนนก็ปรากฏบน

เครื่องวัดพลังหมัด ทำลายสถิติของตู้เกมนี้

จิรโชติยิ้มอย่างมีชัย แล้วหลีกทางให้กับรพีพงษ์ แล้วก ล่าวอย่างภาคภูมิใจ: “นายเองก็มาลองดู แรงน้อยก็ไม่เป็นไร สามารถทำให้นายรู้ถึงระดับของตัวเองเป็นเรื่องที่ดี”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท