พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 475 งั้นก็รออีกหน่อย

บทที่ 475 งั้นก็รออีกหน่อย

บทที่ 475 งั้นก็รออีกหน่อย

ทุกคนตกตะลึงกับภาพนั้น เมื่อกี้รพีพงษ์หันหลังให้กับธรรมนาถและถิรพุทธิ์ ตอนที่สองคนนั้นจะจู่โจมรพีพงษ์ ความคิดแรกของทุกคนคือรพีพงษ์จบแล้ว

ในการต่อสู้ เมื่อเราหันหลังให้คู่ต่อสู้ โดยเฉพาะตอนที่คู่ต่อสู้ยังไม่ยอมแพ้ เป็นเรื่องที่อันตรายเป็นอย่างมาก

แต่การเตะของรพีพงษ์กลับทำให้ทุกคนตกตะลึง การที่จะสามารถตอบโต้ได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น แถมยังเตะธรรมนาถจนกระเด็นออกไป นี่ไม่ใช่คนมีฝีมือทั่วๆ ไปจะทำได้

ขณะที่กำลังตกตะลึง มีใครบางคนรีบวิ่งเข้าไปหาธรรมนาถ เมื่อเขาตรวจดูอาการของธรรมนาถ สีหน้าของคนคนนั้นตกใจเป็นอย่างมาก เขาตะโกนออกมาว่า “ขะ เขาตายแล้ว ธรรมนาถตายแล้ว!”

ทุกคนพากันแตกตื่น ธรรมนาถหนึ่งในสามราชันแห่งสนามประลองใต้ดิน ตายเพราะการถูกเตะเพียงครั้งเดียว นี่มันทำให้คนที่มาดูธรรมนาถเป็นประจำตกใจเป็นอย่างมาก

รพีพงษ์ได้ยินว่าธรรมนาถตายแล้ว เขาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจและพูดพึมพำในใจว่า “ไม่ได้ควบคุมแรงให้ดี ขอโทษด้วย”

จากนั้นเขาจึงมองถิรพุทธิ์ที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาถามอย่างเย็นชาว่า “นายยังไม่ยอมแพ้ จะสู้กันต่อไหม”

เมื่อถิรพุทธิ์ได้ยินสิ่งที่รพีพงษ์พูดก็ทรุดลงต่อหน้าของรพีพงษ์ เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นระรัว “ฉันยอมแพ้แล้ว ฉันยอมแล้ว”

เมื่อเห็นว่าถิรพุทธิ์ยอมแพ้ รพีพงษ์จึงไม่ได้ทำอะไรเขาต่อ แต่คนด้านล่างเวทีในตอนนี้ ล้วนพูดอะไรไม่ออกแล้ว

รพีพงษ์หันหลังเพื่อที่จะลงจากเวที ขณะนั้นเหมือนว่านึกอะไรได้ จึงหันกลับมามองถิรพุทธิ์

ถิรพุทธิ์คิดว่ารพีพงษ์จะจัดการเขาอีก เขาตกใจจนลงไปนอนกองกับพื้น แล้วพูดอ้อนวอนออกมาว่า “ลูกพี่ ผมยอมแพ้แล้ว ปล่อยผมไปเถอะ ผมไม่อยากตาย”

“เอ่อ ฉันแค่อยากถามว่า ตอนนี้แกแพ้แล้ว ส่วนแบ่งที่เราตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ควรจะให้เลยใช่ไหม” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

ถิรพุทธิ์ถอนหายใจอย่างโล่งอก และรีบพูดออกมาว่า “ให้ ผมให้เลย”

เขาลุกขึ้นมาจากพื้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงก้องกังวานว่า “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ส่วนแบ่งที่นี่ของฉัน ยกให้ธฤตญาณทั้งหมด ต่อไปนี้เขาคือผู้ควบคุมที่นี่ ฉันจะไม่เอาอะไรจากที่นี่แม้แต่บาทเดียว!”

พูดจบ เขาก็รีบเดินลงไปข้างล่างเวที แล้ววิ่งหางจุกตูดออกไปทันที

รพีพงษ์หันไปมองทุกคนและพูดว่า “มีใครไม่พอใจอีกไหม!”

จู่ๆ ด้านล่างสนามประลองก็เงียบสงัด ไม่มีใครกล้าค้านขึ้นมา

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครขึ้นมาสู้ รพีพงษ์ก็ไม่อยู่บนเวทีต่อ เขาเดินลงจากเวทีทันที

คนส่วนใหญ่มองรพีพงษ์ด้วยแววตาหวาดกลัว แต่มีคนส่วนน้อยที่มองรพีพงษ์อย่างสะใจ

รพีพงษ์เดินเข้าไปหาพวกธฤตญาณ ในเวลานี้แววตาที่ชัยภัทรมองรพีพงษ์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ความไม่พอใจที่เขามีต่อรพีพงษ์มลายหายไปจนหมด สิ่งที่เขามาแทนที่คือความนอบน้อมและความหวาดกลัว

ธฤตญาณกับไตรทศเห็นรพีพงษ์เดินเข้ามาก็ยิ้มให้เขา ธฤตญาณถามขึ้นว่า “เป็นยังไงบ้าง ได้ระบายอารมณ์แล้วหรือยัง”

“ยังเหลืออีกหน่อย” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ขณะนั้นเองไตรทศสังเกตเห็นกลุ่มคนที่มองรพีพงษ์ด้วยแววตาสะใจ จึงถามขึ้นว่า “พี่รพีชนะแล้ว ทำไมคนพวกนั้นยังมองเขาอย่างสะใจล่ะ”

ชัยภัทรถอนหายใจแล้วพูดว่า “ชนะน่ะชนะ แต่สิ่งสำคัญก็คือธรรมนาถตายแล้ว คนที่สะใจเป็นคนเมืองโบเวนอย่างแน่นอน”

“ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะ” ธฤตญาณถามชัยภัทรอย่างสงสัย

“พี่ธฤต พี่ยังไม่รู้ว่าธรรมนาถเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์ฝ่ามือรวมศูนย์แห่งเมืองโบเวน ปรมาจารย์คนนั้นชื่อนฤชิต การที่ธรรมนาถสามารถสร้างฐานได้ในเมืองโบเวน ก็เพราะนฤชิตคอยช่วยเขาอยู่”

“ธรรมนาถเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของนฤชิต เขาเข้าข้างธรรมนาถมาก ได้ยินมาว่าในช่วงแรกที่มีคนมาแย่งถิ่นของธรรมนาถ วันต่อมาคนนั้นถูกจับเข้าไปในป่าลึกและไม่สามารถออกมาได้อีกเลย วันนี้พี่รพีฆ่าธรรมนาถ นฤชิตไม่ยอมปล่อยไว้แน่นอน”

“วันนี้นฤชิตอยู่ในเมืองแทยกด้วย ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป นฤชิตต้องรีบมาที่นี่อย่างแน่นอน”

ชัยภัทรพูดจบ เขาก็มีสีหน้าประหม่า กลอกตาไปมาแล้วพูดว่า “พวกเรารีบออกไปดีไหม ถ้านฤชิตมาเราจะซวย”

เมื่อธฤตญาณกับไตรทศได้ยินสิ่งที่ชัยภัทรพูด พวกเขายังคงนิ่ง ราวกับว่านฤชิตไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น

รพีพงษ์รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เมื่อกี้ธรรมนาถกับถิรพุทธิ์ยังไม่ทำให้เขาระบายอารมณ์ได้อย่างเต็มที่ ถ้ามีคนมีฝีมือมากกว่าสองคนนั้นมาสู้กับรพีพงษ์ แน่นอนว่ารพีพงษ์เต็มใจสู้อย่างแน่นอน

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็รออีกหน่อยเถอะ” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

เมื่อชัยภัทรได้ฟังสิ่งที่รพีพงษ์พูด เขาก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ตอนแรกเขานึกว่าพอเขาพูดจบ รพีพงษ์จะตระหนักได้ถึงความรุนแรงของเรื่องนี้ คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะพูดว่าให้รอ

ชัยภัทรคิดว่ารพีพงษ์รู้ว่ามันอันตรายแต่ก็ยังทำ ถึงแม้รพีพงษ์จะเก่งจนสามารถทำให้สองคนนั้นไม่มีทางสวนกลับ แต่ว่าเขาไม่ได้เก่งเหมือนที่ธฤตญาณพูดเอาไว้ว่าสามารถจัดการได้ภายในหนึ่งนาที

ยิ่งไปกว่านั้นนฤชิตคือปรมาจารย์ฝ่ามือรวมศูนย์อันดับหนึ่งแห่งเมืองโบเวน ฉายานี้ไม่ใช่ได้มาเล่นๆ ไม่เคยมีใครในเมืองริเวอร์ที่ได้รับฉายาผู้มีฝีมืออันดับหนึ่ง ธรรมนาถเป็นลูกศิษย์ของนฤชิต แต่ฝีมือของทั้งสองคนยังต่างกันมาก

ถ้ารพีพงษ์คิดว่าตัวเองสามารถต้านทานกำลังของนฤชิต เพราะเอาชนะธรรมนาถกับถิรพุทธิ์ได้ เกรงว่าเขาจะคิดไปเองน่ะสิ

“พี่รพี พละกำลังของนฤชิตไม่ได้เหมือนที่พี่จินตนาการเอาไว้ ผมว่าเรารีบไปหาที่หลบก่อนดีกว่า นฤชิตคงไม่อยู่ที่เมืองแทยกตลอด เรารอให้เขากลับไปก่อน จากนั้นจึงหาทางจัดการเรื่องนี้” ชัยภัทรพูดเกลี้ยกล่อม

“ชัยภัทร นายดูถูกพี่รพีเกินไปแล้ว ในเมื่อพี่รพีบอกให้นายรอ นายก็รอสิ ปรมาจารย์ฝ่ามือรวมศูนย์อะไรนั่นเป็นแค่เรื่องเล็กเมื่ออยู่ต่อหน้าพี่รพี” ไตรทศจ้องชัยภัทรแล้วพูดขึ้น

“ไม่ใช่นะครับ นฤชิตเก่งจริงๆ…” ชัยภัทรกำลังจะอธิบายให้ไตรทศฟัง

“พอแล้ว รอสักพัก ให้นฤชิตอะไรนั่นมาก่อน แล้วนายจะรู้ว่ารพีพงษ์เป็นคู่ต่อสู้ของเขาจริงหรือเปล่า” ธฤตญาณเอ่ยขึ้น

เมื่อชัยภัทรเห็นว่าคำพูดของตัวเองไม่สามารถทำให้ทั้งสามคนเชื่อได้ เขาจึงไม่พูดอะไรต่อ

ถ้าเขาไม่อยากรักษาสนามประลองใต้ดินที่เมืองแทยกเอาไว้ ไม่แน่ตอนนี้เขาอาจจะหนีไปเพียงคนเดียวแล้วก็ได้

“ไม่ว่ายังไงรพีพงษ์เป็นคนฆ่าเขา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน นฤชิตคงไม่มาหาเรื่องฉัน ตอนนี้ฉันคงทำได้เพียงขอพรจากพระเจ้า”

คนของเมืองโบเวนที่อยู่ในสนามประลองเห็นรพีพงษ์ยังอยู่ที่นี่ และไม่มีท่าทีว่าจะออกไป นอกจากจะมีคนที่รู้สึกตกใจแล้ว ยังมีคนที่ยิ่งสะใจเข้าไปอีก

“อย่าบอกนะว่าชัยภัทรไม่ได้บอกเขาว่าธรรมนาถเป็นลูกศิษย์ของนฤชิต พวกเขาถึงยังรออยู่ที่นี่ ฉันได้ยินมาว่านฤชิตอยู่ที่เมืองแทยกด้วย ฉันว่าเขาคงจะมาที่นี่ในไม่ช้า”

“ดูท่าทางของมันเมื่อกี้ เหมือนชัยภัทรจะบอกเรื่องนี้กับมันแล้ว แต่รพีพงษ์อะไรนั่นไม่ยอมไปจากที่นี่ อย่าบอกนะว่าจะรอนฤชิตมาที่นี่ เขาจะต่อกรกับนฤชิตอย่างนั้นเหรอ”

“อย่าล้อเล่นน่า นฤชิตเป็นปรมาจารย์ฝ่ามือรวมศูนย์อันดับหนึ่งของเมืองโบเวน ถึงรพีพงษ์จะเก่งจนสู้สองต่อหนึ่งได้ แต่จากฝีมือของมันเมื่อครู่ ไม่สามารถสู้นฤชิตได้อย่างแน่นอน”

“นายพูดถูก ตอนแรกนฤชิตสู้สิบต่อหนึ่งเลยนะ แถมยังใช้กระบวนท่าแค่สิบกว่ากระบวนท่าก็จัดการได้ด้วยตัวคนเดียว รพีพงษ์สู้กับสองคนนั้นก็คงใช้แรงไปเยอะแล้ว จะเป็นคู่ต่อสู้ของนฤชิตได้อย่างไร น่าขำสิ้นดี”

……

ผ่านไปไม่นาน เกิดความโกลาหลที่หน้าประตูทางเข้าสนามประลอง ทุกคนรีบหลีกทางให้ จากนั้นชายที่ดูมอมแมม ไว้ผมทรงเดทร็อค เขาเดินเข้ามาด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด

เขาไปดูศพของธรรมนาถ จากนั้นจึงกวาดตามองรอบๆ รังสีอาฆาตแผ่ออกมาจากตัวเขา

“ใครที่มันกล้ามาฆ่าลูกศิษย์ของฉัน ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม รีบไสหัวออกมา วันนี้ฉันจะหั่นแกเป็นหมื่นชิ้น!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท