พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 259 ไม่จบไม่สิ้นสักที

บทที่ 259 ไม่จบไม่สิ้นสักที

บทที่ 259 ไม่จบไม่สิ้นสักที

รพีพงษ์มองไปศศินัดดาที่ยืนขวางตัวเองอยู่ สีหน้าเคร่งเครียด แล้วพูดอย่างเย็นชา: “แม่ ตอนนี้ผมไม่มีเวลามาพูดเรื่องนี้กับแม่ ตอนนี้แคลร์ตกอยู่ในอันตราย ผมต้องรีบไปช่วยเธอโดยเร็ว”

ศศินัดดาเบะปาก แล้วพูด: “แกอย่ามาหลอกฉันนะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกอยากหาข้ออ้างเพื่อจะได้รีบไปเจออารี แกก็รู้ว่าถ้าแกเจอเธอแล้ว เธอคงไม่ยอมปล่อยให้แกไปอย่างแน่นอน จะบอกแกให้นะ วันนี้แกเอาเงินไม่กี่ล้านออกไม่ได้ ก็อยากคิดที่จะออกจากประตูนี้”

พูดอยู่ ศศินัดดาจึงวางมือทั้งสองข้างของเธอปิดกั้นไว้ที่ประตู ขว้างรพีพงษ์ไว้ไม่ให้เขาออกไป

“ผมไม่ได้หลอกแม่นะ ตอนนี้แคลร์กำลังตกอยู่ในที่อันตรายจริงๆ แม่รีบถอยไปเถอะ ตอนนี้ผมจำเป็นต้องรีบไปโดยเร็ว”รพีพงษ์พูดอย่างกังวล

“แกก็รู้ว่าเธอว่าตกอยู่ในที่อันตราย อย่างนั้นยังไม่รีบเอาเงินมาให้อีก ต่อให้แกไม่อยากออกห่างจากลูกสาวฉัน ก็จำเป็นต้องจ่ายเงินฉันมาให้ครบ ให้เงินฉันก่อนแล้วแกค่อยไปหาเธอ”ศศินัดดาอย่างฉอดๆ

เมื่อจารุณีมองไปที่ใบหน้าของศศินัดดา ในใจก็รู้สึกโกรธ แล้วพูด: “คุณนี่มันน่าขยะแขยงจริงๆ เกือบจะเหมือนกับหวัง เสวี่ยฉินในมนต์รักในสายฝน ตอนนี้ลูกสาวของคุณตกอยู่ในอันตราย คุณกลับข่มขู่ขอเงินกับรพีพงษ์ ไร้ยางอายจริงๆ”

เมื่อพูดจบ จารุณีก็ผลักตัวศศินัดดา และผลักหล่อนลงไปที่พื้น

เมื่อรพีพงษ์เห็นสิ่งนี้ ก็ไม่พูดอะไร รีบเดินออกไปด้านนอก ตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะมาสนใจว่าศศินัดดาล้มลงเป็นยังไงบ้าง

รถปอร์เช่ที่จอดอยู่ในลานภายในคฤหาสน์ หลังจากที่รพีพงษ์เห็น ก็รีบเดินเข้าไปดู ก็พบว่ากุญแจอยู่ในนั้น เขาก็ตรงเข้าไปเปิดประตู และเข้าไปนั่ง

จารุณีรีบวิ่งตามเข้าทันที แล้วนั่งด้านข้างคนขับ

รพีพงษ์ไม่พูดอะไร สตาร์ทรถ และขับออกจากคฤหาสน์

หวังว่าจะทันเวลา

ศศินัดดาจับเอวของหล่อนไว้และร้องครวญคราง เมื่อเห็นรพีพงษ์ขับรถออกไป ก็รีบด่าทันที: “แกนี่มันไอ้สารเลว แกไม่ให้เงินฉันก็ไม่พอ ยังจะขโมยรถของบ้านฉันไปอีก ชาตินี้ทั้งชาติแกอย่าคิดที่จะกลับมา! ยังมีนังบ้านั้นด้วย ฝากไว้ก่อนเถอะ ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ฉันหาทางแก้แค้นแกแน่!”

ร้านktvในเมืองริเวอร์

จักรพันธ์ให้คนของตระกูลลัดดาวัลย์จับตัวอารียาเข้ามาในห้องktv

แม้ว่าเมื่อคืนจะถูกกระทืบอย่างน่าสังเวช แต่ว่าเมื่อคิดถึงว่าจะได้สนุกกับอารียา ในใจของจักรพันธ์ก็รู้สึกตื่นเต้น

“เดี๋ยวกูสนุกก่อน ค่อยไปแก้แค้นไอ้สารเลวเมื่อคืนพวกนั้น กล้ากระทืบฉันได้อย่างเลวร้ายขนาดนี้ ฉันจะทำให้พวกมันรู้ถึงความเป็นจริงของชีวิต”

เขาให้คนของตระกูลลัดดาวัลย์โยนอารียาไว้ที่บนโซฟา จากนั้นดวงตาทั้งสองข้างก็จ้องมองเธอด้วยความสมเพช แล้วพูด: “เธอเห็นความสามารถของฉันแล้วหรือยัง คนที่รพีพงษ์ส่งมาให้เธอ อยู่ที่ฉันยังไงก็ไม่เก่งพอ ที่สำคัญรพีพงษ์ก็ตายแล้ว ตอนนี้เธอก็เป็นแม่ม่าย อยู่คนเดียวมันน่าเบื่อจะตาย สู้อยู่กับฉันก็ไม่ได้ แบบนี้ฉันก็จะทำให้เธอสัมผัสถึงความสุขการเป็นผู้หญิง เธอว่าใช่มั้ย?”

อารียาจ้องมองจักรพันธ์อย่างคับแค้น กัดฟันแล้วพูด: “แกนี่มันไอ้คนระยำ ต่อให้ฉันตาย ก็ไม่ปล่อยให้แกทำสำเร็จหรอก ถ้าหากว่ารพีพงษ์ตายไปแล้วจริงๆ อย่างนั้นฉันก็ตามไปอยู่กับเขา!”

จักรพันธ์หัวเราะเยาะ และกล่าวว่า: “ฝันไปเถอะ ตกมาถึงเงื้อมมือของฉันแล้ว เธออยากตายมันไม่ใช่ง่ายๆเลย เธอเชื่อฟังแล้วรอฉันเลี้ยงดูดีกว่า!”

เมื่อพูดจบ จักรพันธ์ก็เดินไปอยู่ตรงหน้าอารียา และเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของเธอ

เมื่ออารียาเห็นเช่นนี้ ก็รีบคว้าข้อมือของจักรพันธ์ทันที แล้วกัดไปที่แขนของจักรพันธ์

จักรพันธ์ก็ร้องโอดโอย แล้วยกมืออีกข้างขึ้นมา และตบหน้าไปที่บนหน้าอารียาอย่างรุนแรงหนึ่งที

“เย็*แม่งอีผู้หญิงหยำฉ่า กล้าตบหน้าฉันเหรอ!”

อารียาจับหน้าตัวเองไว้ มองไปที่จักรพันธ์ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความแค้น แล้วพูด: “แกอย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ ฉันไม่ทำตามใจแกแน่ ถ้าแกแตะเนื้อต้องตัวฉัน ฉันก็จะทำให้แกอยู่อย่างไม่สงบสุขแน่!”

จักรพันธ์ตะคอกอย่างเย็นชา และพูดว่า: “ถือเป็นเกียรติกับเธอจริงๆ ที่จะทำให้ฉันไม่สงบสุข ฉันเองก็อยากดูเหมือนกันว่า เธอจะไปเอาความสามารถแบบนี้มาจากไหน เอาเชือกมา มัดตัวเธอให้ฉันซะ ดูซิว่าเธอจะอวดเก่งกับฉันยังไง”

คนของตระกูลลัดดาวัลย์ก็รีบออกไปหาเชือก สีหน้าอารียาก็เปลี่ยนไป ถ้าหากว่าจักรพันธ์มัดตัวเธอขึ้นมาจริงๆ อย่างนั้นเธอก็จะไม่สามารถขัดขืนได้แม้แต่นิดเดียว

เธอลุกขึ้นยืน อยากจะวิ่งออกไปจากห้องKtvนี้ เมื่อจักรพันธ์เห็นเช่นนี้ จึงผลักเธอกลับไปหนึ่งที

คนของตระกูลลัดดาวัลย์ก็ลุกขึ้นมา จ้องมองอารียาด้วยท่าทางที่บึ้งตึงไม่ยิ้ม เธอก็แค่ผู้หญิงคนเดียว อยากจะหนีออกไปจากเงื้อมมือของผู้ชายมากมายขนาดนี้ มันก็ยากเหมือนกับตะกายขึ้นบนท้องฟ้า

หลังจากนั้นไม่นาน คนที่เพิ่งออกไปก็กลับมาพร้อมกับเชือก คนกลุ่มหนึ่งมัดตัวอารียาด้วยเชือก ตอนนี้ไม่ว่าอารียาจะดิ้นรนขนาดไหน ก็ไม่มีประโยชน์

จักรพันธ์จ้องมองไปที่อารียาพร้อมกับยิ้มเยาะ แล้วพูด: “ลำบากแล้วนะพี่ๆน้องๆ เดี๋ยวฉันลิ้มลองก่อน เดี๋ยวมีส่วนแบ่งให้พี่ๆน้องๆ พวกคุณก็คิดสักว่าหล่อนคือหมาตัวเมียตัวหนึ่งก็พอ ไม่ต้องเกรงใจหล่อน”

เมื่อพูดจบ จักรพันธ์พุ่งเข้าหาร่างของอารียา

“แกไสหัวออกไปให้พ้นๆจากฉันนะ แกไอ้สารเลว อย่าแตะเนื้อต้องตัวฉัน!”สีหน้าอารียาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังแล้วตะโกน

“หึหึ ในเวลานี้ให้ฉันออกไป เธอล้อเล่นหรือเปล่า วันนี้กูต้องได้ตัวมึง!”จักรพันธ์พูดด้วยยิ้ม

ในขณะนี้ ประตูของห้องktvถูกคนเตะแล้วเปิดออก ธฤตญาณก็รีบพาคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปพร้อมกัน

หลังจากที่โทรศัพท์หารพีพงษ์เสร็จ ธฤตญาณก็รีบพาคนมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ในเวลานั้นอารียาเพียงแค่ยื้อเวลาให้ตัวเอง ดังนั้นธฤตญาณจึงพาคนมาถึงที่นี่ทันเวลาพอดี

“เย็*แม่ง ใครมันกล้ามาขัดจังหวะดีๆของกูอีกเนี่ย!”จักรพันธ์หันไปรอบๆด้วยความโกรธ และมองไปข้างหลังตัวเอง

หลังจากที่ธฤตญาณเห็นรูปร่างหน้าตาของจักรพันธ์ ก็นิ่งอึ้ง: “รพีพงษ์?”

“มันไม่ใช่รพีพงษ์ มันแค่มีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายๆกับรพีพงษ์ พวกคุณอย่าไปหลงกลมัน!”อารียารีบตะโกนทันที

ธฤตญาณพยักหน้า จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชา: “ปล่อยเธอซะ อยู่ที่เมืองริเวอร์ ยังไม่มีใครที่กล้าลงมือกับผู้หญิงของรพีพงษ์ต่อหน้าฉันธฤตญาณมาก่อน!”

จักรพันธ์หัวเราะเยาะ และพูดว่า: “มาที่นี่เพื่อช่วยภรรยาของรพีพงษ์อีกแล้วเหรอ ฟังจากน้ำเสียงของแก เก่งกาจมากเลยนะ แต่ก็ไม่รู้ว่าแกจะเก่งกาจสู้กับพวกคนยอดฝีมือของตระกูลลัดดาวัลย์หรือเปล่า? ”

สีหน้าของธฤตญาณเปลี่ยนไป เขาคิดไม่ถึงว่าคนที่ลงมือกับอารียาจะเป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์ ในขณะนี้ก็รู้สึกกังวลขึ้นมาในใจ เนื่องจากคนยอดฝีมือของเขาเทียบกับคนยอดฝีมือของตระกูลลัดดาวัลย์ ก็ยังมีช่องว่างที่ห่างไกลกันมาก

แต่อารียาอยู่ในมือของพวกเขา ต่อให้พวกเขาจะเก่งกาจแค่ไหน ธฤตญาณก็ต้องจำใจกัดฟันช่วยอารียาออกมาให้ได้

“ลุยพร้อมกัน ช่วยอารียาออกมาก่อน อย่ามัวแต่ต่อสู้กัน!”

ธฤตญาณตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว และรีบมุ่งตรงไปที่อารียา

คนของตระกูลลัดดาวัลย์มีปฏิกิริยาอย่างว่องไว รีบขัดขวางคนที่ธฤตญาณพามาด้วย ทั้งห้องKtvก็วุ่นวายขึ้นมาทันที

ความสามารถของยอดฝีมือของตระกูลลัดดาวัลย์นั้นแข็งแกร่งมาก คนที่อยู่ในเหตุการณ์นอกจากธฤตญาณสามารถรับมือได้ ส่วนคนอื่นๆที่เหลืออยู่ก็มีความอ่อนแอเมื่ออยู่ตรงหน้าพวกเขา

หลังจากที่ต่อสู้กันไม่นาน คนทั้งหมดที่ธฤตญาณพามาก็ล้มลงกับพื้น ธฤตญาณคนเดียวไม่สามารถรับมือกับคนมากมายขนาดนี้ได้ ในพริบตา ก็ล้มลงกับพื้น

จักรพันธ์เดินไปข้างธฤตญาณ และเตะไปบนตัวเขาหนึ่งที แล้วด่า: “แกเก่งนักหนาไม่ใช่เหรอ ทำไมล้มลงไว้ขนาดนี้ ก็แค่คนห่วยๆ ยังกล้ามาอวดเก่งกับฉัน วันนี้นอกจากพวกแกจะช่วยเหลือหล่อนไม่ได้แล้ว ที่สำคัญฉันยังจะให้พวกแกดูฉันข่มขืนหล่อนอย่างบ้าหลั่ง ไม่นานพวกแกก็จะรู้ว่ารสชาติความสิ้นหวังคืออะไร”

ธฤตญาณมองไปที่จักรพันธ์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด อยากจะลุกขึ้นจากพื้นเพื่อสั่งสอนเขา เขาก็คิดไม่ออกจริงๆว่า ชายคนนี้มีใบหน้าที่เหมือนกับรพีพงษ์ แต่ทำไมจิตใจถึงได้มืดมนขนาดนี้

คนของตระกูลลัดดาวัลย์ก็รีบเดินไป แล้วจับตัวเพื่อคุมควบธฤตญาณไว้ทันที ทำให้เขาไม่มีโอกาสลุกขึ้น

จักรพันธ์ถอนหายใจเบาๆ หลังจากที่เหลือบมองธฤตญาณอย่างดูถูก แล้วหันกลับเดินตรงไปที่อารียาอีกครั้ง

อารียาคิดไม่ถึงว่าธฤตญาณก็ไม่คู่ต่อสู้ของคนพวกนี้ของจักรพันธ์ และรู้สึกประหม่าอีกครั้ง

“ให้ตายเถอะ เสียเวลาของกูจริงๆ คนสวย ครั้งนี้ฉันมาปรนเปรอความสุขให้เธอแล้ว”จักรพันธ์ก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วเดินเข้าไป

อารียารู้สึกหมดหวัง ความคิดแรกก็แวบเข้ามาในหัวของเธอ ถ้าหากในเวลานี้รพีพงษ์อยู่ที่นี่ คงไม่ปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน แต่จักรพันธ์บอกว่ารพีพงษ์ตายแล้ว โทรศัพท์ที่เธอโทรหาไปก็พูดเช่นนี้ ดังนั้นในใจของเธอจึงไม่มีความหวังใดๆแล้ว

เมื่อตอนที่จักรพันธ์กำลังจะลงมือกับอารียา มีเสียงฝีเท้าดังออกมาจากนอกห้องKTV จากนั้น กลุ่มคนอีกกลุ่มก็รีบเข้าไปในห้องKtv

“รพีพงษ์ ถึงวันตายของแกแล้ว ยอมกลับไปกับพวกเราสักดีๆ ชีวิตคุณหนูใหญ่ของพวกเรา แกต้องชดใช้ด้วยการเลือดต้องล้างด้วย”ชายชราตะโกนขึ้นมา

จักรพันธ์หันไปมองรอบๆอย่างรำคาญ และตะโกนใส่คนที่วิ่งเข้ามา: “เย็*แม่ง ไม่จบไม่สิ้นสักที รีบจัดการพวกมันให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันไม่อยากให้ใครหน้าไหนมารบกวนฉัน”

“ดูท่าทางของแก ราวกับคนที่หยิ่งยโสโอหัง ไม่แปลกใจเลยแกถึงได้ลงมือกับลูกสาวของฉัน ยอดฝีมือของตระกูลลัดดาวัลย์ก็ไม่อ่อนแอ แต่ที่อยู่ในนี้ น่าจะเป็นเพียงอันธพาลระดับสูงเท่านั้น ที่มีชื่อเสียงอย่างแท้จริงไม่ได้อยู่ที่นี่สักคนเดียว”ในขณะนี้ก็มีชายเสียงทุ้มคนหนึ่งเข้ามา

จากนั้น ประธานของหอการค้าสมน.ก็เดินเข้ามาในห้องktv

“แกแม่งคิดว่าตัวเองเป็นใคร ต่อให้เป็นแค่อันธพาลของตระกูลลัดดาวัลย์ ก็ไม่ใช่คนห่วยๆอย่างพวกแกจะรับมือได้ รีบไสหัวออกไปให้พ้นๆ อย่าอยู่ขวางหูขวางตาฉันที่นี่”จักรพันธ์ไม่ได้ดูอย่างรอบคอบว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร เขาคิดว่าเป็นแก๊งอันธพาลที่ไม่รู้จักชื่อในเมืองริเวอร์

“กําเริบเสิบสานเกินไปแล้ว! จะกล้าพูดแบบนี้กับประธานของเรา ฉันว่าแกมีความกล้าหาญเป็นอย่างมาก!”ชายชราคนนั้นตะคอกอย่างเย็นชา

“ประธานขี้หมาอะไร กู…..”จักรพันธ์รู้สึกได้ถึงกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านหัวใจ จากนั้นก็เหลือบมองไปที่ประธานอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นความสยองก็บังเกิดขึ้นในใจ

“ประ….ประธานหอการค้าสมน. ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”จักรพันธ์กลัวมากจนรีบก้าวถอยหลัง

ประธานตะคอกอย่างเย็นชา แล้วพูด: “แกฆ่าลูกสาวของฉัน แล้วหลบหนีออกมาจากคุกของหอการค้าสมน.ของฉัน หรือแกคิดว่าฉันจะปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆเหรอ?”

“ที่สำคัญฉันไม่เข้าใจว่า แกหลบหนีออกมาจากคุกใต้ดินของอาคารTYได้ ทำไมถึงยังทำความผิดพลาดเรื่องง่ายๆแบบนี้ได้ วางมาดหยิ่งผยองอยู่ที่เมืองริเวอร์ หรือแกคิดว่าเรื่องแค่นี้หอการค้าสมน.ของฉันจะไม่มีเบาะแสข่าวคราวที่ตรวจสอบไม่ได้เลยหรือไง?”

เมื่อจักรพันธ์ได้ยินคำพูดเช่นนี้ของประธาน ในใจก็สั่น แล้วพูด: “หลบหนีออกมาจากคุกของพวกคุณ? ประธาน คุณเข้าใจผิดแล้ว คนที่หลบหนีออกมาไม่ใช่ผม พวกคุณมาหาผิดคนแล้ว”

เขาคิดได้อย่างรวดเร็วว่า สาเหตุที่หอการค้าสมน.มาหาเขาถึงที่ รพีพงษ์ต้องรอดพ้นออกจากเงื้อมมือของหอการค้าสมน. ยังไงเขาก็คิดไม่ถึง ว่ารพีพงษ์จะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ แม้แต่หอการค้าสมน.ก็ไม่สามารถจัดการเขาได้

ถ้าไม่คิดว่ารพีพงษ์ตายไปแล้วด้วยเงื้อมมือของหอการค้าสมน. เขาคงไม่กล้าผยองอย่างแน่นอน ใครจะรู้ว่ารพีพงษ์สามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของหอการค้าสมน.ได้

“อย่าเล่นลิ้นที่นี่ แกคือคนที่ฆ่าลูกสาวของฉัน ต่อให้แกจะแก้ตัวยังไง อย่าได้คิดว่าจะหนีพ้นได้! แกเก่งนักไม่ใช่เหรอ ครั้งนี้ฉันพายอดฝีมือที่อยู่ในระดับสูงกว่ามา แกสามารถสู้กรฤทธ์ได้ไปแล้วคนหนึ่ง แต่ว่าแกจะสามารถสู้นะกับคนสิบคนที่มีความสามารถระดับเดียวกันกับกรฤทธ์ได้เหรอ? แกรอความตายได้เลย!”

ทันทีที่เสียงของประธานลดลง คนข้างหลังของเขาก็ขยับตัวทันที และความเร็วนั้น เหนือกว่าความคิดของคน

ครั้งเดียวก็ล้มลง และยอดฝีมือที่ตระกูลลัดดาวัลย์ส่งมาทั้งหมด ก็ล้มลงกับพื้น

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท