พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 478 สร้อยคอ

บทที่ 478 สร้อยคอ

บทที่ 478 สร้อยคอ

เมืองเซี่ยงไฮ้ ในโรงแรมที่เฉิดฉายแห่งหนึ่ง ตอนนี้ที่นี่กำลังจัดงานพรอมงานหนึ่ง ผู้ที่มีร่วมงานต่างก็มีคนชั้นสูงในเมืองเซี่ยงไฮ้ ทุกคนต่างสวมใส่เสื้อผ้าที่เจิดจรัส และท่าทางดูสง่าผ่าเผยมาก

ตอนนี้อารียากำลังยืนอยู่ตรงหน้าตู้โชว์กระจก ข้างในเป็นสร้อยคอคริสตัลที่แวววับหนึ่งเส้น ในงานพรอมนี้มีเครื่องประดับที่แพงและมีชื่อเสียงไม่น้อยที่เอาออกมาโชว์ให้ทุกคนได้ชม สร้อยคอเส้นนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่โดดเด่นที่สุด

นัยน์ตาของอารีจับจ้องไปยังสร้อยคอเส้นนั้น อารมณ์สับสนวุ่นวายเล็กน้อย เธอมักจะรู้สึกว่าตัวเองก็มีสร้อยคอที่เหมือนแบบนี้ อีกอย่างสำหรับเธอแล้วค่อนข้างสำคัญ

แค่ว่าเธอไม่สามารถนึกออกว่าสร้อยคอเส้นนั้นของตนเองอยู่ที่ไหน แล้วใครก็คนให้เธอ และยิ่งไม่รู้ว่าสร้อยคอเส้นนั้นมีความหมายอะไรกับเธอ แค่รู้ว่ามันสำคัญ

พอครุ่นคิดกันไปสักพัก อารียาก็อดถอนหายใจไม่ได้ และตัดสินใจที่จะไม่บังคับตัวเองไปคิดเรื่องพวกนั้นที่นึกไม่ออก

ช่วงนี้ เธอค่อยๆ ยอมรับกับฐานะและตัวตนของตัวเอง ยอมรับในชื่อดารินทร์ เธอเป็นลูกสาวของชลาธิป และเป็นคุณหนูของตระกูลพงศ์ธนธดา

ตระกูลพงศ์ธนธดาเป็นตระกูลที่เลื่องชื่อที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้ ในเมืองที่ถูกเรียกว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศจีน การที่สามารถได้รับชื่อเสียงที่เป็นแบบนี้ ต้องไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายแน่นอน

ตามความเข้าใจของอารียาที่มีต่อตระกูลพงศ์ธนธดา เธอก็ค่อยๆ รู้ ความสามารถของตระกูลพงศ์ธนธดา แกร่งกว่าที่เธอคิดไว้ตั้งเยอะ ในเมืองเซี่ยงไฮ้ตระกูลที่เลื่องชื่อที่สุด ทว่าตระกูลพงศ์ธนธดาก็ปกปิดความสามารถของตนเอง ตระกูลพงศ์ธนธดาที่แท้จริง ได้กลายเป็นตระกูลหนึ่งในตระกูลชั้นสูงที่สุดในระดับโลกไปตั้งนานแล้ว

เบื้องหลังของตระกูลพงศ์ธนธดา แค่คนที่สามารถบรรลุระดับเดียวกันถึงจะสามารถเข้าใจได้ ในระดับของตระกูลและกลุ่มการเงินของโลก ไม่มีใครที่ไม่เข้าใจในความสามารถของตระกูลพงศ์ธนธดา

แค่ว่าอำนาจและอิทธิพลพวกนี้ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ผู้ที่รู้เรื่องพวกนี้ก็มีไม่เยอะ มีไม่กี่ตระกูลและธุรกิจที่มักจะเป็นคู่ค้านของตระกูลพงศ์ธนธดา และมักจะนึกว่าความสามารถของตระกูลพงศ์ธนธดาเท่าเทียมกับของพวกเขาตลอดมา แต่ไม่รู้ว่าตระกูลพงศ์ธนธดาที่แท้จริง แค่เพียงพลิกข้อมือก็สามารถทำให้พวกเขาถูกล้างผลาญได้

และเหตุผลที่ชลาธิปปิดบังความสามารถของตระกูลพงศ์ธนธดาแบบนี้ หนึ่งก็เพราะว่าการแก่งแย่งกับของกลุ่มการเงินและตระกูลระดับโลกเหล่านั้น เขากลับไม่ได้รู้สึกสนใจเลย อีกอย่างก็เพราะว่าอารียา ลูกสาวที่เขาตามหาว่าในหลายปีนี้

อารียาสามารถยอมรับในความดีของชลาธิปที่มีต่อเธอ เพราะว่าไม่มีความทรงจำที่ผ่านมา ดังนั้นภายในใจของเธอจึงยอมรับแล้วว่าชลาธิปที่เป็นพ่อคนนี้

แค่สิ่งที่ทำให้อารียาคิดไม่ออก ไหนๆ ตัวเองก็เป็นลูกสาวของชลาธิปแล้ว กลับรู็สึกว่าคนเหล่านั้นที่อยู่ข้างกายชลาธิปต่างก็มองเธอเหมือนคนแปลกหน้า เธออยู่ที่นี่ไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียว นอกจากชลาธิปแล้ว ก็ไม่มีใครที่รู้เรื่องราวที่ผ่านมาของเธอเลยสักคน

ชลาธิปอธิบายให้กับอารียา ในยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาของเธอ เธอใช้ชีวิตอยู่อีกที่ตลอดมา นี่เป็นเพราะชลาธิปต้องการปกป้องอารียาถึงได้ตัดสินใจแบบนี้

ดูจากชลาธิปที่รักใคร่และเอ็นดูในตัวเอง อารียาสัมผัสได้อย่างถ่องแท้ที่ชลาธิปเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ ดังนั้นจึงเชื่อในคำอธิบายแบบนี้

อีกอย่างความรักใคร่และเอ็นดูที่ชลาธิปมีต่อเธอถึงขั้นที่ไม่มีทางมากกว่านี้อีกแล้ว งานพรอมครั้งนี้ในวันนี้ เพราะว่าอารียาบอกว่าเธออยู่แต่ในวิลล่าจนทำให้เธอรู้สึกเบื่อหน่าย จึงอยากจะอยู่สถานที่ที่ครึกครื้นสักพัก ชลาธิปก็ได้สั่งให้คนจัดงานพรอมครั้งนี้ขึ้น

ทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้ไม่มีใครไม่อยากจะสานความสัมพันธ์กับตระกูลพงศ์ธนธดา ดังนั้นคนที่มาร่วมงานพรอมก็ถือว่าเยอะเป็นพิเศษ

แค่ครึกครื้นเท่านั้น กลับไม่มีใครที่รู้จักอารียา นี่กลับทำให้ภายในใจของอารียายิ่งรู้สึกโดดเดี่ยว จนกว่าเธอมองเห็นสร้อยคอเส้นนี้ ภายในใจของอารียาจึงเกิดความรู้สึกที่คุ้นเคย

เวลานี้ มีเรือนร่างหนึ่งปรากฏอยู่ข้างๆ อารียา อารียาหันไป ก็เห็นใบหน้าของชลาธิปที่เคล้าด้วยความรักใคร่และเอ็นดู

คนที่อยู่รอบๆ เห็นชลาธิปปรากฏ จึงรีบใช้สายตาจับจ้องไว้ทันที อีกทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์ด้วยเสียงต่ำ

“พวกคุณรีบดูเข้า ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกสาวของชลาธิปที่เป็นข่าวลือในช่วงนี้ไม่ใช่หรอ หน้าตาสวยจริงๆ ”

“ได้ยินว่าลูกสาวคนนี้ของเขาเพิ่งจะรับกลับมาในช่วงนี้ ชลาธิปรักและเอ็นดูเธอมาก ทำให้คนรู้สึกอิจฉาจริงๆ ”

“สวยขนาดนี้ และยังเป็นคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา หากผมสามารถดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด ชาตินี้ก็รู้สึกคุ้มมากแล้ว”

“นายอย่าฝันลมๆ แล้งๆ เลย ได้ยินมาว่าชลาธิปเลือกคู่ครองให้กับลูกสาวคนนี้ของเขาไปแล้ว ตามความสามารถระดับนี้ของนาย แค่เกรงว่ายังไม่พอที่จะเป็นลูกเขยของตระกูลพงศ์ธนธดาหรอก”

…….

“ชอบสร้อยเส้นนี้หรอลูก? ” ชลาธิปเอ่ยถาม

อารียาไม่ได้ยืนยันและไม่ได้ปฏิเสธ แค่พูดขึ้น “สร้อยเส้นนี้ทำให้หนูรู้สึกคุ้นเคยมากค่ะ คุณพ่อคะ แต่ก่อนหนูเคยมีสร้อยคอแบบนี้หรอคะ? ใครซื้อให้หนู? คนที่ให้หนู สำหรับหนูแล้วคงจะสำคัญมาก”

“ยัยลูกสาวซื่อบื้อ แต่ก่อนสร้อยของหนูมาเยอะจนนับไม่ถ้วน แบบเยอะเกินไป อาจจะเพราะว่าสร้อยเส้นนี้ ทำให้หนูคิดถึงเรื่องบางอย่าง ความจำเลอะเลือน สิ่งของอะไรที่หนูนึกขึ้นได้ ก็มักจะทำให้หนูรู้สึกสำคัญอยู่แล้ว” ชลาธิปอธิบายด้วยรอยยิ้ม

อารียาพยักหน้าครุ่นคิดอย่างคล้อยตาม ชลาธิปพูดก็ถูก แต่ก่อนความรู้สึกแบบนั้นอาจจะเป็นเพียงภาพลวงตา รอให้เธอจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ไม่แน่ก็จะไม่รู้สึกว่าสร้อยเส้นนั้นสำคัญแล้ว

“ลูก พ่อจะช่วยหนูหาชายหนุ่มที่หล่อและมีความสามารถไม่กี่คนในเมืองเซี่ยงไฮ้ ลูกก็ถึงเวลามีความรักแล้ว ถ้ามีเวลาว่างๆ ก็ลองคบหากับพวกเขาดู ไม่แน่อาจจะเจอคนที่หนูชอบก็ได้นะ” ชลาธิปพูดขึ้น

“ไม่เอาค่ะ! ” อารียาตอบกลับอย่างเด็ดขาด นี่เป็นการตอบสนองจากสัญชาตญาณของเธอ เป็นคำตอบที่ให้โดยไม่ครุ่นคิดอะไรเลย

ในสามัญสำนึกของอารียา คิดว่าตนเองไม่ควรไปคบหากับผู้ชายหน้าไหน

ชลาธิปก็นึกไม่ถึงว่าอารียาจะปฏิเสธโดยเร็วแบบนี้ จึงนิ่งงันไปสักพัก

“ทำไมล่ะลูก ลูกไม่อยากจะรู้จักกับคนเยอะกว่านี้หรอ? ” ชลาธิปเอ่ยถาม

สีหน้าของอารียาก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดูทุกข์ทนทันที แล้วพูดขึ้น “พ่อคะ หนูมักจะรู้สึกว่าในใจของหนูมีคนๆ หนึ่งเข้าไปอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถให้คนอื่นเข้าไปอยู่ได้ ถ้าเป็นไปได้ หนูหวังว่าพ่อจะช่วยหนูตามหาคนๆ นี้ค่ะ”

ชลาธิปมองสีหน้าที่เจ็บปวดของอารียา จึงถอนหายใจอย่างประหม่า แล้วพูดขึ้น “พ่อจะช่วยหนูตามหาแน่นอน ตอนนี้อาการของหนูไม่ดี กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

อารียาพยักหน้า จากนั้นก็มีผู้หญิงสองคนไปกับเธอ แล้วจากที่นี่ไป

ชลาธิปมองสร้อยคอที่อยู่ในตู้โชว์ นัยน์ตาเคล้าด้วยความลุ่มลึก

“เก็บสร้อยทั้งหมดที่อยู่ในนี้ วันข้างหน้าอย่าให้ปรากฏอยู่ตรงหน้าคุณหนูอีก”

…….

ณ เกียวโต สำนักงานใหญ่กรุ๊ปKIN

ในออฟฟิศหนึ่ง โยษิตากำลังนั่งอยู่บนโซฟา คนที่นั่งตรงข้ามเธอ เป็นชายที่มีหน้าตาหล่อเหลา มุมปากกระตุกยิ้มอ่อนๆ ตลอดมา ข้างหลังของเขามีคนๆ หนึ่งที่สวมใส่แว่นตากรอบดำ ดูๆ แล้วก็คือเลขาที่มีความรับผิดชอบและละเอียดรอบคอบ

คนๆ นี้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามโยษิตาก็คือจิรเวช

“คนๆ นั้นของผมที่อยู่ต่อในเมืองริเวอร์เพื่อที่จะจัดการกับรพีพงษ์ตายไปแล้ว ได้ข่าวว่าเขากระโดดตึกตาย รพีพงษ์กลับมาเมืองริเวอร์ก่อนที่เขาจะตายไปไม่นานเอง เรื่องนี้น่าจะเป็นเขาที่เป็นคนทำ” โยษิตาบอกว่าจิรเวช

“ก็แค่หมากล้อมหนึ่งตัว ตายไปก็ตายไปสิ ฉันนึกไม่ถึงว่าแค่พึ่งพาคนโง่คนหนึ่งก็สามารถจัดการกับรพีพงษ์ได้ ถ้ารพีพงษ์จัดการง่ายขนาดนี้ งั้นครั้งนี้ผมมา ก็คงจะไม่ค่อยมีความหมายแล้ว” จิรเวชพูดขึ้น

“ตระกูลลัดดาวัลย์ใกล้จะถูกเราบีบบังคับจนสุดทางตันแล้ว แค่ว่าอูฐที่ผอมตายก็ยังใหญ่กว่าม้า พวกเราอยากจะกลืนกินตระกูลลัดดาวัลย์ให้สิ้นซาก ก็ยังต้องเสียกำลังที่ใหญ่มาก” โยษิตาพูดต่อ

จิรเวชยิ้ม แล้วพูดขึ้น “ตอนนี้มีโอกาสหนึ่งแล้ว สามารถทำให้คุณไม่ต้องใช้กำลังมากขนาดนั้น ก็สามารถล่มตระกูลลัดดาวัลย์ได้ นี่ก็ถือว่าฟ้าสวรรค์ไม่คุ้มครองตระกูลลัดดาวัลย์ก็แล้วกัน กลับปรากฏโอกาสที่ดีเยี่ยมในตอนนี้”

“โอกาสอะไร? ” ความใจจดใจจ่อของโยษิตาจึงรวบรวมขึ้นมา

“ช่วงก่อนหน้านี้ไม่นาน มีคนได้แผนการการเปลี่ยนแปลงเขตเมืองเก่ามาครอบครองในมือ ผลประโยชน์ที่จะได้รับในเรื่องนี้ บอกได้ว่าเป็นผลประโยชน์ที่ใหญ่หลวงมาก คนที่ควบคุมเรื่องนี้ แม้กระทั่งผมยังไม่สามารถจับต้องได้ คิดว่าคงจะเป็นคนที่มีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่ แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้สำคัญอะไร สำคัญตรงที่ว่าต่อไป เขาต้องตามหาคนที่มาร่วมงานที่จะสำเร็จแผนการเปลี่ยนแปลงเขตเมืองเก่า ถ้าใครสามารถได้โอกาสการร่วมงานในครั้งนี้ ก็จะสามารถแซงขึ้นหน้าผู้ที่มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในเกียวโต”

“วันนี้คนที่สามารถกระทำเรื่องนี้ในเกียวโต ก็คงเหลือแค่พวกเรา ตระกูลลัดดาวัลย์ต้องเผชิญกับวิกฤต หอการค้าสมน.ก็ถูกกระทบ แค่พวกเราสามารถได้โอกาสการร่วมงานครั้งนี้ งั้นตระกูลลัดดาวัลย์คงไม่สำคัญอะไรแล้ว”

ได้ยินคำพูดของจิรเวช โยษิตาทำนัยน์ตาเปล่งประกายเช่นกัน ทว่าไม่นานก็พูดอย่างลังเลเล็กน้อย “ไหนๆ คนๆ นั้นมีที่มายังไงแม้แต่คุณยังจับต้องไม่ได้ งั้นเขาคงไม่จำเป็นต้องตอบตกลงว่าจะร่วมงานกับเรา ถ้าถึงเวลาเขาเลือกตระกูลลัดดาวัลย์ขึ้นมา งั้นตระกูลลัดดาวัลย์ก็คงจะถือโอกาสนี้ฟื้นตัวอีกครั้ง ถึงเวลาคนที่ซวยก็คือเรา”

“นี่คุณอย่าเพิ่งกังวลสิ คนรับผิดชอบคนนั้นหาผู้ที่ไปร่วมงานด้วย และวางแผนว่าจะจัดงานเลี้ยงอีกไม่กี่วันข้างหน้า ถึงเวลาถ้าจะร่วมงานกับเขาก็สามารถเข้าแย่งชิง การเปลี่ยนแปลงเขตเมืองเก่าต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการสนับสนุน ผู้ที่รับผิดชอบท่านนั้นต้องมีคำขอที่ง่ายมาก ใครที่สามารถออกเงินเยอะก็จะร่วมงานกับคนนั้น”

จิรเวชยิ้มขึ้น แล้วพูดขึ้น “คุณรู้สึกว่า เกียวโตในวันนี้ มีคนสามารถเทียบกับเราได้ไหม? ”

…….

ณ เมืองริเวอร์ สตาร์กาย

รพีพงษ์นั่งอยู่ตรงหน้าบาร์ มือถือวางไว้ตรงข้างๆ แล้วกำลังดื่มเหล้า

และในตอนนี้ มือถือของเขาก็ดังขึ้น หลังจากที่รับสาย ทางสายก็ส่งเสียงของผู้ชายที่ต่ำและเข้มมาก “ท่านครับ ทางฝั่งเกียวโตเตรียมการเสร็จแล้วครับ ท่านสามารถออกเดินทางได้เลยครับ”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท