พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่496 งานเลี้ยง

บทที่496 งานเลี้ยง

บทที่496 งานเลี้ยง

โครงการบูรณะเมืองเก่าที่ เกียวโตกลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ เพราะต้อง การความร่วมมือจากฝ่ายตรงข้าม ตระกูลใหญ่ๆแห่งเมืองเกียวโตต่างก็กระโดดเข้ามามีส่วนร่วม

แม้ว่าทุกคนต่างรู้อยู่แก่ใจ โครงการบูรณะครั้งนี้ คงจะตกเป็นของแค่กรุ๊ปKIN กรุ๊ปTY และตระกูลลัดดาวัลย์ตระกูลใหญ่ไม่กี่ตระกูลนี้เท่านั้น แต่ว่าผู้เกี่ยวข้องในการบูรณะครั้งนี้มีมากมาย แค่โครงการเล็กๆก็มีผู้เข้าร่วมผลประโยชน์หลายคนแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงรอคอยการเปิดตัวของโครงการบูรณะครั้งนี้

ส่วนการซ้ำเติมตระกูลลัดดาวัลย์จากกรุ๊ปKIN ตอนนี้ทุกคนต่างรู้ว่าตระกูลลัดดาวัลย์ได้ สิ้นลายไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีกำลังวังชาที่จะมาสู้กับกรุ๊ปKINหรอก

แม้ว่ากรุ๊ปTYจะไม่ได้มีกำลังขนาดนั้น แต่ว่าระยะนี้ก็มีข่าวออกมาว่า กรุ๊ปTYเคยลองดี กับกรุ๊ปKIN แต่สุดท้ายก็โดนจัดการเสียเรียบอย่างง่ายดาย

ยิ่งไปกว่านั้น มีคนพูดว่ากรุ๊ปTYไม่ใช่คู่ต่อสู้กรุ๊ปKINเลยแม้แต่น้อย ที่กรุ๊ปTYยังอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเพราะกรุ๊ปKINไม่ใส่ใจในการลงมือของเขาต่างหาก

ช่วงเวลาหนึ่ง ทุกคนต่างคิดว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ จะต้องตกเป็นของกรุ๊ปKINอย่าง ไม่ต้องสงสัย

ส่วนในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้ มีข่าวปล่อยออกไป บอกว่าตระกูลลัดดาวัลย์ทนการโจมตีของกรุ๊ปKINไม่ไหว เหมือนหมาจนตรอก เลยทำร้ายร่างกายผู้จัดการของกรุ๊ปKIN

ทุกคนต่างรู้สึกว่าการที่ตระกูลลัดดาวัลย์ทำแบบนี้ไม่มีความเป็นผู้ดีเอาเสียเลย สู้เรื่องการค้าไม่ได้ ก็หาเรื่องทำร้ายคน ช่างหน้าด้านเสียจริง

และก็เป็นสิ่งที่ย้ำยืนยันว่าตระกูลลัดดาวัลย์สู้กรุ๊ปKINไม่ได้จริงๆ ไม่อย่างนั้นจะเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันขึ้นมาได้อย่างไร

รพีพงษ์รู้ว่าข่าวนี้โยษิตาเป็นคนหาคนปล่อยข่าวออกไป แต่ว่าเขาไม่สนใจ ยิ่งคนคิดว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะไม่ได้โครงการการร่วมมือ รพีพงษ์ก็จะยิ่งต้องหักหน้ากรุ๊ปKINให้มากเท่านั้น

เป็นเพราะเรื่องนิรมัทกับญาดาเมื่อคราวที่แล้ว สิ่งที่บ้านลัดดาวัลย์เหลือไว้ตอนนี้ก็คือ คนที่จงรักภักดี รพีพงษ์สัญญากันภายในตระกูล บอกว่าจะต้องคว้าโครงการนี้มาให้ได้ รอจนถึงเวลานั้น เมืองเกียวโตก็จะไม่มีใครเทียบตระกูลลัดดาวัลย์ได้

ใครๆต่างก็เคยเห็นรพีพงษ์จัดการกรุ๊ปKINง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ จึงเชื่อมั่นรพีพงษ์ในเรื่องนี้

รพีพงษ์เองก็เชื่อ คนที่ได้รับการคัดเลือกคราวนี้ จะต้องสามารถนำพาตระกูลลัดดาวัลย์ไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้แน่นอน

ห้องหนังสือของรพีพงษ์ ในขณะที่รพีพงษ์กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะหนังสือ เขากำลังจ้อง เขม็งกับรายงานของกรุ๊ปKIN

ในตอนนี้เสียงมือถือของรพีพงษ์ดังขึ้น รพีพงษ์หยิบขึ้นมาดู ไกรเดชโทรมา

หลังจากที่รับสายแล้ว เสียงไกรเดชก็ดังขึ้น“คุณรพีพงษ์ครับ ผมคิดวิธีที่จะได้ทั้งตัวโครงการและให้กรุ๊ปKINเป็นผู้ควักทุนได้แล้วครับ แต่ว่าต้องการความร่วมมือจากคุณรพีพงษ์ครับ”

รพีพงษ์หรี่ตาแล้วตอบ“ไม่มีปัญหา”

งานเลี้ยงในวันนั้น

หนึ่งทุ่มตรงที่ห้องอีวานโฟนนิก

ตอนนี้ห้องบอลลูมห้องนี้ได้ถูกจองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว กำลังตกแต่งอยู่ เพื่อที่จะนำมาจัดงานเลี้ยง

ตอนนี้ด้านหน้าห้องอีวานโฟนนิกมีรถหรูจอดเต็มไปหมด เมื่อทอดสายตามองออกไป ไม่มีคันไหนที่ราคาต่ำกว่าหลักล้านเลย

เนื่องจากเขตบูรณะเก่าดึงดูดสายตาผู้คนมาก ไม่ว่าจะมีความหวังหรือไม่ ขอแค่พอมีตำแหน่งอยู่ในเกียวโต วันนี้ต่างก็แห่กันมาดูเหตุการณ์

ไม่นานนัก รถแอสตันมาร์ตินรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นคันหนึ่งจอดลงตรงหน้าประตูห้องอีวานโฟนนิก จิรเวชมีเชือกรัดพันอยู่บนมือ กับโยษิตาที่ใบหน้าเขียวเป็นจ้ำๆเดินมุ่งหน้าเข้าไปยังห้องอีวานโฟนนิก

“รีบมาดูนี่สิ สองคนนั้นเป็นผู้บริหารกรุ๊ปKINคนปัจจุบันนี่นา คนผู้ชายดูมีบารมีมากเลยนะ โอ้พระเจ้า คงจะเป็นลูกเศรษฐี ดูมีความสามารถมากเลย ไม่ได้ละ ฉันจะกรี๊ดสลบอยู่ละ”

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรเนี่ย ดูเหมือนโดนซ้อมมาเลยนะ”

“ข่าวว่าโดนคนบ้านลัดดาวัลย์ซ้อมเอานะ ตระกูลลัดดาวัลย์โดนกรุ๊ปKINตอกย้ำบ่อยๆ จนทนไม่ไหวแล้วมั้ง ตระกูลลัดดาวัลย์เป็นหมาจนตรอกแล้ว ก็ซ้อมคนอื่นซะน่วม หน้าด้านจริงๆ”

“งั้นเหรอ ตระกูลลัดดาวัลย์นี่ถ่อยจริงๆเลยนะ ดีชั่วยังไงก็เป็นตระกูลเก่าแก่ของเกียวโตเชียวนะ วันนี้พอสู้ไม่ได้ก็พาลชาวบ้าน ดูท่าตระกูลลัดดาวัลย์คงจบเห่คราวนี้แหละ”

……

นิรมัทกับญาดามาถึงตั้งแต่หัววัน วันนั้นพวกเขาล้มเหลวในการสืบสาวเรื่องที่บ้านลัดดาวัลย์ เสียหน้าเป็นอย่างมาก ทั้งคู่ต่างไม่สบอารมณ์ วันนี้ก็เลยจงใจมาเยาะเย้ยรพีพงษ์

พวกเขารู้มาจากโยษิตาว่า การร่วมมือในครั้งนี้ จะต้องตกเป็นของกรุ๊ปKINอย่างแน่นอน รพีพงษ์คงจะมีวันดีๆได้อีกไม่กี่วันนี้แหละ

ทั้งคู่เห็นจิรเวชกับโยษิตามา จึงวิ่งหน้าแจ้นเข้าไป

ญาดาผู้ที่มักวางท่าสูงส่งพออยู่ต่อหน้าจิรเวชก็นอบน้อมเป็นพิเศษ บนใบหน้ายังปรากฏร่องรอยแห่งความเขินอาย คนที่รักหน้าตาและผลประโยชน์อย่างเธอ ญาดาได้ยั่วยวนจนเกิดความสัมพันธ์ขึ้นกับจิรเวชเสียแล้ว สำหรับเธอ ได้แต่เพียงกอดขาจิรเวชเอาไว้ ชีวิตที่เหลือเธอก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว

แม้ว่าเธอจะรู้อยู่เต็มอก ว่าคุณชายอย่างจิรเวชก็แค่เล่นๆกับเธอเท่านั้น แต่เธอมั่นใจใน เสน่ห์ตัวเองว่าจะมัดใจชายผู้นี้ไว้ได้

เดิมทีทั้งสี่คนจะเข้าไปในห้องอีวานโฟนนิก แต่ในเวลานี้เอง จู่ๆกลุ่มคนที่หน้าประตูก็ก่อจลาจลขึ้น ทั้งสี่คนหันหลังมองไป เห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งค่อยๆขับมาทางนี้ แล้วมาจอดลงตรงหน้าประตูห้องอีวานโฟนนิก

รถแท๊กซี่ที่จอดอยู่เมื่อเทียบกับรถหรูแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับลูกเป็ดขี้เหร่ที่บุกเข้ามาในฝูงหงส์ ที่มองเห็นความแตกต่างได้อย่างเด่นชัด

ในเวลานี้เองประตูรถเปิดออก รพีพงษ์ลงมาจากด้านใน หันกลับเดินเข้าไปในห้องอีวานโฟนนิก

พอผู้คนเห็นว่าคนที่ลงจากรถเป็นรพีพงษ์ จึงระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ต่างก็แสดงความเยาะเย้ยรพีพงษ์ออกมาต่างๆนานา

ปัจจุบันตระกูลลัดดาวัลย์อ่อนแอลง ดูเหมือนคนจะรู้กันทั่วเกียวโตแล้ว หลังจากที่กรุ๊ปKINได้โครงการบูรณะเมืองเก่ามาแล้ว รพีพงษ์เองก็คงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

พวกเขาต่างก็เป็นคนที่ดูทิศทางเดินเรือ แน่นอนว่าใครแกร่งก็จะอยู่ฝ่ายคนนั้น ดังนั้นทุกคนจึงไม่มีใครเกรงใจรพีพงษ์เหมือนเดิม

“ฉันตาไม่ฝาดใช่ไหม รพีพงษ์นั่งรถแท็กซี่มาสถานที่แบบนี้ ตระกูลลัดดาวัลย์ตกอับถึง ขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย ตระกูลใหญ่ขนาดนี้ รถสักคันยังไม่มี”

“ขำจนท้องคัดท้องแข็งไปหมด ประมุขตระกูลลัดดาวัลย์ นั่งรถแท๊กซี่มาร่วมงานเลี้ยง หรือว่าเขารู้สภาพตัวเองแล้ว ก็เลยเอาให้สุดๆไปเลย”

“แหมๆ ประมุขตระกูลลัดดาวัลย์ตกอับขนาดนี้ งั้นตระกูลลัดดาวัลย์คงจะแย่สินะ เดิมทีเคยเป็นตระกูลใหญ่คับฟ้าของเกียวโต ตกอับขนาดนี้ ช่างน่าใจหาย”

“ข่าวว่าตระกูลลัดดาวัลย์ตกอับหลังจากที่เปลี่ยนมือให้เขานี่แหละ คนไร้ความสามารถขนาดนี้ เป็นตัวซวยทำให้ตระกูลตกต่ำแท้ๆ”

……

รพีพงษ์ได้ยินคนรอบตัววิพากษ์เขา แต่เขาไม่สนใจแม้แต่น้อย เขาเป็นคนที่ดูแต่ผลลัพธ์ มักจะไม่เคยสนใจในกระบวนการว่าคนอื่นจะคิดยังไง

เขาเดินตรงไปหน้าประตูห้องอีวานโฟนนิก ไม่นานนักก็เห็นพวกจิรเวชสี่คนอยู่หน้าประตู

เขาจงใจละสายตาจากโยษิตา นิรมัท และญาดา แล้วเพ่งไปที่จิรเวช ความกดดันแผ่ซ่านออกมา

จิรเวชเองก็มองไปทางรพีพงษ์ สายตาประสบกัน ใบหน้ามีแววยิ้มเยาะ

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท