พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 501 กลัวว่าจะหึงอีก

บทที่ 501 กลัวว่าจะหึงอีก

บทที่ 501 กลัวว่าจะหึงอีก

ภายในไม่กี่วัน เรื่องที่ตระกูลลัดดาวัลย์กลายเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่สุดในแผนฟื้นฟูเมืองเก่า แพร่กระจายไปทั่วเมืองเกียวโต ทุกคนรู้ดีว่าการฟื้นฟูเมืองเก่าสื่อถึงอะไร และรู้ว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะใช้โอกาสนี้ ทำให้ตัวเองมีบทบาทแบบไหน

ข่าวที่ลือกันว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะล่มสลายหายวับไปในชั่วข้ามคืน และสิ่งที่มาแทนก็คือข่าวที่ตระกูลลัดดาวัลย์จะใช้โอกาสนี้ตั้งตัวอีกครั้ง

เมื่อถึงตอนนั้น กรุ๊ปKIN ก็ไม่มีทางต้านทานพวกเขาได้แน่นอน

ทุกคนต่างตกใจและชื่นชมในการกลับมาอีกครั้งของตระกูลลัดดาวัลย์ เรื่องราวที่รพีพงษ์เคยกระทำก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองเกียวโต ผู้คนจำนวนมากล้วนพูดว่ารพีพงษ์คือความหวังใหม่ของตระกูลลัดดาวัลย์ เขาจะนำพาตระกูลลัดดาวัลย์ไปสู่ความรุ่งเรือง!

เพราะว่าก่อนหน้านี้รพีพงษ์ไม่ได้มีอำนาจอยู่ในมือ คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ร้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คนที่จะเข้าไปเลียแข้งเลียขาพวกตระกูลลัดดาวัลย์ ล้วนหายไปจากหน้าประตูคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์

แต่ครั้งนี้ตระกูลได้แผนโครงการฟื้นฟูเมืองเก่ามาอยู่ในกำมือ หน้ารประตูฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์กลับมาคึกคักอีกครั้ง คนที่มามอบของให้ก็เยอะกว่าแต่ก่อนไม่น้อยเลยทีเดียว สิ่งที่ท่านคทาต้องทำทุกวันคือการนั่งอยู่ในห้องรับแขก เพื่อต้อนรับการมาของเหล่านักธุรกิจจากตระกูลที่มีอำนาจ

ส่วนพวกตระกูลหรือบริษัทเล็กๆ ที่ส่งคนมามอบของให้ มักจะโดนเชิญออกไป โดยไม่มีโอกาสได้เจอท่านคทา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้เจอรพีพงษ์หรือไม่

แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่คนที่มามอบของก็ยังมีอย่างไม่ขาดสาย เพราะทุกคนรู้ดีว่า ตระกูลลัดดาวัลย์จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งจากแผนโครงการฟื้นฟูเมืองเก่า เมื่อถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเป็น กรุ๊ปKINหรือหอการค้าสมน. ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลลัดดาวัลย์อีกแล้ว และในเมืองเกียวโตก็ไม่มีใครสามารถต้านทานตระกูลลัดดาวัลย์ได้อีก

ภายในเวลาไม่กี่วัน ไกรเดชนัดเจอสามฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือครั้งนี้ประมาณสองสามครั้ง เพื่อปรึกษาเรื่องแผนโครงการฟื้นฟูเมืองเก่า ทุกครั้งที่ไกรเดชเสนอแผน เขาจะให้รพีพงษ์เป็นคนตัดสินใจ

และจิรเวชจะไม่พอใจกับการตัดสินใจของรพีพงษ์ทุกครั้ง แต่เขาไม่มีสิทธิ์คัดค้าน ทุกครั้งรพีพงษ์จะเลือกขัดขวางกรุ๊ปKIN เสมอ และเป็นการยั่วโมโหจิรเวชอย่างชัดเจน

จิรเวชโมโห เขาจึงแย้งออกไป ครั้งนี้ต้องให้ทั้งสามฝ่ายโหวต และธีรศานติ์จะโหวตให้รพีพงษ์ทุกครั้ง และเสียงโหวตของจิรเวชเหมือนไร้ค่า ไม่ว่าอย่างไรมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร

ถึงแม้เขาจะหงุดหงิดใจ แต่จิรเวชไม่มีทางเลือกแม้แต่น้อย เขาเพิ่งเข้าใจว่าเงินสองหมื่นล้านที่เขาลงทุนไปในโครงการนี้ กลายเป็นเงินที่ปูทางให้กับรพีพงษ์ไปแล้ว

และเขาค่อยๆ เห็นท่าทีที่ไกรเดชมีต่อรพีพงษ์ ไม่ว่ารพีพงษ์จะเสนออะไรเกี่ยวกับแผนโครงการครั้งนี้ ไกรเดชมักจะเห็นด้วยอย่างไร้ข้อกังขา

การที่เป็นเช่นนี้ทำให้จิรเวชรู้สึกเหมือนถูกมองข้าม ถึงเขาจะรู้สึกช้า แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่ามันมีสิ่งผิดปกติซ่อนอยู่ในนั้น

เขามีความรู้สึกว่าจะโดนรพีพงษ์หลอก ไม่ว่าจะเป็นไกรเดชหรือธีรศานติ์ พวกนั้นถูกรพีพงษ์ซื้อไว้หมดแล้ว

หลังจากที่จิรเวชมีลางสังหรณ์เช่นนี้ เขาจึงยอมแพ้เรื่องการถกเถียงโครงการฟื้นฟูเมืองเก่า และยกอำนาจการตัดสินใจทั้งหมดให้กับรพีพงษ์

ส่วนเขาก็เก็บความโกรธแค้นไว้เต็มอก และคิดหนทางแก้แค้นรพีพงษ์ด้วยวิธีอื่น

ภารกิจของเขาในการมาเมืองเกียวโตครั้งนี้ คือการกำจัดตระกูลลัดดาวัลย์ ภายในตระกูลนิธิวรสกุล ตระกูลลัดดาวัลย์เป็นเพียงตระกูลที่สร้างสมบัติจากการคิดคด ดังนั้นในสายตาของคนในตระกูลนิธิวรสกุล มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะจัดการ

ถ้าเรื่องแค่นี้จิรเวชยังทำไม่ได้ หลังจากนี้เขาอาจจะได้ส่วนแบ่งจากตระกูลน้อยลงอีกก็ได้

และในตอนนี้ตระกูลลัดดาวัลย์ พึ่งพารพีพงษ์เพียงผู้เดียว ขอแค่เขาสามารถกำจัดรพีพงษ์ออกไปได้ ตระกูลลัดดาวัลย์ก็ต้องล่มสลายเช่นกัน เพราะฉะนั้นเขาจึงมีวิธีจัดการรพีพงษ์อยู่ในใจแล้ว

ในขณะที่จิรเวชกกำลังคิดแผนกำจัดรพีพงษ์อยู่นั้น รพีพงษ์ก็ไม่ได้อยู่เฉยเหมือนกัน ตอนนี้เขาได้เอาเงินมาจากมือของจิรเวชแล้ว การกำจัดจิรเวช ก็เหลือแค่เวลาและโอกาสเท่านั้น

จารุณีอยู่ในห้องพักผู้ป่วยที่อาคารTY

รพีพงษ์เฝ้าจารุณีอยู่ข้างเตียง รพีพงษ์เอาแต่จ้องไปที่ใบหน้าอันซีดเซียวของหญิงสาว

ขณะนั้นประตูก็ถูกเปิดออก ชุติเทพเดินเข้ามา เมื่อเขาเห็นสีหน้าของรพีพงษ์ เขาจึงยิ้มให้รพีพงษ์

“ไหนนายบอกว่าในใจมีแต่ภรรยาคนเดียวไง ทำไมตอนนี้ถึงหลายใจเสีย แอบจ้องลูกสาวชาวบ้านแล้วล่ะ นายไม่กลัวภรรยาหึงเหรอ” ชุติเทพพูดติดตลก

รพีพงษ์หลุดจากภวังค์ เขาให้ไปกลอกตามองบนใส่ชุติเทพ แล้วพูดว่า “ฉันเห็นจารุณีเป็นน้องสาวแท้ๆ ของฉัน เธออาการโคม่า แน่นอนว่าฉันต้องกระวนกระวายอยู่แล้ว อีกทั้งการที่เธอเป็นแบบนี้ ก็เกี่ยวกับฉันด้วย ฉันมาดูแลเธอ เป็นเรื่องที่สมควรทำแล้ว”

“ยังดีที่วันนี้ฉันไม่ได้พาเจสสิก้ามาด้วย ถ้าเธอเห็นนายในตอนนี้ กลัวว่าจะหึงอีกล่ะสิ” ชุติเทพพูดอย่างหดหู่

รพีพงษือึ้งไป แล้วถามขึ้นว่า “ทำไมเจสสิก้าต้องหึงด้วยล่ะ”

ชุติเทพส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ เขาคิดในใจว่าเจสสิก้าพูดไว้ไม่ผิด คนซื่อบื้ออย่างรพีพงษ์ ไม่มีทางรู้ว่าเจสสิก้ามีใจให้ตัวเองแน่นอน ถ้าพูดตามที่เจสสิก้าบอก รพีพงษ์คือผู้ชายแท้ๆ อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย

“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ฉันแค่พูดไปเรื่อยเปื่อย อาการของน้องสาวนายตอนนี้เริ่มคงที่แล้ว ขอแค่ให้เธอกินยาที่ฉันต้มให้ เธอน่จะฟื้นภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์” ชุติเทพพูดเปลี่ยนเรื่อง

เมื่อได้ยินที่ดังนั้น รพีพงษ์ก็รู้สึกโล่งอก ชุติเทพรับประกันขนาดนี้ จารุณีคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

เขาอยู่เฝ้าจารุณีอีกพักใหญ่ จากนั้นเขาจึงเดินออกมาจากอาคารTY สองสามวันมานี้เขาเอาแต่คิดวิธีก่อกวนกรุ๊ปKIN ทำให้ความคิดของเขาสับสนเล็กน้อยเช่นกัน

หลังจากที่เขาออกมา เขาไม่ได้ตรงกลับไปยังตระกูลลัดดาวัลย์ แต่เขาเดินไปตามทาง เพื่อทำให้จิตใจปลอดโปร่ง

หลังจากที่เขารู้ว่าการหายตัวไปของอารียาไม่เกี่ยวกับโยษิตา เขารู้สึกเครียดตลอดเวลา สิ่งที่ไม่สามารถยืนยันอะไรได้มักจะทำให้คนทุกข์ทรมานอยู่เสมอ

ถ้าอารียาโดนโยษิตาจับตัวไปจริง เขาคงไม่กลุ้มใจมากเช่นนี้ แต่น่าเสียดายที่เมื่อได้เจอโยษิตาในคืนนั้น รพีพงษ์ก็ระดมหน่วยข่าวกรองของกิสนา เพื่อสืบความเคลื่อนไหวทั้งหมดของโยษิตาหลังจากที่มาเกียวโต เพื่อยืนยันว่าโยษิตาไม่ได้เป็นผู้ต้องสงสัย

ถ้าอารียาโดนโยษิตาจับไปจริงๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีเบาะแสอะไรเลย

เขาสะบัดหัวอย่างรุนแรง จากนั้นจึงเดินต่อไป ขณะที่เขาเดินผ่านซอยแห่งหนึ่ง เขาได้ยินเสียงด่าดังออกมา จึงหันหน้ามองไปตามเสียงนั้น

กลุ่มคนที่ดูเหมือนนักเลงกำลังรุมเตะต่อยชายวัยกลางคนคนหนึ่ง

สายตาของรพีพงษ์เลื่อนไปวางที่ชายวัยกลางคนคนนั้น เขาอึ้งไปในทันที คนที่กำลังโดนรุมทำร้าย คือ ศักดา ผู้ที่เป็นพ่อตาของเขา!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท