พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 525 การใช้เส้นสาย

บทที่ 525 การใช้เส้นสาย

บทที่ 525 การใช้เส้นสาย

“พวกคุณปล่อยฉันไปนะ! พวกอันธพาล ถ้าพวกคุณกล้าทำอะไรกับฉัน พวกคุณจะได้เข้าคุกแน่!” เยาวเรศตะโกนเสียงดังจนอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเสียงก็แหบแห้ง

“ฮ่าๆ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพียงแค่หาเส้นสายและจ่ายเงินหน่อย เรื่องนี้สามารถระงับได้แล้ว น้องสาว คุณอย่าทำตัวไร้เดียงสามากนักเลย” ชายที่มีพุงใหญ่ใบหน้าเต็มไปด้วยสับปลับ

ชายคนอื่นๆก็เอื้อมมือไปสัมผัสร่างกายของเยาวเรศโดยไม่มีการทะนุถนอมเลย

“ปล่อยเธอ” ในขณะนี้ เสียงทุ้มต่ำและสง่างามดังขึ้น รพีพงษ์ก็เข้ามาในบ้าน จ้องมองไปที่ผู้ชายเหล่านั้นอย่างเย็นชา

เมื่อชายเหล่านั้นได้ยินเสียงนี้ ทุกคนก็หยุดลง หันศีรษะและมองไปที่ประตู หลังจากที่พบว่าเป็นชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่เข้ามา ชายที่มีพุงโตก็ตะโกนด่าว่า “แม่งเอ้ยคุณเป็นใคร ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ อย่ามาขัดจังหวะพวกกู”

เยาวเรศเห็นรพีพงษ์เดินเข้ามา มีความหวังริบหรี่อยู่ในดวงตาของเธอ แต่ในไม่ช้าเธอก็คิดได้ว่า ชายพวกนี้ไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่ายๆ มีเพียงรพีพงษ์เท่านั้นสู้พวกเขาไม่ไหวแน่นอน ดังนั้นจึงรีบตะโกน “รพีพงษ์รีบแจ้งตำรวจเร็ว ให้ตำรวจมาจับพวกเขา คุณคนเดียวสู้พวกเขาไม่ไหวหรอก คุณรีบไปจากที่นี่เร็ว!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเยาวเรศ ชายสกินเฮดคนนั้นก็ส่งสายตา จากนั้นคนข้างๆเขาก็ลุกขึ้นทันที รีบวิ่งไปที่ประตูและล็อกประตู

แม้ว่าพวกเขาจะไม่กลัวมีเรื่อง แต่ถ้ารพีพงษ์ไปแจ้งตำรวจจริงๆ สิ่งต่างๆจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องดีๆของพวกเขาจะถูกทำลาย

ตอนนี้ พวกเขาดื่มมากไป ความปรารถนาในจิตใจของพวกเขาได้ถูกขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พวกเขาไม่สนใจเรื่องอื่นเลยยกเว้นเรื่องเดียวที่พวกเขาอยากทำ

“ยังไงก็มาแล้ว งั้นก็ไม่ต้องไป รอให้พวกเราสนุกเสร็จ แล้วค่อยสั่งสอนคุณดีๆ คุณจะได้รู้ว่าไปยุ่งเรื่องคนอื่นจะเจอกับอะไร” ชายสกินเฮดพูดอย่างเย็นชา “มัดเขาและโยนทิ้งไปข้างๆ อย่าให้เขามาขัดจังหวะของพวกเรา”

ชายหลายคนที่อยู่ข้างหลังชายสกินเฮดลุกขึ้นยืนทันทีและเดินไปหารพีพงษ์ด้วยความเย้ยหยัน

เมื่อเยาวเรศเห็นฉากนี้ หัวใจของเธอก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น เธอรู้สึกว่าหลังจากที่รพีพงษ์เห็นสถานการณ์ที่นี่แล้ว ควรรีบโทรแจ้งตำรวจอ นี่จึงจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

แต่ตอนนี้รพีพงษ์กลับมองดูชายคนนั้นล็อกเขาไว้ในห้อง โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ใบหน้าของเขายังคงสงบซึ่งทำให้เยาวเรศร้อนใจจนพูดไม่ออก

ตอนนี้พวกเขาล็อกประตูแล้ว พวกเขาก็ยังต้องลงมือกับรพีพงษ์ เยาวเรศรู้สึกเหมือนการสูญเสียซ้ำสองอย่างในครั้งเดียว

“รพีพงษ์ คุณอย่าขัดแย้งกับพวกเขา คุณมาที่นี่เพราะฉัน ฉันไม่ต้องการให้คุณได้รับบาดเจ็บเพราะฉัน ถ้าวันนี้ไม่มีทางหลบหนีได้จริงๆ คุณควรเชื่อฟังพวกเขาดีๆ เพื่อที่การสูญเสียของเราจะน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ “เยาวเรศจ้องไปที่รพีพงษ์และกล่าว

ชายสกินเฮดเยาะเย้ยทันทีและพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าคุณจะรู้จักคิดแทนคนอื่นเช่นนี้ คุณพูดแบบนี้แสดงว่าคุณยอมเราแล้วใช่ไหม?”

เยาวเรศกัดฟันและมองไปที่ชายสกินเฮด ในสายตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

รพีพงษ์ยิ้มให้เยาวเรศและกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล วันนี้คุณจะไม่เป็นอะไรแน่นอน ก็แค่พวกขยะที่สเปิร์มขึ้นสมอง ไม่มีการกระเซ็นอะไรออกมาหรอก”

คำพูดเมื่อกี้ของเยาวเรศทำให้รพีพงษ์รู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีจิตใจที่ดี อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แล้ว เธอยังคงคิดถึงรพีพงษ์ ถ้าเป็นนิษฐาคงจะด่ารพีพงษ์ไม่มีสมองแน่นอน

แน่นอนว่า ถ้าวันนี้คนที่ถูกคนเหล่านี้ขืนใจเป็นนิษฐา รพีพงษ์อาจจะไม่มาช่วยก็เป็นไปได้

ผู้หญิงที่เอ่ยปากก็บอกว่าเขาเป็นผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินรพีพงษ์ไม่มีความรู้สึกดีต่อเธอหรอก อีกฝ่ายดูถูกเขาแบบนั้น ถ้าเขายังเข้าไปช่วย มันจะไร้หลักการเกินไป

“แหม แสร้งทำเป็นเก่งจริงๆ อย่างคุณเนี่ยนะ ไม่รู้ว่าเราเก็บไปแล้วกี่คน สุดท้ายไม่รู้มีกี่คนที่คุกเข่าลงบนพื้นและขอความเมตตาจากเรา คุณคิดว่าคุณจะเป็นข้อยกเว้นเหรอ? “ชายสกินเฮดหัวเราะเย็นชา

เยาวเรศก็ไม่เชื่อคำพูดของรพีพงษ์ไม่ใช่ว่าเธอดูถูกรพีพงษ์ แต่รพีพงษ์ไม่เหมือนคนที่ชกต่อยเก่ง ฝั่งชายสกินเฮดมีหลายคน ในตอนนี้เธอแค่ต้องการลดการสูญเสียให้น้อยที่สุดรพีพงษ์กล่าวเช่นนั้น หาเรื่องใส่ตัวชัดๆ

“เชี่ยเอ้ย คนหนุ่มสาวสมัยนี้ นอกจากอวดเก่ง ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ถึงเวลาแล้วที่กู ต้องสอนวิธีการปฏิบัติตัว!” ชายคนหนึ่งตะโกนใส่รพีพงษ์แล้วชกไปที่หน้าของรพีพงษ์

เมื่อเยาวเรศเห็นฉากนี้ ก็รีบหลับตาลงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือภาวนาอยู่ในใจ

รพีพงษ์ไม่ได้มองไปที่ชายคนนั้น เพียงแค่ยกมือขึ้นและบังหมัดของเขาอย่างง่ายดายจากนั้นก็เตะออกไป ชายคนนั้นก็บินออกไป

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น ชายสกินเฮดและคนที่เหลือก็ตกตะลึง

ใบหน้าเยาวเรศเต็มไปด้วยความสงสัย เธอลืมตาขึ้นเมื่อเธอได้ยินเสียงกรีดร้องของเมื่กี้ไม่เหมือนของรพีพงษ์หลังจากฉากตรงหน้าของเธอเข้ามาในดวงตา เธอก็ตะลึง

เธอเห็นร่างของรพีพงษ์ที่รวดเร็ว การเคลื่อนไหวนั้นเรียบง่ายโดยไม่ลีลา

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเคลื่อนไหวของผู้ชายเหล่านั้นดูเหมือนจะช้าลง พวกเขาเหมือนหอยทากต่อหน้ารพีพงษ์ พวกเขายังไม่ทันได้ตอบสนองใดๆก็ถูกรพีพงษ์ต่อยจนล้มลงกับพื้น

ชายเหล่านี้ที่ดูดุร้ายและแข็งแกร่ง อยู่ในมือของรพีพงษ์ก็เหมือนขนมสายไหมและตกลงไปที่พื้นหลังจากสัมผัสเพียงเล็กน้อย

สิ่งนี้ทำให้เยาวเรศรู้สึกเหมือนกำลังดูหนัง การเคลื่อนไหวของรพีพงษ์เหมือนน้ำและก้อนเมฆที่ไหลลื่น มีให้เห็นในภาพยนตร์กำลังภายในเท่านั้น

ชายสกินเฮดมองดูฉากนี้ด้วยความตะลึง เขาคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์ที่ดูธรรมดาจะร้ายกาจขนาดนี้ เขากลัวจนต้องรีบลุกขึ้นยืนและเดินโซซัดโซเซกลับไปด้านหลัง

หลังจากรพีพงษ์จัดการคนเหล่านั้นแล้ว เขาก็เดินไปหาชายสกินเฮด

เยาวเรศรีบลุกขึ้นจากพื้นและซ่อนตัวอยู่ด้านหลังรพีพงษ์

มองดูด้านหลังของรพีพงษ์ เยาวเรศก็รู้สึกว่าภาพลักษณ์ของรพีพงษ์ในความคิดของเธอสูงขึ้น จากคนที่ดูเหมือนเชื่อถือไม่ได้ กลับกลายเป็นคนที่มีความสามารถจัดการกับพวกอันธพาลพวกนี้

“คุณ … อย่าเข้ามา ผมจะบอกคุณนะว่าผมมีเส้นสาย ผมแค่โทรศัพท์ พี่ๆเพื่อนๆมากกว่า 100 คนจะมาฆ่าคุณทันที ถ้าคุณยังไม่อยากตาย ก็รีบไสหัวไปซะ เรื่องที่ผ่านมาผมจะไม่เอาเรื่อง มิฉะนั้นคุณคอยดูความโชคร้ายเถอะ! “ชายสกินเฮดพูดอย่างสั่นเทา

“ เส้นสายของคุณยอดเยี่ยมจริงๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ เพื่อจัดการพวกคุณอย่างสมบูรณ์ ผมจึงตัดสินใจใช้เส้นสายของผมด้วย” รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท