พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 529 จะถูกทุบตีจนต้องหาฟันทั่วทุกพื้นที่

บทที่ 529 จะถูกทุบตีจนต้องหาฟันทั่วทุกพื้นที่

บทที่ 529 จะถูกทุบตีจนต้องหาฟันทั่วทุกพื้นที่

หลังจากที่นิษฐาได้ยินคำตอบของรพีพงษ์ เดิมทีนิษฐาที่ดูหยิ่งผยองก็ตกตะลึง เธอรู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีเช่นนี้ ไม่ว่ายังไงรพีพงษ์ก็จะไม่ปฏิเสธมันแน่นอน แต่ตอนนี้อีกฝ่ายถึงกับไม่คิดทบทวนด้วยซ้ำก็พูดคำว่า “ไม่ไป” ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความลำบากใจ

“คุณ … คุณพูดอะไรนะ!คุณลองพูดอีกครั้งซิ!” นิษฐาโมโหจนหน้าอกขึ้นๆลงๆ

รพีพงษ์รู้สึกว่าเธอไม่มีเหตุผล ไม่ได้สนใจเธออีก อ้อมไปข้างๆแล้วจะเดินขึ้นไปชั้นบน

นิษฐาขวางไว้ตรงหน้ารพีพงษ์อีกครั้ง พูดอย่างก้าวร้าว “ฉันเชิญคุณด้วยใจ แต่คุณกล้าที่จะปฏิเสธ คุณคิดว่าคุณเป็นใคร อย่าอยิ่งมากนักเลย คุณมันก็แค่ไอ้หนุ่มหน้าขาวที่มีผู้หญิงเลี้ยงเท่านั้น! ”

รพีพงษ์หรี่สายตาที่มองไปที่นิษฐาลงทันที ออร่าที่รุนแรงก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา ทำให้ความโกรธในใจของนิษฐาหายไปทันที

เยาวเรศรู้สึกกังวลเล็กน้อยที่เห็นทั้งสองกำลังจะปะทะกัน ก็รู้สึกร้อนใจ รีบเดินเข้ามา คว้าแขนของ นิษฐาและกล่าวขอโทษ “รพีพงษ์ฉันขอโทษ ฉันเป็นคนอยากชวนคุณไปเที่ยวด้วยกันเอง นิษฐา พูดไม่คิด จึงทำให้คุณขุ่นเคือง ฉันขอโทษคุณแทนเธอ ขอโทษ คุณอย่าถือสาเธอเลยนะ ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่เยาวเรศพูดรพีพงษ์ก็สงบลงและพูดกับเยาวเรศด้วยน้ำเสียงที่สงบ “ผมมีนัดกับคนอื่นในวันพรุ่งนี้แล้ว ดังนั้นผมจึงไม่สามารถไปเที่ยวกับพวกคุณได้ ยกโทษให้ผมด้วย”

เยาวเรศพยักหน้า แม้ว่าจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็โล่งใจที่เห็นว่าท่าทีของรพีพงษ์ที่มีต่อเธอนั้นไม่เลว

รพีพงษ์ขึ้นไปชั้นบนหลังจากพูดจบ ไม่ได้เสียเวลาอยู่ข้างล่างอีก

นิษฐารู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างท่าทีที่รพีพงษ์มีต่อเธอกับเยาวเรศเธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้น

รพีพงษ์ไม่มีความอดทนอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพูดคุยกับเธอ แต่เขาสุภาพมากเมื่อพูดคุยกับเยาวเรศ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่ารพีพงษ์เจตนาหาเรื่องชัดๆ อีกอย่างยิ่งเห็นได้ชัดว่ารพีพงษ์คิดไม่ซื่อกับเยาวเรศ

เธอไม่เคยคิดว่าที่รพีพงษ์มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อเธอ เพราะท่าทีของเธอมีปัญหา

“ ฉันจะบ้าตายจริงๆ ไอ้ขยะที่คิดว่าตนเองใหญ่ คิดว่าตัวเองใหญ่จริงๆ ใครอยากให้เขาไปล่ะไร้ยางอายจริง ๆ ! จิมมี่ คุณเห็นไหม ผู้ชายคนนี้คิดไม่ซื่อกับคุณ เมื่อกี้ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณเป็นคนพูด บางทีเขาอาจจะตอบตกลงแล้วก็ไม่แน่! “นิษฐากล่าวอย่างโมโห

เยาวเรศขมวดคิ้วและมองไปที่นิษฐา กล่าวว่า “พอแล้วนิษฐา ท่าทีพูดของคุณเมื่อกี้นั้นทำให้คนอื่นอึดอัดมาก เป็นเรื่องปกติที่รพีพงษ์จะปฏิเสธ อีกอย่างเขาก็อธิบายแล้วว่าเขามีนัดในวันพรุ่งนี้ ไม่มีเวลาไปด้วย ”

“ ท่าทีของฉันผิดอะไรเหรอ เขาแค่ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน ฉันคุยกับเขาถือว่าให้หน้าเขามากแล้ว อย่าคิดว่าจะรังแก นิษฐาอย่างฉันได้ง่ายๆ ออกไปเที่ยวพรุ่งนี้ ฉันจะให้ตรีโลจน์ช่วยจัดการไอ้หมอนี้สักครั้ง! “นิษฐาจ้องมองไปที่บันไดและตะโกนโดยไม่สนใจอะไร

เยาวเรศดูทำอะไรไม่ถูก ในที่สุดก็ถอนหายใจและหันกลับเข้าไปที่ห้องของเธอ

ในตอนเย็นของวันรุ่งขึ้น รพีพงษ์ออกมาจากมหาวิทยาลัยฟูตัน นั่งแท็กซี่และขับไปที่ ไนท์คลับสวรรค์

หลังจากที่โสธรช่วยรพีพงษ์จัดการพวกอันธพาลเมื่อวานนี้ เขาก็เชิญรพีพงษ์มาเป็นแขกที่บาร์ที่เขาเปิดอย่างกระตือรืรร้น โดยบอกว่าเขาต้องการทำให้ดีที่สุดในการเป็นเจ้าของ

เดิมที รพีพงษ์ไม่อยากไป แต่โสธรกระตือรือร้นมากเกินไป อีกอย่างเขาก็ได้ช่วยตนเอง หากเขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ดูไร้มารยาทเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงรับปากว่าจะมาที่ไนท์คลับสวรรค์ในคืนนี้

พอดีสองสามวันนี้ที่ตามหาอารียา เขารู้สึกตึงเครียดเล็กน้อย ไปดื่มที่บาร์เขาสามารถผ่อนคลายได้บ้าง

ระหว่างที่รพีพงษ์ไปที่ ไนท์คลับสวรรค์ กลุ่มคนหนุ่มสาวได้มารวมตัวกันที่ทางเข้า ไนท์คลับสวรรค์

ผู้นำของคนเหล่านี้เป็นชายหนุ่มที่มีความสูง 1.9 เมตร ดูสูงและแข็งแกร่งมาก คนนี้คือตรีโลจน์ ซึ่งเป็นคนร่ำรวยในชั้นเรียนของนิษฐา ยังเป็นบุคคลที่มีอิธิพลและโด่งดังในชั้นเรียน ว่ากันว่าตั้งแต่ตรีโลจน์เริ่มเข้ามาเรียนในวิทยาลัย ก็มีแฟนไปแล้วสิบกว่าคน เป็น”ผู้ชายมีเสน่ห์” ตัวจริงในชั้นเรียน

ในตอนนี้ นิษฐากับเยาวเรศมาถึงประตู ไนท์คลับสวรรค์ ได้แต่งหน้ากันทั้งคู่ แต่งตัวได้สวยหรู ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายรอบตัวพวกเธอ

ตรีโลจน์เห็นทั้งสองคนมา เขากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า หลังจากกล่าวทักทายนิษฐา เขาก็จ้องมองไปที่เยาวเรศด้วยดวงตาทั้งสองข้างและพูดว่า “วันนี้คุณสวยมาก”

เยาวเรศยิ้มอย่างสุภาพให้กับตรีโลจน์ ไม่อยากแสดงความกระตือรือร้นให้เขามากเกินไป

“รออีกสักครู่ ยังมีอีกสองสามคนที่ยังมาไม่ถึง เดี๋ยวเราค่อยเข้าไปพร้อมกันเมื่อทุกคนมาถึง” ตรีโลจน์หันกลับไปและพูดกับทุกคน

ในตอนนี้ นิษฐาเดินไปหาตรีโลจน์และพูดว่า “ตรีโลจน์ ฉันมีข่าวสำคัญจะบอกคุณ คุณอยากรู้ไหม?”

รพีพงษ์จ้องไปที่นิษฐาหัวเราะและพูด “ข่าวสำคัญอะไร?”

นิษฐาหันไปมองเยาวเรศที่กำลังคุยกับผู้หญิงคนอื่นๆที่อยู่ไม่ไกลและพูดว่า “มีคนมาชอบจิมมี่ ”

ทันใดนั้น ใบหน้าของตรีโลจน์ก็จมลง สำหรับเขา เขาคิดว่าตนเองจะได้เยาวเรศแน่นอน เขาคิดว่าไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะแข่งขันและแย่งชิงเยาวเรศกับเขา ตอนนี้ได้ยินนิษฐาพูดแบบนี้ เขาก็อารมณ์เสียโดยธรรมชาติ

ใครก็ตามที่กล้าคิดไม่ซื่อกับเยาวเรศก็คือการหาเรื่องตรีโลจน์ ซึ่งไม่ต่างจากการยั่วยุเขา

“ใคร?มันเป็นคนในห้องของเราไหม?” ตรีโลจน์จ้องไปที่นิษฐาและถาม

“ไม่ได้คนในห้องของพวกเรา คุณอย่าพึ่งรีบร้อน คนที่คิดไม่ซื่อกับจิมมี่ คือไอ้หนุ่มหน้าขาวที่พึ่งพาผู้หญิง เป็นคนที่เกาะผู้หญิงคน สำหรับคุณชายตรีโลจน์แบบคุณ คนแบบนั้นเป็นแค่ขอทาน มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะจัดการเขา ฉันบอกให้คุณ ก็เพื่อเตือนคุณ “นิษฐากล่าว

“ไอ้หนุ่มหน้าขาวที่เกาะผู้หญิงกิน? คนแบบนี้ก็มีคุณสมบัติที่จะแย่งผู้หญิงกับผมเหรอ?” ตรีโลจน์พูดด้วยความรู้สึกดูถูก

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของตรีโลจน์ นิษฐาก็แอบหัวเราะเยาะในใจ โดยคิดว่าไม่นานรพีพงษ์ซวยแน่

จากนั้น เธอก็บอกเกี่ยวกับกลวิธีที่รพีพงษ์ใช้ เพื่อทำให้เยาวเรศรู้สึกดีกับเขาให้ตรีโลจน์ฟัง ในนั้นก็เติมพริกเติมเกลือเพิ่มเข้าไปด้วย พูดจนทำให้รพีพงษ์กลายเป็นคนที่ชอบใช้อุบาย และเจ้าเล่ห์ ผู้ชายเกาะผู้หญิงกินที่รังแกคนอ่อนแอกว่าและกลัวคนแข็งแรงกว่า

หลังจากที่ตรีโลจน์ฟังจบ เขาก็ส่งเสียงหึทันทีและพูดว่า “ไอ้ขยะแบบนี้ ยังกล้าที่มาคิดไม่ซื่อกับจิมมี่ คุณไม่ต้องกังวล เดี๋ยวผมจะหาเวลาจัดการไอ้ขยะนี้ สอนวิธีปฏิบัติตัวให้เขา”

ใบหน้าของนิษฐามีความสุข มีตรีโลจน์ช่วยจัดการรพีพงษ์ เรื่องนี้ก็ไม่พลาดแน่นอน

ขณะที่ทุกคนกำลังรอให้คนที่เหลือมาถึง รถแท็กซี่ก็จอดที่ประตูของไนท์คลับสวรรค์

รพีพงษ์ลงจากรถและเดินเข้าไปในบาร์

ในแวบแรก นิษฐาก็เห็นรพีพงษ์ ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็พึมพำกับตัวเอง “ผู้ชายหน้าด้านคนนี้ ปากบอกว่าไม่มา คิดไม่ถึงว่าจะแอบตามมาอย่างเงียบๆ แต่เป็นแบบนี้ก็ดี ให้ ตรีโลจน์จัดการคุณโดยตรงเลย ดูซิว่าคุณจะกล้าหยิ่งผยองต่อหน้าฉันในอนาคตอีกไหม ”

เธอรีบเดินไปที่ด้านข้างของตรีโลจน์ ชี้นิ้วไปที่รพีพงษ์และพูดว่า “นั่นคือชายหนุ่มหน้าขาวที่เกาะผู้หญิงกินที่ฉันบอกคุณไป ฉันคิดไม่ถึงว่าเขาจะมาที่นี่ด้วย ฉันคิดว่าเขามาที่นี่เพื่อหาเรื่องแน่นอน คุณชายตรีโลจน์ คุณไม่ควรเสียหน้าให้กับไอ้คนที่เกาะผู้หญิงกินนะ”

ตรีโลจน์เดินตามมือของนิษฐาที่ชี้ไป ดวงตาของเขาหรี่ลงทันที จากนั้นเขาก็เรียกผู้ชายสองสามคนและเดินไปทางรพีพงษ์

พวกเขาหยุดรพีพงษ์ด้วยท่าทางที่ดุร้าย มีท่าทีที่เหมือนจะชกต่อยรพีพงษ์

รพีพงษ์มองไปที่ชายหนุ่มเหล่านี้ที่หยุดเขากับนิษฐาที่กำลังยิ้มอย่างสะใจอยู่ข้างๆเขา เขารู้สึกตกใจเล็กน้อยเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าบาร์ที่นิษฐามาเป็นไนท์คลับสวรรค์

“รพีพงษ์คุณบอกว่าคุณจะไม่มาไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้คุณกลับหน้าด้านมาที่นี่ล่ะ?ฉันพบว่าคุณมันต่ำทรามจริงๆ เชิญคุณมาไม่มาดีๆ แต่กลับมาอย่างลับๆ หรือคนเกาะผู้หญิงกินอย่างพวกคุณ ชอบทำอะไรที่ต่ำช้าแบบนี้?” นิษฐาเย้ยเยาะอย่างไม่เกรงใจ

รพีพงษ์เหลือบมองไปที่นิษฐาและพูดว่า “ผมมาที่นี่เพื่อหาเพื่อน มันเกี่ยวอะไรกับคุณ?”

“โธ่ อย่ามาหาข้ออ้างเลย เห็นได้ชัดว่าคุณตามพวกเรามาอย่างลับๆ ไม่ไปพบเพื่อคุณอื่นๆแต่คุณมาพบเพื่อนคุณในเวลานี้พอดี ใครจะเชื่อ” นิษฐาพูดด้วยความดูถูก

ตรีโลจน์ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เขาสูงกว่ารพีพงษ์มาก เหลือบมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความดูถูกและพูดว่า “ผมได้ยินมาว่าคุณเป็นคนเกาะผู้หญิงกิน?ความคิดคนแบบคุณผมเข้าใจ ก็แค่ต้องการเพียงแค่เกาะผู้หญิงจนตายไม่ใช่หรอกเหรอ คุณเกาะผู้หญิงกินผมไม่ยุ่ง แต่ถ้าคุณคิดไม่ซื่อกับจิมมี่ ผมคงจะต้องคุยกับคุณสักหน่อย ”

รพีพงษ์มองคนเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้อยู่ในใจว่าคนเหล่านี้ต้องถูกนิษฐายั่วยุมาแน่ๆ

“ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร ผมไม่ได้คิดไม่ซื่อกับใคร ถ้าไม่มีอะไรอื่น ก็ถอยไปเพื่อนของผมยังรอผมอยู่ข้างใน” รพีพงษ์กล่าวจางๆ

“ โอ๊ย ยังจะมาตอแหลกับผม ทำไม คุณไม่เดือดร้อนสักหน่อยคุณไม่เข้าใจคำพูดใช่มั้ย?” ตรีโลจน์โบกกำปั้นให้รพีพงษ์

คนที่อยู่ข้างหลังตรีโลจน์ก็มองไปที่รพีพงษ์ด้วยความดูถูก เมื่อนิษฐาพูดถึงเรื่องรพีพงษ์พวกเขาก็ได้ยินเช่นกัน

ในเวลานี้ เยาวเรศก็สังเกตเห็นสถานการณ์ทางนี้ เห็นรพีพงษ์ถูกล้อมรอบไปด้วยคนของตรีโลจน์จึงรีบวิ่งไป

“ตรีโลจน์ คุณกำลังทำอะไร!” เยาวเรศตะโกนใส่ตรีโลจน์อย่างกังวล

“จิมมี่ ผู้ชายคนนี้คิดไม่ซื่อกับคุณ นิษฐาได้บอกกับผมอย่างชัดเจนแล้ว คนนี้เป็นผู้ชายเกาะผู้หญิงกินที่มีเล่ห์เหลี่ยม ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป คุณจะถูกเขาหลอกอย่างแน่นอน ดังนั้นผมจะช่วยคุณสั่งสอนเขาสักหน่อย “ตรีโลจน์กล่าวกับเยาวเรศ

เยาวเรศขมวดคิ้วและกล่าวว่า “คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรที่นี่ ปล่อยรพีพงษ์ไปเดี๋ยวนี้นะ คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะสั่งสอนคนอื่นโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้?”

ตรีโลจน์รู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นเยาวเรศปกป้องรพีพงษ์เช่นนี้ เขาหันหน้าไปมองรพีพงษ์กัดฟันและพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าคุณจะหลอกเก่งขนาดนี้ จิมมี่ถูกคุณหลอกจนโงหัวไม่ขึ้นเช่นนี้ ถ้าวันนี้ไม่สั่งสอนคุณ กูก็จะไม่ชื่อตรีโลจน์! ”

หลังจากพูดจบ ตรีโลจน์ก็พากลุ่มเพื่อนชายลงมือรพีพงษ์

“เดี๋ยวก่อน!” เยาวเรศตะโกนเสียงดัง

“ จิมมี่ หรือว่าคุณจะเข้าข้างไอ้หนุ่มเกาะผู้หญิงกินเหรอ?” ตรีโลจน์หันศีรษะและมองไปที่เยาวเรศ

“ไม่ใช่ ฉันขอเตือนคุณทางที่ดีอย่าลงมือกับรพีพงษ์ดีกว่า มิฉะนั้นพวกคุณจะถูกทุบตีจนต้องหาฟันในพื้นแน่นอน” เยาวเรศเตือนเขาด้วยความ “ใจดี”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท