พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่516 ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

บทที่516 ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

บทที่516 ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

เมื่อจิรเวชและโยษิตาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ร่างกายก็แข็งทื่อ และในใจเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

“รพีพงษ์ คุณไว้ชีวิตผมเถอะ ผมสัญญาว่าจากนี้ไปจะไม่สร้างปัญหาให้คุณอีก หลังจากที่ผมกลับไปที่ตระกูลนิธิวรสกุล ผมจะขอร้องตระกูลแทนคุณอย่างแน่นอน ให้พวกเขาปล่อยวางเลิกสร้างปัญหาให้กับคุณ ที่สำคัญจากความแข็งแกร่งของเทือกเขากิสนา ในตระกูลยินดีที่จะยอมรับเครือญาติของพวกคุณใหม่อีกครั้ง”จิรเวชกล่าวอย่างกังวล

เดิมทีจากที่เขาก้าวร้าวโมโห แต่เพียงแค่ภายในเวลาห้านาที ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และท่าทีที่มีต่อรพีพงษ์ก็เป็นสองขั้ว จิรเวชในเวลานี้ อกสั่นขวัญหายแล้ว

เมื่อรพีพงษ์ได้ยินคำพูดของจิรเวช ก็เบะปากทันที แล้วพูดว่า: “พวกแกคู่ควรที่จะพูดว่ายินดีที่จะยอมรับพวกเราใหม่อีกครั้งเหรอ? แกคิดว่าตอนนี้ฉันยังเอาตระกูลนิธิวรสกุลของพวกแกไว้ในสายตาอยู่อีกเหรอ?”

“ตอนนั้นตระกูลนิธิวรสกุลของพวกแกขับไล่คุณปู่ของฉันออกมา ตอนที่วางแผนจะฆ่า ทำไมไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้บ้าง ตอนนี้รู้แล้วว่าพ่อของฉันเป็นเจ้านายของเทือกเขากิสนา ดังนั้นก็อยากจะกลับมาคืนดีกับพวกเราเหรอ? ฝันไปเถอะ!”

“วันนี้แกไม่มีทางที่จะได้เดินออกไปจากร้านอาหารนี้ได้ ตอนนี้เทือกเขากิสนา เป็นความลับที่ใหญ่ที่สุดของฉัน ในเมื่อแกรู้แล้ว ก็ไม่เคยคิดที่จะให้แกรอดพ้นกลับออกไปได้ ฉันต้องการสร้างความประหลาดใจที่ใหญ่ที่สุดให้กับตระกูลนิธิวรสกุล ต้องการทำให้พวกเขาเข้าใจว่า ความชั่วร้ายทั้งหมดที่พวกเขากระทำ จะถูกพิพากษาโดยฉัน คนของตระกูลนิธิวรสกุล ฉันจะไม่ปล่อยไว้แม้แต่คนเดียว!”

เมื่อจิรเวชได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ร่างกายอดไม่ได้ที่จะสั่นขึ้นมา ใจเขารู้ดี สิ่งที่ตระกูลนิธิวรสกุลได้ทำนั้น เพื่อให้ทั้งตระกูลปลูกฝังเมล็ดพันธุ์หนึ่งเม็ด ตอนนี้เมล็ดพันธุ์ต้นเม็ดนี้เติบโตขึ้นกลายเป็นต้นไม้สูงใหญ่

เป็นที่น่าเสียดายที่ ต้นไม้สูงใหญ่นี้ก็ไม่ได้ค่อยเป็นที่พักพิงค่อยเป็นร่มเงาให้ตระกูลนิธิวรสกุลเลย แต่มันกลับจะทำลายคนของตระกูลนิธิวรสกุลอย่างรุนแรง เป็นที่คาดการณ์ได้ว่า ตราบใดที่เทือกเขากิสนาต้องการจะลงมือกับตระกูลนิธิวรสกุล และตระกูลนิธิวรสกุลก็ไม่มีทางที่จะรอดพ้นได้

เขามองไปที่รพีพงษ์อย่างสั่นๆ ริมฝีปากก็ซีดเซียวมาก และเขายังต้องการขอความเมตตาจากรพีพงษ์อีกครั้ง แต่ในใจกลับรู้สึกไร้เรี่ยวแรง พูดอะไรออกมาไม่ได้สักคำ

“ยังมีคำสั่งเสียอะไรฝากฝังอีกมั้ย เมื่อฉันไปหาคนของตระกูลนิธิวรสกุลล้างแค้น สามารถนำมันไปให้นายได้”รพีพงษ์กล่าวอีกครั้ง

ทันใดนั้นสีหน้าของจิรเวชก็กลายเป็นโหดเหี้ยมขึ้นมา และตะโกนใส่รพีพงษ์: “ต่อให้แกจะเป็นนายน้อยของเทือกเขากิสนาแล้วยังไง แต่ตระกูลนิธิวรสกุลก็ไม่กลัว พวกแกสองคนพ่อลูก ก็ไม่มีทางมีจุดจบที่ดี!”

สัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้จิรเวชหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกจากเสื้อผ้า ต้องการส่งข้อความเร่งด่วนกลับไปที่ตระกูลนิธิวรสกุล ให้พวกเขารู้ฐานะตัวตนของรพีพงษ์ตอนนี้และแผนการที่มีต่อตระกูลนิธิวรสกุล

ถึงยังไงวันนี้ก็ไม่มีทางที่จะรอดพ้น ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงให้คนของตระกูลนิธิวรสกุลเสียเปรียบน้อยที่สุด

แต่ทันทีที่เขาหยิบโทรศัพท์ออก รพีพงษ์ก็เตะเท้าไป และมือที่ใช้ถือโทรศัพท์ก็ดังแกร๊ก โทรศัพท์ก็บินออกไป

ในตอนนี้รพีพงษ์บีบคอของจิรเวช และค่อยๆยกเขาขึ้นจากบนพื้น ใบหน้าของจิรเวชแดงทันที ดวงตาทั้งสองปลิ้นออกมาด้านนอก และร่างกายก็ดิ้นรนขึ้นมา

โยษิตาอยู่ด้านข้างมองไปที่ฉากนี้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกลัว เพียงแต่ขาของเธอไม่สามารถใช้แรงได้ แม้ว่าจะอยากวิ่งแต่ก็วิ่งไม่ได้

ธีรศานติ์และกัญญาวีร์ทั้งคู่มองไปที่รพีพงษ์อย่างเคร่งขรึม เป็นเพราะหายใจไม่ค่อยออกจากรัศมีบนตัวที่รพีพงษ์แสดงออกมา

ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นเพราะว่ารัศมีความแข็งแกร่งที่ดัมพ์รงค์แสดงออกมาให้เห็น ดังนั้นเลยคิดว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของดัมพ์รงค์ แต่เมื่อรู้สึกถึงความน่ากลัวของรพีพงษ์ พวกเขาถึงค่อยรู้ รัศมีที่ซ่อนอยู่แบบนี้ น่ากลัวยิ่งกว่า

คนที่เคยมีประสบการณ์การแสดงความแข็งแกร่งออกมาให้เท่านั้น ถึงสามารถระงับได้ รัศมีของรพีพงษ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าดัมพ์รงค์ แต่ได้เหนือกว่าดัมพ์รงค์ไปตั้งนานแล้ว เขาสามารถระงับรัศมีบนตัวได้ ดัมพ์รงค์จากระดับนี้ ห่างไกลยังไปไม่ถึง

ธีรศานติ์หรี่ตาลงมองไปที่รพีพงษ์ เขารู้สึกว่ารพีพงษ์อยู่ในสายตาของเขากลายเป็นคนที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ตอนแรกรพีพงษ์ในสายตาของเขา ก็เพียงแค่คนรุ่นหลัง ต่อมาคนรุ่นหลังคนคนนี้ได้เข้ามาควบคุมยึดอำนาจของตระกูลลัดดาวัลย์ ธีรศานติ์เชื่อว่ารพีพงษ์มีคุณสมบัติที่เท่าเทียมกับเขา

แต่ตอนนี้พลังที่รพีพงษ์แสดงออกมาให้เห็น ทำให้ธีรศานติ์ยังเทียบไม่ได้เลย เขาสามารถสังหารสมาชิกในตระกูลชั้นนำของโลกได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องกังวลใดๆ นี่เป็นสิ่งที่ธีรศานติ์ไม่สามารถทำได้

ผ่านไปไม่นาน จิรเวชที่ถูกรพีพงษ์บีบคออยู่ก็หยุดดิ้น และไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆอีก

รพีพงษ์โยนจิรเวชลงกับพื้น ทำให้โยษิตาหวาดกลัวจนตัวสั่น

รพีพงษ์หันไปมองโยษิตา เดินไปตรงหน้าเธอ และพูดอย่างเยือกเย็น: “ถึงคุณแล้ว”

โยษิตาร้องไห้ขึ้นมาทันที และรีบก้มหัวกราบลงกับพื้นให้รพีพงษ์หลายครั้ง แล้วพูดว่า: “รพีพงษ์ ฉันรู้ตัวว่าผิดแล้ว ตอนนั้นฉันไม่ควรขับไล่นายออกจากตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่ควรมุ่งเป้าหมายไปยันเรื่องของนาย และก็ไม่ควรที่จะลงมือกับภรรยาของนาย นายให้โอกาสฉันได้แก้ไขข้อผิดพลาดแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ ฉันเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อนาย เพียงแค่นายไว้ชีวิตฉัน ฉันไม่อยากตาย ได้โปรดเถอะ”

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “สิ่งที่ฉันอยากให้คุณทำ ก็คือไปตายซะ คุณทำร้ายภรรยาฉันจนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยถึงตอนนี้ น้องสาวของฉันก็เพิ่งฟื้นขึ้นมาไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณคิดว่าคุณก้มหัวกราบไม่กี่ครั้ง ฉันก็ให้อภัยคุณได้เหรอ?”

“รพีพงษ์ ก่อนหน้านี้ฉันโง่มาก หัวสมองของฉันโง่ เพียงแค่นายไม่ฆ่าฉัน จะให้ฉันเป็นวัวเป็นม้าก็ได้ ถ้านายคิดว่าฉันก้มกราบให้นายไม่พอ ฉันสามารถก้มกราบต่อไปได้ จนกว่านายจะพอใจ”โยษิตากล่าวอย่างเสียใจ

“ฮ่าฮ่า ขอโทษด้วยจริงๆ ตอนนี้อยากที่จะระงับความโกรธของฉันได้ มีวิธีเดียวคือให้คุณตาย”รพีพงษ์กล่าวพร้อมกับ บีบคอโยษิตา

โยษิตาเริ่มไออย่างรุนแรงขึ้นมา และมองดูรพีพงษ์ค่อยๆยกร่างกายของตัวเองขึ้นมา กลับไม่มีกำลังพอที่จะทำอะไรได้

ในใจของเธอรู้ดี ครั้งนี้ตัวเองจะตายจริงๆ เธอทำหลายสิ่งหลายอย่างขนาดนี้ และวางแผนมานาน แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้อะไรเลย

ความทรงจำในอดีตของเธอปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำมาก่อน ในใจเธอก็รู้สึกตลกสิ้นดีเลย สิ่งที่เธอไม่ควรทำที่สุดในชาตินี้ ก็คือการขับไล่รพีพงษ์ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์ น่าเสียดายเสียใจในเวลานี้ ก็สายไปแล้ว

รพีพงษ์รอจนกระทั่งโยษิตาสูญเสียอุณหภูมิร่างกาย ก่อนที่จะโยนเธอลงกับพื้น คราวนี้ เขาจะไม่ปล่อยให้โยษิตามีโอกาส “รอดชีวิตมาได้”อีก

ในโลกใบนี้ จะไม่มีโยษิตาคนนี้อีกไปตลอดกาลแล้ว

หลังจากจัดการกับจิรเวชและโยษิตาทั้งสองคนแล้ว รพีพงษ์ก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก รู้สึกว่าในที่สุดปัญหาที่ค้างอยู่ในใจของตัวเองก็หายไป และก็รู้สึกโล่งใจในทันใด

เขาหันไปมองที่ธีรศานติ์และกัญญาวีร์ทั้งสองคน รอยยิ้มตามปกติปรากฏบนใบหน้า รัศมีบนตัวก็ระงับ

“พวกเราสามารถไปได้แล้ว เรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้ อย่าบอกกับคนอื่น ไม่ปล่อยตระกูลนิธิวรสกุลไปอย่างแน่นอน คนของพวกเขา มาหนึ่งคน ฉันฆ่าหนึ่งคน เมื่อพวกเขาตอบสนองคืนมา ก็เป็นเวลาที่ตระกูลนิธิวรสกุลหายไปจากในโลกนี้”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท