พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 528 ไม่ไป

บทที่ 528 ไม่ไป

บทที่ 528 ไม่ไป

ในอพาร์ตเมนต์

เยาวเรศกำลังเดินไปมาอย่างกระวนกระวาย บางครั้งก็จะยื่นหูไปที่ประตู เพื่อต้องการฟังการเคลื่อนไหวที่ชั้นล่าง

แต่หลังจากที่เธอขึ้นมา ก็ไม่มีเสียงจากชั้นล่างอีกเลย ซึ่งทำให้เธอกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับรพีพงษ์

ในเวลานั้น เธอได้ตกลงกันกับรพีพงษ์ไว้ว่า หากสถานการณ์ไม่ดี รพีพงษ์ก็จะตะโกนขอความช่วยเหลือ เธอจะโทรแจ้งตำรวจทันที แต่ตอนนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

“คงไม่ใช่เพราะคนที่รพีพงษ์หามาเป็นคนที่พวกอันธพาลรู้จัก จากนั้นก็ได้พาตัวรพีพงษ์ไป” เยาวเรศพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับมีร่องรอยของความกลัวในใจของเธอ

“ไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง รพีพงษ์จะต้องอันตรายมาก ฉันต้องไปดูสถานการณ์ให้แน่ใจก่อน หากสถานการณ์ไม่ดี ฉันก็จะได้โทรแจ้งตำรวจทันที”

ได้ทำการตัดสินใจในใจของเธอ เยาวเรศก็เดินตรงไปที่ประตู เปิดประตูด้วยความกังวลอยากจะวิ่งลงไปชั้นล่าง ในขณะนี้เอง เธอรู้สึกหน้ามืด จากนั้นเธอก็กระแทกเข้าที่หน้าอกที่มั่นคงแล้วเด้งกลับมา

เธอยืนนิ่งอยู่กับที่ มองไปที่ประตู หลังจากพบว่าเป็นรพีพงษ์ที่ทำให้เธอเด้งกลับมาดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง

“รพีพงษ์คุณ … ทำไมคุณกลับมาล่ะ?คนพวกนั้นปล่อยคุณมาเหรอ?

รพีพงษ์ยิ้มให้เยาวเรศและกล่าวว่า “ปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว ต่อไปจะไม่มีเสียงรบกวนที่ชั้นล่างอีกแล้ว”

ใบหน้าเยาวเรศเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อและถามว่า “คุณหมายถึง คนพวกนั้นจะย้ายออกไปเหรอ?”

“อืม ประมาณนั้น” รพีพงษ์ตอบกลับ ถูกคนของโสธรพาตัวไปกับการย้ายออกไป โดยพื้นฐานแล้วไม่แตกต่างกันมากนัก

“ คนพวกนั้นบอกว่าพวกเขามีเส้นสายเยอะไม่ใช่เหรอ คุณทำให้พวกเขาย้ายได้ยังไง พวกเขาไม่หาเรื่องคุณเหรอ?” เยาวเรศยังคิดไม่ออกว่ารพีพงษ์ทำได้อย่างไร

“บอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าผมก็มีคนรู้จักอยู่ที่นี่บ้าง ผมได้ขอให้พวกเขามาช่วยจัดการเรื่องนี้” รพีพงษ์อธิบาย

เยาวเรศพยักหน้าด้วยความรู้สึกหมดความสงสัย คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะเก่งขนาดนี้ เขาสามารถหาคนมาจัดการเรื่องนี้ได้ แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะมาจากต่างจังหวัด แต่เขาก็มีฝีมือ

ถ้าเธอได้ลงไปชั้นล่างในตอนนี้ เธออาจจะยังได้เห็นฉากการออกจากชุมชนโดยมีชายร้อยกว่าคนสวมชุดสูทนั้น เธออาจจะไม่คิดว่ารพีพงษ์มีแค่ฝีมือเท่านั้น

“รพีพงษ์ ขอบ … ขอบคุณมากนะ” หลังจากดึงสติกลับมาเยาวเรศเหลือบมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความรู้สึกขอบคุณ บนใบหน้าของเธอแสดงความรู้สึกดีต่อรพีพงษ์

รพีพงษ์ยิ้มให้เยาวเรศและพูดว่า “เป็นเรื่องที่ควร”

จากนั้น เขาก็กลับไปที่ห้องเพื่อเอาของและออกจากอพาร์ตเมนต์อีกครั้ง

แม้ว่ารพีพงษ์จะไม่ได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ แต่สำหรับเยาวเรศ เหตุการณ์นี้ก็เท่ากับการได้หลบหนีจากหายนะ อย่างไรก็ตาม หากไม่ใช่เพราะรพีพงษ์ในครั้งนี้เธอก็คงจะโดนพวกอันธพาลย่ำยี

นี่เพียงพอที่จะเปลี่ยนทั้งชีวิตของเยาวเรศ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่ารพีพงษ์เป็นพระผู้ช่วยชีวิตให้รอดของเยาวเรศ

เดิมที เยาวเรศคิดว่าตนเองควรจะตอบแทนรพีพงษ์ ในสถานการณ์นี้ เยาวเรศรู้สึกว่าไม่ว่ารพีพงษ์จะขออะไรกับเธอ เธอก็สามารถยอมรับคำขอทุกคำขอของเขา แต่รพีพงษ์มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยโดยสิ้นเชิง หยิบของตนเองเสร็จก็จากไป

สิ่งนี้ทำให้เยาวเรศรู้สึกถึงเสน่ห์บนตัวของ รพีพงษ์ความรู้สึกดีๆที่มีต่อรพีพงษ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เธออยู่คนเดียวในอพาร์ทเมนต์เป็นเวลานาน คิดมากในหัว บางครั้งเธอก็แสดงรอยยิ้มบ้าผู้ชายบนใบหน้าของเธอ

“แม้ว่ารพีพงษ์จะไม่ได้มีหน้าตาเหมือนดาราชายเหล่านั้น แต่ออร่าที่เขามีเมื่อเขาช่วยฉันมันหล่อมาก ยังมีหน้าอกของเขา ดูมีพลังมาก เขามีซิกแพคแปดลูกหรือเปล่า?ฉันอยากสัมผัสมันดูจังเลย … ”

จนถึงตอนเย็น เยาวเรศก็ไม่ได้ยินเสียงวุ่ยวายจากชั้นล่างอีกเลย เธอไปถามเพื่อยืนยันกับเจ้าหน้าที่นิติคอนโด เจ้าหน้าที่บอกเธอว่าคนที่อยู่ชั้นล่างย้ายออกไปแล้ว เธอจึงค่อยรู้สึกโล่งใจในขณะเดียวกัน เธอก็ชมเชยรพีพงษ์น่าเชื่อถือ

ในตอนเย็น เมื่อนิษฐากลับมา เยาวเรศก็ได้เล่าให้นิษฐาฟังอย่างกระตือรือร้น เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงบ่าย ในนั้นรวมถึงคำชมที่มีต่อรพีพงษ์

หลังจากที่นิษฐาฟังคำพูดของเยาวเรศ เธอก็จ้องมองและยื่นมือไปแตะหน้าผากของเยาวเรศแล้วพูดว่า“ จิมมี่คุณไม่เป็นไข้ใช่ไหม คุณกลับคิดว่าไอ้หนุ่มหน้าขาวที่เกาะผู้หญิงกินคนนั้นหล่อ?โอ้แม่เจ้า ไอ้หนุ่มหน้าขาวคนนนั้นไม่ได้ทำของใส่คุณใช่ไหม?”

เยาวเรศได้ยินนิษฐาพูดแบบนี้ รีบจับมือเธอทันทีและพูดว่า”นิษฐา คุณอย่าพูดรพีพงษ์แบบนี้ เขาช่วยฉันจริงๆในบ่ายวันนี้ ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ก็ไปดูที่ชั้นล่างดูสิ พวกอันธพาลเหล่านั้นย้ายออกไปแล้ว ”

“จิมมี่ ไม่ใช่ฉันว่าคุณนะ คุณมันหลอกง่ายเกินไปจริงๆ ฉันถามคุณนะ คุณเห็นรพีพงษ์เอาชนะพวกอันธพาลเหล่านั้นหรือไม่?” นิษฐา ดูเหมือนไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของผู้ที่ตนหวังไว้

เมื่อเยาวเรศได้ยินสิ่งที่นิษฐาพูด เธอก็ผงะ จากนั้นก็ส่ายหัวและพูดว่า “ฉันไม่เห็น เขาให้ฉันขึ้นมาก่อน เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด”

“ ก็อย่างว่านะ คุณไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเรื่องนี้คลี่คลายอย่างไร คุณก็รู้สึกซาบซึ้งใจไอ้หนุ่มหน้าขาวคนนั้นจนลืมหูลืมตา หากเพื่อนบ้านเป็นคนจัดการเรื่องนี้ล่ะ แต่ไอ้หมอนี่ยืนยันว่าเขาเป็นคนจัดการ ก็เพื่ออยากได้ความรู้สึกดีๆ หลอกสาวไร้เดียงสาเช่นคุณต่างหาก? “นิษฐาพูดอย่างตรงไปตรงมา

เยาวเรศรู้สึกว่าคำพูดของนิษฐาผิดไปมาก แต่เธอก็ไม่พบสิ่งใดที่จะตอบโต้เธอได้

“ฉันจะบอกคุณนะ ว่าฉันเคยเห็นคนแบบเขามาเยอะ คุณจำแฟนคนเก่าก่อนๆหน้าคนนั้นของฉันได้ไหม เขาก็เป็นผู้ชายที่ชอบพูดคุยโม้ คำพูดของคนแบบนี้อย่าไปเชื่อ “นิษฐายังคงกล่าวอย่างจริงจัง

“นิษฐา ฉันรู้สึกว่าอคติของคุณที่มีต่อรพีพงษ์มากเกินไป เรื่องนี้ไม่ซับซ้อนอย่างที่คิดรพีพงษ์ช่วยแก้ปัญหาจริงๆ เขาก็ไม่ได้ขอให้ฉันตอบแทนอะไรเลย” เยาวเรศช่วยพูดแทนรพีพงษ์

“ยัยโง่ นี่คือการใช้กลวิธีหลอกให้ตายใจก่อนแล้วจึงจัดการ เข้าใจไหม เขาจงใจทำแบบนั้น ผู้ชายแบบนี้น่ากลัวที่สุด อีกอย่างมักจะลงมือกับผู้หญิงที่ไร้เดียงสาแบบคุณ ฉันสงสัยว่าคนเหล่านั้นที่อยู่ชั้นล่าง บางทีเขาอาจเป็นนักแสดงที่หามา เจตนาหลอกให้ได้เหยื่ออย่างคุณ ไม่งั้นเขาคนเดียวจะสู้กับคนเยอะขนาดนั้นได้ยังไง ทั้งหมดนี้เป็นกลอุบาย ไม่ได้ พวกเราไม่ควรปล่อยให้ผู้ชายคนนี้อยู่ร่วมกับเรา ไม่เช่นนั้นเราจะโดนเขาเล่นงานในไม่ช้าก็เร็ว “นิษฐากล่าว ดวงตาของเธอหรี่ลง ราวกับว่าเธอได้เห็นความลับที่ยิ่งใหญ่บางอย่าง

เยาวเรศพูดไม่ออกในทันที รู้สึกว่าเพื่อนสนิทของเธอคิดมากเกินไปแล้ว

“ นิษฐา ฉันรู้สึกว่าคุณโดนแฟนเก่าทั้งหลายของคุณหลอกจนกลัวไปหมด ดังนั้น จึงรู้สึกว่าผู้ชายทุกคนเป็นแบบนี้ ฉันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คนแบบนั้น” เยาวเรศพูดอย่างจริงจัง

นิษฐามองบนใส่เยาวเรศและพูดว่า “ช่างเถอะๆ ถ้าคุณโดนหลอก คุณก็จะได้รู้ว่าฉันพูดถูกหรือเปล่า ไม่พูดถึงไอ้หนุ่มหน้าขาวที่เกาะผู้หญิงกินคนนั้นแล้ว พรุ่งนี้ตรีโลจน์เชิญเราไปที่บาร์ ฉันได้ยินที่บาร์ บาร์ที่จะไปคือไนท์คลับสวรรค์ที่มีชื่อเสียงมากในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ได้ยินมาว่าเป็นพื้นที่ของบอสใหญ่โสธรในเซี่ยงไฮ้ ไม่แปลกที่ตรีโลจน์จะเป็นคนร่ำรวยรุ่นที่สองที่สุดของห้องเรา สถานที่แบบนี้ก็สามารถเลี้ยงได้ พรุ่งนี้ฉันต้องแต่งตัวสวยๆ ไปเที่ยวไนท์คลับสวรรค์ให้สนุก”

เมื่อเยาวเรศได้ยินคำพูดของนิษฐา ก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ไปที่บาร์เพื่อเล่น ฉันได้ยินมาว่าสถานที่นั้นวุ่นวายมาก ไม่ก็เราไม่ต้องไปแล้วมั้ง”

“โอ๊ย คุณกลัวอะไร มีตรีโลจน์พวกเขาอยู่ที่นั่น ครั้งนี้ ตรีโลจน์เรียกพวกเราสองคนให้ไปโดยเฉพาะเลยนะ ถ้าเราไม่ไป ก็เป็นการไม่ให้หน้าตรีโลจน์ คุณก็รู้ภูมิหลังครอบครัวของตรีโลจน์การทำให้เขาขุ่นเคืองไม่ใช่เรื่องดี ก็แค่ไปสนุกสนาน ยังไงก็เป็นเรื่องปกติที่คนหนุ่มสาวจะไปเที่ยวบาร์” นิษฐาเกลี้ยกล่อม

เยาวเรศยังคงขมวดคิ้ว เหตุผลที่เธอไม่อยากไป ไม่ใช่เพราะความวุ่นวายในบาร์ แต่เป็นเพราะตรีโลจน์สนใจเธอ อีกอย่างได้แสดงความรู้สึกของเขาให้เธอหลายครั้ง แต่เยาวเรศไม่ชอบตรีโลจน์ แม้กระทั่งรู้สึกเกลียดเขาเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นิษฐาพูดนั้นไม่ผิด ครอบครัวของตรีโลจน์ มีบริษัทขนาดใหญ่ในเซี่ยงไฮ้และเป็นลูกหลานที่ร่ำรวย ครอบครัวมีเส้นสายมากมาย เธอก็ไม่อยากทำให้ตรีโลจน์ขุ่นเคือง

“ งั้น … งั้นก็ได้ แต่เราสามารถพารพีพงษ์ไปกับพวกเราได้หรือไม่?

นิษฐาจ้องมองทันทีและกล่าวว่า “พาไอ้หนุ่มเกาะผู้หญิงกินไปทำไม?”

เยาวเรศครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและกล่าวว่า “รพีพงษ์ก็เป็นเพื่อนร่วมห้องเช่าของเราเช่นกันยังไงก็ออกไปสนุก พาเขาไปด้วยจะเป็นไรไป”

ในความเป็นจริงที่เธอต้องการพารพีพงษ์ไป เพราะรพีพงษ์ให้ความรู้สึกปลอดภัยแก่เธอสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้เยาวเรศรู้สึกถึงความรู้สึกนี้ ดังนั้นเธอจึงอยากไปกับรพีพงษ์โดยไม่รู้ตัว

เดิมทีนิษฐาต้องการที่จะปฏิเสธเยาวเรศโดยตรง เพราะการพารพีพงษ์ไปนั้นจะทำให้พวกเธอขายหน้า ถ้าตรีโลจน์รู้ว่ารพีพงษ์เป็นผู้ชายเกาะผู้หญิงกิน คาดว่าทุกคนก็จะหัวเราะเยาะพวกเธอที่เป็นเพื่อนกับคนเกาะผู้หญิงกิน

อย่างไรก็ตาม หลังจากครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักพัก ในเมื่อรพีพงษ์ตั้งใจที่จะลงมือเยาวเรศ เธอสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อให้ตรีโลจน์จัดการรพีพงษ์ เรื่องที่ตรีโลจน์มีใจให้เยาวเรศนั้นเธอรู้ ถ้าตรีโลจน์รู้ว่ารพีพงษ์ดึงดูดความสนใจจากเยาวเรศ จะไม่ปล่อยมันไปง่ายๆอย่างแน่นอน

บางทีอาจสามารถยืมมือของตรีโลจน์เพื่อขับไล่รพีพงษ์ออกจากอพาร์ตเมนต์ของพวกเธอ

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ บนใบหน้าของนิษฐาก็เผยรอยยิ้มร้ายๆออกมา คิดว่าเธอฉลาดมาก สามารถหาวิธีที่ดีเช่นนี้ออกมาได้

“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่คุณพูด พาเขาไปก็ได้ ตรีโลจน์คงไม่ถือสาหรอก เดี๋ยวฉันจะบอกเขาเองถ้าเขากลับมา” นิษฐากล่าว

เมื่อเห็นนิษฐาตอบตกลง เยาวเรศก็พยักหน้าอย่างมีความสุข

หลังจากนั้นไม่นาน รพีพงษ์ก็กลับมาจากด้านนอก เปิดประตูอพาร์ทเมนต์แล้วเดินตรงไปชั้นบน

นิษฐารีบลุกขึ้นยืนและเดินไปตรงหน้ารพีพงษ์ ในใจคิดว่ารพีพงษ์ต้องการหลอกเยาวเรศโอกาสที่จะได้ออกไปเที่ยวด้วยกันแบบนี้เขาจะไม่ปล่อยไปอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงสั่งการ “พรุ่งนี้ จิมมี่จะไปเที่ยวที่บาร์ เห็นคุณเป็นเพื่อนร่วมห้องเช่าของเราจึงให้คุณไปด้วย อย่าลืมแต่งตัวให้ดีและอย่าออกไปทำให้เราอับอายล่ะ”

รพีพงษ์เหลือบมองเธอและตอบกลับอย่างเย็นชา

“ไม่ไป”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท