พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่513 เหมือนกับอาวุธฆ่าคนมั้ย

บทที่513 เหมือนกับอาวุธฆ่าคนมั้ย

บทที่513 เหมือนกับอาวุธฆ่าคนมั้ย

หลังจากที่ในห้องวีไอพีเงียบไปไม่กี่วินาที ใบหน้าของจิรเวชและโยษิตาทั้งสองคนก็ดูไม่ดีขึ้นมา

แม้ว่าธีรศานติ์จะรู้ว่างานเลี้ยงอาหารวันนี้ไม่ต่างอะไรจากงานเลี้ยงที่มีเลศนัยแอบแฝงอยู่มากนัก แต่ก็เห็นว่าท่าทีของรพีพงษ์นั้นแน่วแน่มาก ก็รู้สึกไม่ค่อยเหมาะสม แต่เขาในฐานะคนฝั่งของรพีพงษ์ ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

“รพีพงษ์ คุณหมายความว่ายังไง ผมขอโทษนายอย่างจริงใจ แต่คุณกลับใช้ท่าทีแบบนี้มาพูดจากับผม คุณคิดว่าผมจิรเวชสามารถรังแกได้ง่ายๆเหรอ?”จิรเวชตะโกนใส่รพีพงษ์

รพีพงษ์หัวเราะ และพูดว่า: “ทำไม ฉันขอแค่นี้นี้เอง พวกคุณก็รับไม่ได้แล้วเหรอ? ถ้าหากว่าไม่ใช่พวกคุณ ภรรยาของฉันจะหายตัวไปหลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้อย่างไร แล้วน้องสาวฉันจะสลบไปนานขนาดนี้ได้ยังไง สองวันก่อนเพิ่งฟื้นขึ้นมา พวกคุณคิดจริงไปเหรอ ความแค้นเหล่านี้ แค่คำขอโทษคำเดียว ก็สามารถคลี่คลายได้เหรอ?”

จิรเวชกลอกตาไปมา จากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า และพูดว่า: “ที่แท้ก็เป็นเพราะเรื่องนี้นี่เอง ฮ่าฮ่า คุณใจเย็นๆก่อน ผมมีข่าวดีจะบอกคุณอยู่พอดี ที่อยู่ของภรรยาคุณ ผมหาเจอแล้ว ที่สำคัญผมพาเธอมาที่นี่ ก็เพื่อมาขอโทษคุณ”

เมื่อรพีพงษ์ได้คำพูดของจิรเวช ก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ หันหน้ามองไปที่โยษิตา ในเวลานั้นเขาแน่ใจแล้ว ว่าการหายตัวไปของอารียา โยษิตาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยจริงๆ

ตอนนี้จิรเวชกลับพูดแบบนี้ออกมาอีกครั้ง ทำให้เขาสงสัยว่าก่อนหน้านี้อารียาตกอยู่ในเงื้อมมือของจิรเวชและโยษิตา

กำปั้นของรพีพงษ์กำแน่นทันที หากเป็นเช่นนั้น รพีพงษ์แทบจะจินตนาการได้เลยว่าอารียาอยู่ในเงื้อมมือของจิรเวชจะต้องทุกข์ทรมานแบบไหน

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์แปลกใจก็คือ หลังจากที่จิรเวชพูดออกมา ใบหน้าของโยษิตาก็แสดงสีหน้างงงวย ราวกับว่าก็ไม่รู้ว่าจิรเวชหาตัวภรรยาของรพีพงษ์พบแล้วอย่างนั้น

“เธออยู่ที่ไหน รีบส่งตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้ ถ้าหากเธอได้รับบาดเจ็บแม้แต่ปลายผม ฉันสับพวกแกให้เละเป็นหมื่นๆชิ้นแน่!”รพีพงษ์กัดฟันและพูดคำเหล่านี้ออกมา ความอาฆาตแค้นบนตัวก็เต็มไปทั่วทั้งห้อง

“อย่าใจร้อน ผมจะไปเชิญเธอออกมาเดี๋ยวนี้”จิรเวชแสดงรอยยิ้มที่ร้ายกาจบนใบหน้า จากนั้นปรบมือ

ด้านหลังหน้าจอของห้องวีไอพี มีคนสองคนจับหญิงสาวที่ถูกมัดไว้เดินออกมาทันที ในขณะเดียวกัน ผู้คนมากกว่าสิบคนที่มีความแข็งแกร่งไม่ธรรมดาก็รีบวิ่งพุ่งออกมาจากข้างใน โดยล้อมรพีพงษ์ธีรศานติ์ไว้

รพีพงษ์มองไปที่หญิงสาวคนนั้น ในใจรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่หลังจากเห็นลักษณะท่าทางของหญิงสาวแล้ว การแสดงออกบนใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นความประหลาดใจทันที

หญิงสาวที่ถูกมัดไว้ กลายเป็นกัญญาวีร์ที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคนนั้น

กัญญาวีร์ตื่นตระหนก และมองไปที่ผู้คนรายรอบตัวเองด้วยความหวาดกลัว เธอถูกปิดปากด้วยผ้าหนึ่งชิ้น และไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้

เมื่อเธอเห็นรพีพงษ์ พยายามดิ้นรนทันที ราวกับว่าต้องการเตือนรพีพงษ์ว่าที่นี่มีอันตราย

การแสดงออกบนใบหน้าของจิรเวชเปลี่ยนกลายเป็นเยาะเย้ย เดิมทีเขาต้องการลองดูว่าตัวเองสามารถที่จะหลอกล่อให้รพีพงษ์ดื่มเหล้าแก้วนั้นลงไปได้มั้ย ใครจะไปคิดว่ารพีพงษ์จะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจจะขอโทษเขาตั้งแต่แรกแล้ว

ดังนั้นเขาจึงไม่ตั้งใจที่จะเล่นละครตบตารพีพงษ์ต่อไป ในเมื่อเป้าหมายของวันนี้ก็เพื่อกำจัดรพีพงษ์ทิ้ง ที่สำคัญมีดัมพ์รงค์ยอดฝีมือคนนี้คอยคุ้มครอง เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อีกต่อไป ลงมือได้เลยทันที เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลมากที่สุด

“รพีพงษ์ เป็นยังไงบ้าง ผมพาภรรยาของคุณมาให้คุณแล้ว คุณสามารถยอมรับคำขอโทษของผมได้หรือยัง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”จิรเวชหัวเราะขึ้นมา

รพีพงษ์ตะคอกอย่างเย็นชา และกล่าวว่า: “เธอไม่ใช่ภรรยาของฉัน แกจับผู้ที่บริสุทธิ์มาทำไม?”

จิรเวชจ้องมองไปที่กัญญาวีร์ แล้วพูดว่า: “ทำไมเธอจะไม่ใช่ภรรยาของคุณล่ะ คุณดูไปที่หน้าตาของเธอสิ เหมือนกับภรรยาของคุณมากขนาดไหน ที่สำคัญคนนี้ยังอายุน้อยกว่า ผู้หญิงนะ มันก็แค่เอาเพื่อความสนุกสนาน แน่นอนว่าคล้ายๆกันก็พอ คุณยังจะตามหาคนเดิมคนนั้นอีกทำไมล่ะ”

“ปล่อยเธอซะ ไม่อย่างนั้นแกได้เสียใจภายหลังแน่ ฉันจะทำให้แกได้ลิ้มรสรสชาติที่เจ็บปวดที่สุดในโลกนี้”รพีพงษ์พูดอย่างเย็นชา

จิรเวชมองไปที่รพีพงษ์โดยไม่กลัว และพูดว่า: “คุณลองมองไปรอบๆตัวคุณให้ดีๆ หรือว่าคุณยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้เหรอ คุณก็น่าจะรู้ดีว่าวันนี้ผมเชิญพวกคุณมา ก็เพื่อลงมือกับพวกคุณ คุณไม่ได้หลอกได้ง่ายๆจริงด้วย เพียงแต่ว่าฉันคาดไม่ถึงว่าคุณจะมาที่นี่คนเดียว ยังดีที่ธีรศานติ์คนนี้ยังพาบอดี้การ์ดมาด้วยสี่คน สำหรับพละกำลังของตัวคุณเอง มั่นใจขนาดนี้เลยเหรอ?”

“แกสามารถลองดูได้”รพีพงษ์กล่าว

“ฮ่าฮ่า คุณคิดว่าผมโง่เหรอ ผมรู้ว่าคุณสามารถสู้ได้ ดังนั้นถึงได้จับตัวหญิงสาวคนนี้มา คุณเพื่อเธอแล้ว สามารถที่จะรักษาสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไว้ได้หนึ่งแห่ง ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณก็น่าจะเป็นคนที่มีจิตใจที่ดีใช่มั้ย?”

“รพีพงษ์ คุณก็น่าจะรู้ดีว่า ถึงระดับนี้แล้ว ไม่โหดเหี้ยมอำมหิตบ้าง ไม่มีทางที่จะอยู่รอดได้เลย และคุณมีจุดอ่อนเช่นนี้ ผมจับตัวเธอมา ก็เพื่อลองดูว่าคุณมีจิตใจที่ดีได้มากแค่ไหนกัน”

“วันนี้เพียงแค่คุณกล้าลงมือ คนของผมก็จะหักคอเธอทันที การตายของเธอ ก็จะเป็นความรับผิดชอบของคุณทั้งหมด ไม่รู้ว่าความใจดีของคุณ จะยังคงรักษาให้คงอยู่ต่อไปได้หรือไม่!”

จิรเวชพูดเสร็จ ก็นั่งลงบนเก้าอี้อย่างสบายๆ และยังคีบผักบนโต๊ะออกมาทาน

“ผมให้เวลาคุณคิดแค่สามนาที ถ้าคุณไม่อยากให้เธอตาย ตอนนี้ก็ดื่มเหล้าแก้วบนโต๊ะนั้นซะ ไม่อย่างนั้นหลังจากอีกสามนาที ต่อให้คุณลงมือ คนของผมก็จะฆ่าเธอ”จิรเวชกล่าวเสริมอีกประโยค

รพีพงษ์หรี่ตามองไปที่จิรเวช และกัญญาวีร์ที่ถูกจับตัวไว้ ซึ่งวันนี้เขาคาดคิดไม่ถึง

ธีรศานติ์ที่ยืนอยู่ข้างๆรพีพงษ์มองดูสถานการณ์รอบๆตัวเองด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล ลูกน้องเหล่านี้ของจิรเวช แต่ละคนแข็งแกร่งกว่าบอดี้การ์ดทั้งสี่คนที่เขาพามา ถ้าหากต่อสู้กันขึ้นมาจริงๆ พวกเขาคงจะไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย

เขาเอื้อมมือไปที่หูของรพีพงษ์ แล้วกระซิบพูดว่า: “รพีพงษ์ ในเวลานี้ อย่าได้ลังเลเด็ดขาด เดี๋ยวฉันจะให้บอดี้การ์ดของฉันขวางพวกเขาไว้ก่อน พวกเราสองคนหนีออกไปก่อน เพียงแค่หนีออกไปได้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีโอกาสล้างแก้ สำหรับหญิงสาวคนนั้นแล้ว ตอนนี้ทำได้เพียงปล่อยวาง”

รพีพงษ์ยิ้มให้กับเขาเล็กน้อย เอื้อมมือไปหยิบตะเกียบสองอันบนโต๊ะขึ้นมา และถามว่า: “แกคิดว่าตะเกียบพวกนี้ เหมือนกับอาวุธฆ่าคนหรือเปล่า?”

สีหน้าของจิรเวชเต็มไปด้วยความสงสัย และไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆรพีพงษ์ถึงถามคำถามเช่นนี้

จิรเวชหัวเราะเสียงดังขึ้นมา และพูดจาเสียดสี: “รพีพงษ์ คุณคงจะไม่ใช่ว่าโง่จริงๆ คุณจะใช้ตะเกียบสองอันนี้สู้กับคนของผมเหรอ? น่าขำสิ้นดี”

ทันทีที่เสียงหัวเราะของเขาลดลง รพีพงษ์หันหน้ามองไปที่เขา จากนั้นมือที่ถือตะเกียบก็โยน กระแทกไป และมีเสียงแตกดังขึ้นมา จากนั้น ตะเกียบทั้งสองก็เสียบเข้าไปที่ตรงกลางหน้าผากของสองคนนั้น

ร่างของรพีพงษ์รีบพุ่งตรงไปที่กัญญาวีร์อย่างรวดเร็ว จับตัวกัญญาวีร์ไว้ และถอยกลับไปที่ตำแหน่งเดิม

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นระหว่างในพริบตาเดียว จิรเวชและลูกน้องของเขาไม่ได้มีการตอบสนองใดๆกลับคืนมา

ร่างของทั้งสองคนกระแทกลงไปที่พื้น ทำให้ทั้งจิรเวชและโยษิตาทั้งสองคนกลัวจนสั่นสะท้าน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท