พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่545 จะสอนให้ว่าควรพูดจายังไง

บทที่545 จะสอนให้ว่าควรพูดจายังไง

บทที่545 จะสอนให้ว่าควรพูดจายังไง

รพีพงษ์จ้องไปที่ขนมปัง แล้วถามอย่างเยือกเย็นว่า “คุณหนูของแกให้แกมาหรอ?”

ขนมปังรู้สึกไม่ดี ที่พาคนมาหารพีพงษ์ในวันนี้ ก็เป็นเพราะเธอโมโห แล้วยังหาโอกาสที่จะรังแกคนได้ตามใจชอบแบบนี้ได้ยาก แน่นอนว่าเธอไม่อยากปล่อยมันไป

หลังจากที่รู้ว่ารพีพงษ์เช่าห้องอยู่ร่วมกับคนอื่นแล้วนั้น เธอยิ่งไม่เห็นรพีพงษ์อยู่ในสายตา ใช้อำนาจของตระกูลพงศ์ธนธดา สั่งสอนรพีพงษ์อย่างรุนแรงสักตั้ง

เธอยังไม่รู้เรื่องที่รพีพงษ์บริจาคเงินให้มหาวิทยาลัยฟูตันจำนวนพันล้าน

“แกไม่ต้องมาสนใจว่าใช่คุณหนูของฉันมาหรือไม่ คุณนายใหญ่สั่งให้ฉันจัดการเรื่องนี้ แกคิดว่าถ้าแกมีปัญหากับคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาของฉันแล้ว จะจบง่ายๆงั้นหรอ?” ขนมปังกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด

“หรอ? งั้นแกจะตัดการกับเรื่องนี้ยังไงล่ะ?” รพีพงษ์ถาม

ขนมปังได้ยินคำพูดนี้ของรพีพงษ์ ก็นึกอะไรออก แล้วกล่าว “คุณนายใหญ่ของฉันไม่อยากเห็นแกในเมืองเซี่ยงไฮ้นี่อีก เมื่อก่อนที่แกทำให้คุณหนูไม่พอใจ ความจริงต้องตาย ตอนนี้ฉันใจกว้าง ไม่ต้องการชีวิตของแก แต่แกต้องคำนับให้ฉันสิบครั้ง แล้วพูดขอบคุณครับเจ๊สิบครั้ง จากนั่นก็ไสหัวไปจากเมืองเซี่ยงไฮ้ซะ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่องแกอีก”

รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของขนมปัง ก็บึนปากในทันที ไม่คาดคิดว่าสาวใช้ข้างกายอารียาจะร้ายกาจได้ขนาดนี้ แล้วมองออกอย่างชัดเจนว่านี่เป็นสิ่งที่เธออยากทำเองทั้งนั้นจึงได้พูดออกมา

นิษฐาที่อยู่ในคอนโดเห็นเหตุการณ์ด้านนอก ก็มีความสุขที่ได้เห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้ เธอกำลังโมโหอยู่พอดี อยากเห็นรพีพงษ์พ่ายแพ้

สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนที่มาหาเรื่องรพีพงษ์ เป็นคนของตระกูลพงศ์ธนธดาพอดี นิษฐามองว่า แม้รพีพงษ์มีเงินร้อยล้าน และไม่มีทางเป็นศัตรูของตระกูลพงศ์ธนธดาได้แน่นอน วันนี้เขาต้องถูกคนของตระกูลพงศ์ธนธดาที่มาสั่งสอนอย่างเจ็บแสบแน่นอน

เธอนั่งรอดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นอยู่บนโซฟา กำลังรอให้รพีพงษ์คุกเข่าอ้อนวอนขอคนเหล่านี้ของตนะกูลพงศ์ธนธดา เธอถึงขึ้นหยิบมือถือขึ้นมา เปิดวิดีโอ อยากจะอัดคลิปตอนที่รพีพงษ์คุกเข่าไว้ ถึงเวลานั้นไม่แน่เธออาจสามารถเอาคลิปนี้ไว้แบล็คเมล์รพีพงษ์ก็ได้

“เร็วๆ ฉันไม่ได้มีเวลามากนักนะ ถ้าแกคุกเข้าไม่ได้ คนที่อยู่หลังฉันสามารถช่วยแกได้” ขนมปังเห็นรพีพงษ์ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จึงพูดอย่างรำคาญออกไป

“งั้นแกก็ให้พวกมันลองดู” รพีพงษ์กล่าว

ขนมปังไม่คิดว่ารพีพงษ์จะกล้าขนาดนี้ ไม่หังคำพูดของเธอ ยิ่งโมโหมากเข้าไปอีก

เธอกัดฟันมองไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “แกรนหาเรื่องเองนะ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ!”

พูดจบ ขนมปังถอยหลังไปสองก้าว แล้วตะโกนไปที่ชายเหล่านั้น “จัดการมันซะ จากนั้นให้มันมาคุกเข่าคำนับต่อ หน้าฉัน!”

ชายเหล่านั้นไม่ลังเล หลังจากได้รับคำสั่งแล้ว ก็ก้าวไปข้างหน้า จะลงมือต่อรพีพงษ์

นิษฐาเห็นดังนั้น ก็รีบตะโกนไปที่รพีพงษ์ “รพีพงษ์ จนตอนนี้แล้ว แกยังไม่รู้จักผิดขอบชั่วดีอีกหรอ แกคิดว่าคนของตระกูลพงศ์ธนธดาสามารถยั่วโมโหได้ง่ายๆหรอ ฉันอยากให้แกฟังเค้าพูดนะ ถึงเวลานั้นมันจะไม่ใช่แค่เสียใจอย่างเดียวแล้วล่ะสิ”

แน่นอนว่ารพีพงษ์ไม่มีทางฟังคำพูดของนิษฐา เขาจ้องไปที่ผู้ชายเหล่านั้น เห็นมีคนเริ่มปล่อยหมัดมาที่เขาแล้ว ก็ยกขาขึ้น แล้วถีบไปที่คนนั้น

ถึงแม้คนนี้จะเป็นอันธพาลที่ตระกูลพงศ์ธนธดาฝึกฝนมา แต่สำหรับรพีพงษ์แล้ว ก็แค่ลูกแมวเท่านั้น จัดการง่ายดาย

ขนมปังเห็นรพีพงษ์กล้าต่อกลอนกับอันธพาลของตระกูลพงศ์ธนธดา ก็ยิ้มดูแคลนออกมา คิดในใจว่าเดี๋ยวอีกสักพักไอ้นี่ก็จะได้ลิ้มลองความเก่งกาจของตระกูลพงศ์ธนธดาแล้ว

แต่ทว่า หลังจากที่เห็นรพีพงษ์ถีบอันธพาลคนหนึ่งของตระกูลพงศ์ธนธดาไปติดกับกำแพงแล้วนั้น ขนมปังก็งงงวยขึ้นทันที

ท่วงท่าการต่อสู้ของรพีพงษ์เปรียบเสมือนสายน้ำไหลตามธรรมชาติ ความเร็วในการออกท่วงท่า พลังที่มหาศาล ท่วงท่าที่ชำนาญ ใช้ท่วงท่าติดต่อกันจัดการชายเหล่านั้น เมื่อปล่อยหมัดออกมา ชายเหล่านั้นก็ล้มลงไปนอนอยู่บนพื้นแล้ว

นิษฐามองรพีพงษ์อย่างอ้างปากค้าง เธอรู้ว่ารพีพงษ์ชกต่อยเป็น แต่เธอไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะกล้าต่อยคนของตระกูลพงศ์ธนธดาได้ ความขัดแย้งในครั้งนี้ระหว่างรพีพงษ์และตระกูลพงศ์ธนธดา เกรงว่าจะจบลงแล้วจริงๆ

“แก……แกกล้าลงมือกับคนของตระกูลพงศ์ธนธดา แกไม่อยากมีชีวิตอีกแล้วใช่ไหม? แกรีบคุกเข้าขอโทษฉันเดี๋ยวนี้นะ มิเช่นนั้นฉันคนของตระกูลพงศ์ธนธดาจะไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่!” ขนมปังรีบมองไปที่รพีพงษ์อย่างซีเรียส

“ทำไม อนุญาตให้แค่คนของตระกูลพงศ์ธนธดาลงมือกับฉัน แต่ไม่อนุญาตให้ลงมือกับคนของตระกูลพงศ์ธนธดา พวกแกเอาแต่ใจตัวเองไปเปล่า!” รพีพงษ์กล่าวอย่างเยือกเย็น

“ตระกูลพงศ์ธนธดาของฉันมีอำนาจและความสามารถในเมืองเซี่ยงไฮ้ ลงมือกับแกแล้วไง แกก็เป็นแค่ไอ้ขอทานในสายตาของฉัน แกมีสิทธิ์อะไรต่อกลอน!” ขนมปังตะคอกรพีพงษ์

รพีพงษ์ได้ยินคำพูดนี้ของเธอ ก็หลับตาลง แล้วเดินไปข้างหน้า จากนั้นก็ยกมือขึ้นแล้วตบไปที่ขนมปังหนึ่งฉาด

แกมันก็แค่สาวใช้คนหนึ่งของตระกูลพงศ์ธนธดา มีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้กับฉัน?” ความจริงรพีพงษ์ยังให้เกียรติที่เธอเป็นสาวใช้ของอารียา สั่งสอนนิดหน่อยก็พอแล้ว แต่นิสัยทั้งหมดที่ขนมปังแสดงออกมา ทำให้รพีพงษ์รู้สึกต่อต้าน เขาไม่รู้ว่าคนแบบนี้อยู่ข้างๆอารียาแล้ว จะสร้างปัญหาให้อารียาหรือไม่ ดังนั้นจึงสั่งสอนเธอสักหน่อย ให้เธอรู้ถึงปัญหาของตัวเอง

ขนมปังจบหน้าตัวเอง เมื่อกี๊ที่รพีพงษ์ตบไปยังไม่ถือว่าแรงมาก แต่ก็มากพอที่จะทำให้หน้าของขนมปังบวมขึ้นมาได้

“แก……แกกล้าตบฉัน! แกไอ้อัปรีย์ แกเป็นใคร กล้าลงมือกับฉัน ฉันจะเล่นงานแก!” ขนมปังยื่นมือไปจับหน้าของรพีพงษ์

รพีพงษ์จับข้อมือเธอไว้ อีกมือหนึ่งตบไปที่หน้าของเธออีกฉาด

ขนมปังแทบจะแตกสลาย แม้เธอจะเป็นเพียงสาวใช้ของตระกูลพงศ์ธนธดา แต่ตั้งแต่เล็กจนโต นอกจากพวกเจ้านายเหล่านั้น ก็ไม่มีใครเคยด่าเธออีกเลย

ตอนนี้รพีพงษ์ตบเธอไปสองฉาด เธอจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน

“แกต้องตาย! ฉันจะทำให้แกตายทั้งเป็น! แกไอ้สัตว์เดรัจฉาน!”

รพีพงษ์ตบไปที่หน้าของขนมปังอีกฉาด ด้วยความไม่เกรงใจ

“วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกแทนคุณหนูของแกว่าควรจะพูดอย่างไร ถ้าแกยังไม่มีมารยาทกับฉันอีก ฉันก็จะตบไปเรื่อยๆ!” รพีพงษ์กล่าวอย่างเยือกเย็น

เอางี้ ทุกครั้งที่ขนมปังด่า รพีพงษ์ก็จะตบลงไปหนึ่งฉาด ตบติดต่อกันไปสิบฉาด

สุดท้ายหน้าของขนมปังเริ่มไม่มีความรู้สึก จนกระทั่งตอนนี้ เธอถึงรับรู้ ว่าคนที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าเธอเป็นคนของตระกูลไหน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอต้องโดนตบจนตายแน่ๆ

สุดท้าย ขนมปังก็ทนกับแรงกดดันของรพีพงษ์ไม่ไหว ในขณะที่รพีพงษ์จะตบเธอนั้น ก็พยายามพูดออกมาว่า “ฉัน……ฉันผิดไปแล้ว”

รพีพงษ์หยุดมือที่ง้างไว้ลง

เขาคลายมืออีกมือหนึ่งที่จับข้อมือของขนมปังเอาไว้ แล้วกล่าว “ต่อไปจะพูดอะไรหัดมีมารยาทบ้าง มิเช่นนั้นแกก็จะโดนตบอีก”

ขนมปังจ้องไปที่รพีพงษ์อย่างช้ำใจ จากนั้นก็รีบหันหลัง วิ่งไปที่ลิฟต์

“ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันจะไปฟ้องคุณนายใหญ่ เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่!”

รพีพงษ์ส่ายหน้าอย่างเซ็ง รู้ว่าการที่จะดัดนิสัยคนแบบนี้โดยการตบนั้น มันเป็นไปได้ยาก

เขาก้มหน้ามองไปที่ชายเหล่านั้นที่ล้มลงกองอยู่กับพื้น ไม่ได้ใส่ใจอะไรอีก ในขณะที่นิษฐากำลังตะลึงอยู่นั้น ก็ได้เดินไปที่ลิฟต์

ขนมปังเห็นรพีพงษ์เดินมา แต่ลิฟต์ยังไปขึ้นไป ก็ร้อนรน สุดท้ายก็ยอมไม่ขึ้นลิฟต์ วิ่งไปขึ้นบันไดอย่างเร็ว

ต้องรู้ก่อนว่าคอนโดรพีพงษ์พวกเขานี้อยู่ชั้นที่ยี่สิบสาม ขนมปังลงบันไดมา ก็ไม่กลัวตัวเองเหนื่อย

แต่ขนมปังจะคิดยังไง รพีพงษ์ก็ไม่ใส่ใจ เธอจะลงมายังไง ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับรพีพงษ์

ตอนนี้เขาจะไปบริษัทลานคอนกรุ๊ป ไปหาวิไลพรเพื่อปรึกษาว่าจะพาอารียาออกจากตระกูลพงศ์ธนธดาได้อย่างไร

ณ คฤหาสน์ตระกูลพงศ์ธนธดา

ขนมปังแบกหน้าที่บวมเฉ่งอย่างกับขนมปังกลับมาที่นี่ เมื่อเธอกลับมาเรื่องแรกที่ทำ ก็คือไปหาชลาธิปที่ห้องสมุด

ขณะนี้ชลาธิปกำลังดูเอกสารอยู่ในห้องสมุด เห็นขนมปังเดินเข้ามาอย่างร้อนรน ก็ขมวดคิ้วในทันที

แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าของขนัมปังแล้วนั้น ก็เกิดสงสัยขึ้นมา แล้วถาม “ขนมปัง หน้าแกไปโดนอะไรมา?”

ขนมปังมาถึงด้านหน้าของชลาธิป ก็นั่งลงกับพื้น แล้วร้องออกมาอย่างน่าสงสาร

“คุณนายใหญ่ ท่านต้องช่วยขนมปังนะ วันนี้ขนมปังทำตามที่คุณนายใหญ่บอก ไปจัดการไอ้โรคจิตที่ระรานคุณหนู ความจริงขนมปังอยากคุยกับเขาอย่างสมานฉันท์ ให้เขารู้ถึงความผิดของตัวเอง แต่ปรากฏว่ามันยังบอกว่าคุณหนูคือภรรยาของมัน แล้วยังพูดเหยียดหยามชื่อเสียงของคุณหนู สุดท้ายเขาก็ได้เหยียดหยามถึงคุณท่านอีกด้วย ขนมปังโมโหมาก ก็ตะคอกมันไป”

“ใครจะรู้ว่าไอ้นั่นจู่ๆมันจะลงไม้ลงมือกับขนมปัง ทำจนขนมปังกลายเป็นแบบนี้ มันชำนาญด้านการต่อสู้ หนูพาคนไปด้วยหลายคนแต่ก็โดนมันจัดการ ตอนนี้หนีกลับมาไม่ได้ คุณนายใหญ่ ท่านต้องช่วยขนมปังด้วยนะ ขนมปังเองโดยตบไม่เท่าไหร่ แต่นี่ทำให้ตระกูลพงศ์ธนธดาเสียชื่อเสียงเลยนะ”

ชลาธิปได้ยินขนมปังกล่าวอย่างน่าสงสาร บวกกับการที่ขนมปังโดนตบจนเป็นรอยมือ จึงโกรธจนยืนขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเกรี้ยวกราดว่า “ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ยังมีคนยโสโอหัง ที่ไม่สนใจตระกูลพงศ์ธนธดา เรื่องนี้แกไม่ต้องสนใจล่ะ แกไปหาหมอ แล้วไปหาคนดูแลบ้านรับเงินเดือนสองเดือน รักษาบาดแผลไปก่อน”

“ไอ้นั่นที่ระรานคุณหนู เดี๋ยวฉันจัดการมันเอง”

ขนมปังได้ยินคำพูดนี้ของชลาธิป ก็ยิ้มอย่างดูแคลนออกมา คิดว่านายใหญ่ของตระกูลพงศ์ธนธดาลงมือเอง แม้ไอนั่นมันจะเก่งอาจ ก็ต้องวิบัติแน่

แต่เธอยังคงแสดงอาการน่าสงสารออกมา ตกลงกับชลาธิปหนึ่งคำ จากนั้นก็ยืนขึ้น ออกไปจากห้องสมุด

ความจริงเธออยากไปหาคนดูแลบ้านเพื่อรับเงิน แต่ตอนนี้เธอได้เข้าไปดูในห้องของอารียา ดูไปรอบๆ แล้วฉวยโอกาสตอนที่หน้ายังเป็นรอยมือ ร้องไห้ต่อหน้าคุณหนูสักฉาก ไม่แน่อาจได้อะไรดีๆมาก็เป็นได้

เมื่อคิดเสร็จ ก็เดินไปที่ห้องของอารียา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท