พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่547 ในบัตรนี้มีแสนล้าน

บทที่547 ในบัตรนี้มีแสนล้าน

บทที่547 ในบัตรนี้มีแสนล้าน

ชั้นสามของ Waldorf Astoria Hotels

ชลาธิปกำลังนั่งอยู่ใกล้ๆกระจกยาวถึงพื้น หันมองไปที่วิวทิวทัศน์ภายนอก

ชั้นหนึ่งของที่นี่ได้ถูกเขาเหมาไว้หมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะมีใครมารบกวนเขาและรพีพงษ์

ขณะนี้ด้านหน้าของชลาธิปได้ว่าสัญญาลับไว้ และบัตรธนาคารใบหนึ่ง เขามีความเชื่อมั่นกับการคุยกับรพีพงษ์ในครั้งนี้มาก

ผลประโยชน์มาก่อน เขาไม่เชื่อว่ารพีพงษ์จะเป็นยอดมนุษย์ เพียงแค่มีผลประโยชน์มากพอ รพีพงษ์จะต้องยอมทิ้งแน่ๆ ถ้าเขายังยืนหยัด นั่นแสดงว่ายังให้ผลประโยชน์ไม่พอ

เขามั่นใจกับการเตรียมพร้อมของตนเองในวันนี้มาก เชื่อว่าเพียงแค่ตัวเองหยิบบัตรนี้ออกมา รพีพงษ์จะต้องเปลี่ยนแปลงความคิดเป็นแน่

ตระกูลลัดดาวัลย์มีเท่าไหร่ ชลาทิปรู้ดี เงินที่เขาเตรียมไว้ในบัตรนี้ มากพอที่จะทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์สูงขึ้นไปอีกระดับ เพียงแค่รพีพงษ์ไม่โง่ ก็ไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน

ไม่นาน พนักงานสองคนพารพีพงษ์มาที่ชั้นสาม มาด้านหน้าของชลาธิป

หลัฃจากที่รพีพงษ์พามาแล้วนั้น พนักงานสองคนก็เดินถอยไป ชลาธิปหยิบเงินขึ้นมาสองกอง ยื่นให้พวกเขาทั้งสอง ทั้งสองซาบซึ้ง หลังจากที่รับเงินแล้ว ก็รีบเดินออกไป

รพีพงษ์จ้องไปที่ชลาธิป พบว่าชายวัยรุ่นคนนี้เต็มไปด้วยความมั่นคง เหมาะสมกับนายใหญ่ตระกูลพงศ์ธนธดา ที่สำคัญที่สุดคือ ขนตาของชลาธิปและอารียา ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน นี่ทำให้รพีพงษ์มั่นใจ ว่านายใหญ่ของตระกูลธนธดาคนนี้ ต้องเป็นพ่อแท้ๆของอารียาแน่นอน

ชลาธิปก็ดูไปที่รพีพงษ์ เป็นวัยรุ่นที่ไม่มีความพิเศษใดๆ ธรรมดาทั่วไป ชลาธิปเหยียดหยาม ยิ่งมีความคิดที่อยากให้รพีพงษ์ออกห่างจากอารียามากขึ้นไปอีก

“นั่งเถอะ” ชลาธิปขึ้นเสียงต่อรพีพงษ์

รพีพงษ์ไม่เกรงใจ นั่งลงตรงหน้าของชลาธิป

“ถ้าคุณฉลาด ก็น่าจะรู้ว่าทำไมผมจึงเรียกคุณมา ผมจะไม่อ้อมค้อมใดๆ ดารินทร์คือลูกสาวของผม ไม่ว่าจะเป็นใครหรือเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นในอดีตเกิดขึ้นกับชีวิตในปัจจุบันของเธอ ถ้าคุณมาเพราะเธอ ผมขอให้คุณปล่อยเธอให้เร็วที่สุด ตอนนี้เธอคือคุณหนูของตระกูลพงศ์ธนธดา ผมให้ชีวิตที่ดีกว่ากับเธอได้ หวังว่าคุณจะไม่มารบกวนเธออีก” ชลาธิปกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา แล้วกล่าว “เธอคือภรรยาของผม”

ชลาธิปขมวดคิ้ว แล้วกล่าว “ผมไม่สนว่าอดีตพวกคุณมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ตอนนี้ดารินทร์เป็นคนใหม่ เรื่องราวในอดีตทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องใดๆกับเธออีกต่อไป ถ้าคุณทำเพื่อเธอ ก็ไม่ควรมาหาเธอ”

“หรอ? ผมล่ะอยากถามคุณ คุณมีสิทธิ์อะไร ที่พูดแบบนี้” ท่าทีของรพีพงษ์เปลี่ยนเป็นสัพยอกทันที ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยากเจรจาด้วยสันติ งั้นเขาก็จะไม่เกรงใจ

ชลาธิปกล่าวอย่างเยือกเย็น ว่า “ผมเป็นพ่อของดารินทร์ มีสิทธิ์โดยธรรมชาติอยู่แล้ว”

“เหอะเหอะ ยี่สิบปีมานี้อารี อยู่เมืองริเวอร์มาโดยตลอด ผมแต่งงานกับเธอมาหลายปี ทำไมไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงพ่ออย่างคุณเลยล่ะ? ถ้าคุณคือพ่อของเธอ ตั้งแต่เล็กจนยี่สิบกว่าปี คุณไปไหนมา? ตอนนี้คุณพูดประโยคเดียวแล้วแย่งเธอไป มันไม่ค่อยมีเหตุผลเลยนะ” รพีพงษ์ถาม

เห็นได้ชัดว่าชลาธิปรู้สึกผิด แต่ไม่นานก็ปรับอารมณ์ได้ แล้วกล่าว “ตอนนั้นที่ผมทิ้งดารินทร์ เพราะไม่มีทางเลือก เธอเป็นลูกนอกสมรสของผม ตอนนั้นภรรยาผมยังมีชีวิตอยู่ ถ้าผมเอาเธอมาไว้ที่บ้าน เธอจะต้องพบจุดจบที่น่าอนาถแน่ๆ ดังนั้นจึงทำได้เพียงส่งสองแม่ลูกไปที่ภาคเหนือ ผมทำเพื่อเธอ และผมก็เป็นพ่อเธอ ในร่างของเธอเต็มไปด้วยเลือดของผม แค่เท่านี้ ผมก็มีสิทธิ์ที่จะกำหนดชะตาชีวิตเธอแล้ว”

รพีพงษ์ไม่คาดคิดว่าตอนนั้นเธอก็ได้พบกับเรื่องราวที่เลวร้ายเช่นกัน ไม่คาดคิดว่าเธอเป็นลูกนอกสมรสของชลาธิป

แต่คำพูดของชลาธิป ยิ่งทำให้รพีพงษ์คิดว่า อารียาไม่ควรอยู่ในตระกูลพงศ์ธนธดานี้ อารียาเป็นลูกนอกสมรส ดังนั้นจึงถูกชลาธิปไล่ไปภาคเหนือ ตอนนี้เขายังพูดอย่างสง่าผ่าเผยอีกว่าทำเพื่ออารียา

ตอนนั้นศักดาเก็บอารียามาจากถังขยะ ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมแม่แท้ๆของเธอถึงได้ทิ้งเธออย่างไม่ใยดี แต่ก็มีเพียงไม่กี่เหตุผลเท่านั้น

ถ้าทารกอารียาไม่ถุกศัดกาเก็บได้ล่ะก็ ตอนนี้บนโลกใบนี้จะมีคนนี้อยู่หรือไม่นั้นก็ไม่อาจแน่ใจได้ แต่ชลาธิป ต้องรับผิดชอบ

ได้ยินความหมายของชลาธิป ตอนนี้ที่เขาพาอารียากลับมา เป็นเพราะภรรยาเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว เหตุผลงี่เง่าแบบนี้ ชั่งน่าโมโหจริงๆ แต่ชลาธิปยังคิดว่าเป็นเหตุผลที่เหมาะสม ไม่รู้ว่าคิดได้ไงจริงๆ

“เรื่องราวที่อารีเจอมาในช่วงหลายปีมานี้ ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับคุณ พูดง่ายๆ คุณก็แค่ให้กำเนิดเธอเท่านั้น แล้วพ่อของอารีในตอนนี้ เก็บเธอมาจากถังขยะ ถ้าโชคไม่ดี อารีอาจไม่มีทางมีชีวิตจนถึงปัจจุบันได้ ตอนนี้คุณยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก คุณไม่รู้สึกงามหน้าบ้างหรอ?” รพีพงษ์ต่อว่าชลาทิป

ชลาธิปได้ยินคำพูดนี้ของรพีพงษ์ ก็สะอึก ไม่คาดคิดว่าลูกสามของเธอในตอนนั้นถูกทิ้งไว้ในถังขยะ นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน ตอนนั้นเขาคิดเพียงแค่ปิดบังภรรยาตัวเอง ไม่ได้ใส่ใจเรื่องเหล่านี้

แต่ด้วยความที่เป็นนายใหญ่ของตระกูลพงศ์ธนธดา คำพูดนี้ของรพีพงษ์ไม่สามารถสะกิดใจเขาได้แต่อย่างใด ตอนนี้อารียาสำคัญต่อตระกูลธนธดา เขาไม่มีทางให้ลูกสาวของตนไปกับรพีพงษ์แน่นอน

“พอล่ะ วันนี้ที่ผมเรียกคุณมา ไม่ใช่ให้คุณมาต่อว่าผม ดารินทร์คือลูกสาวผม นี่เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมรู้ว่าคุณมาจากตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเมืองเกียวโต อาจจะคิดว่าตัวเองพอจะมีกำลังอยู่บ้าง ดังนั้นจึงอยากแย่งดารินทร์กลับไป แต่ผมบอกไว้เลยนะ ผมตระกูลพงศ์ธนธดา ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คุณคิด ที่ผมมานั่งคุยกับคุณอยู่ตรงนี้ ก็ให้เกียรติคุณมากแล้ว” ชลาธิปกล่าวอย่างเยือกเย็น

รพีพงษ์ยิ้มดูแคลน เขาไม่เพียงรู้ว่าตระกูลธนธดาไม่ธรรมดาอย่างที่คิด และเขาก็ได้ทำความเข้าใจตระกูลพงศ์ธนธดาจนชัดเจนแล้วด้วย เพียงแต่ นี่ไม่เพียงพอที่จะทำให้รพีพงษ์เกรงกลัวต่อตระกูลพงศ์ธนธดา

“ผมรู้ ว่าแค่ผมพูด แล้วจะให้คุณปล่อยดารินทร์ไปนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ในเมื่อได้พูดเคลียร์แล้ว ผมก็จะไม่ใช้กลอุบายใดๆ เพียงแค่คุณตกลงจะไปจากดารินทร์ แล้วเซ็นสัญญาลับ ผมสามารถให้ผลประโยชน์อย่างที่คุณคิดไม่ถึง” ชลาธิปกล่าว

“ผลประโยชน์อย่างที่ผมคิดไม่ถึง? เกรงว่าผมประเมินพวกคุณสูงไป” รพีพงษ์กล่าว

ชลาธิปบึนปาก แล้วกล่าว “ผมยังไม่ได้พูดเลยว่าผลประโยชน์อะไร แล้วคุณจะรู้ได้ไงว่าคุณไม่ได้คิดผิดไป?”

พูดไป เขาเอาบัตรธนาคารที่อยู่ข้างหน้ายื่นไปให้รพีพงษ์ แล้วกล่าว “ตระกูลลัดดาวัลย์ของคุณเป็นตระกูลใหญ่ที่สุดของเมืองเกียวโต ถือว่ามีศักยภาพอยู่บ้าง แต่เทียบกับตระกูลระดับโลก ห่างกันอีกเยอะ”

“ผมก็พูดตรงๆ ศักยภาพที่แท้จริงของตระกูลพงศ์ธนธดา เท่ากับตระกูลระดับหนึ่งของโลก ที่แสดงออกในทุกวันนี้ ก็เป็นแค่หนึ่งในสิบเท่านั้น ดังนั้นเพียงแค่คุณตกลงจะไปจากดารินทร์ ผมสามารถทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์ของคุณไต่เต้าขึ้นไปอีกขั้น”

“ในบัตรนี้มีสามหมื่นล้าน จำนวนนี้ เพียงพอสำหรับการเจริญก้าวหน้าของตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว เชื่อว่าคุณก็ควรู้ว่าเงินนี้หมายถึงอะไร”

ชลาธิปพูดจบ ก็ยิ้มอย่างมั่นใจตัวเอง แล้วรอดูท่าทีตกใจของรพีพงษ์

เขามองว่า สามหมื่นล้าน สำหรับตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเมืองเกียวโต เป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว รพีพงษ์เป็นวัยรุ่น ถึงแม้จะดูแลตระกูลลัดดาวัลย์ แต่ก็ต้องตื่นตัวกับจำนวนนี้

แต่รพีพงษ์ไม่แสดงความตกใจออกมา เขาก็แค่เหลือไปดูบัตรธนาคารเท่านั้น จากนั้นก็ดันมันกลับไป

ชลาธิปแปลกใจ แล้วกล่าว “สามหมื่นล้าน เป็นจำนวนไม่น้อยเลยนะ เงินหมุนเวียนของตระกูลลัดดาวัลย์ของคุณ เกรงว่าจะไม่มีเยอะขนาดนี้ นี่เป็นโอกาสในการก้าวหน้าเลยนะ แน่ใจหรอว่าจะทิ้งมันไป?”

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “ความก้าวหน้าของตระกูลลัดดาวัลย์ คุณไม่ต้องเป็นห่วง เป้าหมายในครั้งนี้ของผม มีเพียงอารี คุณไม่ต้องใช้กลอุบายใดๆมาเปลี่ยนแปลงความคิดผม”

“ในเมื่อคุณอยากใช้เงินจัดการกับเรื่องนี้ งั้นผมจะเลียนแบบคุณบ้างล่ะกัน”

พูดไป รพีพงษ์ไอ้หยิบบัตรธนาคารในชุดออกมา แล้วว่งไว้ตรงหน้าของชลาธิป

ชลาธิปมองรพีพงษ์อย่างสงสัย แล้วกล่าว “คุณทำอย่างนี้ต่อหน้าผมไม่คิดว่ามันน่าตลกบ้างหรอ?”

“ตลกยังไง? คุณอยากใช้เงินจัดการปัญหา ผมก็เหมือนกันใช้เงินรับอารีกลับไป ผิดตรงไหน?” รพีพงษ์ยิ้มแล้วกล่าว

ชลาธิปยิ้มเหยียดหยาม แล้วกล่าว “ในบัตรนี้ของผมมีสามหมื่นล้านนะ คุณคิดว่าคุณใช้เงินเล็กน้อยนั้น สามารถจะเปลี่ยนแปลงความคิดผมได้หรอ?”

“ในบัตรนี้ของผมมีหนึ่งแสนล้าน” รพีพงษ์ดล่าวอย่างเรียบง่าย

ชลาธิปชะงัก เมื่อรพีพงษ์กล่าวจำนวนนี้ออกมา ทำเอาเขาตกตะลึง หนึ่งแสนล้าน ทำเอานายใหญ่ตระกูลพงศ์ธนธดาต้องให้ความสำคัญกับจำนวนตีวเลขนี้เลยทีเดียว

“ไง ตัวเลขที่ผมให้ ทำเอาคุณต้องหวั่นไหวเลยล่ะสิ มอบอารีกลับมาให้ผม แล้วผมจะไม่ใส่ใจกับการกระทำที่ผ่านมาของคุณอีกต่อไป ผมจะพาอารีออกไปจากที่นี่ คิดวิธีให้ความจำเธอกลับมา ต่อไปเธอจะไม่มีทางเกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลพงศ์ธนธดาอีกต่อไป”รพีพงษ์กล่าว

ชลาธิปสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาพบว่าเขาไม่สามารถปฏิเสธรพีพงษ์ได้ในวินาทีแรก นั่นหมายความว่าเขาหวั่นไหวกับตัวเลขแสนล้านของรพีพงษ์จริงๆ

ตระกูลพงศ์ธนธดาก็แค่อยากจะดองกับตระกูลธาดาวรวงศ์ ก็แค่เพราะความเจริญก้าวหน้าของตระกูลพงศ์ธนธดาเท่านั้น แต่ทว่าถึงแม้อารียาจะแต่งกับตระกูลธาดาวรวงศ์ ตระกูลธาดาวรวงศ์ก็ไม่มีทางให้แสนล้านต่อตระกูลพงศ์ธนธดาแน่นอน

แม้แสนล้านจะไม่ได้ผลประโยชน์เท่าที่ควรเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่จะได้รับจากตระกูลธาดาวรวงศ์ แต่แสนล้านนี้สามารถทำความฝันของชลาธิปให้สำเร็จได้มากมาย ที่สำคัญที่สุดคือ เขาไม่จำเป็นต้องเคารพนอบน้อมต่อตระกูลธาดาวรวงศ์แล้ว

คิดอยู่สักครู่ ชลาธิปกล่าว “คุณมองผมเป็นเด็กสามขวบหรือไง แสนล้าน เกรงว่าต้องขายทรัพย์สินของตระกูลไปเกินกว่าครึ่งเลยสินะ คุณริดว่าแค่คุณพูด แล้วผมจะเชื่อว่าในบัตรมีแสนล้านหรอ?

รพีพงษ์หัวเราะ โดยไม่รู้สึกเสียหน้าแต่อย่างใด แล้วกล่าว “คุณสามารถให้คุณเช็กดูได้ หากในบัตรนี้ไม่มีเงินจำนวนนั้นที่ผมพูดไว้ ผมจะออกไปจากเมืองเซี่ยงไฮ้ และจะไม่กลับมาหาอารีอีก”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท