พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่570 คุณไม่เคยได้ยินเรื่องของผมเหรอ

บทที่570 คุณไม่เคยได้ยินเรื่องของผมเหรอ

บทที่570 คุณไม่เคยได้ยินเรื่องของผมเหรอ

รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของอารียา แววตาจึงเป็นประกายขึ้นมาทันที จึงถามขึ้นมาอย่างตื่นเต้น“แคลร์ คุณนึกออกแล้วจริงๆเหรอ ดีมากเลย ผมคิดว่ายังต้องใช้เวลาอีกนานซะอีกกว่าคุณจะฟื้นความจำได้”

พูดพลาง รพีพงษ์จึงโผเข้ากอดอารียา เขาคิดไม่ถึงว่าการฟื้นฟูความจำของอารียาจะ

ง่ายดายขนาดนี้ แค่ดูภาพถ่ายใบเดียว ก็นึกออกแล้ว

สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์คิดไม่ถึงคือ อารียายังคงมีสีหน้าหวาดกลัวและผงะถอยหลัง ในแววตาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง

ตอนนั้นรพีพงษ์รู้สึกประหลาดใจ จึงถามขึ้น“แคลร์ เป็นอะไร คุณนึกออกแล้วไม่ใช่เหรอ ”

อารียาจ้องรพีพงษ์อย่างโกธรแค้น พูดขึ้น“ฉันนึกออกแล้วว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัย มีแอปที่ใช้ตัดต่อรูปได้ สามารถเอารูปสองรูปตัดต่อเข้าด้วยกันอย่างไร้ตำหนิ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันยังเคยทำรูปตัวเองกับโจวเจี๋ยหลุนเลย รูปนี้ของคุณก็ต้องเป็นภาพตัดต่อแน่”

รพีพงษ์พูดไม่ออกไปชั่วขณะ เขาคิดว่าอารียาจะนึกออกเรื่องที่ว่าเป็นเมียเขา คิดไม่ถึงว่าจะนึกออกเรื่องตัดต่อแอป

“คุณมันชั่วร้าย รีบปล่อยฉันนะ ฉันไม่ยอมแพ้ให้กับคนชั่วอย่างคุณหรอก ฉันจะไปหาพ่อฉัน ให้ท่านมาลงโทษคนชั่วอย่างคุณ!”แววตาของอารียาแปรเปลี่ยนเป็นเหม่อลอย

รพีพงษ์มองอารียาอย่างอ่อนใจ จากนั้นจึงเก็บมือถือตัวเองกลับมา พูดขึ้น“คุณไม่ต้องไปหาพ่อคุณแล้วหรอก คุณมาอยู่นี่ ท่านเป็นคนอนุญาตเอง”

“เหลวไหล!คุณพ่อจะอนุญาตให้ฉันมาอยู่กับคุณได้ไง!”อารียาแทบจะไม่เชื่อคำพูดของรพีพงษ์

รพีพงษ์หาคลิปเจอในมือถือ จึงให้อารียาดู ในคลิปเป็นเนื้อหาที่ว่าด้วยหลังจากที่คุยกับชลาธิปเสร็จแล้ว รพีพงษ์ให้ชลาธิปเป็นคนอัด

ชลาธิปได้บรรยายถึงที่มาที่ไปของอารียา แล้วแถมยังอธิบายว่าหลอกเธอมาได้อย่างไรบอกเธอว่ารพีพงษ์เป็นสามีของเธอจริงๆ ส่วนขนมปังเป็นสายลับที่คุณนายใหญ่ส่งมาให้อยู่ข้างเธอ

อารียาฟังชลาธิปพูดอธิบายคลิป แววตาสับสนขึ้นมาทันที เธอรู้ดีอยู่แก่ใจ รูปนั้นตัดต่อได้ แต่ว่าคลิปทำไม่ได้ รพีพงษ์ไม่ได้หลอกเธอ

จนกระทั่งดูคลิปจนจบ อารียารู้สึกสับสนและพลุ้งพล่านในใจ เธอคิดไม่ถึงว่าตัวเองถูกทอดทิ้งแต่เด็ก โดยมีพ่อแม่บุญธรรมเลี้ยงให้เติบใหญ่ ต่อมาเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ สูญเสียความทรงจำ จากนั้นชลาทิปจึงรับหล่อนมาเลี้ยงที่เซี่ยงไฮ้

ส่วนคนที่เธอคิดว่าคอยสร้างความวุ่นวายให้เธอ กลับกลายเป็นสามีเธอเสียอย่างนั้น

ชื่อของเธอในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ ไม่ใช่ชื่อดารินทร์ แต่เป็นอารียา

สำหรับคนที่สูญเสียความทรงจำแล้ว จู่ๆต้องมารู้ข่าวที่น่าสะพรึงแบบนี้ เจ็บปวดไม่น้อย เธอรู้สึกว่าในหัวสับสนวุ่นวายไปหมด เธอรู้สึกราวกับว่ามีอะไรอีกมากมายที่รอให้เธอรื้อฟื้นความจำขึ้นมา แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไง ก็นึกไม่ออกว่าตกลงเป็นยังไงกันแน่

ผ่านไปเนิ่นนาน อารียาจ้องมองรพีพงษ์เหม่อลอย ถามขึ้น“คุณ……เป็นสามีฉันจริงๆเหรอ”

รพีพงษ์พยักหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นจึงเดินไป โอบอารียาเข้าไว้กับตัว พูดขึ้น“คุณสบายใจเถอะนะ ขอแค่มีผมอยู่ คุณจะไม่ต้องรับความทุกข์ยากใดๆอีก ผมจะหาทางฟื้นฟูความทรงจำคุณให้ได้”

ครั้งนี้อารียาไม่ขัดขืน เขาสัมผัสได้ถึงแผ่นอกของรพีพงษ์ ความรู้สึกคุ้นเคยในความอบ อุ่นและเสียงหัวใจเต้น ราวกับว่าเธอเคยอิงอยู่ตรงนี้บ่อยๆ

ในที่สุด อารียาก็เลิกกีดกัน ซบหัวลงบนอกของรพีพงษ์

เป็นเพราะได้รับข้อมูลข่าวสารมากเกินไปในเวลาเดียว อารียาจึงรู้สึกเวียนหัวขึ้น ไม่นานก็ซบหลับลงบนอกรพีพงษ์ รพีพงษ์ช้อนอุ้มรพีพงษ์ขึ้นมา วางลงบนเตียง แล้วจ้องเธออยู่ เป็นนานสองนาน แล้วจึงค่อยๆออกจากห้องไป

ในห้องทำงานของวิไลพร

รพีพงษ์จ้องมองวิไลพร ถามขึ้น“เตรียมไปถึงไหนแล้ว”

“โดยรวมก็เกือบเรียบร้อยแล้วล่ะ ช่วงนี้ฉันวางกองกำลังของเทือกเขากิสนารอบๆเมือง เซี่ยงไฮ้ ควบคุมธุรกิจของบ้านธาดาวรวงศ์ไว้หมดแล้ว ขอแค่คุณสั่งมา ก็สามารถทำลายบ้านธาดาวรวงศ์แหลกเป็นผุยผง ในขณะเดียวกันฉันอยากถามเถ้าแก่ว่า เถ้าแก่วางใจให้ฉันไปทำ ตระกูลธาดาวรวงศ์ เถ้าแก่ไม่เห็นอยู่ในสายตาเลยสินะ”วิไลพรตอบ

รพีพงษ์พยักหน้า รู้สึกทึ่งในกองกำลังสนับสนุนของเทือกเขากิสนา อย่างไรเสียตระกูลธาดาวรวงศ์ก็เป็นตระกูลระดับโลก แม้ว่าจะด้อยกว่าตระกูลนิธิวรสกุลไปหน่อย แต่ถ้าเทือกเขากิสนาอยากกำจัดตระกูลธาดาวรวงศ์ ตระกูลนี้ก็ต้องไหม้เป็นจุลไม่มีทางต่อกร

“หมู่นี้คุณชายบ้านธาดาวรวงศ์เกิดอะไรขึ้นบ้างไหม”รพีพงษ์ถาม

“คุณชายบ้านธาดาวรวงศ์บ้าคลั่งจริงๆ ช่วงที่กลับมานี้ หาเรื่องเกือบทั่วเมืองเซี่ยงไฮ้แล้ว แล้วก็ไม่มีใครสู้เขาได้ด้วยนะ สนามมวยที่โสธรดูแลสองสามแห่ง ก็โดนฉัตรพลถล่มมาหมดแล้วแหละ โสธรกำลังเซ็งอยู่เนี่ย”วิไลพรเปิดปากพูด

รพีพงษ์ยักคิ้ว คิดไม่ถึงว่าคุณชายบ้านธาดาวรวงศ์จะคลั่งไคล้การต่อสู้ขนาดนี้ กลับมาไม่กี่วัน รบไปทั่วเมืองเซี่ยงไฮ้แล้ว

“ปล่อยให้มันยโสต่อไปอีกสองสามวัน รอวันงานเลี้ยง ฉันจะทำให้มันรู้ว่าอะไรคือเซ่อชนกำแพง”รพีพงษ์พูดพลางหัวเราะ

วิไลพรพินิจดูรพีพงษ์ ยิ้มแล้วพูด“เจ้าสำนักน้อย คุณยังไม่เคยเห็นการต่อสู้ของฉัตรพล เขามีความเชื่อมั่นมาก ถ้าคุณสู้เขาไม่ได้ ไม่อายไปทั่วแผ่นดินเหรอ”

รพีพงษ์ยิ้ม มองวิไลพร ถามขึ้น“หรือว่าคุณไม่เคยได้ยินเรื่องของผมเหรอ”

ตามหลัก รู้แค่ว่ารพีพงษ์ฝึกวิทยายุทธ์สำเร็จแล้ว ไม่สงสัยในศักยภาพเขาแน่นอน อย่างไรเสียการมาถึงจุดนี้ ก็คือจุดสูงสุดแล้ว

วิไลพรถามอย่างตะลึง“เรื่องอะไรคะ”

ไม่กี่ปีมานี้เธอพัฒนาตนอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ตลอด สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในเทือกเขากิสนา เธอ ไม่รู้เลย

รอยยิ้มรพีพงษ์หายไป พูดขึ้น“งั้นผมถามอย่างนี้ คุณคิดว่าฉัตรพลจะชนะดัมพ์รงค์ได้ไหม”

วิไลพรนิ่งงันครู่หนึ่ง พูดขึ้น“ดัมพ์รงค์เก่งมาก แต่ว่าฉัตรพลเรียนวิชามาจากอาจารย์ที่ประเทศประเทศญี่ปุ่น ก็ไม่กระจอกเหมือนกัน ทั้งสองฝ่ายใครแข็งใครอ่อนยากที่จะพูด”

“คุณถามแบบนี้ คงไม่ได้ต้องการจะบอกว่า คุณฝีมือเท่าดัมพ์รงค์หรอกนะ เจ้าสำนักน้อย ฉันไม่ใช่ดูแคลนคุณ แต่วิชาสูงขนาดดัมพ์รงค์ ร้อยปีมีครั้ง ไม่ได้จะเป็นกันง่ายๆ”

รพีพงษ์มองวิไลพรอย่างนิ่งๆ พูดว่า“ดัมพ์รงค์เป็นเชลยแพ้ให้กับผม”

วิไลพรตาค้าง จ้องมองรพีพงษ์อย่างตกใจ

“จริง……จริงเหรอ เมื่อไหร่กัน”วิไลพรถาม

“ก่อนหน้านี้เอง ที่เวทีท้าประลอง เขาเป็นคู่ปะทะคนสุดท้าย”

วิไลพรลมหายใจเย็นวาบ จนเกือบคุกเข่าให้รพีพงษ์

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท