พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 576 คุณไม่คู่ควร

บทที่ 576 คุณไม่คู่ควร

บทที่ 576 คุณไม่คู่ควร

คุณนายใหญ่ตระกูลพงศ์ธนธดามองดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ เขาคิดไม่ถึงว่าชลาธิปจะไปยืนอยู่ด้านหลังของรพีพงษ์ นี้หมายความว่าอะไร ไม่ต้องพูดก็เข้าใจกันได้

“ชลาธิป!แกไอ้ลูกอกตัญญู!แกไปยืนกับเขาทำไมกัน หรือว่าเขาซื้อแกมางั้นเหรอ!” ดวงตาทั้งสองข้างของคุณนายใหญ่ตระกูลพงศ์ธนธดาปกคลุมไปด้วยเส้นเลือดแล้ว

“ผมไม่จำเป็นต้องถูกซื้อตัวมาสักหน่อย ก็แค่เสี่ยงโชคเท่านั้นเอง เรื่องก็มาถึงตอนนี้แล้ว รพีพงษ์และตระกูลธาดาวรวงศ์ มีท่าทางที่ว่าไม่คุณก็ผมที่ต้องตายไปข้างหนึ่ง ผมเลือกได้แค่ฝ่ายเดียว ครั้งนี้ ผมพนันว่ารพีพงษ์จะชนะ” ชลาธิปเอ่ยปากพูด

เห็นได้ชัดว่าท่าทางที่คุณนายใหญ่ตระกูลพงศ์ธนธดามองไปยังชลาธิปอย่างกับคนปัญญาอ่อน เอ่ยปากพูด : “แกว่าแกรับหน้าที่ดูแลวงศ์ตระกูลไม่ได้ อันนี้ก็ไม่เป็นไร ทำไมจนถึงเวลานี้แม้แต่ความฉลาดขั้นพื้นฐานก็ยังไม่มีเลยล่ะ?แกเลือกไอ้หมอนี่ที่มาจากตระกูลเล็กๆในต่างจังหวัดเหรอ?หรือว่าแกคิดว่าเขาสามารถต่อกลอนกับตระกูลธาดาวรวงศ์ได้?

ชลาธิปขี้เกียจที่จะถกเถียงกับคุณนายใหญ่ตระกูลพงศ์ธนธดา เอ่ยปากพูด : “ใครผิดใครถูก ผลออกมาเดี๋ยวก็รู้แล้ว”

ในเวลานี้ภูดิทก็หัวเราะเยาะออกมา พร้อมพูดว่า : “ทำไม?หรือว่าพวกแกเลิกสนใจตระกูลธาดาวรวงศ์ของฉันไม่ได้?ก็เลยต้องเลือก?คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้ มีคุณสมบัติพอที่จะมาเทียบกับตระกูลธาดาวรวงศ์ของฉันได้เหรอ?วันนี้ที่พวกแกทำ ก็เป็นแค่เรื่องขบขันเท่านั้นเอง”

“วันนี้ไม่ว่าจะเป็นไอ้หมอนี่ หรือว่าตระกูลพงศ์ธนธดาของพวกแก ฉันจะไม่มีทางปล่อย ให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแต่งกับลูกชายของฉัน พวกแกก็น่าจะคิดได้นะ หลังจากคืนนี้ไป ตระกูลพงศ์ธนธดาของพวกแก จะกลายมาเป็นสมาชิกที่อยู่ในบัญชีดำของตระกูลธาดาวรวงศ์ หลังจากวันนี้ตระกูลพงศ์ธนธดาจะเป็นอย่างไร ก็รอดูที่ฟ้าลิขิตให้ก็แล้วกัน”

ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็มองไปยังตระกูลพงศ์ธนธดาและรพีพงษ์ด้วยความเห็นใจ คำพูดของภูดิทมีความเป็นไปได้มากแค่ไหนพวกเขาต่างก็รู้ดี และพวกเขาก็ไม่สงสัยภูดิทแม้แต่นิดว่าเขาจะทำได้จริงเหมือนที่เขาพูดหรือเปล่า

วิไลพรหัวเราะพร้อมก้าวขึ้นไปหนึ่งก้าว เอ่ยปากพูด : “อย่าเพิ่งพูดมั่นใจอะไรขนาดนี้เลย คืนนี้ยังมีเวลาอีกยาวไกลนะ คุณจะรู้ได้ไงว่าอีกเดี๋ยว ตระกูลธาดาวรวงศ์ของพวกคุณจะยังอยู่บนโลกใบนี้อีก”

ภูดิทหรี่ตามองไปที่วิไลพรแวบหนึ่ง พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น : “วิไลพร ประธานบริษัทลานคอน ฉันก็อยากจะรู้ คุณก็แค่ประธานบริษัทเครื่องสำอางเล็กๆ ยังมีหน้ามาพูดแบบนี้?”

วิไลพรกลับว่าไม่ได้รู้สึกโกรธกับคำพูดเหล่านั้นของภูดิทเลย ยังคงหัวเราะแล้วพูดต่อ : “แน่นอนว่าถ้ามองจากตัวของเขา อย่าคิดว่าผู้ชายคนนี้ธรรมดาๆ แต่ว่าอีกแป๊ปเดียว พวกคุณก็จะได้รู้ความสุดยอดของเขาแล้ว”

เส้นสายตาของภูดิทมองกลับไปที่รพีพงษ์อีกครั้ง ตอนที่อยู่ข้างนอกเมื่อตะกี้นั้น เขาอยากที่จะฆ่ารพีพงษ์อยู่แล้ว ตอนนี้ไอ้หมอนี่ยังกล้าที่จะก่อเรื่องต่อหน้าเขาอีก แน่นอนว่าเขาคงจะไม่ให้โอกาสรพีพงษ์ได้หลบหนีอีกแล้ว

“งั้นฉันก็อยากจะรู้ แกจะต่อกลอนกับตระกูลธาดาวรวงศ์ได้อย่างไร หรือจะให้พูดว่า แกจะเอาอะไรมาต่อกลอนกับตระกูลธาดาวรวงศ์ของฉัน?เอาเครื่องสำอางของบริษัทลานคอน?” ภูดิทพูดเยาะเย้ยออกมาอีกครั้ง

ผู้คนตรงนั้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของภูดิท ต่างก็พากันหัวเราะฮาๆออกมากันยกใหญ่ ในสายตาของพวกเขา แม้ว่ารพีพงษ์จะมีบริษัทลานคอนคอยช่วยเหลือ การเผชิญหน้ากับตระกูลธาดาวรวงศ์ ก็คงไม่มีอำนาจอะไรจะมาต่อต้านได้

รพีพงษ์ยกมือขึ้นมา ชำเลืองมองนาฬิกาบนข้อมือแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูด : “หลังจากนี้ครึ่งชั่วโมง ทุกสิ่งอย่างของตระกูลธาดาวรวงศ์จะพังพินาศทั้งหมด ถ้าตอนนี้คุณไม่มีธุระอื่นแล้ว ก็สามารถรอที่นี่สักครึ่งชั่วโมงก็ได้ หลังจากนี้ครึ่งชั่วโมง คุณก็รู้แล้วว่าฉันจะเอาอะไรมาสู้กับตระกูลธาดาวรวงศ์”

ผู้คนต่างก็หัวเราะเยาะเย้ยออกมา เห็นได้ชัดว่าหลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไปสามารถทำให้ตระกูลธาดาวรวงศ์พังพินาศได้แบบนั้น ไม่มีทางเชื่อเลย

“ฉันว่าไอ้หมอนี้ต้องหนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้าแน่ๆ แม้แต่คำพูดที่ว่าภายในครึ่งชั่วโมงสามารถทำให้ตระกูลธาดาวรวงศ์พังพินาศได้ก็พูดออกมาแล้ว เขาคิดว่าอำนาจที่ตระกูลธาดาวรวงศ์สะสมมามากมายหลายปีขนาดนี้ จะทำให้พังพินาศได้ง่ายดายอย่างงั้นเหรอ?”

“เฮอๆ กบในกะลาครอบ มีแค่ผลงานนิดหน่อย ก็คิดว่าตัวเองขึ้นสวรรค์แล้ว คนแบบนี้ฉันเห็นมาเยอะแล้ว รอตระกูลธาดาวรวงศ์จัดการเขาแล้ว เขาก็จะได้รู้ว่าตัวเองอ่อนมากแค่ไหน”

“กล้ามายั่วยุตระกูลธาดาวรวงศ์อย่างนี้ นับว่าเป็นคนแรกในรอบหลายปี อย่างอื่นไม่ต้องพูดแล้ว ความกล้าของไอ้หมอนี่คนอื่นไม่สามารถเทียบได้เลย แต่น่าเสียดาย สามารถใช้ความบ้าบิ่นและโง่เขลามาอธิบายความกล้าหาญนี้ของเขา”

……

ฉัตรพลค่อนข้างที่จะอดทนไม่ได้กับการเสแสร้งของรพีพงษ์แล้ว พูดกับภูดิทไปเลยว่า “พ่อ อย่าไปเสียเวลาพูดจาไร้สาระกับพวกไม่มีสมองนี่เลย ผมจะจัดการพวกเขาเลย ฆ่าพวกเขาให้หมด ก็ไม่มีใครกล้ามาเอะอะโวยวายที่นี่แล้ว”

ภูดิทคิดว่าข้อเสนอของฉัตรพลไม่เลวเลย ไม่ว่ารพีพงษ์จะพูดจาน้ำไหลไฟดับแค่ไหน ขอแค่ฆ่าเขาซะ มดพวกนี้ ก็จะไม่สามารถมากระโดดโลดเต้นต่อหน้าเขาได้อีก

หลังจากที่รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของฉัตรพลแล้ว ก็เดินก้าวขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เอ่ยปากพูด : “ฉันก็คิดไว้แบบนี้เหมือนกัน ครึ่งชั่วโมงจะว่านานมันก็นาน จะว่าสั้นมันก็สั้น ฉันต่อยกับคุณสักรอบยังจะดีกว่า ก็จะได้ให้คนที่อยู่ตรงนี้คลายเครียดด้วย เป็นไง?”

ฉัตรพลรีบพูดออกไปอย่างเยือกเย็น: “กลัวว่าแกแม้แต่หนึ่งนาทีก็ทนไม่ไหวแล้ว”

พูดจบ เขาก็ส่งสัญญาณให้คนรอบๆ ให้พวกเขาถอยออกไปทำเป็นสถานที่

“วันนี้ฉันจะสั่งสอนไอ้เด็กที่แกว่งเท้าเข้าหาเสี้ยนคนนี้ด้วยตัวเอง และจะทำให้พวกแกได้รู้สักหน่อย มายั่วยุฉัน จะมีจุดจบยังไง!” ฉัตรพลตะโกนไปที่ผู้คน

ผู้คนก็เริ่มร้องเสียงไชโยออกมาทันที ต่างก็คิดว่ารพีพงษ์จะถูกกระทำจนต้องคุกเข่าร้องขอความเมตตาแน่นอน

ฉัตรพลยืนอยู่ตรงกลางของสนามที่ทุกคนหลีกทางออกให้ ใบหน้าที่มองไปยังรพีพงษ์เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

รพีพงษ์ก็เดินไปยังตรงกลางสนาม ยืนอยู่ตรงหน้าของฉัตรพล

ถ้าเป็นเมื่อก่อน หากวิไลพรเห็นรพีพงษ์จะดวลตัวต่อตัว เธอก็คงจะเป็นห่วงอยู่บ้าง แต่หลังจากที่รู้ว่ารพีพงษ์ปีนบันไดสูงสำเร็จ เธอก็ไม่มีความกังวลแบบนั้นอีกเลย

เห็นได้ชัดว่าอารียาค่อนข้างตื่นเต้น วิไลพรจับแขนของอารียาเอาไว้ หัวเราะพร้อมพูด : “วางใจเถอะ ผู้ชายคนนี้เจ๋งจะตายไป ฉัตรพลคนนั้นแม้ว่าจะเจ๋งแค่ไหน เขาก็สามารถรับมือได้สบายๆ ”

อารียาพยักหน้า แล้วมองไปที่รพีพงษ์

“เดิมทีวันนี้เป็นงานเลี้ยงเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับผู้หญิงคนนั้นของตระกูลพงศ์ธนธดา คิดไม่ถึงเลยว่าจะโดนแกทำให้ผสมปนเปหมดแล้ว เมื่อคิดอย่างนี้ ก็ถือว่าแกแย่งผู้หญิงของฉันด้วย ในฐานะที่เป็นผู้ชาย ฉันก็ไม่อาจจะอดทนได้”

“แม้ว่าผู้หญิงจะเป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้ในการระบาย ผู้หญิงของฉัตรพลก็ใช่ว่าคนชั้นต่ำอย่างนายจะมีสิทธิเข้ามาแปดเปื้อนได้ ดังนั้นวันนี้นาย จะต้องชดใช้มันด้วยชีวิต !”

รพีพงษ์เบะปากใส่ฉัตรพล พูดว่า : “ฉันเคยพูดแล้ว อารีคือผู้หญิงของฉัน คุณไม่คู่ควรกับเธอเลย”

ฉัตรพลแสดงสีหน้าที่โกรธออกมา กำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่น ใช้แรงที่เท้า พุ่งตรงเข้าไปยังรพีพงษ์ทันที

“ตายซะเถอะ!”

รพีพงษ์เหล่ตามอง สัมผัสได้ถึงพลังที่ปะทุออกมาจากตัวของฉัตรพล ทันใดนั้นใบหน้าก็แสดงอาการที่อยากจะลองดูออกมาแล้ว

นานมากแล้วที่ไม่ได้ยืดเส้นยืดสาย วันนี้ในที่สุดก็มีคนมาเป็นกระสอบทรายให้แล้ว เขาจะไม่พลาดแน่นอน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท