พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่594 เรือสำราญสุดหรู

บทที่594 เรือสำราญสุดหรู

บทที่594 เรือสำราญสุดหรู

หลังจากคนตรวจตั๋วพูดเสร็จ ก็ออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

เมื่อประวีร์ทั้งสองคนที่กำลังจ้องมองรพีพงษ์และอารียาเมื่อเห็นฉากนี้ ก็รู้สึกสงสัย ไม่เข้าว่าทำไมจู่ๆคนที่ตรวจตั๋วออกไปอย่างกะทันหัน

“พวกเขาสองคนคงจะไม่ใช่ว่าซื้อตั๋วปลอมมานะ? แล้วถูกเขาจับได้ ตอนนี้เขากำลังไปหาคนมาตรวจสอบ”นีรเดาแล้วพูด

ประวีร์พยักหน้าเห็นด้วย และกล่าวว่า: “เป็นไปได้มาก แม้ว่าตระกูลฉัตรมงคลในเมืองริเวอร์จะถือว่าอยู่ในท้องถิ่น ก็เป็นเพียงตระกูลชนชั้นปานกลางเล็กๆเอง ยิ่งกว่านั้นอารียาก็ไม่เป็นที่ชื่นชอบ แล้วก็มีสามีที่เศษสวะ พวกเขาจะไปเกาะพระจันทร์ได้อย่างไร ไม่แน่ตั๋วพวกเขาจะเป็นของปลอมจริงๆ”

“ตลกสิ้นดี ขึ้นเรือสำราญด้วยตั๋วปลอม พวกเขาสองคนคิดว่าคนบนเรือสำราญเป็นคนโง่หรือไง ไม่แปลกเลยที่ตระกูลฉัตรมงคลในเมืองริเวอร์เป็นตระกูลที่ไร้ความสามารถ มีคนไร้สมองแบบนี้อยู่ ยังไงก็ไม่สามารถจะพัฒนาขึ้นมาได้”นีรก็หัวเราะเยาะเย้ย

เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วก็กลับมาทันที เขาพาชายที่แต่งตัวดีมาหา มาถึงตรงหน้ารพีพงษ์และอารียา ชายคนนั้นโค้งคำนับให้กับรพีพงษ์และอารียาทันที แล้วพูดว่า: “แขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่าน เชิญตามผมมาทางนี้ได้เลยครับ”

รพีพงษ์และอารียาต่างก็พยักหน้า จากนั้นเดินตามชายคนนั้นไปอีกด้านขึ้นเรือสำราญ และตรงไปที่ทางเข้าลิฟต์ โดยข้างบนมีตัวหนังสือไม่กี่คำเขียนว่า “สำหรับลูกค้าวีไอพีเท่านั้น”

“คนเมื่อกี้เขาทำอะไร? ทำไมเหมือนกับว่าทำความเคารพให้พวกเขาสองคนล่ะ?”สีหน้านีรเต็มไปด้วยความสงสัย

ประวีร์ก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร แล้วพูดว่า: “ในเมื่อนี่คือเรือสำราญของเกาะพระจันทร์ คนทุกคนก็มีมารยาททั้งนั้น ต่อให้ถูกขับไล่ คงจะพูดโน้มน้าวดีๆ ไม่มีอะไรน่าแปลกตรงไหน”

“อย่าไปสนใจพวกเขาเลย พวกเรากำลังจะไปที่ชั้นแปด ซึ่งถือได้ว่าเป็นชั้นที่ค่อนข้างสูงอยู่ แม้ว่าตั๋วของพวกเขาจะเป็นของจริง แต่ก็คงอยู่ชั้นล่างสุด”

นีรพยักหน้าทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง

หลังจากที่บริกรแต่งตัวดีพารพีพงษ์และอารียาเข้าไปในลิฟต์แล้ว ก็ยิ้มและพูดว่า: “คุณทั้งสองท่านคือแขกผู้มีเกียรติในการเดินทางครั้งนี้ของไข่มุกของพวกเรา พวกเราจะสนองตามความต้องการทุกอย่างของพวกคุณสองคน ไข่มุกมีทั้งหมดสิบสองชั้น คุณทั้งสองสามารถเยี่ยมชมชั้นใดก็ได้ตามความต้องการ”

“เรือสำราญของคุณมีจุดเด่นบ้างอะไรเหรอ?”อารียาถามอย่างสงสัย

“เราจะมีการแสดงบางประเภทที่แตกต่างกันในแต่ละชั้น อย่างสุภาพสตรีแบบคุณ อาจสนใจในการแสดงเครื่องแต่งกาย ถึงเวลาคุณสามารถไปที่ชั้นแปดเพื่อชมการแสดงเดินแบบของนางแบบได้ หากคุณมีเสื้อผ้าที่ชอบ ก็สามารถซื้อได้”บริกรพูดอย่างตั้งใจ

อารียาพยักหน้า คิดว่าเสื้อผ้าบนเรือสำราญลำนี้ คงจะแพงจะตายอย่างแน่นอน ด้วยทัศนคติของความมัธยัสถ์ เธอรู้สึกว่าไม่ควรไปดูนางแบบเดินแบบใดๆ ไม่อย่างนั้นถึงเวลาตอนนั้นชอบเสื้อผ้าขึ้นมาจริงๆ รพีพงษ์คงจะไม่พลาดอย่างแน่นอน และซื้อให้เธอ

เธอยังจินตนาการถึงฉากนั้นออกมาได้ว่า “ชอบก็ซื้อ เงินแค่นี้เอง”

เมื่อถึงชั้นบนสุดของเรือสำราญ รพีพงษ์และอารียามาถึงก็ได้เห็นทะเลที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และท้องฟ้าสีคราม ก็รู้สึกผ่อนคลาย

แน่นอนว่า เสียเงินมากหน่อย ยังสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่แตกต่างกันได้

พื้นที่ชั้นบนสุดของเรือสำราญมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆพร้อม ด้านบนสุดของเรือสำราญ ยังมีสระว่ายน้ำ

บริกรพารพีพงษ์และอารียาไปที่ห้องของพวกเขาทั้งสอง ภายในห้อง เป็นหนึ่งห้องนอนและหนึ่งห้องนั่งเล่น ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา และเมื่อเปิดผ้าม่านของห้องออก ทำให้เห็นทะเลและท้องฟ้า

“พื้นที่สาธารณะด้านนอกห้อง จะมีโต๊ะและเก้าอี้สำหรับพักผ่อน ที่นั่นจะมีเครื่องดื่มนานาชนิด ที่สำคัญสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่ดีที่สุดของเรือสำราญทั้งลำได้ แน่นอนว่า ถ้าพวกคุณทั้งสองต้องการว่ายน้ำ ตรงนั้นมีสระว่ายน้ำและอุปกรณ์ ล้วนแล้วแต่ระดับการแข่งขัน”บริกรคอยแนะนำบริการที่สามารถเพลิดเพลินได้ที่ชั้นบนสุด

หลังจากอธิบายกับรพีพงษ์และอารียาอย่างตั้งใจจนจบ บริกรก็ออกจากห้องของรพีพงษ์และอารียาไป ถ้าหากมีความต้องการ เพียงแค่พวกเขาตะโกนเรียก จะมีเจ้าหน้าที่บริการจะเข้ามาทันที

หลังจากที่บริกรจากไป อารียาก็นอนลงบนเตียงนุ่มๆในห้อง อย่างเพลิดเพลิน

แม้ว่าห้องพักที่นี่จะไม่ใหญ่นัก แต่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งมีคุณภาพดีกว่าที่ใช้ที่บ้านหลายร้อยเท่าเป็นธรรมดา

ทันทีที่อารียา เข้ามาในห้องนี้ก็รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว เหมือนว่าสำหรับนักออกแบบการตกแต่งภายในของห้อง จะใช้ความคิดไปไม่น้อย

“สามี ที่นี่สบายมากจริงๆ แม้ว่าราคาจะแพงเกินไป หนึ่งล้านห้าต่อหนึ่งคน คิดๆดูแล้วก็เสียดาย”อารียากล่าว

รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา แล้วพูดว่า: “เสียดายทำไม เธียรวิชญ์เป็นคนซื้อตั๋ว เขาเป็นคนที่ควรจะเสียดายมากกว่า”

อารียายิ้มแหะๆ กวักมือเรียกรพีพงษ์ แล้วพูดว่า: “สามี นายมาที่หน่อย”

รพีพงษ์เดินมาที่ข้างเตียง อารียาลุกขึ้นมานั่ง แล้วถามว่า : “มีอะไร?”

อารียาลุกขึ้นมานั่ง และกอดรพีพงษ์ไว้ แล้วพูดว่า: “ลูกในท้องของฉันเพิ่งบอกว่า อยากดื่มชานม”

ทันใดนั้นรพีพงษ์หัวเราะ และพูดว่า: “ลูกในท้องของเธอเพิ่งจะสามเดือนเองนะ ยังไม่เป็นตัวเลย ฉันว่าเธอมากกว่าที่อยากดื่มชานม”

อารียากอดรพีพงษ์ทันทีแล้วเริ่มออดอ้อนขึ้นมา แล้วพูดว่า: “ก็คนเขาอยากดื่ม บริกรเมื่อกี้บอกว่าข้างนอกมีเครื่องดื่มหลากหลายชนิดไม่ใช่เหรอ เราไปดูกันเถอะ”

รพีพงษ์ยิ้มอย่างตามใจให้อารียา จากนั้นก็พยักหน้า แล้วพูดว่า: “ถ้างั้นก็ไปเถอะ แต่ว่าดื่มได้เพียงแก้วเดียว”

“รู้แล้วน่า รู้แล้วน่า รอฉันเปลี่ยนกระโปรงสวยๆชุดหนึ่งก่อน เราค่อยออกไป”

สิบนาทีต่อมา รพีพงษ์และอารียาทั้งสองคนมาถึงสถานที่ที่มีทิวทัศน์ที่ดีที่สุดของเรือสำราญ มีคนนั่งชมวิวอยู่แล้วแปดคน รวมรพีพงษ์และอารียาทั้งสองคน สิบคนพอดี

ในบรรดาแปดคนที่เหลือเป็นคู่สามีภรรยาสองคู่ และอีกสี่คนเป็นผู้ชาย

ทันทีที่รพีพงษ์และอารียาปรากฏตัว อารียาก็ดึงดูดสายตาของทุกคน เธอสวมชุดกระโปรงยาวสายเดี่ยวสีน้ำเงิน รูปร่างและความสง่าราศีแสดงออกมาอย่างชัดเจน หญิงสาวในสองคู่นั้นเห็นอารียา ก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย

รพีพงษ์รู้สึกได้ถึงสายตาของคนเหล่านั้น ก็กระตุกยิ้มมุมปากอย่างบางๆ อารียาเป็นภรรยาของเขา และเป็นความภาคภูมิใจของเขา ภรรยาของมีเสน่ห์ เขาก็ต้องรู้สึกมีเกียรติเป็นธรรมดา

หลังจากพาอารียาไปเอาชานมหนึ่งแก้วที่เพิ่งทำออกมาในสถานที่นี้ รพีพงษ์และอารียาก็เดินไปที่โต๊ะว่าง และนั่งลง

“อากาศและแสงแดดที่นี่ดีจริงๆ”อารียากล่าวด้วยความชอบใจ

ในเวลานี้มีคนคนหนึ่งวัยสามสิบกว่า สวมกางเกงขาสั้นสบายๆเสื้อกล้าม ไว้ทรงวินเทจเปิดข้าง และผู้ชายที่สวมแว่นกันแดดมองรพีพงษ์และอารียาตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อสายตาไปตกอยู่ที่บนตัวอารียา แสดงได้ถึงความปรารถนาที่จะครอบครอง แต่ก็ถูกแว่นตากันแดดถูกกั้นไว้

เขามองไปที่อารียาไม่กี่วินาที แล้วเดินไปเข้ามา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท