พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่609 มีเพียงลูกค้าห้องวีไอพีชั้นบนสุดถึงสามารถขึ้นในบ้าน

บทที่609 มีเพียงลูกค้าห้องวีไอพีชั้นบนสุดถึงสามารถขึ้นในบ้าน

บทที่609 มีเพียงลูกค้าห้องวีไอพีชั้นบนสุดถึงสามารถขึ้นในบ้าน

เมื่ออารียาเห็นพวกรพีพงษ์กลับมา ไปข้างหน้าทันที ถามคำถามที่คาใจ: “เป็นอย่างไรบ้าง เรื่องราวจัดการเรียบร้อยแล้วหรือยัง?”

รพีพงษ์ยิ้มให้อารียา แล้วพูดว่า: “จัดการเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปไม่มีใครมาสร้างปัญหาให้กับครอบครัวของอาใฝ่ธรรมได้อีก”

อารียาถึงค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อคืนที่เห็นท่าทางครอบครัวของอาใฝ่ธรรมเต็มไปด้วยสิ้นหวัง ทำให้อารียากังวล

ระหว่างทางกลับ ให้ตายยังไงอาใฝ่ธรรมก็ไม่ยอมรับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานจัดการมัคคุเทศก์ โดยบอกว่ารพีพงษ์ใช้เงินสามสิบล้านแลกมา เขาแบกรับหน้าที่นี้ไม่ไหวจริงๆ

รพีพงษ์อธิบายอย่างตั้งใจให้เขาฟังเป็นเวลานาน โดยบอกว่าการท่องเที่ยวครั้งนี้ของตัวเองจบลง ก็จะออกจากเกาะพระจันทร์ ไม่สามารถจะอยู่เป็นผู้อำนวยการที่นี่ได้

ในที่สุด ภายใต้การพูดเกลี้ยกล่อมไม่หยุดของรพีพงษ์ อาใฝ่ธรรมตกลงที่จะเป็นผู้อำนวยการสำนักงานจัดการมัคคุเทศก์ และบอกกับรพีพงษ์ว่า บุญคุณนี้ ครอบครัวของเขาจะต้องตอบแทนในอนาคตอย่างแน่นอน

รพีพงษ์เพียงแค่ยิ้ม สำหรับคำสัญญาของอาใฝ่ธรรม ก็ไม่ได้ใส่ใจเลย เนื่องจากนี้สำหรับเขาแล้วก็ไม่เท่าไหร่ อาใฝ่ธรรมกลายเป็นอำนวยการสำนักงานจัดการมัคคุเทศก์แล้ว ในอนาคตก็สามารถส่งณัทไปเรียนในตัวเมืองได้

บางทีในอนาคตณัทอาจกลายเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่มีประโยชน์ เมื่อตอนที่รพีพงษ์ต้องการ ก็ให้ความช่วยเหลือได้

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”อารียากล่าวด้วยรอยิ้ม

“ใฝ่ธรรม บ่ายวันนี้คุณไปซื้อผักพร้อมกับฉัน ตอนเย็นเราจะทำอาหารดีๆหนึ่งโต๊ะ ขอบคุณรพีพงษ์อย่างดีที่ช่วยเหลือเรา”ป้าภัคทีมากล่าวด้วยรอยยิ้ม

อาใฝ่ธรรมพยักหน้าทันที โดยบอกว่าพวกเขาต้องทำหนึ่งโต๊ะที่อร่อยในช่วงหลายปีที่ผ่านนี้ อาหารค่ำที่ดีที่สุด

“อาใฝ่ธรรมป้าภัคทีมา คืนนี้เอาไว้ก่อนเถอะ คืนนี้พวกเรานัดเพื่อนไว้แล้ว ไว้วันไหนมีเวลาเราค่อยทำ”รพีพงษ์เอ่ยปาก เขาจำได้เมื่อวานอารียาบอกกับเขาว่าคืนนี้ต้องไปเจอเพื่อนน้ำพุร้อนคนนั้นกับเธอ

เมื่อได้ยินรพีพงษ์พูดเช่นนี้ อาใฝ่ธรรมป้าภัคทีมาก็ไม่ได้รังเกียจ จึงบอกว่ารอมีเวลาค่อยทำ

ในตอนเย็น รพีพงษ์ออกไปข้างนอกพร้อมกับอารียา และไปยังร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาะพระจันทร์ อ่าวจันทร์

อ่าวจันทร์เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะจันทร์ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากบนเกาะพระจันทร์ การตกแต่งที่นี่สวยงามอลังการ ภายนอกของร้านใช้การออกแบบด้วยสีเงิน รูปลักษณ์ของร้านอาหาร เหมือนกับพระจันทร์เสี้ยวที่ตั้งขึ้นมา เมื่อถึงกลางคืน ไฟทุกดวงสว่างขึ้นมา ร้านอาหารนี้เหมือนกับพระจันทร์บนเกาะพระจันทร์ มีแสงแวววาวเป็นประกาย

แม้ว่าการใช้จ่ายของอ่าวจันทร์ไม่ใช่ว่าคนทั่วไปสามารถรับได้ แต่ทิวทัศน์ของที่นี่ก็ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาถ่ายรูปเช็กอินที่นี่

มีลานอยู่ด้านหน้าของอ่าวจันทร์ ทุกๆคืน ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันที่นี่ และอ่าวจันทร์จะจัดกิจกรรมบางอย่างเป็นระยะๆ เพื่อสะสมความนิยมให้กับร้านอาหาร

ตอนนี้ที่ลานหน้าร้านอาหาร มีการจัดเวทีขึ้นมาหนึ่งเวที ในเวลานี้มีผู้คนจำนวนมากมาล้อมรอบอยู่ตรงนั้นแล้ว แต่บนเวทียังไม่มีการแสดง ดูเหมือนว่าจะยังไม่ถึงเวลาเริ่ม

“ตรงนั้นจะมีการแสดงอะไรเหรอ ดูแล้วครึกครื้นมาก”อารียาเอ่ยปากพูดประโยคหนึ่ง

“การแข่งขันงัดข้อมือ เขียนไว้ตรงนั้นไม่ใช่เหรอ”รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

อารียารู้สึกประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่าสถานที่แบบนี้จะจัดการแข่งขันงัดข้อมือได้

“พวกเรารีบไปทานข้าวกันเถอะ การแข่งขันนี้ยังไม่เริ่ม บางทีเราทานข้าวเสร็จ ยังสามารถมาดูได้นะ”อารียาเอ่ยปากพูด

รพีพงษ์พยักหน้า ตามอารียาไปที่ประตูทางเข้าอ่าวจันทร์พร้อมกัน และเดินเข้าไปในห้องโถง

พนักงานคนหนึ่งวิ่งไปหาพวกเขาทั้งสองคน และเอ่ยปากถามว่า: “พวกคุณมีอะไรให้ช่วยไหม?”

“พวกเรานัดเพื่อนไว้ เธอน่ามาถึงแล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องวีไอพีที่ดีที่สุดของพวกคุณที่นี่”อารียากล่าว

“ได้ ฉันจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ ทั้งสองท่านโปรดรอสักครู่”พูดจบ พนักงานก็รีบยืนยัน

รพีพงษ์มองไปที่อารียา แล้วพูดว่า: “ดูเหมือนว่าเพื่อนน้ำพุร้อนของเธอคนนี้จะไม่ธรรมดา เอาห้องวีไอพีที่ดีสุด เป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยนะ”

อารียากลอกตาใส่รพีพงษ์ แล้วพูดว่า: “เธอเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่ในประเทศที่เป็นเกาะ เป็นคนที่มีฐานะมีตำแหน่ง นายใช้ผู้หญิงร่ำรวยเชยๆแบบนี้มาเรียกเธอได้อย่างไร”

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าเพื่อนน้ำพุร้อนของอารียาคนนี้จะเป็นหญิงสาวในประเทศที่เป็นเกาะ ทันใดนั้นก็แปลกใจขึ้นมา

ในขณะที่ทั้งสองกำลังรอ ประวีร์และนีรทั้งสองคนก็เดินเข้ามาในห้องโถงอ่าวจันทร์

“ภรรยา ครั้งนี้ฉันเสียเงินไปไม่น้อย ถึงจองที่นั่งที่นี่ได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงห้องส่วนตัวธรรมดา แต่ก็หายากมาก เช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ที่เดินทางมาที่นี่ แม้แต่ห้องส่วนตัวธรรมดายังจองไม่ได้ด้วยซ้ำ”ประวีร์กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“สามีดีมาก เดี๋ยวต้องถ่ายรูปให้ฉันหลายๆรูปหน่อย จะโพสต์ลงไปในวีแชต เพื่อให้พวกเขาได้เห็นชีวิตของเราด้วย”นีรกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ถ้าหากว่ารพีพงษ์และอารียาอยู่ที่นี่ด้วยมันจะดีมากเลย เงินของพวกเขาถูกใช้เพื่อซื้อตั๋วเรือ คงจะมาร้านอาหารราคาแพงขนาดนี้ไม่ได้ ถ้าพวกเขาอยู่ที่นี่ ฉันต้องเอาคืนความโกรธนั้นแน่”ประวีร์กล่าวอย่างโกรธเคือง

“สามีคุณดูนั้นสิ สองคนที่อยู่ตรงนั้น ใช่พวกเขาหรือเปล่า?”จู่ๆนีรก็ยื่นนิ้วไปข้างหน้า

ประวีร์มองไปที่นั่น ดวงตาเบิกกว้างทันที และกัดฟันพูดว่า: “พูดถึงรพีพงษ์อารียารพีพงษ์อารียาก็มาถึง ไป ไปดูสิว่าพวกเขาสองคนมาทำอะไรที่นี่”

หลังจากพูดเสร็จ ทั้งสองก็เดินไปหารพีพงษ์และอารียา

“ฉันก็ว่าทำไมเข้ามา ก็ได้กลิ่นสาบคนจน ที่แท้คือพวกเธอสองคนอยู่ที่นี่เอง ทำไม เข้ามาเที่ยวชมเหรอ? ไม่ต้องดูแล้ว ดูต่อไปพวกเธอก็ไม่มีปัญญาทานของที่แพงขนาดนี้ที่นี่ได้ เดี๋ยวอย่าน้ำลายไหลอีกล่ะ”นีรพูดเย้ยหยัน

“สามีของฉันจองห้องส่วนตัวไว้ที่นี่แล้ว เป็นยังไง อิจฉาล่ะสิ อย่าคิดว่าพวกเธอซื้อตั๋วเรือสำราญชั้นบนสุดได้ก็กลายเป็นคนที่เหนือกว่าคนอื่น พวกเธอยืนนิ่งอยู่ที่นี่ไม่ขยับ เป็นเพราะว่าเสียดายที่จะใช้เงินจองห้องส่วนตัวซินะ ตลกสิ้นดี”นีรพูดเหยียดหยาม

ทั้งรพีพงษ์และอารียาต่างพูดไม่ออก ไม่คาดคิดว่าไปถึงที่ไหน จะได้พบกับตัวซวยทั้งสองนี้

“เพื่อนของฉันเชิญพวกเรามาทานข้าวที่นี่ พวกเราไม่ต้องจองห้องส่วนตัว”อารียาเอ่ยปาก

“โธ่ๆ ยังเสแสร้งได้อีก เธออยู่ในที่แบบนี้ยังสามารถมีเพื่อนได้เหรอ? อย่าบอกนะว่าเป็นไกด์นำเที่ยวที่พวกเธอหาวันนั้นนะ ยากจนจนต้องหาไกด์นำเที่ยวเถื่อนแล้ว ยังมีหน้ามาบอกว่ามีคนเชิญพวกเธอมาทานข้าวที่นี่”นีรกล่าวอย่างดูถูกทันที

“สามี คุณดูพวกเขาสองกำลังทำอะไรที่มันเกินตัว พวกเธอสองคนเป็นแค่คนที่มาจากสถานที่ทุรกันดาร ต่อให้มีเพื่อน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเชิญพวกเธอมาทานอาหารในที่แบบนี้ แต่ว่าพวกเธอไม่ต้องกังวล เดี๋ยวฉันและสามีของฉันทานเสร็จ ถ่ายรูปมาให้พวกเธอดู ให้พวกเธอดูผ่านสายตา”นีรหัวเราะฮ่าฮ่าขึ้นมา

รพีพงษ์และอารียาต่างก็พูดไม่ออกเล็กน้อย และไม่ได้สนใจประวีร์ทั้งสองคน

ในเวลานี้พนักงานก็วิ่งเข้ามา และกล่าวด้วยความเคารพกับทั้งสองว่า: “เชิญทั้งสองท่านตามฉันมาเถอะ แน่ใจแล้ว ทั้งสองท่านสามารถขึ้นไปได้แล้ว”

รพีพงษ์และอารียาพยักหน้า และเดินตามพนักงานไปที่ลิฟต์

หลังจากช่วยรพีพงษ์และอารียากดลิฟต์ พนักงานก็หันกลับมา และพึมพำกับตัวเองว่า: “น่าอิจฉาจริงๆ สามารถไปรับประทานอาหารที่ห้องวีไอพีที่หรูหราที่สุดที่ของพวกเราได้”

ประวีร์และนีรทั้งสองคนต่างก็รู้สึกมึนงง รีบเดินไป ถามพนักงานคนนั้น: “สองคนนั้นทำอะไรเหรอ? ทำไมยังสามารถขึ้นลิฟต์ได้ล่ะ?”

“ขึ้นไปทานอาหาร”พนักงานตอบ

“หรือจะมีคนเชิญทั้งสองคนมาทานอาหารที่นี่จริงๆเหรอ? โชคดีจริงๆ”ประวีร์พึมพำทันที แล้วเดินไปที่ลิฟต์พร้อมกับนีร

พนักงานห้ามพวกเขาไว้ และพูดว่า: “สองท่าน ถ้าพวกคุณต้องการขึ้นไป สามารถใช้บันไดได้เท่านั้น”

ประวีร์งงงวยเล็กน้อย แล้วถาม: “ทำไมล่ะ? สองคนนั้นเพิ่งขึ้นลิฟต์ไป ทำไมพวกเราถึงไม่ได้”

“ขอโทษด้วยจริงๆ ลิฟต์ตัวนั้นมีไว้สำหรับห้องวีไอพีชั้นบนสุดของพวกเรา มีเพียงลูกค้าที่รับประทานอาหารในห้องวีไอพีห้องนั้นเท่านั้นถึงสามารถใช้ได้ ลูกค้าอื่นๆเดินขึ้นบันไดได้เท่านั้น”พนักงานอธิบาย

เมื่อประวีร์และนีรทั้งสองคนได้ยินสิ่งนี้ ก็ตกตะลึงทันที

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท