พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 612 เขาก็แค่ผู้ชายแย่ๆ

บทที่ 612 เขาก็แค่ผู้ชายแย่ๆ

บทที่ 612 เขาก็แค่ผู้ชายแย่ๆ

เมื่อกลับเข้ามาในห้องอาหาร รพีพงษ์นั่งลงข้างอารียา อารียามองรพีพงษ์อย่างเคืองๆ “นายพูดว่ามีแค่ฉันคนเดียวไม่ใช่เหรอ ทำไมพอเห็นสุดาสายตาของนายก็เปลี่ยนไป”

รพีพงษ์อธิบายขึ้นมาว่า “ตอนที่ผมเห็นเธอ ผมรู้สึกว่าเหมือนคนที่ผมรู้จัก เลยอึ้งไป อีกอย่างเธอก็สวยขนาดนั้น ถ้าผมไม่รู้สึกอะไร มันจะไม่แปลกไปหน่อยเหรอ”

อารียาคิดไปคิดมาก็รู้สึกว่ารพีพงษ์พูดมีเหตุผล ถึงแม้ว่าตอนนี้ในหัวของเธอจะมีแค่รพีพงษ์ แต่เมื่อเจอหนุ่มหล่อตาของเธอก็เป็นประกายเหมือนกัน อีกอย่างมนุษย์ก็เป็นสัตว์ที่มีความรู้สึก เมื่อเห็นสิ่งสวยงามก็ต้องให้ความสนใจเป็นธรรมดา

ผ่านไปครู่หนึ่ง ฝนสุดาก็เดินเข้ามา สีหน้าของเธอเคร่งขรึมกว่าเก่าไม่น้อย

อารียาสังเกตเห็นความผิดปกติของฝนสุดา เธอจึงถามอย่างห่วงใยว่า “สุดา เธอเป็นอะไรไป ดูเหมือนเธอจะหงุดหงิดนะ”

หลังจากที่ฝนสุดานั่งลง เธอก็ถอนหายใจออกมา “อย่าไปพูดถึงมันเลย เมื่อกี้ฉันเจอคนที่ชอบอยู่ข้างนอก จู่ๆ ฉันก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ จึงสารภาพกับเขาไป แต่เขาปฏิเสธฉัน”

อารียาสีหน้าตกใจและพูดว่า “คนที่เธอชอบก็มาเที่ยวที่นี่เหรอ”

“ใครจะไปรู้ว่าเขามาทำอะไรที่นี่ สงสัยคงจะมาพลอดรักกันล่ะมั้ง ฉันเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงสวยคนหนึ่ง” ฝนสุดาพูดด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม

“ห๊ะ ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าตระกูลเธอมีข้อปฏิบัติว่าถ้าผู้ชายคนไหนมาโดนเท้า จะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เหรอ คนที่เธอชอบตั้งใจโดนเท้าเธอไม่ใช่หรือไง” อารียากะพริบตาปริบๆ

“ใช่ ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาจะใจร้ายแบบนี้ เขายังบอกฉันอีกนะว่าจะไม่ให้โอกาสฉันทั้งชีวิต อารี เธอว่าฉันควรจะทำยังไงดี” ฝนสุดามองอารียาด้วยสีหน้าน้อยใจ

อารียามีสีหน้าเจ็บช้ำและโกรธแค้นเหมือนกับเพื่อน “ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจจริงๆ ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ สุดา เธออย่าเสียใจไปเลยนะ เธอไม่ควรจะทำอะไรเพื่อผู้ชายแย่ๆ แบบนั้น ต่อไปเธอต้องเจอคนที่ดีกว่าเขาแน่นอน”

“แต่ว่าฉันชอบเขา ฉันจะทำยังไงดีล่ะ” ฝนสุดาทำท่าน่าสงสาร ขนาดที่ว่าใครมาเห็นก็อดสงสารไม่ได้

อารียาทำอะไรไม่ถูก เธอไม่รู้จะปลอบฝนสุดายังไง

ขณะนั้นเอง ฝนสุดามองรพีพงษ์แล้วพูดว่า “อารี สามีของเธอเป็นผู้ชาย ผู้ชายด้วยกันน่าจะเข้าใจกันดี ให้สามีเธอช่วยวิเคราะห์หน่อยได้ไหม ว่าผู้ชายแย่ๆ คนนั้นคิดยังไง”

มุมปากของรพีพงษ์ถึงกับกระตุก เขาคิดไม่ถึงว่าฝนสุดาจะพูดเรื่องนี้ต่อหน้าอารียา แถมยังพูดให้อารียาร่วมผสมโรงด่าเขาอีกด้วย เขาไม่มีทางโต้แย้งแม้แต่น้อย

อารียาหันไปหารพีพงษ์แล้วพูดว่า “นายช่วยวิเคราะห์หน่อยสิ ว่าทำไมถึงมีผู้ชายแย่ๆ แบบนี้ รู้อยู่แท้ๆ ว่าตระกูลของสุดามีข้อปฏิบัติ ยังจะจงใจไปโดนเท้าของเธออีก แถมยังไม่มีความรับผิดชอบอีก น่ารังเกียจจริงๆ”

รพีพงษ์กระแอมออกมาเบาๆ แล้วพูดด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนว่า “น่าจะมีอะไรเข้าใจผิดกันล่ะมั้ง”

เขาคิดในใจว่าถ้าอารียารู้ว่าผู้ชายแย่ๆ ที่ฝนสุดาพูดถึงคือเขา เธอจะมีท่าทีอย่างไร

ฝนสุดาเห็นสีหน้ากลุ้มใจของรพีพงษ์ แววตาของเธอดูมีเลศนัย

“เข้าใจผิดอะไรกัน นี่นายช่วยพูดแทนผู้ชายแย่ๆ คนนั้นเหรอ” อารียาเบิกตาโตใส่รพีพงษ์

“ห๊ะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ คุณก็รู้นิ” รพีพงษ์รีบอธิบาย

อารียาถอนหายใจแล้วพูดกับฝนสุดาว่า “สุดา รพีพงษ์เขาซื่อบื้อกับเรื่องพวกนี้จริงๆ เธออย่าเศร้าไปเลยนะ ผู้ชายคนนั้นก็แค่ผู้ชายแย่ๆ เธอจะต้องเจอคนที่ดีกว่าแน่นอน”

ฝนสุดาพยักหน้า แล้วยิ้มออกมา “โอเค ฉันจะไม่คิดถึงไอ้คนน่ารังเกียจคนนั้นอีก พวกเราทานข้าวกันเถอะ”

อารียาพยักหน้า รพีพงษ์เห็นว่าฝนสุดาไม่พูดเรื่องนี้ต่อ เขาก็รู้สึกโล่งอก

เมื่อทั้งสามทานข้าวเสร็จ ก็ลงมาจากตึก และเดินออกมาจากอ่าวจันทร์จนมาถึงข้างนอก

ตอนนี้ที่ลานกว้างมีคนเยอะแยะไปหมด คนส่วนใหญ่กำลังรวมตัวกันที่กลางลาน ที่หน้าเวทีเขียนไว้ว่าการแข่งขันงัดข้อ

พิธีกรที่อยู่บนเวที กำลังพูดคุยกับทุกคน ดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังเป็นช่วงพัก อีกสักพักน่าจะมีการแข่งขันเกิดขึ้น

“สุดา เราไปดูแข่งงัดข้อกันเถอะ” อารียาเอ่ยขึ้น

ฝนสุดาพยักหน้า โดยไม่ได้พูดค้านอะไรออกไป รพีพงษ์เดินตามหลังหญิงสาวทั้งสองคนเข้าไปข้างหน้า

เพราะว่าหน้าตาของอารียากับฝนสุดาค่อนข้างจะโดดเด่น เมื่อทั้งสามคนปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ทำให้เป็นที่ดึงดูดสายตาของคนจำนวนมาก

คนที่เป็นผู้ชายเหมือนกันกับรพีพงษ์ ต่างก็มองรพีพงษ์ด้วยสายตาอิจฉา การที่เดินมาพร้อมสาวสวยทั้งสองคน มันช่างน่าอิจฉาเหลือเกิน

ทั้งสามคนยืนอยู่ไม่ห่างจากเวทีเท่าไรนัก จากนั้นก็พากันมองไปบนเวที ตอนนี้บนเวทีมีชายแปดคนที่มีร่างกายกำยำ กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ทั้งแปดคนเป็นผู้ชนะจากการแข่งก่อนหน้านี้ อีกสักพักพวกเขาจะเริ่มการแข่งรอบตัดสิน เพื่อหาผู้ชนะ

ตอนนี้พิธีกรกำลังบรรยายรางวัลที่ผู้ชนะจะได้รับจากการแข่งขันครั้งนี้

“ทุกท่าน นอกจากรางวัลที่ผมได้พูดไปแล้ว ผู้ชนะในวันนี้ยังจะได้รางวัลแห่งความโชคดี รางวัลจะเป็นอะไรนั้นผมขออุบไว้ก่อน เรามาเลือกผู้โชคดีจากผู้ชมในที่นี้กันก่อนดีกว่า”

เมื่อพิธีกรพูดจบ ไฟสปอตไลท์บนเวทีก็ขยับไปมา สุดท้ายมันก็ส่องลงมาที่ฝนสุดา

“ยินดีกับคุณผู้หญิงท่านนี้ด้วยนะครับ คุณได้เป็นผู้โชคดีในค่ำคืนนี้”

พิธีกรตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น ฝนสุดาจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าตัวเองไปเป็นผู้โชคดีได้อย่างไร

จากนั้นพิธีกรก็เชิญฝนสุดาขึ้นไปบนเวที แล้วพูดกับฝนสุดาว่าแค่เธอเป่ายิ้งฉุบชนะพิธีกร เธอก็จะได้ของขวัญ แต่ถ้าเธอแพ้ เธอก็จะเป็นรางวัลแห่งความโชคดีของผู้ชนะการแข่งขันงัดข้อ

แน่นอนว่าผู้ชนะจะทำได้เพียงแค่ร่วมทานข้าวกับฝนสุดา

ก่อนหน้านี้ฝนสุดาไม่เคยเล่นเกมแบบนี้มาก่อน คุณหนูแห่งตระกูลก้องวณิชกุลจะเคยสัมผัสอะไรแบบนี้ได้อย่างไรกัน เธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกใหม่ จึงตอบตกลงพิธีกร

ฝีมือการเป่ายิ้งฉุบของฝนสุดาไม่ได้ดีเลย เธอจึงแพ้ให้กับพิธีกร เธอจึงต้องร่วมทานข้าวกับผู้ชนะการแข่งขันงัดข้อตามข้อตกลง

การแข่งขันงัดข้อได้เริ่มต่อไป ฝนสุดาเดินลงจากเวที แล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างอารียา เธอพูดกับอารียาเหมือนเด็กน้อยว่า “ฉันนี่โง่จริงๆ แพ้ซะแล้ว”

อารียายิ้มแล้วพูดกับฝนสุดาว่า “ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่ทานข้าวกับผู้ชนะเอง ไม่แน่ผู้ชนะในวันนี้ อาจจะเป็นคนในอุดมคติของเธอก็ได้นะ”

ขณะที่พวกเธอกำลังคุยกันอยู่ ก็มีเสียงโหวกเหวกดังขึ้น ทุกคนพากันหันไปมองอีกด้านหนึ่งของลานกว้าง มีบอดี้การ์ดในชุดสูทกำลังคุ้มกันหนุ่มหล่อคนหนึ่งเดินเข้ามาทางนี้

“ดูนั่นสิ บริวัตรคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเชาวกรกุล!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน