พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 615 นายแพ้แล้ว

บทที่ 615 นายแพ้แล้ว

บทที่ 615 นายแพ้แล้ว

การแข่งขันเริ่มขึ้น

รพีพงษ์กับบริวัตรวางแขนไว้บนโต๊ะ และจับมือของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้

ตอนที่บริวัตรจับมือของรพีพงษ์ เขาแสยะยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “กระดูกของนายช่างอ่อนเหลือเกิน หรือว่าก่อนหน้านี้นายเอาแต่เกาะผู้หญิง ฉันเห็นนายสนิทกับหนึ่งในสองสาวสวยนั่นด้วยนิ”

“เธอเป็นภรรยาของผม” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

บริวัตรหัวเราะออกมาทันที จากนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “ในเมื่อนายมีภรรยาแล้ว จะมายุ่งเรื่องของฉันทำไม หรือว่านายเป็นชู้กับผู้หญิงอีกคนงั้นเหรอ”

“อันที่จริง การที่ผมทำแบบนี้ ถือว่าเป็นการช่วยคุณนะ คุณอย่าไปแตะต้องผู้หญิงคนนั้น” รพีพงษ์พูดขึ้น

บริวัตรส่งเสียงหึออกมา จากนั้นก็พูดขู่ออกมาว่า “บนเกาะพระจันทร์ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่บริวัตรไม่สามารถแตะต้องได้ ฉันจะบอกให้นะ การที่ยุ่งเรื่องคนอื่น มันมีราคาที่ต้องจ่ายนะ”

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจบริวัตร เขารอฟังพิธีกรพูด

พิธีกรเห็นว่าทั้งสองคนเตรียมตัวพร้อมแล้ว จึงพูดเริ่มการแข่งขัน

ทั้งสองคนงัดแรงของตัวเองออกมา เดิมทีรพีพงษ์อยากจะจบเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือแรงของบริวัตรไม่ได้ด้อยเลย เมื่อครู่เขาใช้แรงไปประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ คิดไม่ถึงว่าจะไม่สามารถกดให้แขนของอีกฝ่ายล้มลงได้

แต่ตอนนี้คนที่ตกตะลึงยิ่งกว่ารพีพงษ์ก็คือบริวัตร เมื่อครู่เขาคิดจะเอาชนะรพีพงษ์อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าไอ้หมอนี่มันไม่เอาไหนขนาดไหน

แต่ทว่าหลังจากที่เขาใช้แรง คิดไม่ถึงว่าจะไม่สามารถทำให้แขนของรพีพงษ์ขยับได้เลยแม้แต่น้อย นี่มันเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้มาก

“ก็มีของเหมือนกันนิ แต่แรงแค่นี้ คิดว่าจะเอาชนะฉันได้เหรอ”

บริวัตรแสยะยิ้ม แล้วเพิ่มแรงลงไปที่แขนอีก

รพีพงษ์ก็เพิ่มแรงลงไปที่แขนเหมือนกัน เขาต่อกรกับบริวัตรอีกครั้ง

“เป็นไปไม่ได้!” บริวัตรพูดขึ้นในใจ แววตาที่มองรพีพงษ์เปลี่ยนไป

หลังจากที่คนที่อยู่ข้างล่างได้ยินเสียงประกาศเริ่มการแข่งขัน ก็เห็นแขนของทั้งคู่วางอยู่บนโต๊ะ โดยไม่ขยับไปไหน ไม่มีใครกดแขนของอีกฝ่ายให้ล้มลงได้

“ดูเหมือนว่าคุณชายบริวัตรยังไว้หน้าไอ้หมอนั่น ถึงไม่ได้จัดการไอ้หมอนั่นในทีเดียว”

“ใช่ คุณชายบริวัตรยังมีความเกรงใจ ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะทำให้มันขายหน้าในทันทีเลยล่ะ”

“คุณชายคงอยากล้อมันเล่น ถ้าเขาเอาจริงขึ้นมา ไอ้หมอนั่นต้องแพ้แน่ๆ”

……

พิธีกรเห็นว่าไม่มีฝ่ายใดสามารถกดแขนของอีกฝ่ายลงได้ เขาจึงอยากพูดให้บริวัตรมีแรงใจขึ้น พิธีกรยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณชายของพวกเราจะไม่อยากชนะเจ้าหนุ่มนี่ในทันที นี่ถือว่าเป็นการเคารพอีกฝ่ายมากเลยนะครับ จากที่ผมดูแล้ว คุณชายใกล้จะเอาชนะได้แล้วครับ ผมเชื่อว่าอีกเดี๋ยวผู้เข้าแข่งขันคนนี้คงจะซาบซึ้งต่อคุณชาย เพราะคุณชายทำให้เขาแพ้อย่างสมศักดิ์ศรี”

บริวัตรได้ยินสิ่งที่พิธีกรพูดก็ก่นด่าขึ้นมาในใจ เขาคิดในใจว่าดูยังไงว่าเขากำลังจะชนะ คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามไม่ธรรมดาเลย ถ้าเขาแพ้ขึ้นมา คำพูดของพิธีกรจะย้อนกลับไปตบหน้าตัวเขาเอง

รพีพงษ์มองบริวัตรอย่างมีเลศนัย สีหน้าของเขาราบเรียบ แต่ทว่าตอนนี้บริวัตรกำลังกัดฟันจนเส้นเลือดปูดขึ้นมาตรงหน้าผาก

“นี่คือแรงทั้งหมดของคุณเหรอ ถ้ามีแรงแค่นี้ การแข่งขันก็ควรจะจบแล้วล่ะ” รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดขึ้น

“เลิกอวดเก่งเหอะ ฉันยังไม่ได้ใช้แรงทั้งหมด ถ้าฉันใช้แรงทั้งหมด นายตายแน่!” บริวัตรกัดฟันพูดออกมา

จากนั้นรพีพงษ์สัมผัสได้ถึงแรงที่เพิ่มขึ้นจากมือของอีกฝ่าย ขณะเดียวกันรพีพงษ์ก็ได้ยินเสียงเครื่องมือบางอย่างดังขึ้นมาเบาๆ

รพีพงษ์ประหลาดใจและมองไปที่แขนของบริวัตร เหมือนจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของบริวัตร

เมื่อเขาพอจะเดาได้ว่าของที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของบริวัตรคืออะไร ก็ยกยิ้มมุมปากออกมาอย่างร้ายกาจ

จากนั้นรพีพงษ์ก็เพิ่มแรงขึ้นอีก ทันใดนั้นบริวัตรก็รู้สึกได้ทันทีว่าเขาไม่มีทางสู้แรงของรพีพงษ์ได้อีก แขนของเขาถูกกดจนจะล้มลงไปบนโต๊ะ

เขากัดฟันขืนเอาไว้ แต่รพีพงษ์ที่ได้ใช้แรงออกมาถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์ แน่นอนว่าคนทั่วไปไม่สามารถสู้ได้แน่นอน แขนของบริวัตรค่อยๆ เอนลงไปทีละนิด จนเกือบจะถูกโต๊ะ

ผู้ชมที่ดูอยู่ข้างล่างพากันอึ้งปากค้าง คิดไม่ถึงว่าบริวัตรจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

“ยอมแพ้เถอะ ถึงคุณจะใช้วิธีสกปรกแบบนั้น ก็ไม่สามารถเอาชนะผมได้หรอก” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

“พูดอะไรไร้สาระ ฉันจะแพ้นายได้ยังไง!” บริวัตรกัดฟันกรอด ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรจู่ๆ ก็ใช้แรงขึ้นมาอย่างมาก เหมือนจะทำให้แขนของอีกฝ่ายล้มลงไป

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว เขาไม่อยากยืดเยื้ออีกต่อไป เขาใช้แรงเพิ่มขึ้นอีก จู่ๆ ก็มีควันขึ้นมาบนแขนของบริวัตร จากนั้นมีเสียงเหมือนไฟฟ้าลัดวงจรดังขึ้น ทันใดนั้นแขนเสื้อของบริวัตรก็ละลายในทันที

เขาตกใจจนลุกขึ้นยืนแล้วสะบัดแขนเสื้อของตัวเอง จากนั้นเขาก็เอาเครื่องมือบางอย่างที่ติดกับแขนโยนลงบนพื้น

เครื่องมือนั่นลุกเป็นไฟ และมีเสียงดังเหมือนไฟช็อต

คนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างก็ตกใจ พวกเขาอ้าปากค้างมองเครื่องมือที่เหมือนปลอกแขนกำลังติดไฟ คิดไม่ถึงว่าบริวัตรจะใช้สิ่งนี้ในการเอาชนะการแข่งขันครั้งนี้

ปลอกแขนนั่นคือเครื่องมือที่ใช้ในการช่วยเพิ่มแรง เมื่อใส่มันไว้ที่แขนจะทำให้มีแรงขึ้นถึงกว่าสิบเท่า แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ บริวัตรก็ยังคงไม่สามารถเอาชนะรพีพงษ์ได้ แถมยังทำให้เครื่องมือที่ใส่ไว้บนแขนทำงานเกินขนาดจนพังเสียหาย

ผู้หญิงที่พากันชื่นชมบริวัตรต่างพากันรู้สึกว่าไอดอลของตัวเองล้มไม่เป็นท่า พวกคนที่เคยหัวเราะเยาะรพีพงษ์ต่างพากันแสดงสายตารู้สึกผิด

บริวัตรยืนอยู่บนเวที สีหน้าของเขาตึงเครียดมาก เขาจะไปคิดได้ยังไงว่าเรื่องที่เขาโกงการแข่งขัน จะถูกเปิดเผยต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้ ครั้งนี้ชื่อเสียงคุณชายแห่งตระกูลเชาวกรกุลคงพังย่อยยับ

รพีพงษ์ลุกขึ้นยืน แล้วมองไปยังบริวัตร จากนั้นจึงพูดขึ้นอย่างช้าๆ ว่า “คุณแพ้แล้ว”

จากนั้นเขาก็เดินลงจากเวที

พิธีกรยืนมองเหตุการณ์อยู่อย่างนั้น เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

บริวัตรมองแผ่นหลังของรพีพงษ์อย่างเคียดแค้น แววตาของเขาฉายแววอาฆาตออกมา

“สมควรตายจริงๆ แกทำให้ฉันขายหน้าขนาดนี้ ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”

“คุณ คุณชาย ตอนนี้เราจะทำยังไงดีครับ” พิธีกรมองบริวัตร

บริวัตรตบหน้าพิธีกรไปหนึ่งฉาด จากนั้นก่นด่าออกมาว่า “จะทำอะไรได้อีกล่ะ รีบประกาศยุติการแข่งขัน แกจะให้ฉันขายหน้าต่อเหรอ”

พิธีกรตกใจและรีบหยิบไมค์ขึ้นมาประกาศยุติการแข่งขัน ให้ทุกคนรีบแยกย้าย

รพีพงษ์เดินมาตรงหน้าของอารียากับฝนสุดา อารียาแตะริมฝีปากลงบนริมฝีปากของรพีพงษ์ แล้วพูดอย่างมีความสุขว่า “สุดยอดเลยคุณสามี”

คนที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างฝนสุดา มองอย่างอิจฉา เธอเอาลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเอง

เธอก็อยากจูบรพีพงษ์เหมือนกัน แต่เธอรู้ดีว่ารพีพงษ์คงไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้นแน่นอน

“ขอบใจจริงๆ นะรพีพงษ์ คิดไม่ถึงว่าคุณชายนั่นจะโกง น่ารังเกียจจริงๆ ถ้านายไม่ช่วยฉันไว้ ไม่แน่ฉันอาจจะโดนคุณชายนั่นข่มเหงก็ได้” ฝนสุดายิ้มแล้วเอ่ยขึ้น

รพีพงษ์พยักหน้าเบาๆ โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา

ทั้งสามเดินเล่นตรงลานกว้างอยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าดึกแล้ว รพีพงษ์จึงบอกอารียาว่าควรจะกลับกันได้แล้ว

ขณะนั้นฝนสุดากลอกตาไปมา เธอยิ้มแล้วพูดว่า “อารี คืนนี้พวกเธอสองคนนอนกับฉันไหมล่ะ ฉันจองห้องเพรสซิเดนเชียลเอาไว้ที่โรงแรมหรู ห้องใหญ่มาก แต่ฉันอยู่คนเดียว อันที่จริงฉันกลัวนิดหน่อย แถมวันนี้รพีพงษ์ยังช่วยฉันไว้ ฉันควรจะขอบคุณพวกเธอ เธอว่ายังไง”

รพีพงษ์เหลือบมองฝนสุดา แล้วพูดอย่างเด็ดขาดว่า “ไม่ไป”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท