พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 617 เธอคิดเลยเถิดกับผม

บทที่ 617 เธอคิดเลยเถิดกับผม

บทที่ 617 เธอคิดเลยเถิดกับผม

ที่บ้านของณัท

อารียากับรพีพงษ์อยู่ในห้อง

อารียาจ้องรพีพงษ์เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ราวกับดวงตาแววใสกำลังจะจ้องทะลุไปในตัวของรพีพงษ์อย่างไรอย่างนั้น

รพีพงษ์ถูกจ้องจนทำอะไรไม่ถูก เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า “หน้าผมมีอะไรหรือเปล่า”

“มันผิดปกติ มันผิดปกติ วันนี้นายดูผิดปกติมาก นายมีอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า”

อารียาพูดกับรพีพงษ์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

รพีพงษ์อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถามว่า “ผิดปกติตรงไหน”

“หลังจากเราไปเจอฝนสุดา ท่าทางของนายก็แปลกไป อย่างเช่น ตอนที่สุดาชวนเราไปนอนที่โรงแรม ทำไมนายต้องปฏิเสธเธอตรงขนาดนั้น” อารียามองรพีพงษ์เหมือนกำลังไต่สวนคนผิด

รพีพงษ์ยักไหล่แล้วพูดว่า “เราก็มีที่พักนิ ทำไมต้องไปพักกับเธอล่ะ อีกอย่างพรุ่งนี้อาใฝ่ธรรมจะทำอะไรอร่อยๆ ให้เราทานไม่ใช่เหรอ ถ้าเราไปพักข้างนอก อาจจะกลับมาไม่ทันก็ได้”

“ข้ออ้าง ฟังก็รู้ว่านายกำลังพูดอ้าง หึ รพีพงษ์นายไม่รักฉันแล้วใช่ไหม” อารียาแบะปากด้วยสีหน้าน้อยใจ

รพีพงษ์มองเธออย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า “นี่ที่รัก ผมจะไม่รักคุณได้ยังไง ผมอยากทานอาหารที่อาใฝ่ธรรมจะเตรียมให้พรุ่งนี้จริงๆ เลยกลับมานอนที่นี่”

อารียาย่นปากยู่ เธอเอามือเท้าเอว แล้วพูดอย่างยโสว่า “ฉันไม่เชื่อ นายอย่ามาดูถูกสัญชาตญาณของผู้หญิงนะ ฉันว่านายต้องมีอะไร มันต้องมีอะไรแน่ๆ”

รพีพงษ์เห็นท่าทีของอารียา เขาเห็นด้วยกับคำพูดของอารียา เพราะว่าระหว่างเขากับฝนสุดามีอะไรจริงๆ แต่ไม่ใช่อย่างที่อารียาคิด

จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่าหลังจากที่อารียาท้อง เธอยิ่งน่ารักขึ้นทุกวัน ไม่รู้ว่าคนท้องเป็นอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่า

“โอเคๆ งั้นผมไม่ปิดบังคุณแล้ว การที่ผมไม่อยากไปก็เพราะว่าเพื่อนแสนรวยของคุณ เหมือนจะคิดเลยเถิดกับผม” รพีพงษ์พูดขึ้น

ตอนแรกอารียาอยากตั้งใจฟังว่ารพีพงษ์เป็นอะไรกันแน่ แต่หลังจากที่ฟังเขาพูดจบ อารียาก็เบิกตาโพลง

จากนั้นเธอก็ยื่นมือไปแตะหน้าผากรพีพงษ์ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “รพีพงษ์ นายมีไข้หรือเปล่า”

รพีพงษ์กลอกตามองบนใส่อารียา จากนั้นจึงพูดว่า “ผมพูดจริง คุณไม่เห็นสายตาที่เพื่อนแสนรวยของคุณมองผมเหรอ มันผิดปกตินะ ผมจะบอกให้ว่าบางครั้งสัญชาตญาณของผู้ชายก็แม่นมากนะ”

อารียาแลบลิ้นใส่รพีพงษ์ หลังจากที่รู้ว่ารพีพงษ์แปลกไปเพราะเรื่องนี้ ความสงสัยในใจเธอก็มลายหายไปอย่างรวดเร็ว เธอพูดกับเขาว่า “หลงตัวเองเกินไปแล้ว ฉันว่านายนั่นแหละที่คิดเลยเถิดกับเธอ”

“จริงๆ นะ อยากบอกนะว่าคุณดูไม่ออก ไม่งั้นเธอจะให้ผมไปท้าคุณชายบริวัตรทำไมล่ะ นี่มันก็ตอบคำถามได้แล้ว” รพีพงษ์พูดอย่างจริงจัง

“เธอออกจะสวยราวกับนางฟ้าขนาดนั้น จะไปชอบนายได้ยังไง อีกอย่างนายก็มีภรรยาแล้ว อย่าบอกนะว่าเธอจะแย่งนายไปจากฉัน” อารียาเอนตัวลงบนเตียง

รพีพงษ์แอบพยักหน้าในใจ เขาคิดในใจว่าเธอคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ

“พอแล้ว รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องช่วยอาใฝ่ธรรมกับป้าภัคทีมาทำอาหารอีก” อารียาพูดขึ้น

“เดี๋ยวสิ ผมยังมีเรื่องที่อยากให้เพื่อนแสนรวยของคุณช่วย” รพีพงษเอ่ยขึ้น

“ช่วยอะไร” อารียาเอ่ยถาม

“วันนี้ผมเอาชนะคุณชายบริวัตรได้ แถมยังทำให้เขาต่อหน้าคนจำนวนมาก จากนิสัยของคุณชายนั่นแล้ว คงจะไม่ยอมวางมือแน่นอน ผมกลัวว่าเขาจะแก้แค้น และทำให้ครอบครัวของอาใฝ่ธรรมติดร่างแหไปด้วย มันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดี ดังนั้นผมว่าควรจะสะสางเรื่องนี้ให้จบๆ ไปเลยจะดีกว่า” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

อารียาพยักหน้า เรื่องพวกนี้อารียาเชื่อใจรพีพงษ์มาก

“งั้นฉันเอาเบอร์มือถือของเธอให้นาย พรุ่งนี้นายโทรหาเธอ อยากให้เธอพูดอะไรนายก็บอกเธอเองแล้วกัน แต่นายห้ามคิดอะไรเลยเถิดนะได้ยินหรือยัง!” อารียาพูดแล้วจ้องรพีพงษ์เขม็ง

“รับทราบ! ภรรยาของผมตั้งท้องอยู่อย่างนี้ ผมจะไปมีใจให้คนอื่นได้ยังไง พรุ่งนี้คุณกับอาใฝ่ธรรมทำอาหารรอผมกลับมา พอทานข้าวเสร็จ พวกเราก็ควรจะกลับบ้านกันได้แล้ว” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

อารียาพยักหน้า แล้วขยับตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของรพีพงษ์ จากนั้นจึงค่อยๆ ผล็อยหลับไป

……

หน้าผาแห่งหนึ่งบนเกาะพระจันทร์

ร่างสูงยืนอยู่ริมขอบหน้าผา คลื่นซัดกระหน่ำ แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนตัวของเขา ทำให้เขารังสีแห่งความลึกลับแผ่ออกมาจากตัวเขา

ผ่านไปครู่ใหญ่ ก็มีอีกคนปรากฏตัวขึ้นที่บนหน้าผา เขาโค้งตัวแล้วพูดว่า “คุณชาย เราหาเจอแล้วครับ ตอนนี้รพีพงษ์พักอยู่ในบ้านของคนที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ เขามาเที่ยวที่นี่จริงๆ ครับ”

“หึ ประวัติของไอ้หมอนี่มันช่างสืบยากจริงๆ ฉันสืบประวัติของมันตั้งแต่เกียวโตจนมาถึงเมืองริเวอร์ ตอนนี้มันมาถึงที่นี่ ถ้าให้มันตายอย่างสบายๆ ก็คงจะเป็นไม่คุ้มกับการที่คนอย่างอนันยชเดินทางมา” ร่างสูงพูดขึ้นอย่างเย็นชา

“คุณชายครับ จริงๆ คุณชายใช้โอกาสตอนที่รพีพงษ์ไม่อยู่ที่เกียวโต ลงมือกับตระกูลลัดดาวัลย์ได้นะครับ พอมันกลับไปที่เกียวโต ก็จะเห็นตระกูลของมันย่อยยับไปแล้ว คิดแล้วน่าสนุกดีนะครับ” คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าอนันยชเอ่ยขึ้น

“เหอะ เหอะ ก็แค่ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลลัดดาวัลย์ ถ้าสู้กันทางธุรกิจ มันก็แค่เรื่องเด็กเล่นสำหรับฉัน ถ้านายมาอยู่ในจุดๆ เดียวกับฉันในตอนนี้ นายจะรู้ว่าบนโลกนี้สิ่งที่ทำให้คนลุ่มหลงที่สุดก็คือพละกำลัง”

“การที่ตระกูลลัดดาวัลย์ยังยืนหยัดอยู่ได้ก็เพราะพึ่งพารพีพงษ์ เพราะฉะนั้นฉันต้องฆ่ามัน เรื่องทุกอย่างก็จะสะสางเอง” อนันยชพูดอย่างราบเรียบ

“คุณชายฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก!” คนนั้นพูดอย่างเยินยอ “งั้นคุณชายจะลงมือกับมันตอนไหนเหรอครับ”

“คืนพรุ่งนี้ ให้มันได้มีชีวิตอยู่อีกสักวัน หลังจากพรุ่งนี้ไปมันก็จะได้ไปเข้าเฝ้ายมบาลแล้วล่ะ”

……

เช้าวันต่อมา รพีพงษ์โทรหาฝนสุดาและพูดเป้าหมายของตัวเอง ให้ฝนสุดาสั่งคนไปสืบข่าวจากนายใหญ่ตระกูลเชาวกรกุล รพีพงษ์มาถึงบนเกาะพระจันทร์ เขาจะไปที่ตระกูลเชาวกรกุลในคืนนี้

เหตุที่เขาไปหาฝนสุดาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็เพราะว่าเขาไม่มีลูกน้องที่อยู่บนเกาะพระจันทร์ ถ้าเขาไปตัวคนเดียว มันจะเป็นการเสียเปรียบอย่างมาก

ฝนสุดาเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลก้องวณิชกุล การที่ออกมาเที่ยวข้างนอก เขาไม่เชื่อว่าจะไม่มีใครตามคุ้มกันเธอ เพราะฉะนั้นให้ฝนสุดาไปทำเรื่องนี้ จะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน

ฝนสุดาก็รู้ดีว่ารพีพงษ์จะใช้ฐานะข่มขู่ตระกูลเชาวกรกุล เธอจีงรีบให้คนไปส่งข่าว

เมื่อนายใหญ่ของตระกูลเชาวกรกุลรู้ข่าว สิ่งแรกที่เขาทำก็คือให้คนจัดเตรียมงานเลี้ยง แม้ว่าไม่กี่ปีมานี้ตระกูลของเขาจะพัฒนาได้ดี แต่ถ้าเทียบกับตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกียวโต ตระกูลของเขายังห่างชั้นไม่น้อย นายใหญ่ของตระกูลเชาวกรกุลที่ให้ความสำคัญกับคนระดับนี้ ต้องเตรียมการต้อนรับอย่างละเอียดรอบคอบแน่นอน

ในขณะนี้นายใหญ่ของตระกูล ยังไม่รู้ว่าลูกชายของตัวเองกำลังวางแผนจัดการกับนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์

ช่วงบ่ายรพีพงษ์พูดกับอารียาสองสามประโยค จากนั้นเขาก็ออกจากบ้าน เขาบอกว่าเมื่อจัดการปัญหาเสร็จจะกลับมาทานข้าวกับเธอ

เพราะว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไรนัก รพีพงษ์จึงไม่ให้อารียาตามไปด้วย

รพีพงษ์ถามณัทเรื่องที่อยู่ของบ้านตระกูลเชาวกรกุล เขาตรงไปที่นั่นทันที

เมื่อถึงทางเข้า รพีพงษ์รู้สึกว่าเหมือนมีใครรอเขาอยู่ตรงหัวเลี้ยว เขาเตรียมการอยู่ในใจ เขาหยุดตอนที่กำลังจะเลี้ยว

ขณะนั้นเองมีผู้หญิงหน้าตาสะสวย เธอสวมชุดเดรสสีชมพูและที่คาดผมดอกไม้ ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา เธอก็คือฝนสุดานั่นเอง

“หึหึ ตกใจหรือเปล่า” ฝนสุดายิ้มแล้วพูดขึ้น

รพีพงษ์ปรายตามองเธออย่างเหนื่อยใจ “คุณมาทำอะไรตรงนี้”

“จะไปตระกูลเชาวกรกุลกับนายไง” ฝนสุดาพูดแล้วกะพริบตาปริบๆ

“ผมไปคนเดียวก็พอแล้ว คุณไม่ต้องตามไปหรอก” รพีพงษ์พูดจบ ก็เดินต่อไป

“ไม่ได้สิ ฉันเป็นคนพูดกับคนในตระกูลเชาวกรกุล ว่านายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์กับภรรยาจะแวะไปเยี่ยม นายจะไปคนเดียวได้ยังไง” ฝนสุดารีบเดินตามรพีพงษ์ อีกทั้งยังเอามือควงแขนเขาไว้อีกด้วย

รพีพงษ์รีบสลัดแขนออก เขาจ้องฝนสุดาแล้วพูดว่า “ภรรยาอะไรกัน ภรรยาของผมคือารียา คุณทำแบบนี้ผมก็ไม่ไปกับคุณหรอก”

จู่ๆ ฝนสุดาก็น้ำตาคลอเบ้า เธอมองรพีพงษ์ด้วยสีหน้าน้อยใจ “ฉันผิดไปแล้ว ถ้านายไม่ชอบ ฉันจะไปล้อเล่นแบบนี้อีก ทำไมต้องดุกันขนาดนี้ด้วย”

รพีพงษ์ปวดหัวกับเรื่องนี้ สิ่งที่เขาไม่สามารถรับมือได้เลยก็คือความออดอ้อนของผู้หญิง

“เห็นแก่การที่คุณช่วยผมส่งข่าว ผมให้คุณตามไปด้วยก็ได้ แต่ถ้าคุณพูดอะไรไร้สาระ อย่าหาว่าผมไม่ไว้หน้าคุณ” รพีพงษ์จ้องฝนสุดาแล้วพูดขึ้น

สีหน้าน้อยใจแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มทันที เธอรีบก้าวตามรพีพงษ์ไป

“รู้แล้วๆ ฉันไม่พูด แต่ถ้าคนอื่นพูด นายอย่าว่าฉันก็แล้วกัน เพราะฉันบอกว่ารพีพงษ์กับภรรยาจะแวะไปเยี่ยม”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท