พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่667 ไม่มีจุดอ่อน

บทที่667 ไม่มีจุดอ่อน

บทที่667 ไม่มีจุดอ่อน

“เมียจ๋า เด็กคนนี้เป็นลูกของเราใช่ไหม? แม้ผมจะไม่หล่อ แต่เด็กคนนี้น่าเกลียดไปนะ?”

ขวัญนลินคลอดออกมาได้สิบสี่วัน รพีพงษ์นั่งข้างๆเตียง จ้องไปที่เด็กดำๆ หน้าตาบู้บี้นั่น

อารียาที่นอนอยู่บนเตียงมองบน แล้วกล่าว “เด็กเพิ่งเกิดจะให้ดูดีขนาดไหนกัน ตายังไม่เปิดเลย ผ่านไปสักพัก รอให้เธอโตสักหน่อย ก็สวยแล้ว”

“ถ้าเธอโตขึ้นจ้องเหมือนคุณแน่ๆ อนาคตต้องเป็นสาวสวยล้มเมือง แน่นอน ต้องเหมือนผมด้วย แต่เอาส่วนดีของผมไปก็พอแล้ว” รพีพงษ์บ่นพึมพำ

“คุณหมายความว่าไง ให้ลูกเอาจุดด้อยของฉันไปงั้นหรอ? พอทีคุณให้เอาจุดเด่น ทำไมคุณเข้าข้างตัวเองจัง” อารียาพูดกับรพีพงษ์อย่างไม่พอใจ

รพีพงษ์มองอารียาอย่างอบอุ่น แล้วกล่าว “คุณไม่มีจุดด้อย”

อารียาที่โมโหเมื่อได้ยินคำพูดนี้ของรพีพงษ์แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มหวานทันใด มองรพีพงษ์ด้วยความภูมิใจแล้วกล่าว “เชอะ ปากหวานเชียว”

“คุณนอนอยู่ที่นี่ไปก่อนนะ ผมไปห้องครัวทำอาหารให้คุณกินก่อน” รพีพงษ์ยืนขึ้นจากเตียง แล้วไปที่ห้องครัว

ถึงแม้ตอนนี้รพีพงษ์มีคนดูแลฝีมือดีหลายคน บวกกับชนิสรา พูดได้ว่าสามารถดูแลอารียาได้เป็นอย่างดี แต่รพีพงษ์ก็ยังคงอยากทำอะไรให้อารียากิน หลายวันมานี้รพีพงษ์เป็นคนลงมือทำอาหารเอง และทุกอย่างที่อารียาต้องการ รพีพงษ์ก็จะไปซื้อด้วยตัวเอง ทุกวันเขาจะไปตลาดพร้อมกับชนิสรา ซื้อผักสดกลับมาทำอาหารให้อารียากิน

หลังกจาที่รพีพงษ์ไปห้องครัวแล้ว อารียาหยิบมือถือที่อยู่บนโต๊ะมา ในช่วงอยู่ไฟ รพีพงษ์ให้เธอเล่นมือถือได้แค่ครึ่งชั่วโมงต่อวัน เกินแม้แต่วิเดียวก็ไม่ได้ ทำได้เพียงฉวยโอกาสตอนที่รพีพงษ์ไม่อยู่แล้วเล่นเท่านั้น

เพราะสิ่งเดียวที่เธอต้องทำในทุกๆวันก็คือ นอนอยู่บนเตียง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องเบื่อหน่ายด้วยกันทั้งนั้น จึงมีความอยากเล่นมือถือโดยปริยาย

เธอเพิ่งรีเฟรชเวยป๋อ ได้รับข้อความหนึ่งฉบับ เป็นเพื่อนนักเรียนผู้ชายส่งมา เนื้อหาคือเขาเพิ่งกลับมาจากเรียนต่างประเทศ ไม่ค่อยคุ้นเคยกับในประเทศ รู้มาจากเพื่อนคนอื่นว่าอารียาอยู่เกียวโต ดังนั้นจึงถามอารียาว่าว่างไหม พบกันหน่อย แล้วแนะนำเกียวโตให้เขาฟังด้วย

อารียาไม่สามารถไปพบเขาได้อยู่แล้ว ในช่วงอยู่ไฟ แม้แต่ออกนอกห้องยังไม่ได้เลย

แต่เมื่อนึกถึงตอนเรียนเพื่อนผู้ชายคนนี้ได้ช่วยเธอบ่อยครั้ง ตอนทำวิทยานิพนธ์มีหลายอย่างที่อารียาไม่เข้าใจ ล้วนขอคำแนะนำจากเขาทั้งนั้น

ดังนั้นเธอจึงกำลังคิด ให้รพีพงษ์ต้อนรับ เพราะเกียวโตอยู่ในมือของเขา ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร รพีพงษ์สามารถช่วยแก้ไขได้

ผ่านไปไม่ได้ รพีพงษ์ถือซุปโสมสกัดเข้ามา ส่งให้กับอารียา ให้เธอรีบทาน

อารียาเล่าเรื่องเพื่อนชายคนนั้นให้รพีพงษ์ฟัง ปฏิกิริยาแรกของรพีพงษ์คือ “คุณแอบเล่นมือถืออีกแล้วใช่ไหม”

อารียาแลบลิ้นใส่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “แหม ฉันก็แค่เห็นคนส่งข้อความมา จึงตอบไป ตอนฉันอยู่มหาลัยเพื่อนคนนี้ช่วยฉันไว้มาก ถือว่าเห็นแก่ฉัน ไปพบเขาหน่อย จัดการให้เขาด้วย”

“ผมไปเจอเพื่อนคุณคนนี้ได้ แต่คุณต้องรับปากผม ว่าจะไม่แอบเล่นมือถืออีกแล้ว” รพีพงษ์กล่าว

“รู้แล้วหน่า สามีดีที่สุด รักนะ จุ๊บๆ” อารียายิ้มพลางกล่าว

รพีพงษ์เบื่อหน่าย หลังจากที่ถามเกี่ยวกับเพื่อนคนนั้นของอารียาแล้ว ก็บอกชนิสราให้ทำแทน จากนั้นก็ออกไป

อารียาบอกกับเพื่อนของเธอ ว่าเธอเพิ่งคลอดลูก ไปไม่ได้ ดังนั้นจึงให้รพีพงษ์ไปรับรอง แล้วให้เขาช่วยจัดที่นอนให้

หลังจากที่รพีพงษ์ออกไปแล้วนั้น พบว่าตัวเองยังใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่ ก็ยิ้มออกมา ทำได้เพียงถอดมันแล้วถือไว้ บนผ้ายังมีกลิ่นบางๆของอาหารอยู่

เพื่อนคนนั้นของอารียารออยู่ที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง รพีพงษ์เรียกรถไปที่ร้านอาหารนั้น

ร้านอาหารบลูดรีม ถือว่าเป็นร้านอาหารหรูที่มีชื่อเสียงร้านหนึ่งที่เกียวโต

ในร้านอาหาร โต๊ะๆหนึ่ง มีหยิงชายคู่หนึ่งกำลังนั่งอยู่

ฝ่ายชายสวมชุดสีสันสดใส สง่าผ่าเผย ดูออกว่าเป็นคนที่มีการศึกษาสูง ฝ่ายหญิงสวยงาม ผิวขาวโพน เป็นสาวสวยที่น่ารักคนหนึ่ง

ชายคนนี้เป็นเพื่อนของอารียา ชื่อฑวัต นักเรียนนอกกลับจากอเมริกา และฝ่ายหญิงเป็นคนที่เขาเจอตอนที่เรียนอยู่ ชื่อเดซี่ ตอนนี้ได้ย้ายสำมะโนครัวไปอเมริกาแล้ว แม้จะมีหน้าตาและผิวพรรณของชาวจีน แต่กลับไม่ได้เป็นประชากรของประเทศนี้แล้ว

ขณะนี้ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม หัวข้อที่พูดถึง ก็คืออารียา

“เธอบอกว่าเธอเพิ่งคลอดลูก ดังนั้นจึงให้สามีของเธอมารับรองพวกเรา ชั่งน่าขำจริงๆ ถ้าผมจำไม่ผิดล่ะก็ เธอน่าจะแต่งกับไอ้สวะชั้นดีคนหนึ่ง คิดไม่ออกจริงๆว่าเธอยังมีหน้าให้แฟนมารับรองพวกเราอีก” ฑวัตหัวเราะพลางกล่าว

“เพิ่งคลอด? คุณเคยพูดว่าคนนี้เป็นนางฟ้าของคุณตอนอยู่ที่มหาลัยไม่ใช่หรอ คุณพูดแบบนี้ ในสมองของฉัน จะมีก็แต่ภาพของรุ่นป้าๆนะ” เดซี่บึนปากแล้วกล่าว

“นั่นเป็นแค่อดีต ตอนเรียนผมยกให้เธอเป็นนางฟ้า ไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะช่วยเธอ ในบางครั้งผมก็จะแสดงออกว่าผมมีใจให้เธอ แต่เธอไม่เข้าใจ ไม่เคยตอบรับผมเลย ตอนนี้คิดๆดูแล้ว ตอนนั้นตัวเองขี้ประจบ เธอไม่ชอบผมก็ชั่ง แต่ให้ผมช่วยตลอดเวลา แล้วยังทำเป็นไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอีก ชั่งน่าโมโหจริงๆ”

“ดังนั้นครั้งนี้ที่ผมกลับมา ตั้งใจจะมาเจอเธอ วันนี้ผมกลับมาจากเรียนต่อ แล้วยังทำงานในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เอ็กเซลเลนซ์เน็ตเวิร์คเทคโนโลยี จำกัดอีก อยากแสดงตัวตนของตัวเองให้เธอได้เห็น ว่าตอนนั้นที่เธอไม่สนใจผม ตอนนี้ห่างกันคนล่ะชั้นแล้ว”

“เสียดาย เธอมีลูกแล้ว มาไม่ได้ แต่โอ้อวดต่อหน้าสามีเธอก็ได้ ให้เขากลับไปพูดกับอารียา แบบนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ถือว่าหายเคืองล่ะ”

เดซี่ได้ยินฑวัตพูด ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมา แล้วกล่าว “ชายจีน ฉันไม่ชอบ พวกเขาจะดีไปกว่าชายอเมริกาได้ไงกัน แน่นอน ไม่รวมคุณ อีกไม่นานคุณก็จะเป็นสัญชาติอมเริกาแล้ว สามีสวะของเพื่อนที่คุณพูดถึงนั้น เกรงว่าฉันเห็นแล้วจะขยะแขยงขึ้นมา”

“รอให้เขามาถึง คุณก็พูดประชดเขาก็ได้แล้ว ไม่ต้องให้เกียรติอะไร เหยียบอารียาให้จมดิน ไม่จำเป็นต้องไว้หน้า” ฑวัตยิ้มพลางกล่าว

เขาเพิ่งพูดจบ รพีพงษ์ก็ถือผ้ากันเปื้อนเดินไปยังสองคนนั้น แล้วถาม “คุณคือฑวัต?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท