บทที่672 มองตัวเองสูงไป
“ท่าน…..ท่านประธาน? ไอ้นี่ ไอ้นี่มันเป็นไอ้สวะไม่ใช่หรอ? จะเป็นประธานของHXกรุ๊ปได้ไงกัน?” ฑวัตบ่นคนเดียว ในสมองเต็มไปด้วยความมั่ว
เดซี่ที่อยู่ข้างๆก็ผวา ผ่านไปสักพัก ถึงจะพูดออกมาว่า “ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ไอ้นี่จะเป็นประธานของHXกรุ๊ปได้ไงกัน ฑวัต คุณบอกว่ามันเป็นไอ้สวะไม่ใช่หรอ?”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมอยู่ต่างประเทศมาหลายปี จะรู้สถานการณ์ปัจจุบันได้ไงกัน แล้วก่อนที่ผมจะไป จำได้ว่าอารียาแต่งงานกับไอสวะคนหนึ่ง หรือช่วงสองปีนี้เธอแต่งงานใหม่งั้นหรอ?” ฑวัตสงสัย
ตอนนี้รพีพงษ์มองมาที่ทั้งสอง ยิ้มพลางพูดกับฑวัตว่า “คุณอยากร่วมมือทางการค้ากับทางกรุ๊ปของเรา?”
ฑวัตอับอาย ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร ทำได้เพียงยิ้มแหยๆออกมา แล้วกล่าว “ร……รพีพงษ์ ไม่คาดคิดว่าคุณคือประธานของHXกรุ๊ป บังเอิญจังเลย เอ็กเซลเลนซ์ของเราอยากทำการค้ากับพวกคุณอยู่พอดีเลย เห็นแก่ความเป็นเพื่อน พวกเราคุยกันดีๆดีกว่า”
“เพื่อน? คุณมองตัวเองสูงไปหรือเปล่า หรือคุณได้ลืมคำพูดที่คุณทั้งสองได้พูดกับผมเมื่อกี๊ไปแล้ว?” รพีพงษ์กล่าวอย่างดูแคลน
ฑวัตเหงื่อไหลออกมา ขณะนี้ผู้บริหารทั้งหลายของวงการอินเตอร์เน็ตได้จ้องมองไปที่เขา ถ้าเขาจัดการเรื่องนี้ไม่ดี ต่อจากนี้ไปถ้าเอ็กเซลเลนซ์ต้องการเจริญก้าวหน้าในประเทศล่ะก็ คงต้องปากกัดตีนถีบแล้วล่ะ
“ดูคุณพูดเข้าสิ เมื่อก่อนเป็นแค่ความเข้าใจผิด ตอนที่ผมเรียนที่มหาลัย ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแคลร์ก็ไม่เลวนะ ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของคุณ ผมก็ดีใจแทนเธอด้วย ความเข้าใจผิดที่ผ่านมา ผมจะหาเวลาอธิบายให้คุณฟัง เราอย่าพุดเรื่องนี้ที่นี่อีกเลย” ฑวัตใช้สติปัญญา ขจัดความอับอายอย่างรวดเร็ว
รพีพงษ์บึนปาก จากนั้นก็กล่าวอย่างเป็นทางการว่า “งั้นตอนนี้ผมจะพูดในนามของประธานHXกรุ๊ป HXกรุ๊ปของเรา จะไม่ร่วมมือทางการค้ากับบริษัทที่บูชาต่างชาติ ไม่ให้เกียรติกรรมกร ดังนั้นพวกคุณไม่ต้องเสียเวลาที่นี่อีกต่อไป”
สีหน้าฑวัตเปลี่ยนไป ดูออกว่ารพีพงษ์ไม่มีทางให้เกียรติเขาแล้วแน่นอน
เดซี่ที่อยู่ข้างๆได้บินคำพูดของรพีพงษ์ ก็เกิดอารมณ์โมโหขึ้นมา ไอ้นี่ไม่ให้เกียรติก็ชั่ง ตอนนี้ยังพูดอีกว่าเอ็กเซลเลนซ์ของพวกเขาเป็นบริษัทที่บูชาต่างชาติ ไม่ให้เกียรติกรรมกร
ตอนแรกเธอคิดว่าถ้าไม่สามารถร่วมงานกับHXกรุ๊ปได้นั้น เลือกบริษัทอื่นก็ไม่ต่างกัน ก็แค่ความสามารถต่างๆกันนิดหน่อย แต่ตอนนี้รพีพงษ์พูดถึงบริษัทของเธอแบบนั้นต่อหน้าผู้คนมากมาย นี่มันเป็นการติดทางทำมาหากินกันชัดๆ
เธอที่กำลังเกรี้ยวกราดมองไปยังรพีพงษ์ แล้วถาม “รพีพงษ์ ทำไมแกต้องว่าให้ร้ายบริษัทเราด้วย แม้แกจะเป็นประธานของHXกรุ๊ป แกก็ไม่ควรทำลายบริษัทเราแบบนี้ป้ะ กรุณาอย่าเอาความโกรธแค้นส่วนตัวมาพัวพันกับเรื่องงาน!”
เมือ่ได้ยินคำพูดของเดซี่ รพีพงษ์ก็หัวเราะขึ้นมา แล้วกล่าว “คุณมั่นใจว่าผมว่าให้ร้ายบริษัทคุณ? หรือคำพูดที่คุณพูดก่อนหน้านี้ ลืมง่ายขนาดนั้น?”
“แกกำลังว่าร้ายฉัน ฉันพูดว่าบูชาต่างชาติเมื่อไหร่กัน แกตั้งใจทำร้ายพวกเราต่างหาก!” เดซี่คิดว่าคำพูดที่เธอได้พูดก่อนหน้านี้ คนอื่นในที่นี้ไม่มีทางรู้แน่นอน เพียงแค่เธอบอกว่ารพีพงษ์ว่าร้ายเธอ รพีพงษ์ก็ทำอะไรเธอไมไ่ด้แล้ว
รพีพงษ์จ้องเดซี่ แล้วถาม “งั้นคุณบอกผมหน่อยว่าคุณทำตำแหน่งอะไรในเอ็กเซลเลนซ์?”
“เอ็กเซลเลนซ์เป็นบริษัทที่พ่อฉันสร้างขึ้น อนาคตเอ็กเซลเลนซ์เป็นของฉันทั้งหมด” เดซี่พูดอย่างสะใจ
“นั่นก็หมายความว่าคุณเป็นตัวแทนของเอ็กเซลเลนซ์ใช่ไหม?” รพีพงษ์ถามต่อ
“ใช่ ฉันเป็นตัวแทนของเอ็กเซลเลนซ์ แกถามทำไม?” เดซี่สงสัยขึ้นมา
รพีพงษ์ไม่ถามอะไรเธอต่อ แต่หยิบเครื่องอัดเสียงในชุดออกมา แล้วเขย่าต่อหน้าฑวัตและเดซี่
จากนั้นเขาก็ได้เปิดเสียงของเครื่องอัดเสียงให้ดังที่สุด แล้วเปิดต่อหน้าทุกคน
“ตลก! พวกเราบูชาต่างชาติแล้วไง……” เสียงเกรี้ยวกราดของเดซี่ดังออกมาจากเครื่องอัดเสียง
หลังจากที่เดซี่และฑวัตได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากเครื่องอัดเสียงแล้วนั้น ก็กลอกตาไปมา ไม่คาดคิดเลยจริงๆ ว่ารพีพงษ์จะอัดเสียงไว้
เดซี่จะยื่นมือไปคว้าเครื่องอัดเสียงที่อยู่ในมือรพีพงษ์ รพีพงษ์ชูมือขึ้น แล้วซ่อนไว้
“แกรีบเอามาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ! หยุดเดี๋ยวนี้!” เดซี่ร้อนใจ
“ตอนนี้คุณยังกล้าพูดคำพูดเมื่อก่อนอีกครั้งไหม?” รพีพงษ์จ้องไปที่เธอแล้วถาม
“ฉันพูดอะไร? แกรีบเอามันมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ แกกำลังทำร้ายฉันอยู่ ฉันจะฟ้องหมิ่นประมาทแก คลิปเสียงนี้แกเป็นคนปลอมขึ้นมา!” เดซี่กำลังบ้าคลั่ง เปลี่ยนเป็นหญิงปากร้ายในทันใด
รปภ.ที่อยู่ไม่ไกลเห็นเหตุการณ์ ก็รีบเข้ามาห้ามเดซี่ไว้
ผู้บริหารทั้งหลายที่อยู่ในงานล้วนจ้องไปที่เดซี่ทั้งคู่ ดูสายตาเหยียดหยาม
“ไม่คาดคิดจริงๆว่าบริษัทเอ็กเซลเลนซ์จะเป็นแบบนี้ ไม่เพียงบูชาต่างชาติ แล้วยังไม่ให้เกียรติกรรมกรอีก ถ้าไม่มีกรรมกรพวกนั้น แม้แต่บ้านพวกคุณก็จะไม่มี ไม่รู้จริงๆว่าทำไมพวกคุณชั่งกล้ายโสขนาดนั้น
“ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ เอ็กเซลเลนซ์น่าจะเป็นธุรกิจเงินทุนต่างชาติ ในเมื่อพวกคุณดูถูกพวกเราที่อยู่ในประเทศ แล้วมางานนี้ทำไม ฉันว่าพวกคุณรีบกลับไปดีกว่านะ!”
“บริษัทแบบนี้ อยู่ในประเทศ ก็เป็นเนื้อร้าย ต่อไปถ้าหาคู่ค้า ต้องดูให้ดี อย่าให้บริษัทแบบนี้มาทำให้เดือดร้อนได้
……
ได้ยินผู้บริหารทั้งหลายของธุรกิจอินเตอร์เน็ตติแบบนี้ ฑวัตเต็มไปด้วยความผิดหวัง ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเดินอีกต่อไป ผู้บริหารเหล่านี้ไม่ร่วมการค้ากับพวกเขาแล้ว บริษัทเล็กๆที่เหลือก็ยิ่งไม่มีศักยภาพเข้าไปใหญ่
เดซี่ได้ยินคำพูดของทุกคน ก็เต็มไปด้วยความอาฆาต ไม่นาน ก็ตะคอกไปว่า “พวกแกมันงี่เง่า! ฉันจะไม่มาที่บ้าๆนี่อีกต่อไป ไอ้พวกไร้สมอง ชาตินี้ไม่มีทางเจริญได้หรอก!”
“รปภ. รีบพาสองคนที่สร้างปัญหานี้ออกไปซะ ต่อไปนี้ไม่ว่าจะมีการประชุมใดๆ ไม่อนุญาตให้เอ็กเซลเลนซ์เข้าร่วมโดยเด็ดขาด คิดว่าตัวเองเป็นทุนต่างชาติ สำคัญตัวเองไป” เธียรวิชญ์กล่าว
รปภ.ทั้งสองรีบไล่ฑวัตและเดซี่ไป อย่าไม่รีรอ
ด้านนอกของนิทรรศการ ฑวัตมองไปยังรปภ.ที่ขวางพวกเขาไว้ กระทืบเท้า แล้วใช้มือกดหัวไว้
“หมดกัน หมดสิ้นทุกอย่างแล้วงานนี้!