พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่686 ชาลิสา

บทที่686 ชาลิสา

บทที่686 ชาลิสา

อเมริกา ไชน่าทาวน์

รพีพงษ์กำลังเดินอยู่บนถนน มองไปที่อาคารและป้ายที่คุ้นเคยรอบๆตัว ยกเว้นป้ายภาษาอังกฤษที่เห็นเป็นครั้งคราวและชาวต่างชาติที่เดินบนถนน รพีพงษ์ยังนึกว่าตัวเองนั่งเครื่องบินผิด

จากการพัฒนาของยุคสมัย ทำให้ชาวจีนเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอเมริกามากขึ้นเรื่อยๆ ไชน่าทาวน์ไม่ได้เป็นเพียงถนนเส้นเดียวแล้ว ได้พัฒนาจนกลายเป็นโซนบริเวณโซนหนึ่ง อยู่ที่นี่ สามารถพบเห็นวัฒนธรรมจีนได้ทั่วไป

ในเวลานี้ตกจะกลางคืนแล้ว ไฟป้ายนีออนข้างทางสว่างขึ้นมา ซึ่งแตกต่างจากถนนในตอนกลางคืนในประเทศจีนมาก

รพีพงษ์หยุดอยู่ที่สี่แยก เขาได้ติดต่อกับผู้รับผิดชอบของเทือกเขากิสนาที่อยู่ในอเมริกา ผู้รับผิดชอบคนนี้นัดเขาให้เจอกันที่สถานที่แห่งนี้

ก่อนที่จะมาอเมริกา รพีพงษ์รู้ว่านนทภูได้รวบรวมอำนาจของเทือกเขากิสนาที่อยู่ภายนอกไว้ที่อเมริกา และในเวลานี้อำนาจทั้งหมดเหล่านี้ก็เชื่อฟังการใช้งานของรพีพงษ์

เพียงแค่ดูการเปรียบเทียบอำนาจทางการค้า เทือกเขากิสนาต้องการที่จะทำลายตระกูลนิธิวรสกุล ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ที่นนทภูหวาดกลัวมาโดยตลอด คือปรมาจารย์ที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลนิธิวรสกุล ตอนนี้ในมีอนันยชยอดฝีมือเน่ยจิ้งคนนี้เพิ่มมาอีก

แม้ว่ารพีพงษ์จะจากเน่ยจิ้งขั้นกลางบรรลุถึงเน่ยจิ้งเสร็จสมบูรณ์กลับไม่รู้ความแข็งแกร่งของปรมาจารย์แข็งแกร่งเพียงใด แต่สำหรับความแข็งแกร่งของตัวเองก็ยังมีความมั่นใจอยู่บ้าง

ต่อให้เขาจะสู้ปรมาจารย์ไม่ไหว อยากจะหนีน่าจะมีปัญหาอะไร

รพีพงษ์รับรู้ผ่านเครือข่ายข่าวกรองของเทือกเขากิสนา อาจารย์คนนั้นของอนันยช ในเวลานี้ กำลังบำเพ็ญอยู่ที่ต่างประเทศ ต่อให้เขาฆ่าอนันยชทิ้ง ทำลายตระกูลนิธิวรสกุล ปรมาจารย์คนนี้ก็ไม่สามารถกลับมาแก้แค้นรพีพงษ์ได้ทันที

ยิ่งไปกว่านั้นในมุมมองของรพีพงษ์ ความแค้นของลูกศิษย์ อาจารย์ไม่ควรเข้าไปยุ่ง แน่นอนว่า ถ้าหากอาจารย์คนนี้ของอนันยชจะถือหาง รพีพงษ์ก็ไม่มีอะไรจะพูด

ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ รพีพงษ์ก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ด้านหลัง หันไปมอง เห็นมอเตอร์ไซค์ฮาเล่จอดอยู่ข้างหลังตัวเองหนึ่งคัน

คนคนหนึ่งสวมหมวกกันน็อก สวมเสื้อแจ็กเกตหนังสีดำ และกางเกงหนังสีดำแล้วผู้หญิงเซ็กซี่ก็ลงจากมอเตอร์ไซค์ และยืนอยู่ตรงหน้ารพีพงษ์

หญิงสาวคนนั้นเอื้อมมือไปถอดหมวกกันน็อกออกจากหัวของตัวเอง ผมสีทองก็ร่วงหล่นลงมา รพีพงษ์มองเห็นโฉมหน้าของหล่อนได้ชัดเจน เป็นผู้หญิงสวยที่มีจมูกโด่งและตาโต ลักษณะมีความงดงามแบบผู้หญิงตะวันออก

ผู้หญิงคนนี้ดูไปแล้วเย็นชาเล็กน้อย หล่อนจ้องมองรพีพงษ์ แล้วเอ่ยปากถาม: “นายคือรพีพงษ์เหรอ?”

รพีพงษ์พยักหน้า หญิงคนนั้นวางหมวกกันน็อกลงบนมอเตอร์ไซค์ และพูดว่า: “ฉันเป็นผู้รับผิดของเทือกเขากิสนาในอเมริกา นายสามารถเรียกฉันว่าชาลิสา ตามฉันมาเถอะ”

ด้วยเหตุนี้ ชาลิสาจึงตรงเข้าไปในร้านกาแฟข้างๆ นั่งตำแหน่งข้างหน้าต่าง

รพีพงษ์เดิมตามเข้าไป คิดในใจว่าผู้รับผิดของอเมริกาคนนี้เย็นชาจริงๆ ในระหว่างที่พูด ก็มีความรู้สึกโอหัง แม้ว่าเมื่อกี้นี้หล่อนจะทักทายรพีพงษ์อย่างมีมารยาท แต่ในน้ำเสียงกลับมีคำสั่งผสมอยู่ด้วย

แต่รพีพงษ์ก็ไม่ได้ถือสา อย่างน้อย เย็นชาก็ดีกว่ากระตือรือร้น นึกถึงความรู้สึกตัวเองเผชิญหน้ากับวิไลพรตอนอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เขาก็กลัวไปชั่วขณะ ท้ายที่สุดตราบใดที่เขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เขาก็อาจก่อให้เกิดหายนะได้

หลังจากเข้ามาในร้านกาแฟ รพีพงษ์นั่งอยู่ตรงหน้าชาลิสา และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ตอนแรกฉันคิดว่าคุณจะมีชื่อภาษาอังกฤษ คาดไม่ถึงชื่อของคุณกลับคลาสสิกจริงๆ และไพเราะมาก”

“ฉันเป็นคนประเทศจีน ทำไมต้องตั้งชื่อภาษาอังกฤษด้วยล่ะ”ชาลิสาตอบกลับ

เมื่อได้ยินคำพูดของชาลิสา รพีพงษ์อดไม่ได้ที่จะมองหล่อนดีมีระดับแวบหนึ่ง เมื่อเดซี่เทียบกับหล่อนแล้ว เทียบกันไม่ติดเลย

“ฉันต้องการตำแหน่งของอนันยชและนายใหญ่ของตระกูลนิธิวรสกุล เมื่อฉันฆ่าพวกเขาสองคนแล้ว คุณก็สามารถใช้อำนาจของเทือกเขากิสนาได้ เพื่อยุบสลายตระกูลนิธิวรสกุล”รพีพงษ์ไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระต่อไป และตรงไปเข้าประเด็นเลย

ชาลิสามองไปที่รพีพงษ์เหมือนคนโง่แวบหนึ่ง เอ่ยปากว่า: “นายคิดว่ากำลังจัดการกับพวกตระกูลเล็กที่ไม่มีอิทธิพลในประเทศเหรอ? ต่อให้นายได้ตำแหน่งของอนันยชมา นายคิดคิดว่านายสามารถฆ่าเขาได้เหรอ? ช่วงก่อนฉันได้เข้าใกล้ชิดกับเขามาไม่กี่ครั้ง และได้รู้ว่าเขาบรรลุความแข็งแกร่งถึงเน่ยจิ้งชั้นต้นแล้ว นายคิดว่านายพึ่งพาตัวเอง สามารถเอาชนะเขาได้หรือเปล่า?”

รพีพงษ์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ คาดไม่ถึงผู้รับผิดชอบของเทือกเขากิสนาที่อยู่ในอเมริกา กลับรู้เรื่องของเน่ยจิ้งด้วย ที่สำคัญดูท่าทางแล้วน่าจะรู้มากด้วย

“คุณรู้เรื่องเน่ยจิ้งด้วยเหรอ?”รพีพงษ์เอ่ยถาม

“รู้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ที่สำคัญฉันยังรู้ด้วยว่านายน่าจะเพิ่งก้าวเข้าสู่เน่ยจิ้งพื้นฐาน ไม่งั้นไม่มีทางวิ่งมาถึงอเมริกาเพื่อแก้แค้นอนันยช ฉันเตือนนายก่อนอย่ารีบร้อน เน่ยจิ้งพื้นฐานเทียบกับเน่ยจิ้งชั้นต้นแล้ว ไม่แตกต่างจากเด็กวัยเตาะแตะฝึกเดินกับวัยผู้ใหญ่ นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”ชาลิสาตอบกลับ

รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา ไม่ได้รีบร้อนที่จะอธิบายความแข็งแกร่งของตัวเอง แต่กลับเกิดความสนใจกับชาลิสา

“คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันเพิ่งเข้าสู่เน่ยจิ้งพื้นฐานเหรอ? เกิดฉันแข็งแกร่งกว่าเขาล่ะ?”รพีพงษ์เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

ชาลิสาเบะปาก แล้วพูดว่า: “อย่าคิดว่าแค่เรียนรู้เป็นเน่ยจิ้ง คนที่เพิ่งจะเรียนรู้เน่ยจิ้ง ปกติแล้วเป็นเพราะไม่คุ้นเคยกับวิชาหายใจออก มักจะสลับไปมาระหว่างการหายใจปกติและวิชาหายใจออก หลังจากที่เข้าสู่ระดับเน่ยจิ้งเป็นเวลานาน ถึงจะรักษาวิธีวิชาหายใจออกต่อไปได้ สถานะปัจจุบันของนายคล้ายกับของฉันมาก ฉันก็สามารถมองออกได้เป็นธรรมดา”

สีหน้าของรพีพงษ์อึ้งทึ่งอีกครั้ง เขาไม่คาดคิดว่า สาวสวยที่นั่งอยู่ตรงข้ามตัวเอง จะเป็นยอดฝีมือด้านเน่ยจิ้งด้วย!

ชาลิสาเดาท่าทีของรพีพงษ์ออก บนใบหน้าเผยความดูถูกออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนจะเยาะเย้ยการขาดความรู้ของรพีพงษ์

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจท่าทีของชาลิสา คิดว่าตัวเองประเมินความแข็งแกร่งของเทือกเขากิสนาต่ำไป สามารถทำให้ยอดฝีมือเน่ยจิ้งกลายเป็นผู้รับผิดชอบในบริเวณของตัวเองได้ ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเทือกเขากิสนา เหนือกว่าตระกูลชนชั้นสูงระดับโลกไป

ในเวลาเดียวกันรพีพงษ์คาดเดาได้ว่าความแข็งแกร่งของนนทภูเกรงว่าบรรลุถึงระดับเน่ยจิ้งแล้ว เพียงแต่ยังบรรลุไม่ถึงปรมาจารย์เท่านั้น เนื่องจากสิ่งที่นนทภูหวาดกลัว เป็นเพียงแค่ปรมาจารย์คนนั้นที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลนิธิวรสกุล

“ฉันประเมินต่ำไป โปรดยกโทษให้ด้วย เทือกเขากิสนาสามารถฝึกฝนผู้ชำนาญอย่างคุณมาได้ เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ”รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ฉันไม่ได้รับการฝึกฝนออกมาจากเทือกเขากิสนา นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันรับปากเป็นผู้รับผิดชอบของเทือกเขากิสนาในอเมริกา ก็เพียงแค่รู้สึกว่าเทือกเขากิสนามีกำลังศักยภาพความแข็งแกร่งเท่านั้นเอง ความแข็งแกร่งของฉัน ได้รับการฝึกฝนออกมาจากพ่อของฉัน”

“หื้อ? พ่อของคุณคือ?”รพีพงษ์เริ่มสงสัยอีกครั้ง และรีบเอ่ยปากถาม

“ประธานของสำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพจีน เป็นผู้พิทักษ์ไชน่าทาวน์ ไชน่าทาวน์ทั้งหมด รับรู้ถึงการมีอยู่ของพ่อของฉัน ก็จะให้ความเคารพต่อเขา”น้ำเสียงของชาลิสาแสดงถึงภาคภูมิใจที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้

รพีพงษ์พยักหน้า ครุ่นคิดในใจสักพัก คาดไม่ถึงว่าชาลิสายังมีฐานะเช่นนี้

แบบนี้ดูเหมือนว่า สำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพจีนนี้ไม่ธรรมดา นนทภูต้องรู้ฐานะของชาลิสาอย่างแน่นอน ในสถานการณ์เช่นนี้ให้หล่อนเป็นผู้รับผิดชอบในอเมริกา ก็คงจะต้องพิจารณาบางอย่างมาบ้างแล้ว

“ยังไม่พูดเรื่องที่นายจะเอาชนะอนันยชได้มั้ย ถ้านายรีบร้อนอยากที่จะหาทางแก้แค้นคนของตระกูลนิธิวรสกุล คงจะไม่รู้ว่ามีปรมาจารย์เน่ยจิ้งอยู่ใช่มั้ย?”ชาลิสากลอกตากลอกตาไปมา แล้วถามรพีพงษ์

“ปรมาจารย์เน่ยจิ้ง? นั่นคืออะไรเหรอ?

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท