พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่693 ท่วงท่าที่ไร้ยางอาย

บทที่693 ท่วงท่าที่ไร้ยางอาย

บทที่693 ท่วงท่าที่ไร้ยางอาย

“แก……แกคือยอดฝีมือเน่ยจิ้ง?” กรกริชอดทนกับความเจ็บ แล้วพูดกับรพีพงษ์

รพีพงษ์ก้มหน้าไปมองกรกริช เพราะใส่หน้ากาก ทำให้คนดูอารมณ์ขณะนั้นของเขาไม่ออก ดังนั้นยิ่งทำให้คนรู้สึกเยือกเย็น และยังทำให้คนรู้สึกราวกับว่าเทพมรณะมาบนโลกจริงๆ

“ทำ……ทำไม? ฉันไม่ได้มีแค้นอะไรกับแก ทำไมต้องฆ่าฉัน?” กรกริชกล่าวด้วยความเจ็บปวด

“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกแก สิ่งที่แกต้องรู้ คือชีวิตของแกก็พอแล้ว” รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ

ขณะนี้ด้านล่างเวที ทุกคนล้วนมองอย่างแปลกใจ ล้วนไม่มองคนที่สวมหน้ากากการ์ตูนด้วยความไม่เชื่อ ไม่คาดคิดว่าไม่กี่อึดใจ ทำให้แขนและขาของกรกริชหัก กลายเป็นไอ้สวะในทันใด

เดิมทีคนเหล่านั้นที่เยาะเย้ยรพีพงษ์ตอนนี้กลับรู้สึกแปลกใจ รู้ว่าพวกเขามองพลาดไปแล้ว

ถ้าตอนนี้รพีพงษ์พูดฉายาตัวเองว่าเป็นเทพมรณะอีกล่ะก็ ไม่มีใครขำเขาอีกแน่นอน เพราะความสามารถที่รพีพงษ์แสดงออกมาเมื่อกี๊ แม้ไม่ใช่เทพมรณะ แต่ก็ใกล้เคียงกับเทพมรณะแล้ว

หลังจากที่สนามมวยได้ผ่านความเงียบมาสักพัก ก็มีเสียงดังขึ้นมา ทุกคนเริ่มตะโกนเทพมรณะคำนี้ออกมา

ชายคนนั้นที่ไปอยู่ข้างๆชาลิสาก็ตะลึง นึกถึงเมื่อกี๊ที่ตัวเองได้ประเมินรพีพงษ์ เขารู้สึกอับอาย เขาคิดไม่ถึง ว่ารพีพงษ์จะเก่งกาจได้ขนาดนี่

ตอนนี้ชาลิสาหันไปมองเขา แล้วกล่าว “คุณบอกว่าตัวเองเก่งกาจไม่ใช่หรอ? ขึ้นไปเอาชนะเขาสิ แล้วฉันจะทำตามตกลงของคุณ”

ชายคนนั้นกลัวขึ้นมา แล้วกล่าว “ไม่……ไม่ล่ะ ก่อนหน้านี้ฉันแค่ล้อเล่น ขอโทษจริงๆ ต่อไปฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว”

ชาลิสาดูแคลน แล้วกล่าว “ไอ้สวะ คุณไม่กล้าขึ้น แต่ฉันกล้า”

พูดจบ เธอก็เดิน ขึ้นไปบนเวที ยืนอยู่ด้านหน้าของรพีพงษ์

รพีพงษ์จัดการกรกริชเสร็จ ก็ใช้เท้าเตะเขาลงเวทีไป พลังเมื่อกี๊ของเขา ทำให้กรกริชพิการไปเลยตลอดชีวิต แม้จะมีชีวิตอยู่ สำหรับตระกูลนิธิวรสกุล เป็นภาระให้เท่านั้น

ในขณะที่เขาจะลงจากเวทีนั้น เห็นชาลิสาที่ยืนบนเวที ก็ชะงัก

“คุณทำอะไร?” รพีพงษ์ถาม

“มาท้าทายคุณ อย่าพูดมาก ลงมือ” ชาลิสากล่าว

รพีพงษ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วกล่าว “หยุดโวยวายได้แล้ว รีบลงไป คุณไม่ใช่คู่ต่อกรของผม”

“แล้วไง ฉันอยากรู้ว่าจะยืนหยัดในการต่อสู้กับคุณได้นานขนาดไหน คุณไม่จำเป็นต้องออมมือให้ฉัน” ชาลิสากล่าว

การขึ้นเวทีท้าทายรพีพงษ์ เธอไม่ได้วู่วาม เธออยากรู้ฝีมือของรพีพงษ์มานานแล้ว อยากเห็นคนเก่งในสายตาพ่อของตน ว่าจะแตกต่างกันมากขนาดไหน

ในเมื่อวันนี้มีเวทีประลอง เธอไม่อยากพลาดโอกาสนี้ ตั้งใจประลองกับรพีพงษ์ แม้จะรู้ว่าตัวเองต้องแพ้ เธอก็ไม่รู้สึกแปลกอะไร ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ถือเป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้งเช่นกัน คงไม่เหมือนกรกริช ขึ้นมาก็ถูกรพีพงษ์ทำให้แขนหักขาหัก

รพีพงษ์เห็นชาลิสาไม่ล้อเล่น จึงได้ถามว่า “คุณจะประลองกับผมจริงๆ?”

ชาลิสาพยักหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นก็ส่งสัญญาณเริ่มต้น

รพีพงษ์ยิ้ม และไม่ได้ปฏิเสธ ในเมื่อเธออยากเล่น ก็จะเล่นกับเธอล่ะกัน

เขาก็ส่งสัญญาณเริ่มเช่นกัน แล้วยิ้ม “ลงมือ”

ผู้ชมด้านล่างเวทีเห็นผู้หญิงท้าทายรพีพงษ์ ก็ตะโกนเชียร์ออกมา ตื่นเต้นมากกว่าที่ผ่านมา

ชาลิสาไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งไปที่รพีพงษ์โดยตรง แม้ภายนอกเธอจะดูอ่อนแอ แต่เมื่อลงมือ ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน พลังแข็งแกร่ง ไม่น้อยไปกว่าผู้ชายแต่อย่างใด

รพีพงษ์ใช้กำลังแค่บางส่วนต่อชาลิสา ในเมื่ออีกฝั่งก็คือเน่ยจิ้ง งั้นตนก็จะใช้ฝีมือระดับนั้นต่อกรกับชาลิสา ต่อสู้กับเธอสักนัด ก็ถือว่าจบ

สิ่งที่ชาลิสาเรียนมาทั้งหมด หมัดที่ตระกูลพัฒนพันเดชส่งต่อกันมา มีชื่อว่าหมัดหมีจง

หมัดนี้ในศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีน แม้ไม่ถือว่ามีชื่อเสียง แต่ก็ไม่แพ้หมัดหง แล้วหมัดหมีจงได้ผ่านการดัดแปลงจากโศศุจ ดังนั้นจึงพูดได้ว่าหมัดเป็นระดับสูงหมัดหนึ่ง โศศุจก็ใช้หมัดหมีจงนี้ รักษาตำแหน่งประธานสำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพจีน

หมัดหมีจงนี้มีการผสมผสาน ทำให้อีกฝั่งไม่รู้ถึงข้อดีของมัน ใช้หมัดหมีจงต่อกรกับยอดฝีมือ ถ้าไม่ระวัง ก็อาจถูกผู้ปล่อยหมัดหลอกทางได้ จากนั้นก็ต้องเล่นตามเกมส์ไป

ชาลิสาในฐานะที่เป็นผู้หญิง สามารถใช้หมัดหมีจงได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก เธอใช้เน่ยจิ้ง ต่อกรเป็นร้อยหมัดกับรพีพงษ์ มีหลายครั้งที่ทำให้รพีพงษ์หลงกล

แน่นอน ว่ารพีพงษ์ตั้งใจอ่อนข้อให้เธอ โดยใช้วิธีนี้ ให้เธอรู้จักหมัดหมีจงมากขึ้น

ต่อยไปต่อยมา รพีพงษ์รู้สึกว่าหมัดหมีจงน่าสนใจ ดังนั้นจึงเริ่มเลียนแบบ แม้จะเรียนไม่ถึงแก่นแท้ แต่เมื่อเลียนแบบก็ไม่ยาก

ผ่านไปไม่นาน รพีพงษ์ก็เรียนรู้ที่จะใช้หมัดหลอกล้อชาลิสาได้สำเร็จ ทำให้ชาลิสาเดาทางไม่ถูกว่าเมื่อไหร่รพีพงษ์จะบุกจริงๆ

ชาลิสามองรพีพงษ์อย่างตะลึง เธอเรียนหมัดหมีจง มานานหลายปี โศศุจได้ฝึกฝนเธออย่างเข้มงวดตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเธอถึงเข้าใจหมัดหมีจงได้อย่างวันนี้

แต่รพีพงษ์เพียงประลองกับเธอแค่ไม่กี่ท่า ก็สามารถเข้าถึงหมัดหมีจงได้ นี่มันพิลึกไปหน่อยไหม?

สุดท้ายก็ต้องโมโห ก่อนหน้าที่จะเจอรพีพงษ์ ชาลิสาคิดว่าตัวเองก็ถือเป็นคนที่มีพรสวรรค์เช่นกัน แม้พิชยะ ที่เก่งกาจกว่าเธอ แต่ที่พิชยะมีฝีมืออย่างวันนี้ได้นั้นเขาก็ได้ฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดตั้งแต่เล็กเหมือนกัน

แต่รพีพงษ์ใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งปี จากเน่ยจิ้งฝึกฝนจนเป็นระดับเน่ยจิ้งชั้นต้นได้ แล้วตอนนี้เขาใช้เวลาเพียงสิบกว่านาที ก็เข้าใจหมัดหมีจง เธอจะไม่อิจฉาได้อย่างไรกัน

รพีพงษ์ประลองกับเธอต่อ แล้วเริ่มรู้สึกพอได้แล้ว จึงได้ใช้มือหนึ่งจับชาลิสาไว้ ว่าจะสิ้นสุดการประลองในครั้งนี้

ชาลิสาถูกท่าของรพีพงษ์หลอก มือทั้งสองข้างอยู่ห่างจากหน้าอก ทำให้อกถูกเปิดออก และเป้าหมายของรพีพงษ์ ก็คือตรงนั้น

เพราะคุ้นเคยกับการประลองกับผู้ชาย ดังนั้นรพีพงษ์จึงไม่คิดว่าท่วงท่าตัวเองมีปัญหาอะไร เขาเพียงแค่อยากจับเสื้อตรงอกของชาลิสา เพื่อให้เธอยอมแพ้ เท่านี้ก็สามารถสิ้นสุดการประลองได้แล้ว

แต่เมื่อมือเขาจับไปแล้วนั้น เขาเพิ่งจะนึกได้ถึงความแตกต่างของร่างกายระหว่างหญิงและชาย ไม่ราบ แต่เป็นนูนขึ้นมา

ขณะนี้มือของรพีพงษ์ ได้ยื่นออกไปราวกับจะไปจับอวัยวะส่วนหนึ่งของชาลิสา

ชาลิสาเห็นมือของรพีพงษ์ นึกออกว่าเขาจะจับมายังส่วนไหน ตาลุกวาว ด้วยความแปลกใจ ยืนอยู่กับที่โดยไม่รู้จะทำอย่างไร ด้วยความอายหน้าแดงก่ำ

“ไอ้ลามก คุณคิดจะทำอะไร!” ชาลิสากล่าว

มือของรพีพงษ์ได้โดนเข้ากับส่วนอกของชาลิสาแล้วหยุดลง ตอนนี้ชาลิสาได้หลับตาลง และไม่ได้ห้ามใดๆ

รพีพงษ์ถอนหายใจ ดีที่ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด มิเช่นนั้นมือของเขาก็หยุดไม่ได้

ชาลิสาเห็นตัวเองไม่มีความรู้สึกนั้นที่ตัวเองพึงจะมี ก็รู้สึกแปลกใจ เปิดตาขึ้นมา พบว่ารพีพงษ์ได้หุบมือไปแล้ว

รพีพงษ์อ่ะแห่มสองครั้ง แล้วกล่าว “คุณแพ้แล้ว พวกเราไปกันดีกว่า”

ชาลิสามองรพีพงษ์ด้วยความอึ้ง เห็นท่าทีของเขา ราวกับท่าทางเมื่อกี๊ เขาตั้งใจใช้ออกมาเพื่อท้าทายตนเอง ในตอนนี้เขาทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วยังบอกว่าตนแพ้แล้วอีก หมายความว่าไงกัน?

“รพีพงษ์ แกไอ้สถุลเลวทรามต่ำช้า ไม่คาดคิดว่าแกจะเป็นคนแบบนี้ ใช้ท่าไร้ยางอายกับฉันได้ เลวจริงๆ!”

ชาลิสาหน้าแดงก่ำ หลังจากที่ตะคอกไปที่รพีพงษ์ ก็กระโดดลงเวทีไป รีบเดินไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว

รพีพงษ์เซ็ง ฟ้าดินเป็นพยาน ว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นเพราะเขาประลองกับผู้ชายมาโดยตลอด ไม่เคยต้องนึกถึงเรื่องแบบนี้ จึงได้เกิดเรื่องที่น่าอับอายขึ้นได้

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท