ทที่704 ทำลายตระกูลนิธิวรสกุลวันนี้อย่างแน่นอน
ในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น รพีพงษ์กำลังอ่านหนังสือกลยุทธ์ที่ชาลิสาเอาให้อยู่ ในขณะนี้ชาลิสามาที่ห้องของเขาอีกครั้ง
เหมือนกับเมื่อวัน ชาลิสายังคงสวมใส่กระโปรง แต่ว่าเปลี่ยนเป็นสีส้ม หลังจากที่รพีพงษ์บอกว่าหล่อนแต่งตัวแบบนี้ดูดีขึ้น หล่อนก็รู้สึกใส่แบบนี้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
“คนของเราเพิ่งส่งข่าวกลับมา บอกว่ากาจพลนำพาคนระดับสูงของตระกูลนิธิวรสกุลรีบมุ่งหน้าไปที่เชิงเขาในชานเมือง พวกเขายังนำรถขุดไม่กี่คัน ไปด้วย ไม่รู้ว่าต้องการจะทำอะไร”ชาลิสาไม่ได้พูดจาไร้สาระ เอ่ยปากไปตรงๆเลย
รพีพงษ์เลิกคิ้ว เก็บหนังสือกลยุทธ์ และเอ่ยปากว่า: “นำรถขุดไปด้วยเหรอ? หรือว่าพวกเขาต้องการเลือกสถานที่เป็นหลุมฝังศพให้กับอนันยชเหรอ?”
“น่าจะไม่ใช่ หลายปีมานี้พ่อของนายให้ฉันตรวจสอบสถานที่ฝังศพของปู่นายหลังที่เสียชีวิตตอนนั้น สถานที่นี้มีเพียงแต่คนของตระกูลนิธิวรสกุลที่รู้ อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉันก็แน่ใจขอบเขตโดยประมาณแล้วว่า อยู่ในพื้นที่ในเขตชานเมืองที่พวกเขาจะไปในวันนี้”ชาลิสาเอ่ยปาก
ดวงตาของรพีพงษ์หนักแน่นทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นมา เอ่ยปากว่า: “ตอนนี้พวกเราไป ไปดูว่าพวกเขาต้องการจะทำอะไร”
ชาลิสาพยักหน้า และรีบไปจัดเตรียมรถทันที
……
ชานเมือง ที่เชิงภูเขา
ในเวลานี้กลุ่มคนจากตระกูลนิธิวรสกุลกำลังล้อมด้านข้างห้องน้ำสาธารณะอยู่ รถขุดหลายคันจอดอยู่ข้างๆ ทำให้หลายคนที่มาเข้าห้องน้ำตกใจจนวิ่งหนี
กาจพลยืนอยู่แถวหน้า และหรี่ตาจ้องไปที่ตำแหน่งหนึ่งของด้านข้างห้องน้ำสาธารณะ และพูดอย่างเย็นชาว่า: “วรรณิต แกคงจะคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่แกตายไปแล้ว ฉันจะฝังแกไว้ข้างโถส้วมไปใช่มั้ย?”
“แกในฐานะเศษสวะ ควรอยู่กับอุจจาระปัสสาวะไปตลอดชีวิต คนอย่างแก ไม่สมควรถูกฝังไว้ในสถานที่ดีๆ”
“ตอนนี้หลานชายของฉันถูกหลานชายของแกฆ่า แกคงจะพอใจอย่างแน่นอน แต่กูไม่พอใจ! นั่นคือหลานชายที่น่าภาคภูมิใจของฉัน เขากำลังจะพาตระกูลนิธิวรสกุลเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าขึ้น ใครจะคิดว่ามันจะไม่มีแบบนี้แล้วล่ะ”
“ดังนั้นวันนี้ฉันมาที่นี่ เพื่อมาระบายความโกรธกับแก ต่อให้แกตายไปแล้ว ฉันก็ไม่มีทางปล่อยให้แกได้สงบสุข!”
“ถ้าหากเดาไม่ผิด หลานชายของแกวันนี้ก็จะมาด้วยเช่นกัน ถ้าเขารู้ว่าแกถูกฉันฝังไว้ในสถานที่แบบนี้ ไม่รู้ว่าบนใบหน้าของเขาจะแสดงท่าทางแบบไหน”
“อนันยชเคยบอกกับฉัน ยอดฝีมือเน่ยจิ้ง ไม่สามารถลงมือกับคนธรรมดาได้ตามใจชอบ ดังนั้นต่อให้เขามา ก็ทำได้เพียงมองดูฉันระบายความโกรธกับแก ฉันจะทำให้เขารู้ ฆ่าอนันยชหลานชายของฉันแล้ว เขาก็ไม่มีทางอยู่ดีแน่นอน!”
……
คนรอบข้างฟังคำพูดที่กาจพลพึมพำกับตัวเอง ในใจก็รู้ดีทั้งนั้น เขาได้รับการกระตุ้นจากการตายของอนันยชจริงๆ จนกลายเป็นประสาท
“รพีพงษ์ก็สมควรตายจริงๆ แค่ลูกหลานคนหนึ่งของเศษสวะ กลับกล้าที่จะกลับมาล้างแค้นตระกูลนิธิวรสกุลของพวกเรา น่ารังเกียจจริงๆ”
“พูดถูก สูดอากาศหมอกควันพิษอยู่ในประเทศดีๆไม่ชอบ กลับจะมาหาเรื่องพวกเรา สมองมีปัญหาจริงๆ”
……
ในเวลานี้รถคันหนึ่งจอดอยู่ไม่ไกล รพีพงษ์และชาลิสาทั้งสองคนลงมาจากบนรถ มองไปยังกลุ่มของตระกูลนิธิวรสกุล
“ทำไมพวกเขารวมตัวกันที่หน้าห้องน้ำสาธารณะ?”ชาลิสาถามด้วยความสงสัย
รพีพงษ์ส่งเสียงเย็นชา คาดเดาบางอย่างในใจได้แล้ว และพูดอย่างเย็นชา: “ไปกันเถอะ ไปดูกัน”
ในเวลานี้ไม่ไกลจากรถคันนี้ของรพีพงษ์พวกเขา มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้น เป็นหัวหน้าทีมของปรมาจารย์เน่ยจิ้ง ศรัณย์
ศรัณย์จ้องมองไปที่ตระกูลนิธิวรสกุลแวบหนึ่ง ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยปากว่า: “หวังว่าวันนี้คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
รพีพงษ์และชาลิสาทั้งสองคนเดินมาถึงด้านหลังผู้คนของตระกูลนิธิวรสกุล รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม: “สุนัขแก่กาจพล แกพาคนมาทำอะไรที่นี่ อยากจะขุดหลุมฝังศพให้ตัวเองเหรอ?”
เมื่อทุกคนได้ยินเสียงของรพีพงษ์ ต่างก็หันหน้าไปมอง พวกเขาทั้งหมดหลีกทาง ให้กาจพลเห็นสถานการณ์ด้านหลัง
กาจพลหันหลังกลับมา หลังจากเห็นคนที่มาคือรพีพงษ์ ความโกรธในใจก็ผุดขึ้นมาทันที หลายวันมานี้ เขาจดจำใบหน้าของรพีพงษ์ไว้ในใจได้อย่างแม่นยำ แม้แต่ในความฝันก็อยากจะฆ่ารพีพงษ์
“ไอ้เด็กเปรต ฉันรู้ว่าแกจะต้องมา แกนี่มันก็แค่ลูกหลานของเศษสวะคนหนึ่ง กล้าที่จะฆ่าทายาทสืบสกุลของตระกูลนิธิวรสกุล ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ แกก็คือกบฏ จะต้องถูกลงโทษทรมาน!”กาจพลพูดอย่างเย็นชา
“หรือว่าแกไม่คิดบ้างเหรอว่าอนันยชความสามารถไม่เท่าคนอื่นเอง? ฉันเป็นลูกหลานของเศษสวะเหรอ? งั้นตามความหมายของแก ก็คือแม้แต่เศษสวะแกก็สู้ไม่ได้เหรอ?”
ทันใดนั้นสีหน้าของกาจพลเปลี่ยนไปเป็นดูไม่ดีมาก เอ่ยปากว่า: “ปากคอเราะราย ไม่ว่าแกจะเล่นลิ้นอย่างไร แกก็เป็นคนที่ทรยศตระกูลนิธิวรสกุลคนหนึ่ง ลูกหลานที่น่าอับอายของตระกูลนิธิวรสกุล สิ่งนี้ แกเปลี่ยนแปลงไม่ได้!”
“หึหึ หลังจากรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลนิธิวรสกุลของพวกแก ฉันก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมคุณปู่ถึงต้องเปลี่ยนนามสกุล ครอบครัวตระกูลขยะอย่างพวกแก! เปลี่ยนเป็นฉัน ฉันก็ไม่อยู่!”รพีพงษ์ตอบโต้
ใบหน้าของกาจพลฟูแดงก่ำด้วยความโกรธ เขาคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะด่าสู้คนรุ่นหลานไม่ได้ ก็ตื่นตระหนกในใจ
“มารผจญ ไม่ว่าแกจะพูดอะไร ก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าปู่ของแกเป็นความอัปยศของตระกูลนิธิวรสกุลไม่ได้ จะบอกแกให้ ปู่ของแกถูกชั้นฝังไว้ที่ข้างห้องน้ำสาธารณะนั้น ฉันต้องการให้เขาอยู่กับอุจจาระปัสสาวะไปตลอด ไอ้ตระกูลที่เรียกว่าตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกแก ก็อย่าคิดที่จะได้เจริญรุ่งเรืองไปตลอด!”ใบหน้าของกาจพลแสดงความมีชัยออกมา
หลังที่รพีพงษ์ได้ยินสิ่งที่พูดเขา ก็กำหมัดแน่นทันที และในแววตาก็แสดงความอาฆาตออกมา แม้ว่าจะเดาออกว่ากาจพลจะพาคนของตระกูลนิธิวรสกุลมาที่นี่ทำไม แต่หลังจากที่ฟังเขาพูดออกมาจากปากเอง ในใจรพีพงษ์ยังคงเกิดความโกรธที่ยากจะปกปิดได้
“ฉันจะฆ่าแก!”รพีพงษ์กัดฟันแน่น
กาจพลมีที่พึ่งพิงจึงไม่กลัว เอ่ยปากว่า: “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้กฎของยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางของพวกแก แกไม่สามารถลงมือกับคนธรรมดาอย่างฉันได้ ถ้าแกฆ่าฉัน ตัวแกเองก็เอาตัวไม่รอด ไอ้เด็กเปรต ความแข็งแกร่งของแก กลับกลายเป็นจองจำตัวแกไว้เอง ดูสิว่าแกยังจะภูมิใจแค่ไหน!”
ชาลิสาก็รีบดึงแขนรพีพงษ์ไว้ แล้วพูดว่า: “รพีพงษ์ นายอย่าหุนหันพลันแล่น ฉันจะให้คนของกิสนามา เรื่องพวกนี้ ปล่อยให้พวกเขามาจัดการเถอะ”
หน้าอกของรพีพงษ์ขึ้นๆลงๆอย่างฉับพลัน เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อน สุนัขแก่อย่างกาจพล กลับฝั่งปู่ของเขาไว้ข้างโถส้วม ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ทนเก็บความโกรธนี้ไว้ไม่อยู่
“น่าขำจริงๆ ต่อให้แกแข็งแกร่งแล้วยังไงล่ะ แกกล้าฆ่าพวกเราที่อยู่ที่นี่แม้แต่คนเดียวมั้ย ไอ้เด็กน้อย รีบไสหัวไปซะ ยังไงแกก็ไม่มีทางสู้ตระกูลนิธิวรสกุลได้!”ผู้คนของตระกูลนิธิวรสกุลก็หัวเราะเยาะเย้ยรพีพงษ์ขึ้นมา
เมื่อฟังคำเยาะเย้ยของคนในตระกูลนิธิวรสกุล รพีพงษ์อยากจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดเพื่อระบายความโกรธ
“รพีพงษ์ จะบอกแกให้ ฉันไม่เพียงแต่ฝังปู่ของแกไว้ที่นี่ แต่วันนี้ฉันจะขุดเขาออกมา เฆี่ยนตีด้วยแส้อย่างรุนแรง แล้วแกจะทำอะไรกับฉันได้ล่ะ? หลานชายของฉันตายในเงื้อมมือของแก นี่ก็คือผลกรรมของพวกแก!”กาจพลตะโกนใส่รพีพงษ์อีกครั้ง
ความอดทนของรพีพงษ์ถึงจุดสูงสุดแล้ว กาจพลเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจจริงๆ แม้ว่าจะมีกฎในหมู่ยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลาง แต่วันนี้เขาก็ต้องฆ่าคนเหล่านี้ของตระกูลนิธิวรสกุล
ความแค้นบางอย่าง ไม่ใช่ว่าจะสามารถผูกมัดด้วยกฎได้
“วันนี้ต่อให้ราชาสวรรค์จะมา ฉันก็จะต้องฆ่าแก พวกแกคนในตระกูลนิธิวรสกุลที่อยู่ในเหตุการณ์ ฉันไม่ปล่อยไว้สักคน วันนี้ ฉันจะทำลายตระกูลนิธิวรสกุล!”รพีพงษ์ตะโกนด้วยความโกรธ