พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่704 ทำลายตระกูลนิธิวรสกุลวันนี้อย่างแน่นอน

บทที่704 ทำลายตระกูลนิธิวรสกุลวันนี้อย่างแน่นอน

ทที่704 ทำลายตระกูลนิธิวรสกุลวันนี้อย่างแน่นอน

ในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น รพีพงษ์กำลังอ่านหนังสือกลยุทธ์ที่ชาลิสาเอาให้อยู่ ในขณะนี้ชาลิสามาที่ห้องของเขาอีกครั้ง

เหมือนกับเมื่อวัน ชาลิสายังคงสวมใส่กระโปรง แต่ว่าเปลี่ยนเป็นสีส้ม หลังจากที่รพีพงษ์บอกว่าหล่อนแต่งตัวแบบนี้ดูดีขึ้น หล่อนก็รู้สึกใส่แบบนี้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร

“คนของเราเพิ่งส่งข่าวกลับมา บอกว่ากาจพลนำพาคนระดับสูงของตระกูลนิธิวรสกุลรีบมุ่งหน้าไปที่เชิงเขาในชานเมือง พวกเขายังนำรถขุดไม่กี่คัน ไปด้วย ไม่รู้ว่าต้องการจะทำอะไร”ชาลิสาไม่ได้พูดจาไร้สาระ เอ่ยปากไปตรงๆเลย

รพีพงษ์เลิกคิ้ว เก็บหนังสือกลยุทธ์ และเอ่ยปากว่า: “นำรถขุดไปด้วยเหรอ? หรือว่าพวกเขาต้องการเลือกสถานที่เป็นหลุมฝังศพให้กับอนันยชเหรอ?”

“น่าจะไม่ใช่ หลายปีมานี้พ่อของนายให้ฉันตรวจสอบสถานที่ฝังศพของปู่นายหลังที่เสียชีวิตตอนนั้น สถานที่นี้มีเพียงแต่คนของตระกูลนิธิวรสกุลที่รู้ อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉันก็แน่ใจขอบเขตโดยประมาณแล้วว่า อยู่ในพื้นที่ในเขตชานเมืองที่พวกเขาจะไปในวันนี้”ชาลิสาเอ่ยปาก

ดวงตาของรพีพงษ์หนักแน่นทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นมา เอ่ยปากว่า: “ตอนนี้พวกเราไป ไปดูว่าพวกเขาต้องการจะทำอะไร”

ชาลิสาพยักหน้า และรีบไปจัดเตรียมรถทันที

……

ชานเมือง ที่เชิงภูเขา

ในเวลานี้กลุ่มคนจากตระกูลนิธิวรสกุลกำลังล้อมด้านข้างห้องน้ำสาธารณะอยู่ รถขุดหลายคันจอดอยู่ข้างๆ ทำให้หลายคนที่มาเข้าห้องน้ำตกใจจนวิ่งหนี

กาจพลยืนอยู่แถวหน้า และหรี่ตาจ้องไปที่ตำแหน่งหนึ่งของด้านข้างห้องน้ำสาธารณะ และพูดอย่างเย็นชาว่า: “วรรณิต แกคงจะคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่แกตายไปแล้ว ฉันจะฝังแกไว้ข้างโถส้วมไปใช่มั้ย?”

“แกในฐานะเศษสวะ ควรอยู่กับอุจจาระปัสสาวะไปตลอดชีวิต คนอย่างแก ไม่สมควรถูกฝังไว้ในสถานที่ดีๆ”

“ตอนนี้หลานชายของฉันถูกหลานชายของแกฆ่า แกคงจะพอใจอย่างแน่นอน แต่กูไม่พอใจ! นั่นคือหลานชายที่น่าภาคภูมิใจของฉัน เขากำลังจะพาตระกูลนิธิวรสกุลเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าขึ้น ใครจะคิดว่ามันจะไม่มีแบบนี้แล้วล่ะ”

“ดังนั้นวันนี้ฉันมาที่นี่ เพื่อมาระบายความโกรธกับแก ต่อให้แกตายไปแล้ว ฉันก็ไม่มีทางปล่อยให้แกได้สงบสุข!”

“ถ้าหากเดาไม่ผิด หลานชายของแกวันนี้ก็จะมาด้วยเช่นกัน ถ้าเขารู้ว่าแกถูกฉันฝังไว้ในสถานที่แบบนี้ ไม่รู้ว่าบนใบหน้าของเขาจะแสดงท่าทางแบบไหน”

“อนันยชเคยบอกกับฉัน ยอดฝีมือเน่ยจิ้ง ไม่สามารถลงมือกับคนธรรมดาได้ตามใจชอบ ดังนั้นต่อให้เขามา ก็ทำได้เพียงมองดูฉันระบายความโกรธกับแก ฉันจะทำให้เขารู้ ฆ่าอนันยชหลานชายของฉันแล้ว เขาก็ไม่มีทางอยู่ดีแน่นอน!”

……

คนรอบข้างฟังคำพูดที่กาจพลพึมพำกับตัวเอง ในใจก็รู้ดีทั้งนั้น เขาได้รับการกระตุ้นจากการตายของอนันยชจริงๆ จนกลายเป็นประสาท

“รพีพงษ์ก็สมควรตายจริงๆ แค่ลูกหลานคนหนึ่งของเศษสวะ กลับกล้าที่จะกลับมาล้างแค้นตระกูลนิธิวรสกุลของพวกเรา น่ารังเกียจจริงๆ”

“พูดถูก สูดอากาศหมอกควันพิษอยู่ในประเทศดีๆไม่ชอบ กลับจะมาหาเรื่องพวกเรา สมองมีปัญหาจริงๆ”

……

ในเวลานี้รถคันหนึ่งจอดอยู่ไม่ไกล รพีพงษ์และชาลิสาทั้งสองคนลงมาจากบนรถ มองไปยังกลุ่มของตระกูลนิธิวรสกุล

“ทำไมพวกเขารวมตัวกันที่หน้าห้องน้ำสาธารณะ?”ชาลิสาถามด้วยความสงสัย

รพีพงษ์ส่งเสียงเย็นชา คาดเดาบางอย่างในใจได้แล้ว และพูดอย่างเย็นชา: “ไปกันเถอะ ไปดูกัน”

ในเวลานี้ไม่ไกลจากรถคันนี้ของรพีพงษ์พวกเขา มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้น เป็นหัวหน้าทีมของปรมาจารย์เน่ยจิ้ง ศรัณย์

ศรัณย์จ้องมองไปที่ตระกูลนิธิวรสกุลแวบหนึ่ง ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยปากว่า: “หวังว่าวันนี้คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

รพีพงษ์และชาลิสาทั้งสองคนเดินมาถึงด้านหลังผู้คนของตระกูลนิธิวรสกุล รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม: “สุนัขแก่กาจพล แกพาคนมาทำอะไรที่นี่ อยากจะขุดหลุมฝังศพให้ตัวเองเหรอ?”

เมื่อทุกคนได้ยินเสียงของรพีพงษ์ ต่างก็หันหน้าไปมอง พวกเขาทั้งหมดหลีกทาง ให้กาจพลเห็นสถานการณ์ด้านหลัง

กาจพลหันหลังกลับมา หลังจากเห็นคนที่มาคือรพีพงษ์ ความโกรธในใจก็ผุดขึ้นมาทันที หลายวันมานี้ เขาจดจำใบหน้าของรพีพงษ์ไว้ในใจได้อย่างแม่นยำ แม้แต่ในความฝันก็อยากจะฆ่ารพีพงษ์

“ไอ้เด็กเปรต ฉันรู้ว่าแกจะต้องมา แกนี่มันก็แค่ลูกหลานของเศษสวะคนหนึ่ง กล้าที่จะฆ่าทายาทสืบสกุลของตระกูลนิธิวรสกุล ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ แกก็คือกบฏ จะต้องถูกลงโทษทรมาน!”กาจพลพูดอย่างเย็นชา

“หรือว่าแกไม่คิดบ้างเหรอว่าอนันยชความสามารถไม่เท่าคนอื่นเอง? ฉันเป็นลูกหลานของเศษสวะเหรอ? งั้นตามความหมายของแก ก็คือแม้แต่เศษสวะแกก็สู้ไม่ได้เหรอ?”

ทันใดนั้นสีหน้าของกาจพลเปลี่ยนไปเป็นดูไม่ดีมาก เอ่ยปากว่า: “ปากคอเราะราย ไม่ว่าแกจะเล่นลิ้นอย่างไร แกก็เป็นคนที่ทรยศตระกูลนิธิวรสกุลคนหนึ่ง ลูกหลานที่น่าอับอายของตระกูลนิธิวรสกุล สิ่งนี้ แกเปลี่ยนแปลงไม่ได้!”

“หึหึ หลังจากรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลนิธิวรสกุลของพวกแก ฉันก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมคุณปู่ถึงต้องเปลี่ยนนามสกุล ครอบครัวตระกูลขยะอย่างพวกแก! เปลี่ยนเป็นฉัน ฉันก็ไม่อยู่!”รพีพงษ์ตอบโต้

ใบหน้าของกาจพลฟูแดงก่ำด้วยความโกรธ เขาคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะด่าสู้คนรุ่นหลานไม่ได้ ก็ตื่นตระหนกในใจ

“มารผจญ ไม่ว่าแกจะพูดอะไร ก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าปู่ของแกเป็นความอัปยศของตระกูลนิธิวรสกุลไม่ได้ จะบอกแกให้ ปู่ของแกถูกชั้นฝังไว้ที่ข้างห้องน้ำสาธารณะนั้น ฉันต้องการให้เขาอยู่กับอุจจาระปัสสาวะไปตลอด ไอ้ตระกูลที่เรียกว่าตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกแก ก็อย่าคิดที่จะได้เจริญรุ่งเรืองไปตลอด!”ใบหน้าของกาจพลแสดงความมีชัยออกมา

หลังที่รพีพงษ์ได้ยินสิ่งที่พูดเขา ก็กำหมัดแน่นทันที และในแววตาก็แสดงความอาฆาตออกมา แม้ว่าจะเดาออกว่ากาจพลจะพาคนของตระกูลนิธิวรสกุลมาที่นี่ทำไม แต่หลังจากที่ฟังเขาพูดออกมาจากปากเอง ในใจรพีพงษ์ยังคงเกิดความโกรธที่ยากจะปกปิดได้

“ฉันจะฆ่าแก!”รพีพงษ์กัดฟันแน่น

กาจพลมีที่พึ่งพิงจึงไม่กลัว เอ่ยปากว่า: “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้กฎของยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางของพวกแก แกไม่สามารถลงมือกับคนธรรมดาอย่างฉันได้ ถ้าแกฆ่าฉัน ตัวแกเองก็เอาตัวไม่รอด ไอ้เด็กเปรต ความแข็งแกร่งของแก กลับกลายเป็นจองจำตัวแกไว้เอง ดูสิว่าแกยังจะภูมิใจแค่ไหน!”

ชาลิสาก็รีบดึงแขนรพีพงษ์ไว้ แล้วพูดว่า: “รพีพงษ์ นายอย่าหุนหันพลันแล่น ฉันจะให้คนของกิสนามา เรื่องพวกนี้ ปล่อยให้พวกเขามาจัดการเถอะ”

หน้าอกของรพีพงษ์ขึ้นๆลงๆอย่างฉับพลัน เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อน สุนัขแก่อย่างกาจพล กลับฝั่งปู่ของเขาไว้ข้างโถส้วม ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ทนเก็บความโกรธนี้ไว้ไม่อยู่

“น่าขำจริงๆ ต่อให้แกแข็งแกร่งแล้วยังไงล่ะ แกกล้าฆ่าพวกเราที่อยู่ที่นี่แม้แต่คนเดียวมั้ย ไอ้เด็กน้อย รีบไสหัวไปซะ ยังไงแกก็ไม่มีทางสู้ตระกูลนิธิวรสกุลได้!”ผู้คนของตระกูลนิธิวรสกุลก็หัวเราะเยาะเย้ยรพีพงษ์ขึ้นมา

เมื่อฟังคำเยาะเย้ยของคนในตระกูลนิธิวรสกุล รพีพงษ์อยากจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดเพื่อระบายความโกรธ

“รพีพงษ์ จะบอกแกให้ ฉันไม่เพียงแต่ฝังปู่ของแกไว้ที่นี่ แต่วันนี้ฉันจะขุดเขาออกมา เฆี่ยนตีด้วยแส้อย่างรุนแรง แล้วแกจะทำอะไรกับฉันได้ล่ะ? หลานชายของฉันตายในเงื้อมมือของแก นี่ก็คือผลกรรมของพวกแก!”กาจพลตะโกนใส่รพีพงษ์อีกครั้ง

ความอดทนของรพีพงษ์ถึงจุดสูงสุดแล้ว กาจพลเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจจริงๆ แม้ว่าจะมีกฎในหมู่ยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลาง แต่วันนี้เขาก็ต้องฆ่าคนเหล่านี้ของตระกูลนิธิวรสกุล

ความแค้นบางอย่าง ไม่ใช่ว่าจะสามารถผูกมัดด้วยกฎได้

“วันนี้ต่อให้ราชาสวรรค์จะมา ฉันก็จะต้องฆ่าแก พวกแกคนในตระกูลนิธิวรสกุลที่อยู่ในเหตุการณ์ ฉันไม่ปล่อยไว้สักคน วันนี้ ฉันจะทำลายตระกูลนิธิวรสกุล!”รพีพงษ์ตะโกนด้วยความโกรธ

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท