พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่707 คุกที่ห้า

บทที่707 คุกที่ห้า

บทที่707 คุกที่ห้า

ศรัณย์พวกเขาทั้งเจ็ดคนเดินเข้ามาในห้องนั่งรับแขก ผลบุญเดิมตามหลังศรัณย์ จ้องไปที่รพีพงษ์ที่อยู่ในห้องรับแขกอย่างหนักแน่นจริงจัง ในครั้งนี้ เขาตกใจกับความแข็งแกร่งของรพีพงษ์อีกครั้ง

ศรัณย์ผู้ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดในทีมปรมาจารย์เน่ยจิ้งของไชน่าทาวน์ในอเมริกา กลับถูกรพีพงษ์ทำให้ได้รับบาดเจ็บกลับมา ที่สำคัญยังตัดสินเรื่องของรพีพงษ์ ถึงขั้นที่ให้สมาชิกทั้งหมดของทีมปรมาจารย์เน่ยจิ้งออกปฏิบัติการ

สิ่งนี้ทำให้เขาที่ตอนนั้นยังแอบดีใจในใจตรงหน้ารพีพงษ์เกิดร่องรอยแห่งความหวาดกลัว คิดในใจว่ายังดีที่รพีพงษ์ไม่ใช่คนบ้า ไม่อย่างนั้นคืนนั้นเขาก็คงจะถูกฆ่าตายไปแล้ว

“ประธานโศศุจ พวกเรากำลังปฏิบัติภารกิจ หากล่วงเกิน โปรดอภัยให้ด้วย”ศรัณย์พูดกับโศศุจ

โศศุจยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน แล้วพูดว่า: “หัวหน้าศรันย์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่สมาชิกของทีมปรมาจารย์เน่ยจิ้งพวกคุณออกปฏิบัติการกันทุกคน คือเมื่อสิบปีก่อน ในที่ของผมน่าจะไม่มีเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นจนทำให้พวกคุณให้ความสำคัญได้ขนาดนี้”

สายตาของศรัณย์ตกอยู่ตัวของรพีพงษ์ แล้วพูดว่า: “จริงๆแล้วตอนนี้ผมค่อนข้างกังวล ต่อให้สมาชิกของพวกเราออกปฏิบัติการกันทุกคน จะสามารถควบคุมเขาได้หรือเปล่าเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้เลย”

โศศุจมองไปตามสายตาของศรัณย์ เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ก็ตกใจทันที พึมพำว่า: “สิ่ง…..สิ่งที่คาดเดาไม่ได้ รพีพงษ์…….”

“พ่อ บ่ายวันนี้ คนในตระกูลนิธิวรสกุลต้องการขุดเอากระดูกของคุณปู่รพีพงษ์ออกมา รพีพงษ์หุนหันพลันแล่นไปชั่ววูบ ก็ทำให้คนของตระกูลนิธิวรสกุลทั้งหมด…..”ชาลิสาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้โศศุจฟัง

โศศุจสูดลมหายใจเย็น คาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะลงมือกับคนในตระกูลนิธิวรสกุล ที่สำคัญ“ทั้งหมด”ของชาลิสา ทำให้เขารู้สึกตกใจอย่างฉับพลัน

“รพีพงษ์ นายเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่งที่ฉันเคยเห็นมาในชีวิต ยอดเยี่ยมที่สุด แม้แต่ลูกศิษย์ของปรมาจารย์ ก็ตายในเงื้อมมือของนาย ความสามารถของนาย เกรงว่าจะไม่มีใครเทียบได้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน”ศรัณย์เอ่ยปากพูดกับรพีพงษ์

“อย่างไรก็ตามนายไม่ควรฆ่าคนธรรมดาไปมากมายขนาดนั้น ถ้าหากวันนี้นายใช้วิธีการอื่น ฉันก็จะไม่สอบสวนอะไร การต่อสู้ในตระกูลเป็นเรื่องปกติ แต่นายเลือกวิธีที่โง่ที่สุด ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องลงมือกับนาย”

“บางทีพวกเราเจ็ดคนผนึกพลังกัน ก็ไม่มีทางห้ามนายหลบหนีไม่ได้ แต่ว่าเราได้รายงานเรื่องนี้ไปยังสำนักงานใหญ่แล้ว หากวันนี้นายขัดขืน ถึงเวลาคนที่จะมาจับตัวนาย ก็จะเป็นปรมาจารย์”

ศรัณย์อธิบายสถานการณ์ให้รพีพงษ์ชัดเจนแล้ว ในแววตาก็แสดงร่องรอยแห่งความเสียดาย

วิกรานต์ที่อยู่ด้านข้างก็ทอดถอนใจ หัวหน้าคนนี้ของพวกเขา ไม่ใช่คนประเภทที่จะยอมรับว่าใครเป็นคนที่ยอดเยี่ยมได้ง่ายๆ

ตอนนี้เขากลับคิดว่าสมาชิกเจ็ดคนของทีมปรมาจารย์เน่ยจิ้งผนึกกำลังกันแล้ว เน่ยจิ้งขั้นกลางสองคนรวมกับเน่ยจิ้งชั้นต้นห้าคน กลับไม่สามารถหยุดชายหนุ่มที่อายุเพียงยี่สิบกว่าได้

นี่เป็นการประเมินสูงสุดที่ศรัณย์มอบให้ผู้คนในชีวิตนี้

รพีพงษ์เลิกคิ้ว ตอนนี้เขาก็ยั่วโทสะของปรมาจารย์ไปคนหนึ่งแล้ว ถ้าหากตกเป็นเป้าเพ่งเล็งของปรมาจารย์อีกคน ต่อให้เขาจะเป็นคนที่เก่งเหนือมนุษย์ ชีวิตนี้ก็คงจะอยู่ไม่สุข

“พวกคุณอย่าเพิ่งรีบร้อน ตอนนี้ฉันไม่หนี พวกคุณบอกเรื่องหลังจากที่จับตัวฉันได้แล้วก่อนดีกว่า จะลงโทษฉันแบบไหน”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม

“ฉันจะส่งมอบนายให้กับคุกที่ห้า”ศรัณย์เอ่ยปาก

“ไม่มีแล้วเหรอ?”รพีพงษ์รู้สึกสงสัยเล็กน้อย

“ใช่แล้ว ส่งมอบตัวนายให้คุกที่ห้า นี่คือการตัดสินใจของเราที่จะลงโทษนาย”ศรัณย์เอ่ยปาก

รพีพงษ์จ้องมองไปที่สมาชิกเจ็ดคนของทีมปรมาจารย์เน่ยจิ้งแวบหนึ่ง พบว่าพวกเขาใช้สายตาที่เห็นอกเห็นใจจ้องมองตัวเอง ซึ่งทำให้เขาสงสัยว่าคุกที่ห้านี้เป็นสถานที่แบบไหน

“เป็นเพียงแค่คุก ฉันยังคิดว่าจะมีการลงโทษที่ร้ายแรงสักอีก”รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไอ้น้อง อย่าคิดว่าคุกที่ห้าเป็นเพียงคุกธรรมดา โดยปกติแล้ว พวกเราชอบเรียกมันว่านรกที่ห้า”วิกรานต์เอ่ยปาก

ศรัณย์พยักหน้า แล้วพูดว่า: “ถูกแล้ว นรกที่ห้า มีไว้เพื่อกักขังทุกคนที่ทำผิดร้ายแรงนอกประเทศจีน และยอดฝีมือเน่ยจิ้งที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง”

“การถูกคุมขังในคุกที่ห้าได้ นายสามารถถือเป็นการรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของนายได้ แต่ถ้านายเข้าไปในนั้นแล้ว สิบคนสามารถรอดมาได้เก้าคน ก็ถือได้ว่าดีมากแล้ว”

“ฉันยังไม่เคยไปคุกที่ห้า ดังนั้นไม่ค่อยรู้ว่าสถานการณ์ข้างในเป็นแบบไหน แต่ว่ากันว่ามันอยู่ในสภาพป่าเถื่อนที่ผู้แข็งแกร่งที่สุดถึงจะอยู่รอดได้ เนื่องจากความขาดแคลนอาหาร ทุกคนที่เข้าไปก็ไม่ธรรมดา ความแข็งแกร่งอ่อนแอลงไปเล็กน้อย อยู่รอดไม่ถึงวันแรกด้วยซ้ำ”

“แต่ว่ากันว่าความตั้งใจเดิมของการจัดตั้งคุกที่ห้า ก็เพื่อให้คนที่มีความสามารถโดดเด่นอย่างพวกนาย และคนที่แข็งแกร่งเผด็จการมีโอกาสกลับตัวกลับใจ เท่าที่ฉันรู้ สาระสำคัญของคุกแห่งนี้ ในความเป็นจริงองค์กรปรมาจารย์เน่ยจิ้งไม่ต้องการใช้แรงมากมายในการฆ่าคนเหล่านี้ที่กระทำความผิด ต้องการฆ่าพวกเขา ก็ต้องชดใช้มากมาย ดังนั้นขังพวกเขาไว้ด้วยกัน ปล่อยให้พวกเขาฆ่ากันเอง บริโภคภายใน”

เมื่อได้ยินคำอธิบายของศรัณย์ รพีพงษ์พอจะเข้าใจว่าคุกที่ห้านี้เป็นสถานที่แบบไหน

บอกว่าที่นั่นเป็นนรก เนื่องจากเป็นสถานที่รวมตัวของยอดฝีมือและคนมีความสามารถ เพียงแต่ยอดฝีมือและคนมีความสามารถเหล่านี้ได้ทำผิดพลาดในสิ่งที่แก้ไขไม่ได้

“งั้นพวกคุณตั้งใจจะขังฉันไว้นานแค่ไหน? คงจะไม่ใช่ตลอดชีวิตนะ?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม

“จะพูดแบบนี้ก็ได้ ทุกคนที่ถูกขังเข้าไปในคุกที่ห้า จะไม่มีระยะเวลากันทั้งนั้น เข้าไปแล้ว อยากออกมาแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย”ศรัณย์เอ่ยปาก “แต่ในคุกที่ห้ามีกฎอยู่ข้อหนึ่ง ผู้ที่กระทำผิดทั้งหมดในคุกที่ห้า มีโอกาสได้รับการโหวตหนึ่งครั้ง เมื่อมีคนได้รับความยินยอมจากคนมากกว่าครึ่งหนึ่งของคุก คนคนนี้สามารถออกจากคุกที่ห้าได้”

“ความจริงแล้วมีหรือไม่มีมันก็ไม่ต่างกัน สามารถเข้าไปที่คุกที่ห้าได้ ใครบ้างที่ไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้กล้าหาญที่เก่งกาจ จะยอมปล่อยให้คนอื่นออกไปได้อย่างไร อย่าว่าแต่คะแนนโหวตจากคนครึ่งหนึ่งเลย อยู่ข้างใน ได้รับคะแนนโหวตเศษหนึ่งส่วนสิบของผู้คนแทบจะไม่มีเลย กฎนี้มีมาโดยตลอด แต่หลายปีที่ผ่านมา ไม่มีใครออกมาจากคุกที่ห้าได้”วิกรานต์พูดเสริมต่อ

เมื่อโศศุจและชาลิสาทั้งสองฟังที่พวกเขาเล่าเรื่องราวของคุกที่ห้าจบ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้น

เข้าไปในสถานที่แบบนั้น กับถูกตัดสินประหารชีวิต แทบจะไม่มีอะไรที่แตกต่างกันเลย

ต่อให้รพีพงษ์จะจะแข็งแกร่งมาก พอที่จะอยู่รอดในนั้นได้ งั้นก็จะเปลี่ยนจากโทษประหารเป็นจำคุกตลอดชีวิต

รพีพงษ์ครุ่นคิด ดูเหมือนว่าจะพิจารณาข้อดีข้อเสียระหว่างการยอมเชื่อฟังถูกจับแต่โดยดีกับในขณะเดียวกันก็ตกเป็นเป้าเพ่งเล็งของปรมาจารย์สองคน

“นายสามารถเลือกที่จะขัดขืน หรือแม้กระทั่งหลบหนี เพียงแต่ว่า ถึงเวลา นายก็มีเพียงความตายทางเดียว เมื่อปรมาจารย์ออกปฏิบัติการ ตอนที่เขาจับตัวนายได้ นั่นคือวันตายของนาย”

“รพีพงษ์ ลงมือเถอะ”

ศรัณย์พวกเขาทั้งเจ็ดคนได้ก่อตัวขึ้นมาทันที ทุกคนเต็มไปด้วยความจริงจัง ไม่มีความเกียจคร้านเพียงเพราะรพีพงษ์ตัวคนเดียวแม้แต่น้อย

รพีพงษ์จ้องมองพวกทั้งหลายแวบหนึ่ง จากนั้นโบกมือ แล้วพูดว่า: “ไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดนั้น ฉันไปกับพวกคุณก็ได้แล้ว”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท