พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่710 หนีตอนนี้ยังทัน

บทที่710 หนีตอนนี้ยังทัน

บทที่710 หนีตอนนี้ยังทัน

ที่ปลายอุโมงค์ ชายสามคนที่มีขนาดต่างกันยืนอยู่ด้วยกัน ทุกคนเหลือบมองไปที่อุโมงค์ ดูเหมือนจะคาดหวังอะไรบางอย่าง

ทั้งสามคนนี้ดูเหมือนจะไม่แตกต่างจากคนภายนอกมากนัก แต่ว่าถ้าหากสัมผัสดูอย่างละเอียด ก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงความกระหายเลือดบนตัวทั้งสามคนได้ นี่คือลมปราณที่สะสมได้จากการเดินบนคมมีดตลอดทั้งปี

และแม้ว่าทั้งสามคนจะยืนอยู่ด้วยกัน ยังคงมีเตรียมการป้องกันระหว่างกัน ราวกับว่าสามารถลงมือฆ่าคนรอบตัวได้ทุกเมื่อ

ทั้งสามคนมีความแข็งแกร่งของเน่ยจิ้งชั้นต้น อยู่ในโลกภายนอก แต่ละคนสามารถเพียงที่จะเป็นยอดฝีมือได้ แต่อยู่ในคุกที่ห้า พวกเขาถือได้ว่าเป็นระดับที่ต่ำสุดของที่นี่เท่านั้น

เนื่องจากในคุกที่ห้าจะสามารถพบเจอกับยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางได้ตลอดเวลา ดังนั้นเน่ยจิ้งชั้นต้นอยู่ข้างใน มีชีวิตอย่างกับเดินอยู่บนขอบหน้าผา ความแข็งแกร่งและสติปัญญาไม่พร้อมใช้ โดยทั่วไปจะมีชีวิตรอดไม่ถึงสามวัน

สามารถที่จะมีชีวิตอยู่รอดในคุกที่ห้าได้ และยอดฝีมือเน่ยจิ้งที่สามารถอยู่รอดได้ไม่ตายมานานหลายปี ทุกคนเป็นคนที่ฉลาดทันคน และเมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือเน่ยจิ้ง ก็มีหนทางที่รักษาชีวิตไว้ได้

คุกที่ห้าไม่มีความเชื่อใจ เพื่อน ไม่คำว่าช่วยเหลือ อยู่ข้างในนี้ มีเพียงผลประโยชน์และความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพื่อความอยู่รอด ผู้คนในนี้สามารถทำได้ทุกอย่าง

ดังนั้นจึงไม่มีใครที่จะเชื่อในบุคคลที่สองนอกจากตัวเอง

อย่างไรก็ตามบางคนมีโอกาสรอดชีวิตที่ดีกว่า จะสร้างพันธมิตรกับผู้อื่นในช่วงเวลาสั้นๆ ในหมู่คนส่วนใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งเน่ยจิ้งชั้นต้น เมื่อเร็วๆนี้ คุกที่ห้าเกิดการเล่นพวกเล่นพรรคมากมาย

แน่นอนว่า โดยเกือบครึ่งหนึ่งของพวกพันธมิตร ไม่กี่วันก็เป็นเพราะขัดหูขัดตากันเอง ก็เริ่มฆ่ากันเองขึ้นมา

ทั้งสามคนเฝ้าที่ทางเข้าอุโมงค์บังเอิญผ่านมาที่นี่ และได้ยินเสียงประตูเหล็กเปิดออก รู้ว่ามีผู้มาใหม่เข้ามา

สิ่งที่พวกเขาชอบมากที่สุดในที่นี้ ก็คือการมาของผู้มาใหม่ เพราะคุกที่ห้าจะให้คนที่เข้ามานำสิ่งของมาได้ด้วย มีคนไม่น้อยเมื่อตอนที่เข้ามาก็จะนำของมามากมาย เพียงแค่ต้องฆ่าผู้มาใหม่ สิ่งของที่นำเข้ามาก็จะตกเป็นของพวกเขา

สภาพแวดล้อมที่ไม่ดีและอาหารที่จำกัด ทำให้คนเหล่านี้แม้แต่ของว่างถุงเล็กๆน้อยๆก็สามารถถือเป็นสมบัติได้ และหากมีคนนำบุหรี่เข้ามา ก็จะถึงขั้นที่สามารถดึงดูดยอดฝีมือเน่ยจิ้งให้ออกโรงได้

“พวกแกว่าบนตัวของผู้ชายที่เข้ามาคนนี้จะมีของดีอะไรบ้าง ฉันไม่ได้พบเจอกับผู้มาใหม่นานแล้ว แม้จะพบเจอ ก็ถูกคนอื่นแย่งไป ครั้งนี้ฉันโชคดีจริงๆ ที่บังเอิญผ่านมาพอดี ก็พบเจอกับผู้มาใหม่คนหนึ่งที่เข้ามา”ชายร่างเตี้ยเอ่ยปาก

“เมื่อเขาออกมาจากอุโมงค์ ฆ่าเขาแล้ว ก็รู้แล้วล่ะ”ชายที่มีรอยแผลเป็นที่น่ากลัวบนใบหน้าเอ่ยปาก

“บอกไว้ก่อนเลย ครั้งนี้แย่งข้าวของได้ ต้องแบ่งเท่าๆกัน ถ้าพวกแกสองคนมีความคิดอย่างอื่น ก็อย่าหาว่าดาบคู่ของฉันไม่เกรงใจล่ะ”คนสุดท้ายที่สะพายดาบยาวสองเล่มไว้บนหลัง เป็นคนที่มีพลังรัศมีที่แข็งแกร่งที่สุดในสามคน

ในเวลานี้ในป่าไม่ไกลจากที่นี่ มีต้นไม้ต้นหนึ่งที่ด้านข้างมีรอยนูน รอยนูนนี้มีดวงตาสองข้าง กำลังจ้องมองดูคนทั้งสามที่ยืนอยู่หน้าอุโมงค์

“ให้ทั้งสามคนนี้ทดสอบระดับของผู้มาใหม่ก่อน แล้วถึงตอนนั้นฉันก็ค่อยรอเก็บผลประโยชน์ กูนี่แม่งโคตรฉลาดจริงๆเลย!”

“เชี่ย เกือบจะหัวเราะส่งเสียงออกมาแล้ว ใจเย็นๆ เวลานี้อย่าได้เปิดเผยออกมา”

เมื่อรพีพงษ์เดินออกมาจากอุโมงค์ มองเห็นคนสามคนกำลังยืนอยู่ที่ทางเข้าอุโมงค์พอดี ดูเหมือนว่ากำลังรอตัวเองอยู่ ถึงนิ่งไปชั่วขณะ ยังคิดว่าคนในคุกที่ห้าตั้งใจมาต้อนรับตัวเอง

แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกว่าความคิดของตัวเองเป็นเรื่องเหลวไหลเล็กน้อย จากการประเมินของศรัณย์และคนอื่นๆที่มีต่อคุกที่ห้า คนเหล่านี้มาแย่งข้าวของของตัวเองถึงจะสมเหตุสมผลมากกว่า

เมื่อทั้งสามคนเห็นว่ารพีพงษ์นิ่งไปชั่วขณะ พวกเขาต่างก็คาดไม่ถึง คนที่เข้ามาจะเป็นเพียงแค่เด็กที่อายุเพียงยี่สิบกว่าๆ

“ฉันยังคิดว่าคนที่เข้ามาจะเป็นคนแบบไหน คาดไม่ถึงว่าจะเป็นคนที่มุทะลุ คุกที่ห้านี้ยิ่งอยู่ยิ่งไม่มีระดับ จริงๆเลยคนอะไรก็ปล่อยเข้ามาได้”ชายร่างเตี้ยเอ่ยปากพูด

“แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ แค่เด็กอายุยี่สิบกว่าๆคนหนึ่ง ฉันคนเดียวก็จัดการได้แล้ว ฆ่าเขาซะ ข้าวของของเขา ก็จะตกเป็นของพวกเรา!”ชายที่สะพายดาบสองเล่มเอาดาบทั้งสองเล่มลงมาจากบนตัวของตัวเอง

คนที่มีรอยแผลเป็นน่าเกลียดบนใบหน้าก็แสดงท่าทีดูถูกเล็กน้อย และพูดอย่างเย็นชาว่า: “หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว รีบลงมือเถอะ เกรงว่าเดี๋ยวจะเจอกับคนอื่นๆ”

รพีพงษ์จ้องมองพวกเขาทั้งสามคน และพูดว่า: “เอาจริงๆ พวกแกหนีตอนนี้ยังทัน ถ้าหากพวกแกลงมือกับฉัน ก็ไม่มีโอกาสแล้ว”

ทั้งสามคนหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ และไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเขา

“เป็นคนมุทะลุจริงๆด้วย เด็กน้อย บางทีอยู่ข้างนอกนายอาจได้รับการยกย่องว่าเป็นคนมีความสามารถ ดังนั้นนายเลยคิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง แต่ที่นี่คือคุกที่ห้า ความสามารถแค่นั้นของนาย อยู่ที่นี่ยังไม่เพียงพอเป็นที่น่าสนใจเลย นายก็อย่าวิ่งมาอวดดีที่นี่เลย”คนตัวเตี้ยที่สุดพูด

“งั้นเหรอ? งั้นพวกแกก็มาลองดูเถอะ”รพีพงษ์พูดเบาๆ

“หึ จะทำให้นายได้ลิ้มลองรสชาติความยิ่งใหญ่ของปู่!”

ชายร่างเตี้ยที่สุดพุ่งตรงไปหารพีพงษ์ ด้วยความเร็วที่รวดเร็ว ที่ไม่ค่อยได้เห็นในเน่ยจิ้งชั้นต้น

รพีพงษ์หรี่ตา รู้สึกถึงพลังอานุภาพบนตัวของคนคนนี้ กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปาก

จัดคนเหล่าให้อยู่ในระดับยอดฝีมือ ถือได้ว่าเป็นอันดับต้นๆอย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายพวกเขามีเพียงแค่เน่ยจิ้งชั้นต้น ไม่ว่าจะมีฝีมือมากแค่ไหนก็ตาม ไม่สามารถชดเชยความแตกต่างในแวดวงนี้ได้

แต่พวกเขาจะคิดได้อย่างไร รพีพงษ์ที่อายุเพียงแค่ยี่สิบกว่าๆ ความแข็งแกร่งบรรลุถึงเน่ยจิ้งขั้นกลางแล้ว

หลังจากชายที่เตี้ยที่สุดรีบพุ่งไปที่รพีพงษ์ ก็ชกหมัดตรงไปที่ใบหน้าของรพีพงษ์

รพีพงษ์ยกมือจับข้อมือของชายคนนั้น จากนั้นยกเท้าขึ้น และเตะที่ท้องของชายคนนั้น

ตามด้วยอีกรอบอย่างดุเดือด และกระแทกเขาลงกับพื้นอย่างรุนแรง

บนใบหน้าของชายคนนั้นปรากฏความสยดสยอง คาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะแข็งแกร่งขนาดนี้

“แกไม่ควรลุยมาเพียงคนเดียว”รพีพงษ์เอ่ยปาก

ชายคนนั้นอ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่รพีพงษ์ไม่ให้โอกาสเขา และเหยียบไปที่ลำคอของชายคนนั้น คร่าชีวิตของเขา

ข้อต่างๆกฎระเบียบที่โกรพให้รพีพงษ์ ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า หากมีโอกาสที่จะฆ่าศัตรู จะต้องไม่เมตตา ไม่อย่างนั้นตัวเองก็จะโชคร้าย

“เน่ยจิ้งขั้นกลาง!”คนที่เหลืออีกสองคนตระหนักว่าครั้งนี้พวกเขามองพลาดไป คนคนนี้อายุน้อย แต่ไม่ใช่คนที่พวกเขาควรจะมีปัญหาด้วยได้

ทั้งสองตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว และหันหลังก็จะหนี

แต่ในเวลานี้รพีพงษ์ไล่จับตัวได้แล้ว

ในเมื่อเป็นพรรคพวกกัน งั้นก็ไปเจอพญายมด้วยกัน ก็ดีจะได้มีเพื่อนร่วมทาง

ชายที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าที่เตรียมรอเก็บประโยชน์มองดูทั้งสามคนตายในเงื้อมมือของรพีพงษ์ ในใจเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เขารู้ว่าถ้าหากตัวเองถูกค้นพบ คงจะไม่พ้นมีชะตากรรมเดียวกันกับทั้งสามคนนี้อย่างแน่นอน

แต่ยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางสามารถแยกแยะตำแหน่งของบุคคลได้จากลมหายใจ เขาหลบซ่อนอยู่ที่นี่ ก็ไม่ได้ปลอดภัย

“เชี่ยยย ทำไมถึงเป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางได้ หนีก่อนดีกว่า!”

ชายคนนั้นลุกขึ้นมาจากดินโดยตรง อยากใช้โอกาสตอนที่รพีพงษ์ยังไม่รู้ตัว รีบออกไปทันที

แต่เขาวิ่งไม่ถึงสองก้าว ในหูของตัวเองก็ได้ยินเสียงที่ทำให้ขนเขาลุกซู่

“ดูความครึกครื้นจบแล้วก็อยากหนี ไม่ค่อยเหมาะสมมั้ง?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท