พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่714 ผลผลิต

บทที่714 ผลผลิต

บทที่714 ผลผลิต

สองเดือนต่อมา

บนเนินเขาที่รพีพงษ์อยู่ แสดงแดดของยามเช้าส่องมาที่นี่ และเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วปลุกความมีชีวิตชีวาของสถานที่แห่งนี้ จะเห็นได้ว่า เดิมทีเนินเขาที่รกร้าง ได้กลายเป็นที่พื้นที่เขียวชอุ่ม และไร่มันฝรั่งที่เป็นระเบียบได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เถาวัลย์ของมันฝรั่งปกคลุมไปทั่วเนินเขาเกือบหนึ่งในสาม

อย่างไรก็ตามกระท่อมไม้เดิมที่มีอยู่เพียงหลังเดียว ในตอนนี้ได้กลายเป็นมากกว่าสิบหลัง กระท่อมไม้หลายหลังได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน และดูเหมือนจะมีสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป

ไออ้วนเป็นคนแรกที่เดินออกจากกระท่อมไม้ เขาสัมผัสได้ถึงแสงแดดยามเช้าตรู่ และบิดเอวขี้เกียจ คนทั้งคนสบายใจและพึงพอใจมาก

เขาอยู่ในคุกที่ห้านี้มาไม่กี่ปี มีเพียงสองเดือนที่ผ่านมาเท่านั้นที่มีความสุขที่สุด เมื่อรพีพงษ์อยู่ เขาไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเองเลย และไม่จำเป็นต้องอกสั่นขวัญแขวนเช่นเดียวกันกับที่ผ่านมา สิ่งที่เขาต้องทำ ทำตามความต้องการของรพีพงษ์ ปลูกมันฝรั่งให้ดี

หลังจากสองเดือนของการพัฒนา จำนวนคนบนเนินเขา มีมากถึงสิบแปดคน คนเหล่านี้ทั้งหมดหลังจากได้ยินว่ารพีพงษ์เป็นครองตำแหน่งราชา ก็เลยมาท้าทาย แต่ในที่สุดก็ถูกรพีพงษ์จัดการจนเชื่อฟังว่านอนสอนง่าย

แน่นอนว่า จำนวนคนที่มาหาเรื่องจริงๆนั้น มีมากกว่าคนที่เหลืออยู่บนภูเขาถึงสองเท่า มีคนครึ่งหนึ่งปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรพีพงษ์ ทั้งหมดก็ถูกฆ่าตายในที่สุด

สิ่งเดียวที่ทำให้รพีพงษ์รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ก็คือคนที่เขาเอาชนะได้ ล้วนเป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้งชั้นต้น และไม่มีคนไหนที่เป็นเน่ยจิ้งขั้นกลาง

ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมามียอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางมาหาเรื่องทั้งหมดสามคนด้วยกัน แม้ว่าสุดท้ายทั้งหมดจะพ่ายแพ้ให้กับรพีพงษ์ แต่ในท้ายที่สุดวิธีการของรพีพงษ์ก็กำจัดเน่ยจิ้งของพวกเขาไม่ได้ รวมทั้งการความยากในการรับมือกับยอดฝีมือเน่ยจิ้ง ในที่สุดก็ทำให้พวกเขาหนีไปได้

หนึ่งเดือนที่แล้ว เนินเขาของรพีพงษ์มีชื่อว่าเขาอารี ชื่อนี้เป็นรพีพงษ์เลือกเองเพื่อแสดงความคิดถึงที่มีต่ออารียา ในเดือนถัดมา ชื่อเสียงของเขาอารี ได้แผ่แพร่ออกไปทั่วทั้งคุกที่ห้า

ตอนแรกทุกคนรู้สึกว่าคนที่เป็นครองตำแหน่งราชา เขาสมองคงจะมีปัญหาแน่ๆ เห็นได้ชัดเจนว่ารนหาที่ตาย กล้าที่จะให้คนอื่นรู้ตำแหน่งของตัวเองอย่างโจ่งแจ้ง

หลังจากที่รพีพงษ์เอาชนะยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางได้คนแรก ทุกคนก็ตระหนักว่า เหตุผลที่รพีพงษ์กล้าพูดอย่างโจ่งแจ้ง เป็นเพราะมีความมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง

หลังจากนั้นเขาก็เอาชนะยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางได้สองครั้งติดต่อกัน และมันทำให้คุกที่ห้าทั้งหมดสั่นคลอน ตอนนี้ ชื่อเสียงของเขาอารีถือได้ว่าโด่งดังไปทั่ว ไม่มีใครกล้าดูถูกคนในเขาอารี พวกเขาต่างก็รู้ดี ที่นี่มียอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่พักอยู่ ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถมีเรื่องได้ด้วย

วันนี้ไออ้วนดูตื่นเต้นมากกว่าปกติ เพราะตามคำพูดของรพีพงษ์ วันนี้เป็นวันที่มันฝรั่งโตเต็มที่ และงานของเขาในวันนี้ คือการตรวจสอบผลลัพธ์ของความพยายามในสองเดือนนี้

เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนคนบนภูเขา ไออ้วนจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากผู้เพาะปลูกมันฝรั่งไปเป็นหัวหน้าทีมผลิต ในช่วงเวลานี้เขามีหน้าที่เพียงแค่สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองทำไร่ทำสวน และสร้างบ้าน ตัวเองไม่ต้องลงมือทำ เรียกได้ว่าสบายมาก

และรพีพงษ์เพื่อที่จะให้ไออ้วนจัดการคนเหล่านี้ได้ดีขึ้น ได้สอนวิธีการกำจัดเน่ยจิ้งของคนอื่นให้กับไออ้วนภายในเวลาอันสั้น เพราะวิธีการนี้สามารถคงอยู่ได้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง และเมื่อผ่านไปก็จะไม่มีผล เพื่อป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้หลบหนี เมื่อผ่านไปเป็นระยะหนึ่งก็จำเป็นต้อง“ปรับใหม่”ทุกครั้ง

รพีพงษ์ขี้เกียจที่จะลำบาก ดังนั้นจึงให้ไออ้วนดูแลเรื่องนี้โดยตรง ตลอดช่วงเวลาของการอยู่ร่วมกัน รพีพงษ์ค้นพบว่าไออ้วนยังคงเป็นคนที่เชื่อถือได้ และเป็นคนที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ที่หาได้ยากในคุกที่ห้า ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าไออ้วนจะทำเรื่องอะไรที่เป็นการทรยศ

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเขาจะทรยศ แต่ก็ไม่มีผลกระทบใหญ่ต่อรพีพงษ์

ไออ้วนกลับรู้สึกซาบซึ้งเป็นเพราะรพีพงษ์เต็มใจที่จะสอนวิธีการที่ทรงพลังเช่นนี้ให้กับเขา แอบสาบานในใจว่า เขาจะต้องพยายามทำภารกิจที่รพีพงษ์มอบให้เขาสำเร็จให้ได้ ความคาดหวังของรพีพงษ์จะต้องไม่ผิดหวัง

“ตื่นแล้ว ไม่ต้องนอนแล้ว พระอาทิตย์ขึ้นมาแล้ว!”ไออ้วนตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง

ไม่นาน ทุกคนในบ้านก็เดินออกไป

แม้ว่าคนเหล่านี้จะถูกกำจัดเน่ยจิ้งแล้ว ยังถูกปฏิบัติต่ออย่างแรงงาน ในใจต่างก็คับแค้นเป็นอย่างมาก แต่ในช่วงเวลานี้ที่พวกเขาอยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องวิตกกังวล ที่สำคัญรพีพงษ์ไม่ได้แย่งอาหารของพวกเขา สิ่งนี้ทำให้พวกเขาค่อยๆยอมรับความจริงนี้

อย่างน้อยที่สุด การเพาะปลูกที่นี่ เมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่เอาอยากฆ่าตัวเองทุกวัน มันก็สะดวกสบายมากกว่า

ไม่นาน ไออ้วนก็พาทุกคนไปที่ทุ่งมันฝรั่ง และเริ่มขุดมันฝรั่ง

ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะเป็นมันฝรั่งที่พวกเขาปลูกออกมาเอง ที่สำคัญหลังจากที่มีมันฝรั่ง พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะอดอยากอีกต่อไป

ในเวลานี้ในอาคารใหญ่คุก ในห้องตรวจตรา

มีคนหลายสิบคนยืนอยู่ที่นี่แล้ว จ้องมองที่หน้าจอ ในแววตามีความตื่นเต้นเล็กน้อย

ในตอนนี้บนหน้าจอ กำลังเป็นฉากที่ไออ้วนนำกลุ่มคนขุดมันฝรั่ง

“คาดไม่ถึงจริงๆ พวกผู้ชายนี้จะประสบความสำเร็จในการปลูกมันฝรั่งพวกนี้จริงๆ ฉันเฝ้าดูมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว ตอนนี้กลับยังรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย”โกรพกล่าวด้วยรอยยิ้ม

รพีพงษ์ใช้ชีวิตรอดอยู่ในคุกที่ห้าสองเดือนได้อย่างสบาย ทำให้โกรพเอาชนะเดิมพันชายชราทั้งสองอย่างดุเดือด

“ปลูกมันฝรั่งมันไม่ใช่เรื่องสนุก ประเด็นสำคัญคือคุกที่ห้าของเรา พวกคนที่อยู่ด้านนอกเป็นคนมีอำนาจที่ควบคุมสถานการณ์ได้ ตอนนี้กลับมาเริ่มปลูกมันฝรั่ง นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องน่าสนใจมาก”

“ฮ่าๆ ฉันคิดว่าฉันคงจะเป็นเพราะเบื่อการทำงานมากเกินไป ดังนั้นเลยรู้สึกว่ามันฝรั่งที่พวกเขาปลูกน่าสนใจ”

“เพียงแค่พวกเขายังไม่เผชิญกับคนที่โหดเหี้ยมจริงๆ รอเมื่อคนโหดเหี้ยมมาหาถึงที่ วันดีๆของพวกเขาก็จะสิ้นสุดลงแล้ว”ในเวลานี้เสียงแผ่วเบาดังขึ้น

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีตอบโต้ และดูเหมือนจะยอมรับความคิดเห็นของบุคคลนี้

……

เมื่อรพีพงษ์ออกมาจากกระท่อมไม้ มองเห็นไออ้วนกำลังนำคนกลุ่มหนึ่งขุดมันฝรั่งจนเหงื่อท่วมตัว มันฝรั่งสดใหม่กองใหญ่กองอยู่ที่พื้น บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้ม

“ลูกพี่ ดูมันฝรั่งที่เราปลูกออกมาด้วยตัวเอง ผลมันใหญ่มาก ตอนนี้เราก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่พอกินแล้ว!”เมื่อไออ้วนเห็นรพีพงษ์ออกมา ตะโกนใส่เขาด้วยรอยยิ้ม

รพีพงษ์เพียงแค่ยิ้มแล้วพยักหน้า จากนั้นหยิบม้านั่งไม้ออกมา นั่งที่หน้าประตูกระท่อมไม้ และหยิบหนังสือกลยุทธ์ศิลปะการต่อสู้ออกมา

เขาไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้ว ได้ศึกษาค้นคว้าวิธีการที่สอนผู้คนให้ฝึกความแข็งแกร่งขั้นพื้นฐานที่บรรยายไว้ในหนังสือกลยุทธ์

หลังจากการค้นคว้ามานานกว่าสองเดือน รพีพงษ์ได้ค้นพบคุณสมบัติพิเศษของหนังสือกลยุทธ์เล่มนี้ ซึ่งนี่น่าจะเป็นทฤษฎีศิลปะการต่อสู้ที่แตกต่างจากเน่ยจิ้งอย่างสิ้นเชิง

ในนั้นมีกลเม็ดเล็กๆน้อยๆที่เรียบง่ายและใช้งานได้จริง ยังมีท่วงท่าบางอย่างที่ดูเหมือนจะทรงพลังกว่า และการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของ“กลยุทธ์”ที่ชัดเจน

และกระบวนท่วงท่าทั้งหมดนี้ รพีพงษ์ได้ใช้เน่ยจิ้งแล้ว ผลที่ได้น้อยมาก ซึ่งทำให้รพีพงษ์รู้สึกว่าหนังสือกลยุทธ์เล่มนี้เป็นของปลอม

แต่เมื่อคืนนี้ ในที่สุดก็เข้าใจวิธีการฝึกฝนพลังตามที่บรรยายไว้ในหนังสือกลยุทธ์ ชื่อย่อว่าวรยุทธ

กระบวนท่วงท่าทั้งหมดที่อธิบายไว้ในหนังสือกลยุทธ์เล่มนี้ จำเป็นต้องอาศัยวรยุทธนี้ฝึกหัดแสดงความแข็งแกร่งออกมา ถึงจะแสดงความแข็งแกร่งที่ควรมีออกมา

และคำอธิบายสำหรับวรยุทธในหนังสือกลยุทธ์ก็ยากจะเข้าใจซะเหลือเกิน รพีพงษ์อ่านไปคืนหนึ่ง ก็ไม่อ่านไม่เข้าใจ

ในขณะที่รพีพงษ์ขมวดคิ้วอยู่ เมื่อนึกถึงคำบรรยายในหนังสือกลยุทธ์ลมกระโชกแรงพัดมากะทันหัน รพีพงษ์จับหนังสือกลยุทธ์ไว้ไม่แน่นหนา ปล่อยให้มันตกลงไปที่พื้น

รพีพงษ์ยื่นมือออกไปเพื่อหยิบหนังสือกลยุทธ์ พบว่าตัวเองหยิบหนังสือกลยุทธ์กลับด้าน ในขณะที่เขากำลังจะเข้าไป จู่ๆในใจก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมา จากนั้น ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นมา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท