พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 713 ปลูกมันฝรั่ง

บทที่ 713 ปลูกมันฝรั่ง

บทที่ 713 ปลูกมันฝรั่ง

เสียงของรพีพงษ์ดังกระจายไปไกล และหลายคนที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆหลังจากได้ยินคำพูดของเขา มีคนไม่น้อยก็หัวเราะเสียงดังออกมา

เรื่องครองตำแหน่งราชา แบบนี้ อยู่ในคุกที่ห้า ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีมาก่อน เพียงแต่พวกคนที่ทำแบบนี้ สุดท้ายก็ตายอย่างอนาถาที่สุด ดังนั้นในเวลาแบบนี้ได้ยินว่ายังมีคนทำเช่นนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่รู้สึกตลก

ไออ้วนยังมองไปที่รพีพงษ์อย่างกังวล คิดไม่ถึงว่าจู่ๆรพีพงษ์จะออกตัวมาแบบนี้ แต่เดิมรพีพงษ์สร้างกระท่อมไม้ไว้ที่นี่ ก็ทำให้เขากังวลมากอยู่แล้ว ตอนนี้รพีพงษ์ป่าวประกาศว่าให้กับทุกคนตรงๆว่าเขาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่ นี่ก็เท่ากับว่าทำให้คนอื่นถือว่าเขาเป็นเป้าหมายโจมตีเหรอ

หลังจากรพีพงษ์ลงมา ไออ้วนก็วิ่งเข้ามาหาเขา และพูดอย่างกังวลว่า: “ลูกพี่ พี่เป็นครองตำแหน่งราชาก็เป็นครองตำแหน่งราชา ไปสิ แต่ทำไมต้องตะโกนออกไปล่ะ ตอนนี้ต้องมีใครสักคนเล็งพวกเราไว้แน่ๆ พวกเราถือโอกาสตอนที่ยังไม่มีใครมาหาเรื่อง ออกไปก่อนเถอะ กระท่อมไม้หลังนี้เราไม่เอาแล้ว เดี๋ยวฉันค่อยสร้างให้พี่อีกหลังหนึ่ง”

รพีพงษ์ยิ้มและชำเลืองไปที่ไออ้วน และพูดว่า: “ไม่ตะโกน พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่ายอดเขานี้เป็นของฉัน ถ้ามีคนมาหาเรื่อง ฉันจะออกมือทุบตีให้พวกเขาวิ่งหนีไปเลย เรื่องนี้นายไม่ต้องกังวล”

เมื่อไออ้วนเห็นรพีพงษ์พูดเช่นนี้ ก็ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ คิดว่ายังไงรพีพงษ์ก็เป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลาง น่าจะไม่เจอกับปัญหาใหญ่เกินไป

และเหตุผลที่รพีพงษ์เช่นนี้ เพื่อให้คนวิ่งมาหาเรื่อง

แม้ว่าตอนนี้เขาจะถูกคุมขังอยู่ในคุกที่ห้าแห่งนี้และไม่สามารถออกไปได้ แต่รพีพงษ์ก็ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองจะอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต

เมื่อออกไปแล้ว เขายังต้องเผชิญหน้ากับชินาธิป ดังนั้นเขาจำเป็นต้องใช้โอกาสที่ชินาธิปไม่สามารถบุกรุกเข้ามาฆ่าเขาในคุกที่ห้านี้ได้ เพิ่มอานุภาพพลังความแข็งแกร่งของตัวเองให้เร็วที่สุด

การต่อสู้ เป็นวิธีที่ที่เพิ่มอานุภาพความแข็งแกร่งได้เร็วที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

ยอดฝีมือในคุกที่ห้าราวกับผู้มีอำนาจ รพีพงษ์ต้องการใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เขาไม่อยากหาคนอื่นทีละคน วิธีที่ดีที่สุด ก็คือให้คนอื่นมาหาถึงที่

“ลูก….ลูกพี่ แม้ว่าฉันจะตัดสินใจเป็นลูกน้องของพี่ แต่ว่าความแข็งแกร่งของฉัน ความจริงแล้วช่วยอะไรพี่ไม่ได้มากนัก ถึงเวลามีคนมาหาเรื่อง พี่อย่าให้ฉันเป็นตัวรับกระสุนได้มั้ย?”สีหน้าไออ้วนเต็มไปด้วยความกังวลจ้องมองไปที่รพีพงษ์แล้วพูด

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “สบายใจได้ ฉันเก็บนายไว้ยังคงมีประโยชน์อยู่ ให้นายเป็นตัวรับกระสุนจะเป็นการสิ้นเปลืองเกินไป”

“มีประโยชน์อะไร?”ไออ้วนเอ่ยปากถาม

“แบมือ”รพีพงษ์เอ่ยปาก

ไออ้วนเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ยังยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง

รพีพงษ์วางสองสิ่งที่กลมๆลงในฝ่ามือของไออ้วน ไออ้วนก้มหน้ามองแวบหนึ่ง ก็หรี่ดวงตาที่เล็กอยู่แล้ว

“นี่คือ…..มันฝรั่ง???”

“ใช่แล้ว มันฝรั่งสองลูกนี้เป็นทรัพย์สินที่สำคัญของเรา นายต้องดูแลมันเป็นอย่างดี ถ้าหากทำหาย ฉันจะตัดหัวของนายลงมา”รพีพงษ์เอ่ยปาก

ไออ้วนยิ่งแปลกใจเข้าไปอีก แล้วพูดว่า: “ก็แค่มันฝรั่งสองลูกเอง มีความสำคัญอะไร ทั้งสองอันรวมกันไม่เพียงพอติดฟันเลยให้ฉัน”

รพีพงษ์เขม็งตาใส่ไออ้วนแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า: “นี่ไม่ใช่ให้นายกิน มันฝรั่งสองลูกนี้มีไว้สำหรับปลูก เดียวฉันจะแสดงวิธีการหั่นมันเป็นชิ้นๆให้นาย จากนี้ไปนายต้องรับผิดชอบในการปลูกมันฝรั่ง ต่อจากนี้ไปจะสามารถกินอิ่มทุกมื้อหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับวิธีการปลูกของนาย”

ดวงตาทั้งสองข้างของไออ้วนเบิกกว้าง เหลือบมองไปที่รพีพงษ์อย่างแปลกประหลาด คาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะนำมันฝรั่งสองลูกนี้เข้ามา กลับใช้มาเพาะปลูก

ในทันทีเขาตระหนักถึงความฉลาดของรพีพงษ์ อยู่ในคุกที่ห้า อาหารขาดแคลน ทุกคนต่างก็รู้เพียงวิธีที่จะฆ่ากันแย่งอาหารของคนอื่น ไม่มีใครเคยคิดที่จะปลูกอาหารด้วยตัวเองเพื่อกิน

อย่างไรก็ตามก่อนที่คนเหล่านี้จะเข้ามา ล้วนเป็นคนที่มีพลัง และไม่เคยขาดแคลนอาหาร หลังจากที่เข้ามาก็ต้องหวาดผวาทุกวัน ไม่มีใครคิดจะเอาเมล็ดพันธุ์ผักมาปลูก

ต่อให้จะมีคนคิดวิธีนี้ขึ้นมา แต่ก็ไม่อาจทำมันได้สำเร็จ ท้ายที่สุดผักยังไม่โตเต็มที่ คนอาจจะตายไปแล้ว

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจปัญหานี้เลย ถ้าตัวเองอยู่ด้านในแม้แต่อายุขัยของมันฝรั่งยังเทียบไม่ได้เลย งั้นตัดมันออกด้วยตัวเองจะดีกว่า

ด้วยวิธีนี้ ชีวิตราชาภูเขาของรพีพงษ์เริ่มต้นขึ้นในคุกที่ห้าแล้ว ลูกน้องของเขามีเพียงไออ้วนคนเดียว ตอนนี้ ตำแหน่งที่ได้มอบหมายให้กับไออ้วน คือมีหน้าที่ปลูกมันฝรั่ง และตัวรพีพงษ์เองนั้น เป็นผู้คุมครองรักษาความปลอดภัยของภูเขานี้ มีหน้าที่ต่อสู้กับทุกคนที่พยายามละเมิดดินแดนของเขา

วันแรกที่รพีพงษ์ป่าวประกาศว่าเป็นครองตำแหน่งราชา มียอดฝีมือเน่ยจิ้งชั้นต้นจำนวนแปดคนเข้ามาท้าทาย

รพีพงษ์ผู้คุ้มครองรักษาความปลอดภัยลงมือทันที ทุบตีคนเหล่าจนเชื่อฟังว่านอนสอนง่าย จากนั้นใช้ความแข็งแกร่งในร่างกายของตัวเอง กำจัดเน่ยจิ้งของพวกเขาให้หมดไปชั่วคราว

กลยุทธ์นี้ รพีพงษ์เรียนรู้จากหนังสือกลยุทธ์ศิลปะการต่อสู้เล่มนั้น

แม้ว่าจะไม่รู้แน่ชัดเจนว่าหนังสือกลยุทธ์ศิลปะการต่อสู้เล่มนี้เป็นของสำนักใด แต่รพีพงษ์สามารถค้นพบบางสิ่งที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างอยู่ข้างใน

ตัวอย่างเช่นพบว่าในหน้าหนึ่งมีกดจุดบางจุดบนร่างกายมนุษย์ สามารถทำให้การหายใจของบุคคลนั้นไม่เป็นสับสนจังหวะ

เน่ยจิ้งขั้นกลางใช้เน่ยจิ้ง สิ่งต้องอาศัยก็คือวิชาหายใจออก ถ้าการหายใจสับสนไม่เป็นจังหวะ จะไม่มีทางที่จะใช้เน่ยจิ้งในร่างกายได้ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดา

หลังจากเรียนรู้กลยุทธ์นี้อย่างแม่นยำ รพีพงษ์เกิดความคิดที่จะเป็นครองตำแหน่งราชา แต่ตราบใดที่สามารถทำให้เน่ยจิ้งชั้นต้นเหล่านี้สูญเสียอานุภาพในการต่อสู้ งั้นเขาก็จะสามารถไว้ชีวิตพวกเขาได้ ก็ไม่ต้องกังวลที่จะมีสถานการณ์ที่พวกเขาจะรุมกันโจมตีเป็นกลุ่ม

แบบนี้บนยอดภูเขานี้ของรพีพงษ์ ก็จะปรากฏแรงงานฟรีมากมาย

ไออ้วนประหลาดใจกับฝีมือของรพีพงษ์ หลังจากที่เน่ยจิ้งแปดคนพบว่าตัวเองสูญเสียอานุภาพในการต่อสู้ ต่างก็กลัวจนหน้าถอดสี แต่ละคนตามติดเชื่อฟังเพาะปลูกมันฝรั่งกับไออ้วนเป็นอย่างดี

อาคารใหญ่ในคุก ในห้องตรวจตรา

ชายชราสองคนที่เดิมพันกับโกรพกำลังนั่งอยู่ในนี้ ตรงหน้าพวกเขามีหน้าจอขนาดใหญ่ มีด้วยกล้องจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งตรวจตราสอดส่องดูแลไปทั่วทั้งหมดของคุกที่ห้าอย่างเข้มงวด

แม้ว่าคุกที่ห้าจะล้อมรอบไปด้วยภูเขาหลายลูก แต่ว่าใบ้ไม้สักใบต้นสักต้นของข้างใน อาจมีกล้องรูเข็มที่จัดเตรียมโดยผู้ดูแลคุกเพื่อตรวจตราสอดส่องนักโทษข้างใน

“เด็กที่เข้ามาใหม่คนนั้นป่าวประกาศว่าตัวเองจะเป็นครองตำแหน่งราชา น่าขำสิ้นดี ฉันเดาว่า ตอนนี้เขาน่าจะถูกฆ่าตายไปแล้ว”

“วัยรุ่นทำสิ่งต่างๆ แน่นอนว่าไม่ผ่านการคิด ท่านโกรพยังคิดว่าเด็กคนนี้จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าสิบวัน ช่างไร้เดียงสาจริงๆ”

“ตัดภาพไปที่บริเวณที่เด็กคนนั้นอยู่ และดูว่าสถานการณ์ตอนนี้ของเขาเป็นอย่างไรบ้าง”

จากนั้นทั้งสองก็เปลี่ยนภาพบนหน้าจอไปที่ยอดภูเขาที่รพีพงษ์อยู่

เมื่อสายตาเห็นสถานการณ์บนยอดเขาเข้า ชายชราทั้งสองก็เบิกตากว้าง

เห็นเพียงบนยอดภูเขานั้น รพีพงษ์กำลังนั่งอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองหนังสือโบราณที่หายากเล่มนั้น และไม่ไกลจากยอดเขา ไออ้วนกำลังนำพาคนทั้งแปดถือจอบที่ทำขึ้นเองอย่างเรียบง่ายทำการเพาะปลูกในป่าที่รุกร้าง

แสงของพระอาทิตย์ตกดินส่องกระทบยอดเขา ทำให้ภาพนี้ดูอบอุ่นและงดงามมากทีเดียว

“นี่….นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเขาดูสามัคคีกันจัง?”ชายชราอุทาน

“โอ้พระเจ้าช่วย ตกลงเด็กคนนี้ปีศาจอะไรกันเนี่ย เขาสามารถปราบยอดฝีมือทั้งเก้าคนในคุกที่ห้าได้ แล้วให้พวกเขาเป็นระเบียบเรียบร้อยเริ่ม….เพาะปลูกเหรอ?”

ทันใดนั้น รพีพงษ์ก็กลายเป็นคนดังในอาคารใหญ่ของคุก ทุกคนที่ได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เมื่อมีเวลา ก็จะวิ่งมาดูรพีพงษ์สั่งให้คนทำไร่ทำสวนในทันที…..

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท