พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่739 วิกฤตของตระกูลลัดดาวัลย์

บทที่739 วิกฤตของตระกูลลัดดาวัลย์

บทที่739 วิกฤตของตระกูลลัดดาวัลย์

เกียวโต หน้าประตูคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์

บนเวทีที่สร้างขึ้นมาเฉพาะกิจ ร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ด้านบน มองไปยังประตูใหญ่ของคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์

ด้านล่างเวที ได้จัดวางโต๊ะเก้าอี้ไว้ รวมทั้งร่มกันแดด สี่ท่านกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ดื่มชาอย่างผ่อนคลาย

หนึ่งในผู้เฒ่าท่านหนึ่ง เป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งสำนักฮิงแส ปธานิน

กลิ่นอายของแดนครึ่งปรมาจารย์ออกมา หนึ่งในสาม มีสองคน ที่มีศักยภาพ เทียบเท่ากับปธานิน ที่เหลืออีกคน ศักยภาพดีกว่าปธานินทั้งสาม

ดูออก ปธานินทั้งสามนอบน้อมต่อท่านนั้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ถ้ามีคนเข้าใจเข้าใจศิลปะการต่อสู้โบราณ เห็นสี่คนนี้นั่งด้วยกัน ก็จะต้องตกใจอย่างแน่นอน

นอกจากโกมุทแห่งสำนักฮิงแส และอีกสองคนที่ศักยภาพใกล้เคียงกัน แบ่งเป็นญาณวุฒิผู้อาวุโสของหมัดบาจิควาน เจ้าสำนักศัจกรของสำนักฉีชาง ความสามารถของทั้งคู่แดนครึ่งเป็นปรมาจารย์

และท่านนั้นที่ศักยภาพสูงกว่าสามคนนั้น ชื่อจิรภาส เป็นตระกูลขุนนางของศิลปะการต่อสู้โบราณ ยอดฝีมือของตระกูลภูธนเป็นปรมาจารย์ยอดเยี่ยมที่เป็นของแท้สมน้ำสมเนื้อ

ท่านทั้งสี่คนนี้ ล้วนเป็นยอดฝีมือแห่งแถบเมืองชลาลัย สำนักฮิงแส หมัดบาจิควานและสำนักฉีชาง ถ้าว่าเป็นตัวแทนของแถบเมืองชลาลัย และตระกูลภูธนเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณที่โด่งดังตระกูลหนึ่ง

ปกติ ตระกูลขุนนางจะไม่ออกหน้าออกตา แต่ครั้งนี้การรวมตัวกันของทั้งสี่ เพื่อรพีพงษ์

ขณะนี้ผู้ที่อยู่บนเวที คือวัยรุ่นที่โดดเด่นของตระกูลภูธนชื่อติณณภพ อายุไม่ถึงสามสิบปี มีฝีมือระดับเน่ยจิ้งขั้นกลาง

“ศิษย์ของวฤนท์ธม รีบออกมาต่อสู้กับฉัน! มุดอยู่แต่ในรู ไม่อายบ้างหรือไง!”

ติณณภพจุดตันเถียน(ท้องน้อย) ใช้เสียงดังมากตะโกนเข้ามาในคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ทั้งคฤหาสน์ของตระกูลลัดดาวัลย์ดังกึกก้องไปด้วยเสียงของติณณภพ

“คนรุ่นหลังในครอบครัวของปรมาจารย์ติณณภพ เป็นคนเก่งที่หาได้ยาก อายุไม่ถึงสามสิบปี ก็สามารถเป็นเน่ยจิ้งขั้นกลางได้แล้ว เชื่อว่าใช้เวลาไม่กี่ปี ตระกูลภูธนจะมีปรมาจารย์เพิ่มอีกหนึ่ง” ปธานินยิ้มพลางกล่าวต่อจิรภาส

“พรสวรรค์ของเด็กนี้ไม่เลวจริงๆ แต่ถ้าอยากเป็นปรมาจารย์ในช่วงไม่กี่ปี ค่อนข้างยาก” จิรภาสกล่าว แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความสะใจ

“ศิษย์น้องของวฤนท์ธมไม่กล้า หลังจากที่ครั้งที่แล้วแพ้ติดต่อกันสามครั้ง ก็ไม่กล้าออกนอกบ้านอีกต่อไป” ญาณวุฒิกล่าวอย่างเหยียดหยาม

“เดิมวฤนท์ธมเป็นคนขี้ขลาด หลายปีมานี้ พวกเราพยายามหาเขา แต่กลับไม่มีแม้กระทั่งเบาะแส ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้ศิษย์พี่ปธานินรู้ว่าตระกูลลัดดาวัลย์มีศิษย์น้องอย่างวฤนท์ธม พวกเราจะหาวฤนท์ธมเจอ ก็ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่” ศัจกรพูดตาม

ปธานินดูแคลน กล่าว “ลูกศิษย์ของฉันตายด้วยฝีมือของวฤนท์ธม คนนั้นไม่เคยแสดงตัว ปัจจุบันคฤหาสน์ถูกพวกเราเพ่งเล็งไว้ ถ้าเขาไม่อยากให้คนของตระกูลลัดดาวัลย์เกิดอันตราย จะต้องปรากฏตัวในเร็ววันนี้ ถึงเวลานั้นพวกเราบีบบังคับถามเกี่ยวกับวฤนท์ธม แล้วค่อยฆ่ามันล้างแค้นให้ศิษย์น้อง”

ทั้งสามพยักหน้า เกลียดชัง วฤนท์ธมชื่อนี้

ภายในคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ ในห้องรับแขกหลัก

ระดับสูงของตระกูลลัดดาวัลย์ เวทัส ดำเกิง ดัมพ์รงค์คนอื่นๆล้วนรวมตัวกันที่นี่ ด้วยบรรยากาศที่อึดอัด

หลังจากที่อารียาอยู่ไฟเสร็จแล้วนั้น ก็สามารถลงจากที่นอนได้แล้ว จนกระทั่งวันนี้ได้ผ่านการฟื้นฟูร่างกายเป็นเวลาสี่เดือน ร่างกายและสีหน้าของเธอได้กลับมาเป็นเหมือนเดิม บอกกับความเป็นแม่ ตอนนี้ก็มีความเป็นสาววัยกลางเต็มตัวแล้ว

ตอนนี้ขวัญนลินนอนอยู่ในอ้อมกอดของอารียาอย่างสงบ ตาสองข้างจ้องไปยังรอบๆอย่างแปลกใจ แป๊ปก็เอามือน้อยๆใส่เข้าไปในปาก

“ตอนนี้ทั้งคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ถูกพวกเขาล้อมไว้ พวกเราจะออกไปไหนก็ไม่ได้ อาหารในคฤหาสน์ก็มีพอแค่สามวัน ถ้าหลังจากสามวันพวกเขายังไม่ไป พวกเราจะเจอกับสถานการณ์ขาดแคลนอาหาร” ท่านคทากล่าว

คนจำนวนไม่น้อยส่ายหัวถอนหายใจ อารียาก็ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

ขณะนี้ดำเกิงรู้สึกผิด เมื่อได้ยินคำพูดของท่านคทา ก็กัดฟันแล้วกล่าว “ผมสร้างปัญหาขึ้นมาเอง ในเมื่อพวกมันไม่ไป งั้นผมจะไปต่อกรกับมัน แย่สุดก็คือตาย”

เวทัสที่อยู่ข้างๆห้ามไว้ กล่าว “ตอนนี้ไม่ใช่ตอนที่จะใช้อารมณ์มาตัดสิน แกออกไปก้ไม่มีประโยชน์”

ดำเกิงจ้องไปที่เวทัส สุดท้ายก็ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

ครึ่งเดือนที่แล้ว สำนักฮิงแสโกมุทพาลูกศิษย์มาที่ตระกูลลัดดาวัลย์ มาสร้างเวทีที่คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ แล้วเรียกร้องให้รพีพงษ์ออกมา ขึ้นเวทีประลอง ล้างแค้นโสจกร

รพีพงษ์ไม่อยู่ คนที่ต้องรับหน้าก็ต้องเป็นเวทัสและดำเกิง

ตอนนี้ดำเกิงมีวิชาเน่ยจิ้ง ประลองกับลูกศิษย์ที่โกมุทพามา ใช้พรสวรรค์และความสามารถ แพ้ติดต่อกันสามคน

โกมุทโมโห ตัดสินใจประลองเอง ดำเกิงได้ด่าเขาว่าหน้าด้าน รังแกคนอ่อนกว่า

โกมุทได้เริ่มพูดถึงความน่าเกรงขามของสำนักฮิงแส มีอันดับอย่างไรในศิลปะการต่อสู้โบราณ ลูกศิษย์ของพวกเขาไม่ใช่ใครจะฆ่าได้ตามใจ ถ้ารพีพงษ์ไม่ออกมา จะเอาดำเกิงเชือดไก่ให้ลิงดู

ดำเกิงโมโห เห็นโกมุทเข้ามา บอกว่ารพีพงษ์และเขาคือศิษย์น้องของรพีพงษ์และเขา ไม่แย่กว่าสำนักฮิงแส

หลังจากที่โกมุทได้ยินชื่อวฤนท์ธมแล้วนั้น ก็ขนลุกขึ้นมา วฤนท์ธม เป็นศัตรูตัวฉกาจของสำนักฮิงแส และชื่อนี้ไม่เพียงเป็นศัตรูของสำนักฮิงแส ในโลกของศิลปะการต่อสู้โบราณ มีเกือบครึ่งที่อคติกับวฤนท์ธม จนกระทั่งอยากฆ่าล้างแค้น

ดำเกิงงง เวทัสก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น รีบพาดำเกิงหลบไปจากคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์

และโกมุทก็ไม่ได้ลงมือเอง แต่ให้ศิษย์น้องวฤนท์ธมกระจายข่าวที่คฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์ออกไป ไม่ถึงสองวัน หมัดบาจิควานสำนักฉีชางและคนของตระกูลภูธนก็มาหา เพื่อมาฆ่าฤนท์ธม

เพื่อความชัดเจนของกฏแห่งศิลปะการต่อสู้โบราณ ยอดฝีมือของสี่ตระกูลใหญ่ จัดคนรุ่นก่อนมา เพื่อประลองบนเวที ดำเกิงและเวทัสแพ้อย่างราบคาบ อีกฝั่งพยายามถามถึงข่าวของวฤนท์ธม ให้ตายยังไงทั้งสองก็ไม่พูด ดำเกิงเกือบตายเพราะเรื่องนี้แล้ว

อารียาอุ้มลูกออกหน้ามา ประณามความน่ารังเกียจของพวกนี้ พวกเขาทั้งสองจึงได้รับการช่วยเหลือ

หลังจากที่กลับมายังคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว พวกเขาก็ไม่ออกไปไหนอีกเลย โกมุทไม่กล้าลงมือต่อคนธรรมดา จึงปิดคฤหาสน์ใหญ่ลัดดาวัลย์ไว้ อยากจะอยู่จนกว่าคนที่นี้อยู่ไม่ได้ ถึงเวลานั้นพวกเขาไม่พูดที่อยู่ของวฤนท์ธมก็ไม่ได้แล้ว

อาจารย์ของรพีพงษ์รับศิษย์นั้น ไม่เคยบอกชื่อสกุลจริงของตัวเองให้ใครรู้ นี่เป็นกฎข้อแรกของพวกเขา แม้จะไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุอะไร แต่ก็ไม่เคยมีใครถามมาก่อน

และเมื่อดำเกิงได้ทำความสะอาดห้องของอาจารย์นั้น ให้อาจารย์ได้เขียนข้อความเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ไว้ โดยสุดท้ายมีชื่อวฤนท์ธม

ตอนนั้นพวกเขาคิดว่าที่อาจารย์บอกชื่อของตัวเองให้พวกเขาฟังไม่ได้นั้น จะต้องเป็นเพราะชื่อนี้โด่งดังอย่างมากในยุทธภพ อาจารย์ไม่อยากให้พวกเขาใจร้อน

จนกระทั่งถึงครั้งนี้ เขาแค่เอ่ยชื่อวฤนท์ธมชื่อนี้ ได้ทำให้แดนครึ่งปรมาจารย์สามท่าน อีกทั้งยอดฝีมืออีกท่านมาปิดอยู่หน้าประตู

นี่แสดงถึงความเก่งกาจของอาจารย์ แต่ดำเกิงไม่คิดมาก่อน ว่าอาจารย์ไม่ได้ทิ้งเรื่องราวใดๆไว้ในยุทธภพแต่สร้างศัตรูเอาไว้มากมาย ยังมีศัตรูอย่างปรมาจารย์และแดนครึ่งปรมาจารย์อีกด้วย

คำนึงถึงคนที่อยู่ด้านนอกที่มาหาอาจารย์ ดำเกิงและเวทัสไม่ได้ขอร้องอาจารย์ เพราะด้านนอกคืออาจารย์หนึ่งท่านและแดนครึ่งปรมาอาจารย์อีกสามท่าน พวกเขาไม่มั่นใจว่าอาจารย์จะรับมือได้ไหม

หลายเหตุผลรวมๆกันแล้ว ทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์ชะงัก

“ตอนแรกผมยังพูดอย่างมั่นใจว่าจะดูแลตระกูลลัดดาวัลย์ให้ดี แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องการค้าของพวกคุณไม่มีปัญหา แต่กลับยั่วโมโหยอดฝีมือจำนวนมากมาย ใครจะรับหน้าไหวเนี่ย” ชลาธิปถอนหายใจ

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท