พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่737 ผมไม่ลงไม้ลงมือกับพวกคุณ

บทที่737 ผมไม่ลงไม้ลงมือกับพวกคุณ

บทที่737 ผมไม่ลงไม้ลงมือกับพวกคุณ

“ร……รพีพงษ์! เป็นไปไม่ได้ รพีพงษ์ถูกจับไปขังไว้ในคุกที่ห้าแล้ว แกเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงปลอมตัวเป็นรพีพงษ์?” ทามันตะลึง

คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่รอบข้างตกใจกับคำพูดของรพีพงษ์ ที่รพีพงษ์ฆ่าระดับสูงของตระกูลนิธิวรสกุล ได้ดึงดูดความตื่นตระหนกของคนจำนวนไม่น้อย สี่เดือนที่แล้ว รพีพงษ์ชื่อนี้ ชื่อดังไปทั่วไชน่าทาวน์

คทาวุธทั้งสี่คนตกใจกับคำพูดของรพีพงษ์ ตัวตนคุณชายเทือกเขากิสนา พวกเขาค่อนข้างหวาดกลัว เพราะคนนี้ได้ฆ่าอนันยช ฆ่าระดับสูงทั้งหมดของตระกูลนิธิวรสกุล ไม่ใช่ทายาทเศรษฐีอย่างพวกเขาจะแตะต้องได้

“ผมคือรพีพงษ์ ไม่จำเป็นต้องปลอมตัว คุกที่ห้าไม่ใช่เข้าไปแล้วจะออกไม่ได้” รพีพงษ์ยักไหล่ ตอบคำถาม

ขณะนี้อดิรุจที่อยู่ข้างๆได้หารูปของรพีพงษ์ในตอนนั้นมา เทียบกับคนที่อยู่ด้านหน้า คือรพีพงษ์จริงๆ สีหน้าซีดเซียวลงทันใด

“ร……รพีพงษ์ คนนี้กับรูปของรพีพงษ์เหมือนกัน ไม่น่าจะเป็นตัวปลอม” อดิรุจกล่าว

หลังจากที่คนของสี่ตระกูลใหญ่ได้ฟังอดิรุจยืนยัน ก็เริ่มเคร่งเครียดขึ้นมา ยังไงพวกเขาก็คาดไม่ถึง รพีพงษ์ที่ถูกขังไว้ในคุกที่ห้า ได้กลับมาแล้ว

ทามันทั้งสี่คนลนลาน ที่พวกเขากล้าลงมือกับคนของเทือกเขากิสนา เป็นเพราะรพีพงษ์ถูกขังไว้ในคุกที่ห้า แล้วบวกกับที่ได้ข้อมูลในตอนนั้น ตามประวัติศาสตร์คนที่ถูกขังในคุกที่ห้า ไม่มีใครได้ออกมา ดังนั้นพวกเขาจึงไร้กังวล

ตอนนี้รพีพงษ์ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา ทำเอาพวกเขารับมือไม่ทัน

ทั้งสี่มองหน้ากัน ดูออกว่าไม่รู้ควรทำอย่างไร เหงื่อไหลเต็มหน้า

รพีพงษ์ไม่ใส่ใจสายตาของคนรอบข้าง แต่โต๊ะด้านหน้าที่วางอาหาร แล้วหยิบพิซซ่ามากิน

“พวกคุณตามสบาย ไม่ต้องสนใจผม” รพีพงษ์พูดกับทุกคน

ตอนนี้คทาวุธทั้งสี่เริ่มหวาดกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ยังไงพวกเขาก็คาดไม่ถึง ว่าคนที่พวกเขายั่วโมโหในวันนี้นั้น จะเป็นคนเดียวกัน กับปีศาจที่ล้างบางตระกูลนิธิวรสกุล

ถ้าถึงเวลานั้นรพีพงษ์เกิดอยากฆ่าพวกเขาขึ้นมา พวกเขาทั้งสี่ ใครก็มีชีวิตต่อไปไม่ได้

ขณะนี้กันติศาก็มีความรู้สึกที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเช่นกัน ตอนแรกเธอยังอยากหานักฆ่ามาฆ่ารพีพงษ์ สุดท้ายตอนนี้พบว่าคนนี้คือไอ้วิปริตที่ฆ่าอนันยชนั้น เธอรู้ว่าอนันยชเก่งกาจขนาดไหน ถ้าจะฆ่ารพีพงษ์ นักฆ่าธรรมดาจะทำได้อย่างไร

เธอรู้สึกสิ้นหวัง ไร้ซึ่งพลังกำลัง

ตอนที่นายใหญ่ของสี่ตระกูลใหญ่เจอรพีพงษ์ ล้วนหวาดผวา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเธอ

ทามันเห็นบรรยากาศรอบๆงานถมึงทึง กัดฟัน แล้วเดินไปที่รพีพงษ์ กล่าว “วันนี้ที่แกมา คิดจะมาทำอะไรกันแน่?”

“บอกคุณไปแล้วหนิ ได้ยินมาว่าคุณจะลอบฆ่าคนของเทือกเขากิสนา ดังนั้นผมจึงมาดู” รพีพงษ์พูดอย่างสบายออกมา

“แกอย่าคิดว่าเพราะแกไม่รู้ว่ายอดฝีมือเน่ยจิ้งลงมือกับคนทั่วไปไม่ได้ ถ้าวันนี้แกทำอะไรพวกเรา แกจะต้องถูกจับไปคุกที่ห้าอีกอย่างแน่นอน และเป็นครั้งที่สองที่แกเข้าไป จะต้องได้รับการลงโทษที่มากขึ้นแน่นอน ต่อจากนี้ไปพวกเราต่างคนต่างอยู่ แกคิดว่าไง?”

ทามันรู้ว่าการปรากฏตัวของรพีพงษ์ หมายถึงพวกเขาไม่สามารถลงมือกับคนของเทือกเขากิสนาได้อีกแล้ว ดังนั้นตอนนี้ทำได้เพียงคิดวิธีง้อดีกว่า

รพีพงษ์กินพิซซ่าในมือจนหมด จากนั้นก็สะบัดมือ กล่าว “ผมไม่อยากถูกจับไปอยู่ในคุกที่ห้าอีก ดังนั้นวันนี้ผมไม่มีทางลงไม้ลงมือกับพวกคุณแน่นอน ถึงขั้นยอมทิ้งแผนลอบฆ่าลงแล้วมาคุยกับผม คุณไม่รู้สึกว่าตลกไปหน่อยหรอ?”

“แกหมายความว่าไง?” ทามันขมวดคิ้ว เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย

รพีพงษ์ยิ้มอย่างมีเลศนัยต่อเขา จากนั้นก็ยกมือขึ้น ส่งสัญญาณ

ปรบมือหนึ่งครั้ง ไฟขอโรงแรมดับลง คนจำนวนไม่น้อยเริ่มหวาดผวา

สามวินาทีให้หลัง ไฟมา แขกที่มาในงานล้วนสงสัย ไม่รู้ว่าเมื่อกี๊ที่จู่ๆไฟดับนั้นหมายความว่าอะไร

แต่ตอนนี้สิ่งที่คนของสี่ตระกูลใหญ่รับรู้นั้นไม่เหมือนพวกเขา ข้างๆพวกเขาทุกคน ล้วนมีชายชุดดำราวกับปีศาจยืนประกบอยู่ ในมือของคนเหล่านี้ถือกริชไว้ จ่อไว้ข้างๆคอของพวกเขา

ความเย็นจากร่างของคนสี่ตระกูลใหญ่เริ่มออกมา แต่พวกเขาไม่กล้าขยับตัว เพราะเมื่อกี๊ตอนที่ไฟดับ พวกเขาได้ยินเสียงที่ดังข้างๆหูจนทำให้ขนลุกว่า “ขยับ แล้วตาย”

ข้างๆทามันและพวกทั้งสี่คนล้วนมีชายนักฆ่าชุดดำประกบอยู่ พวกเขาล้วนคิดไม่ถึง ว่าไม่นาน คนของสี่ตระกูลใหญ่ จะถูกคนกุมชีวิตไว้

ผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงล้วนหวาดผวา ผู้หยิงจำนวนไม่น้อยเริ่มกรีดร้อง พวกเขาล้วนถอยหลังไปรอบๆ ไม่นาน ตรงกลางของห้องโถงก็เหลือแค่คนของสี่ตระกูลใหญ่และนักฆ่าชุดดำเหล่านั้น

“พวกแก เป็นคนของลอบสังหาร! ทำไม!” ทามันสังเกตเห็นจุดเด่นของคนพวกนี้ แว็บเดียวก็รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร

ในขณะนี้ครองภพเดินเข้ามาจากด้านนอก มองไปยังคนของสี่ตระกูลใหญ่พวกนั้นด้วยรอยยิ้ม ยิ้มพลางกล่าวว่า “ไม่เลวไม่เลว ไม่พลาดสักคน ชื่นชมๆ”

หลังจากที่ทามันเห็นครองภพแล้วนั้น ก็สงสัยขึ้นมา จึงถาม “พวกเราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรอ พวกแกลอบฆ่าคนของเทือกเขากิสนา แล้วพวกเราจะให้เงินจำนวนห้าหมื่นล้านดอลล่าร์เป็นรางวัล ทำไมตอนนี้คนของแกมาลงมือกับเราได้?”

ครองภพยิ้มกับเขา กล่าว “ขอโทษนะ เงินจำนวนห้าหมื่นล้านดอลล่าร์นั้นฉันไม่ต้องการแล้ว แกเก็บไว้เองก็แล้วกัน”

พูดจบ เขาหันไปมองรพีพงษ์ คำนับรพีพงษ์ กล่าวอย่างเคารพว่า “นายท่าน สิ่งที่ท่านสั่งไว้ผมได้จัดการแล้ว คนเหล่านี้ของสี่ตระกูลใหญ่จะเป็นหรือตาย อยู่ที่ท่านเพียงผู้เดียว”

รพีพงษ์พยักหน้า

ทามันมึนงง กล่าว “นายท่าน? แกคือเจ้าสำนักของลอบสังหาร? เป็น……เป็นไปได้ไง ทำไม? แกก็แค่เด็กยี่สิบกว่าปีไม่ใช่หรอ ทำไมถึงมีตัวตนมากขนาดนี้?”

เห็นทามันมึนงง รพีพงษ์ก็อธิบายให้เขาฟังว่า “โชคค่อนข้างดี ไม่ทันได้ตั้งตัวก็เป็นเจ้าสำนักลอบสังหารแล้ว ทำได้แค่โทษที่พวกคุณโชคร้ายเอง”

ทามันเกือบสำลักตายเพราะคำพูดนี้ของรพีพงษ์ สีหน้าขาวซีด

“แก……ถ้าแกลงมือกับพวกเรา ปรมาจารย์เน่ยจิ้งจะไม่ปล่อยแกไว้แน่” ทามันพูดอีกครั้ง

รพีพงษ์โบกมือให้เขา กล่าว “ผมบอกแล้ว ว่าผมไม่ลงมือ ถ้าลงมือ ก็เป็นคนของลอบสังหารที่ลงมือ พวกคุณสามารถหาลอบสังหารลอบฆ่าคนของเทือกเขากิสนาได้ งั้นกลับกันเทือกเขากิสนาให้ลอบสังหารลอบฆ่าพวกคุณ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ?

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท