พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่748 อย่าได้ถือสาสุนัขเลย

บทที่748 อย่าได้ถือสาสุนัขเลย

บทที่748 อย่าได้ถือสาสุนัขเลย

เสียงของหญิงสาวคนนั้นไม่ได้ปิดบังเลย รพีพงษ์พวกเขาทั้งสามคนได้ยินอย่างชัดเจน หลังจากที่ไออ้วนและดำเกิงได้ยิน ต่างก็หยุดชะงักทันที และหันหน้ามองไปทางด้านข้าง

ชายหนุ่มไม่กี่คนที่กำลังนั่งอยู่รอบข้างของหญิงสาว ในเวลานี้พวกเขาทั้งหมดมองไปที่รพีพงษ์พวกเขาทั้งสามด้วยสีหน้าเยาะเย้ย ไม่รู้สึกว่าสิ่งที่หญิงสาวพูดมีอะไรที่ไม่เหมาะสมเลย

“ทำไมล่ะ? พวกเรากินอาหาร ขวางทางคุณรึเปล่า?”ไออ้วนตอบกลับทันที

ในฐานะคนที่รอดชีวิตอยู่ในคุกที่ห้ามาเป็นเวลานาน นิสัยใจคอของเขาจะว่านอนสอนง่ายก็ต่อเมื่ออยู่ตรงหน้ารพีพงษ์

ตอนนี้เขาออกมาจากคุกที่ห้า เผชิญหน้ากับคนธรรมดาเหล่านี้ ถ้าหากไม่ใช่ว่าไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อน เมื่อกี้นี้เขาก็คงจะตบหน้าเด็กผู้หญิงคนนั้นทันที

“ขว้างหูขว้างตาฉัน ทำไม ว่าให้แกไม่กี่คำก็ไม่ได้ ฉันไม่ไล่แกออกไปตรงๆก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว หมูโง่”หญิงสาวพูดอย่างไม่แยแส

ไออ้วนตบโต๊ะตรงๆ ยืนขึ้นมา แล้วตะโกนใส่หญิงสาวว่า: “เย็ดแม่ง แกด่าใครว่าหมูโง่หา?”

“ด่าแกไง แล้วจะทำไม แกไม่พอใจเหรอ? ผู้หญิงอย่างฉันไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน หรือว่ายังต้องกลัวแกด้วยเหรอ?”หญิงสาวไม่ได้แสดงความอ่อนแอแม้แต่น้อย และตะโกนใส่ไออ้วน

ในเวลานี้ผู้ชายที่นั่งร่วมโต๊ะกับหญิงสาวยืนขึ้น และบางคนถึงกับโชว์กล้ามของตัวเองให้กับไออ้วน พร้อมกับท่าทางที่ยั่วยุบนใบหน้า

“ยังโชว์กล้ามเนื้อด้วย ทำไม หรือว่าพวกแกคิดว่าอย่างพวกแก จะสามารถเอาชนะเขาได้เหรอ? น่าขำสิ้นดี”ดำเกิงจ้องไปที่ผู้คนที่โต๊ะนั้น พูดอย่างติดตลก

“ลองดูมั้ยล่ะ?”ชายคนหนึ่งจ้องไปที่ไออ้วนและดำเกิงทั้งสองคนแล้วตะโกน

ไออ้วนกำลังจะลงมือกับผู้ชายที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีกลุ่มนี้ ไออ้วนที่ไม่ได้แสดงพลังจริงๆออกมา คงจะคิดว่าเขาเป็นคนไม่เอาไหน

อยู่ในคุกที่ห้า เขามีเรื่องกับคนอื่นไม่ได้ ทำได้เพียงหลบหลีก หรือว่าหลังจากที่ออกมา เขาจะไม่สามารถมีเรื่องแม้แต่กับพวกคนไร้อารยะได้เลยเหรอ?

“ไออ้วน”ในตอนนี้รพีพงษ์ตะโกนใส่ไออ้วน ไออ้วนหันหน้ามองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง เห็นรพีพงษ์ส่งสัญญาณให้เขานั่งลง ถึงได้ไม่ลงมือ

“สุนัขชอบเห่าใส่คน ถ้านายถือสาสุนัข ก็เห็นได้ชัดว่านายโง่เกินไป นั่งลงกินต่อเถอะ”รพีพงษ์เอ่ยปาก

“แกด่าใครว่าสุนัขหา? คนบ้านนอกอย่างพวกแกสามคน รนหาที่ตายเหรอ?”หญิงสาวตะโกนใส่รพีพงษ์อย่างโกรธๆในทันที

“ฉันด่าสุนัขนะ ทำไมล่ะ หรือว่าคุณจะต้องการบอกว่าคุณก็คือสุนัขตัวนั้นเหรอ?”รพีพงษ์ถามกลับ

คราวนี้หญิงสาวจะรับก็ไม่ใช่ไม่รับก็ไม่ใช่ ใบหน้าโกรธจนหน้าเขียว

“พี่ชายทั้งหลาย พวกพี่ควบคุมดูคนบ้านนอกทั้งสามนี้หน่อย พวกเขาหยิ่งผยองเกินไปแล้ว”หญิงสาวไม่มีทางเลือก นอกจากขอความช่วยเหลือจากผู้ชายไม่กี่คน

หนึ่งในผู้ชายไม่กี่คนที่เป็นผู้นำจ้องมองรพีพงษ์แวบหนึ่ง ส่งเสียงเย็นชาว่า: “ถ้าพวกแกสามคนไม่อยากมีเรื่อง ตอนนี้ก็รีบมาขอโทษน้องสาวของฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ”

“อย่ามาไม่รู้ผิดชอบชั่วดีที่นี่ ถ้าหากเสียเวลาอีกต่อไป ฉันรับประกันได้ว่าพวกแกไม่มีทางออกจากประตูนี้ไปได้”รพีพงษ์จ้องผู้นำคนนั้นแวบหนึ่ง ในแววตาก็ปรากฏอาฆาต

รัศมีที่มองไม่เห็นปรากฏออกมาจากบนตัวรพีพงษ์ อุณหภูมิในร้านอาหารทั้งหมดดูเหมือนจะลดลงไม่กี่องศา

หญิงสาวและชายเหล่านั้นตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าแค่แววตาเดียวของรพีพงษ์ ก็ทำให้ในใจของพวกเขาเกิดหวาดกลัว ในใจก็มีความเหลือเชื่อ

ในเวลานี้เจ้าของร้านอาหารเข้ามา มองพวกเขาด้วยใบหน้าที่เป็นห่วง และเอ่ยปากว่า: “ทุกๆท่าน พวกคุณได้โปรดเมตตาด้วยเถอะ ธุรกิจค้าขายเล็กๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถ้าพวกคุณสู้กันขึ้นมา วันนี้ฉันก็ทำไปเสียเที่ยว ทุกคนต่างก็ใจเย็นกันก่อนเถอะ”

หญิงสาวเหลือบมองเจ้านายแวบหนึ่ง และเอ่ยปากว่า: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราก็จะไม่ถือสาพวกแก นี่คือเงินค่าอาหารมื้อนี้ ไม่ต้องทอน พี่ชายทุกคน พวกเราไปกันเถอะ จะได้ไม่ต้องมองของที่น่ารังเกียจให้อารมณ์เสีย”

หญิงสาวหยิบธนบัตรกองโตตบลงบนโต๊ะ จ้องมองไปที่รพีพงษ์พวกเขาแวบหนึ่ง หันหลังเดินไปด้านนอกของร้านอาหาร

พวกผู้ชายก็ไม่จริงจังต่อไปเช่นกัน ไม่รู้ว่าคำนึงถึงเจ้าของร้านอาหารจริงๆหรือเป็นเพราะหวาดกลัวรัศมีบนตัวของรพีพงษ์

“พวกผู้ชายไม่มีขื่อมีแป ลูกพี่ เมื่อกี้นี้ถ้าพี่ไม่ห้ามฉัน ฉันตีพวกเขาจนขาหักไปแล้ว”ไออ้วนนั่งลง เอ่ยปาก

“นั่นนะสิลูกพี่ คนเหล่านี้ กำเริบเสิบสานขนาดนี้ พวกเรากินของอย่างไรต้องก็มายุ่งด้วย”ดำเกิงก็พูดตามไปด้วย

“พอเถอะ รีบกินได้แล้ว มีคนร่ำรวยและมีอำนาจในเกียวโตไม่น้อย โดยทั่วไปแล้วลูกๆของพวกเขามักจะหยิ่งผยอง ชอบสร้างปัญหา เผชิญกับคนแบบนี้ ไม่ต้องสนใจก็พอ ถ้านายจริงจังกับพวกเขา ก็จะกลายเป็นคนแบบเดียวกับพวกเขา”รพีพงษ์เอ่ยปาก

“ศิษย์พี่ พี่ไม่ไปเป็นนักวิชาการ น่าเสียดายจริงๆ”ดำเกิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

รพีพงษ์กลอกตาใส่เขา แล้วไม่ได้พูดอะไรอีก

……

ด้านนอกร้านอาหาร หลังจากที่หญิงสาวและผู้ชายไม่กี่คนออกไป ต่างก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็นที่มีต่อบนร่างกายตัวเองได้หายไปในพริบตา

“พวกผู้ชายไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริงๆ ถ้าไม่เห็นแก่หน้าเจ้าของร้านอาหาร ฉันจะจัดการพวกเขาอย่างโหดๆแน่ ท่าทางกินข้าวของพวกเขา เหมือนกับหมูจริงๆ กลับรังเกียจที่ฉันว่าให้พวกเขาอีก”หญิงสาวพูดอย่างเคียดแค้นรู้สึกไม่เป็นธรรม

“เอาล่ะ เธอก็อย่าได้ถือสากับพวกคนบ้านนอกคอกนาเลย ดูท่าทางที่พวกเขากินอาหารก็รู้แล้ว คงจะเป็นคนครอบครัวยากจนแน่ๆ พวกเขาได้กินข้าวมื้อหนึ่งแบบนี้ ไม่แน่อาจจะต้องเก็บหอมรอมริบนานมาก กินวิธีแบบนี้ก็พอเป็นข้อแก้ตัวได้”หัวหน้าของผู้ชายหลายคนกล่าว

“ชิ ครอบครัวยากจนแล้วทำไมล่ะ พวกเขายากจนก็ไม่ใช่ความผิดของฉัน คนแบบนี้ ยากจนตายก็สมควรแล้ว”หญิงสาวพูดอย่างไม่สนใจ

“ครั้งนี้ที่พวกเรามาก็เพื่อไปร่วมงานเลี้ยงฉลองของลูกสาวตระกูลลัดดาวัลย์ที่เกียวโต ทางที่ดีอย่าได้มีเรื่องจะดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวกลับไปก็จะถูกพ่อตำหนิอีก โดยเฉพาะเธอเลยธยานีย์ วันๆเอาแต่หาเรื่องให้พวกเรา”ผู้ชายพูด

หญิงสาวทำหน้าทะเล้นใส่เขาทันที

คนพวกนี้ เป็นคนที่มาร่วมงานเลี้ยงตระกูลลัดดาวัลย์จากเมืองดวงแก้วซึ่งอยู่ใกล้กับเกียวโต

พวกเขาทั้งหลายมาจากตระกูลนบวรผู้นำธุรกิจของเมืองดวงแก้ว หลายคนนี้เป็นลูกๆของประภูนายใหญ่ของตระกูลนบวร พ่อเดียวกันแต่คนล่ะแม่ คนที่เป็นหัวหน้าคือลูกชายคนโตของประภู ชื่อว่าปานศักดิ์ และหญิงสาวชื่อว่าธยานีย์ เป็นลูกสาวคนเล็กในตระกูล

“ได้ยินมาว่านายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์อายุก็เพิ่งจะยี่สิบกว่าๆ ก็น่าจะสุภาพมีสติปัญญาความรู้แต่ชอบอิสระ สง่างามมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คน ฉันแทบรอไม่ไหวอยากจะพบเขาแล้ว”ธยานีย์พูดด้วยความตื่นเต้น

“น้องสาว นายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์เขามีลูกแล้ว การแสดงออกของเธอคืออะไร?”พี่ชายของธยานีย์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ธยานีย์เชิดหน้าใส่เขาทันที แล้วพูดว่า: “มีลูกแล้วยังไงล่ะ ฉันพูดหน่อยก็ไม่ได้เหรอ”

“เอาล่ะ ไม่พอได้แล้ว ตรงนั้นมีฟิตเนสเซนเตอร์อยู่ พวกเราไปดูกันเถอะ พอดีช่วงกำลังฝึกฝนเพิ่มกล้ามเนื้อ แสดงให้พวกเธอดู”ปานศักดิ์เอ่ยปาก

……

หลังจากที่รพีพงษ์พวกเขาสามคนทานอาหารเสร็จ เดินออกจากร้านอาหาร ไออ้วนเรอออกมาอย่างพอใจ เอ่ยปากถามว่า: “พวกเราจะไปไหนกันต่อเหรอ?”

ดำเกิงเหลือบมองไปรอบๆ และเอ่ยปากว่า: “ตรงนั้นมีฟิตเนสเซนเตอร์อยู่ ฉันยังไม่เคยไปมาก่อน พวกเราไปดูพวกคนที่ออกกำลังกายกันเถอะ กับคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างเรา มีอะไรที่แตกต่างกัน”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท