พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่745 ราชาแห่งสวรรค์กูก็จะทำลายเหมือนกัน

บทที่745 ราชาแห่งสวรรค์กูก็จะทำลายเหมือนกัน

ทที่745 ราชาแห่งสวรรค์กูก็จะทำลายเหมือนกัน

“ให้ฉันขอโทษอาจารย์ของแก ไม่มีทาง ในเมื่อแกบีบบังคับอย่างนี้ งั้นก็อย่าโทษที่ฉันโหดเหี้ยมอำมหิต! ต่อให้ข้าจะต้องตาย ก็จะลากภรรยากับลูกของแกไปด้วย!”

ความเร็วของจิรภาสนั้นรวดเร็วมาก จนทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่สามารถตอบสนองได้ และไม่มีใครคิดว่า แดนปรมาจารย์คนหนึ่ง จะลงมือกับภรรยาและลูกของคนอื่นได้

“ไอ้แก่ แกรนหาที่ตาย!”

หลังจากที่รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของจิรภาส ร่างก็ปะทุขึ้นมาในทันที ความโกรธก็ระเบิดออกมาจากบนตัวเขา เขาก็คาดไม่ถึงว่าจิรภาสจะไร้ยางอายถึงขนาดนี้ กลับจะลงมือกับภรรยาและลูกสาวของเขา

ในขณะนี้พลังอานุภาพของพลังวิเศษเสนบรรลุถึงจุดที่สูงสุด ร่างกายของรพีพงษ์กลายเป็นเงา ผู้คนที่มองดูอยู่ก็ตาลาย พวกเขาไม่เคยเห็นคนที่มีความเร็วเช่นนี้มาก่อน

จิรภาสที่ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะใช้พลังทั้งหมดครั้งสุดท้ายแล้ว ฉวยโอกาสที่รพีพงษ์ไม่ทันได้ระวัง ก่อนที่รพีพงษ์จะตอบสนองกลับคืนมา พุ่งไปตรงหน้าอารียา

อย่างไรก็ตามร่างกายของเขาเพิ่งจะขยับ ก็ได้ยินเสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวจากด้านหลังของตัวเอง ต่อจากนั้น เขาก็รู้สึกว่าอากาศรอบตัวเองสั่นสะท้านขึ้นมา และมีกระแสลมแรงปรากฏขึ้น ทำให้ร่างของเขาทรงตัวไม่อยู่

เมื่อเขาใกล้จะเข้าใกล้อารียา ในขณะนี้ เงาร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าจิรภาส จากนั้นก็ค่อยๆแข็งทื่อ เป็นรพีพงษ์ที่กำลังเต็มไปด้วยความอาฆาต

สีหน้าของจิรภาสถอดสี ไม่ว่ายังไงก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เขาฉวยโอกาสที่ไม่ทันได้ระวังตัวพุ่งเข้ามา ที่สำคัญด้วยความเร็วที่สูงสุด กลับถูกรพีพงษ์ขวางไว้ได้

ความเร็วของผู้ชายคนนี้ เหนือกว่าปรมาจารย์ ตกลงว่าทำได้อย่างไรกันแน่?!!

จิรภาสหยุดอย่างรวดเร็ว หันหลังกลับเพื่อหนี แต่ในเวลานี้ มือของรพีพงษ์ได้ยื่นมาบนตัวเขาแล้ว เขารู้สึกว่าความคิดของตัวเองช้าลงมาก แม้ว่าจะเห็นรพีพงษ์ยื่นมือมา เขาก็ไม่สามารถใช้ท่วงท่าใดๆมาต้านทานไว้ได้

นี่ไม่ใช่เพราะรพีพงษ์ทำให้ความคิดของเขาช้าลงจริงๆ แต่เป็นรพีพงษ์ที่เร็วมาก จนเขาไม่สามารถตอบสนองได้เลย

“คนมีต่อมโมโห สะกิดโดนก็จะต้องตาย! แกกล้ามีความคิดที่จะทำร้ายภรรยาและลูกสาวของฉัน ต่อให้เป็นราชาแห่งสวรรค์ กูก็จะทำลายเหมือนกัน!”

มือของรพีพงษ์จับคอของจิรภาสไว้ ร่างกายของจิรภาสดิ้นรนอย่างรุนแรง รพีพงษ์ใช้แรงที่ฝ่ามือ เสียงกระดูกหักดังขึ้นมา ลำคอของจิรภาส ก็ถูกรพีพงษ์บีบจนหักทั้งเป็นแบบนี้

นี่ยังถือว่าไม่จบเพียงเท่านี้ หลังจากที่หักลำคอของจิรภาสแล้ว รพีพงษ์ก็โยนร่างของเขาลงไปที่พื้น ยกเท้าขึ้นเหยียบบนหน้าอก หลุมลึกปรากฏขึ้น และปากของจิรภาสก็มีเลือดพุ่งออกมานับไม่ถ้วน ดวงตาทั้งสองคนเบิกกว้าง ไม่มีโอกาสรอดชีวิต

ปรมาจารย์จิรภาส ก็เสียชีวิตอยู่ในเงื้อมมือของรพีพงษ์แบบนี้ และตระกูลภูธนก็สูญเสียยอดฝีมือที่มีตำแหน่งสำคัญไปหนึ่งคน

ทุกคนในที่เกิดเหตุมองดูฉากนี้ด้วยความตกตะลึง ในขณะนี้ รพีพงษ์เป็นเหมือนกับเทพสังหารที่กลับมาจากนรก เทพขวางฆ่าเทพ พระขวางฆ่าพระ

ปธานินทั้งสามคนจ้องมองดูจิรภาสที่ไม่ขยับ ร่างกายก็อดไม่ได้ที่จะสั่น สีหน้าซีดลงมากขึ้น

สายตาของรพีพงษ์จ้องมองมาที่พวกเขาทั้งสามคน ในใจของปีธานินก็หวาดกลัวขึ้น เผชิญหน้ากับรพีพงษ์ ในใจของพวกเขาก็เหลือเพียงความรู้สึกที่ไร้พลัง

“พวกแกสามคนยังคิดที่จะลงมือกับภรรยาฉันมั้ย?”รพีพงษ์ถามโดยไม่มีความผันผวนทางอารมณ์ใดๆ

ปธานินยืนขึ้นจากพื้นอย่างสั่นเทา และเดินไปหารพีพงษ์ เมื่ออยู่ห่างจากรพีพงษ์มากกว่าสิบเมตร ตูมดังขึ้นมา คุกเข่าลงมาทันที

“ฉันปธานิน อยากจะขอโทษวฤนท์ธมสำหรับความผิดก่อนหน้านี้ สาบานว่าจะไม่เป็นศัตรูกับวฤนท์ธมอีก และยังขอให้น้องชาย ไว้ชีวิตฉันด้วย!”

หลังจากพูดจบ ปธานินก็คลานไปที่รพีพงษ์

ในใจของปธานินรู้ดี แม้ว่าเจ้าสำนักของสำนักฮิงแสมา ก็ไม่ใช่เป็นคู่ต่อสู้ของรพีพงษ์อย่างแน่นอน ชายหนุ่มคนนี้ จะทำให้เกิดความวุ่นวายในแวดวงศิลปะต่อสู้โบราณอย่างแน่นอน ถ้าหากยังคงเป็นศัตรูกับเขาอีกต่อไป มีแต่ตายเพียงทางเดียว

ญาณวุฒิและศัจกรทั้งสองคนมีความคิดเช่นเดียวกับปธานิน เมื่อเห็นปธานินคุกเข่าลงให้กับรพีพงษ์ พวกเขาทั้งสองคนก็เดินไป เผชิญหน้ากับรพีพงษ์ คุกเข่าลง

“ฉันญาณวุฒิ อยากจะขอโทษวฤนท์ธมสำหรับความผิดก่อนหน้านี้…..”

“ฉันศัจกร….”

หลังจากขอโทษแล้ว พวกเขาทั้งคู่ก็คลานลงที่พื้น

“ไสหัวไปซะ”รพีพงษ์พูดอย่างเย็นชา และไม่ทำให้พวกเขาลำบากใจอีกต่อไป

ปธานินพวกเขาทั้งสามคนรีบลุกขึ้นมาจากบนพื้นอย่างรวดเร็ว แล้วพาคนของตัวเองออกจากที่นี่

การต่อสู้ที่น่าทึ่งที่หน้าคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ จนถึงตอนนี้ ถือได้ว่าสิ้นสุดลงแล้ว สุดท้ายก็จบลงด้วยการตายของปรมาจารย์หนึ่งคนและการคุกเข่าขอโทษของแดนครึ่งปรมาจารย์ทั้งสามคน

ท่ามกลางฝูงชนที่เฝ้าดูการต่อสู้ครั้งนี้ มีคนไม่น้อยถ่ายการต่อสู้โพสต์บนอินเทอร์เน็ต เชื่อว่าอีกไม่นาน การต่อสู้ครั้งนี้ของรพีพงษ์ จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ชื่อรพีพงษ์นี้ ไม่เพียงแต่จะมีชื่อเสียงอยู่ในโลกธุรกิจเท่านั้น แต่จะทำให้แวดวงศิลปะการต่อสู้สั่นคลอน

ในไม่ช้า คนของตระกูลลัดดาวัลย์ก็เคลียร์เวทีประลองที่หน้าประตู พวกคนที่ดูความครึกครื้นก็ทยอยออกไป หน้าประตูคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ ก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้ง

รพีพงษ์เก็บพลังอานุภาพของตัวเองกลับคืนมา หันหลังแล้วเดินไปหาอารียาพวกเขา

ดวงตาของทุกคนจับจ้องไปที่รพีพงษ์ ผู้ชายคนนี้ สามารถทำให้พวกเขาประหลาดใจได้เสมอ ตระกูลลัดดาวัลย์ มีรพีพงษ์อยู่ ไม่มีวันที่จะล้มลงไป

“ทำให้เธอเป็นห่วงแล้ว”รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดกับอารียา

อารียามองไปที่รพีพงษ์อย่างตำหนิแวบหนึ่ง แต่ในดวงตา กลับเต็มไปด้วยความสุข

“นายยังไม่อุ้มลูกสาวของตัวเองอีกเหรอ? นายไม่กลับมานานขนาดนี้ ลูกแทบจะจำนายที่เป็นพ่อไม่ได้แล้ว”อารียาเอ่ยปาก

รพีพงษ์รีบรับขวัญนลินมาจากอ้อมแขนของอารียา เอ่ยปากว่า: “ฉันเป็นพ่อของลูกนะ ต่อให้ห่างกันไปนาน ลูกก็ไม่มีทางลืมฉัน”

อารียากลอกตาใส่เขา แล้วพูดว่า: “ในเมื่อนายมั่นใจขนาดนี้ งั้นนายมีปัญญาทำให้เขาเรียกนายว่าพ่อได้หรือเปล่าล่ะ”

รพีพงษ์ก้มหน้ามองไปขวัญนลินที่อยู่ในอ้อมแขนแวบหนึ่ง ตัวเล็กมองไปที่รพีพงษ์อย่างอยากรู้อยากเห็น มีความใกล้ชิดในดวงตาที่ยากจะปิดซ่อน

“หนูลิน แม่ของลูกไม่เชื่อในสายสัมพันธ์พิเศษระหว่างพ่อลูกของเรา ลูกเรียกพ่อว่าพ่อหน่อยเร็ว ทำให้แม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเราไม่สามารถเจือจางไปตามกาลเวลา”รพีพงษ์เอ่ยปาก

ขวัญนลินยื่นมือเล็กๆออกมา จับใบหน้าของรพีพงษ์ ไม่เข้าใจว่ารพีพงษ์กำลังพูดถึงอะไร

อารียาก็หัวเราะขึ้นมาทันที แล้วพูดว่า: “ดูสิ ลูกไม่รู้จักนายเลย ในสายตาของลูก นายก็คงจะเป็นแค่ของเล่นสนุกๆ”

ผู้คนที่อยู่ด้านหลังอารียาก็เม้มปากยิ้มขึ้นมา

รพีพงษ์ทำอะไรไม่ถูก ไม่สามารถที่จะทำอะไรตัวเล็กคนนี้ได้

เมื่อรพีพงษ์กำลังจะอุ้มขวัญนลินเข้าไปในคฤหาสน์ใหญ่ ทันใดนั้นตัวเล็กก็ใช้น้ำเสียงอ่อนหวานตะโกนเรียก: “พ่อ”

แม้ว่าจะพูดไม่ชัด แต่ก็สามารถบอกได้ว่าเธอกำลังเรียกรพีพงษ์

ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง และใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

รพีพงษ์หัวเราะเสียงดัง และพูดอย่างมีความสุขว่า: “ลูกที่ดีของพ่อ ลูกคือความสุขของพ่อจริงๆ”

“พ่อพลาดงานเลี้ยงฉลองครอบหนึ่งร้อยวันของลูกไป ครั้งนี้กลับมา พ่อจะจัดงานเลี้ยงฉลองใหญ่โตให้กับลูก”

“ท่านคทา เลือกวันดีๆมาวันหนึ่ง ฉันอยากจะฉลองให้กับหนูลิน เชิญเพื่อนๆญาติพี่น้องมา จัดงานเลี้ยงสามวัน!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท