พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่760 โชคชะตาบางอย่าง หลีกเลี่ยงไม่พ้น

บทที่760 โชคชะตาบางอย่าง หลีกเลี่ยงไม่พ้น

บทที่760 โชคชะตาบางอย่าง หลีกเลี่ยงไม่พ้น

การตายของปภาวิชญ์ ผลักดันให้งานเลี้ยงทั้งหมดถึงจุดสุดยอด ทุกคนที่มาร่วมงานตระกูลลัดดาวัลย์ต่างก็ตกตะลึงกับความแข็งแกร่งที่รพีพงษ์แสดงออกมา โดยเฉพาะเสียงร้องไห้อย่างช้ำใจของคนในตระกูลภูธน ทำให้ทุกคนเข้าใจ ไม่ว่าตระกูลจะมีอำนาจมากเพียงใด ใครก็ตามที่เข้ามาหาเรื่องตระกูลลัดดาวัลย์ ท้ายที่สุด จะมีจุดจบที่ไม่ดี

ทุกคนในโลกศิลปะการต่อสู้ต่างก็มีลางสังหรณ์ ภายในสามวัน ชื่อรพีพงษ์นี้ จะมาแทนที่ปภาวิชญ์ จะกลายเป็นในแวดวงศิลปะการต่อสู้แถบเมืองชลาลัย มีชื่อที่น่าเกรงขามมีความเคารพที่สุด

รพีพงษ์ในเวลานี้ อายุเพียงยี่สิบกว่าๆ เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งของรพีพงษ์แล้ว ยังทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว เนื่องจากว่าใครก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่า รพีพงษ์จะเติบโตไปได้ไกลถึงแค่ไหน

คนของตระกูลภูธนนำศพของปภาวิชญ์ออกจากคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหดหู่ รพีพงษ์จัดให้คนมาทำความสะอาดในลานบ้านหลักงานเลี้ยงอย่างรวดเร็ว งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป ความกระตือรือร้นของผู้คนก็เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด

รพีพงษ์ใช้โอกาสนี้ เพื่อประกาศให้ทุกคนทราบว่า หากใครก็ตามที่ต้องการมาหาเรื่องตระกูลลัดดาวัลย์ เขาก็จะต่อสู้จนถึงที่สุด แต่ว่าอีกฝ่ายจะต้องชดใช้ เป็นชีวิตของตัวเอง

ไม่มีใครสงสัยคำพูดของรพีพงษ์ที่แฝงไปด้วยพลัง คนอันดับหนึ่งของศิลปะการต่อสู้ในแถบเมืองชลาลัยตายอยู่ในเงื้อมมือของรพีพงษ์ อย่างน้อยที่สุดในแถบเมืองชลาลัย ไม่มีใครที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของรพีพงษ์ได้ อยากจะมาหาเรื่องตระกูลลัดดาวัลย์ คงจะมีแต่สมองมีปัญหา

หลังจากพูดคุยโต้ตอบกับทุกคนได้สักพัก รพีพงษ์มอบงานจัดการกับแขกเหล่านี้ให้กับท่านคทา ตัวเองเดินไปที่ลานบ้านที่อารียาอยู่

ในการต่อสู้ครั้งนี้ หากเป็นเพียงการต่อสู้ธรรมดา รพีพงษ์จะรู้สึกผ่อนคลายมาก และไม่มีแรงกดดันใดๆ แต่หลังจากที่ปภาวิชญ์กินยาเม็ตไอกิแดน รพีพงษ์ก็ต้องใช้พลังทั้งหมดของตัวเอง แสดงการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่อย่างนั้น วันนี้เขาคงจะพ่ายแพ้อยู่ในเงื้อมมือของปภาวิชญ์

ในเวลานี้รพีพงษ์ยังรู้สึกร่างกายของตัวเองเกิดความอ่อนแอ พลังที่หมดไปทำให้เขารู้สึกเดินอย่างเบาหวิว

การต่อสู้กับปภาวิชญ์ ทำให้รพีพงษ์ตระหนักถึงขีดจำกัดของตัวเองอยู่ในระดับไหน ปภาวิชญ์กินยาเม็ตไอกิแดน สมญานามได้ว่าแดนปรมาจารย์ที่ไม่สามารถต้านทานได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขายังคงพ่ายแพ้อยู่ในเงื้อมมือของรพีพงษ์ แสดงให้เห็นว่ารพีพงษ์อยู่ในสถานะที่แดนปรมาจารย์ไม่สามารถต้านทานได้ในเวลานี้

สิ่งนี้ทำให้รพีพงษ์รู้สึกถึงความน่ากลัวของพลังวิเศษเสนมากขึ้นเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด ทั้งๆที่เขาเพิ่งจะพลังวิเศษเสนชั้นสูง แต่กลับสามารถไม่สนใจความแข็งแกร่งของปรมาจารย์เน่ยจิ้งได้ ถ้าเขาฝึกฝนเน่ยจิ้งจนสมบูรณ์แบบ เขาจะบรรลุอยู่ในแดนแบบไหนกันล่ะ?

ในเวลาเดียวกันรพีพงษ์ก็ตระหนักว่า แรงภายนอก บางครั้งสามารถมีอิทธิพลต่อผลของการต่อสู้ได้

ปภาวิชญ์เพียงแค่กินยาเม็ดเล็กๆ ก็สามารถทำให้ความแข็งแกร่งของตัวเองเพิ่มขึ้นได้ทันที หากปภาวิชญ์ต่อสู้กับระดับยอดฝีมือที่เทียบเท่ากับเขา ยอดฝีมือคนนั้นคงจะตายอย่างอนาถาอย่างแน่นอน

แม้ว่ายาเม็ดนี้จะมีผลข้างเคียงที่น่ากลัว แต่ก็ไม่มีการปฏิเสธคุณค่าที่มีสิ่งของแบบนี้อยู่

ยิ่งไปกว่านั้นรพีพงษ์ยังมีประสบการณ์ในการกินยาเพื่อยืดชีวิต ยาทั้งสามเม็ดที่ช่วยชีวิตเขาทำให้เขารู้ว่า ยาบางชนิด มีผลข้างเคียงที่แทบจะไม่ได้สังเกตเลย

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ในความคิดของรพีพงษ์ก็มีตอนที่อยู่ในห้องอาบน้ำกับฝนสุดโผล่ออกมาอีกครั้ง ฉากที่เปียกปอนทั้งตัว

ตอนที่รพีพงษ์กำลังเดินไปด้านหน้า มีร่างสองร่างปรากฏตัวตรงหน้าเขา ก็คือผนึกสินและครองสุขทั้งสองคน

รพีพงษ์เห็นพวกเขาทั้งสองคน ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าก็ปรากฏ เอ่ยปากว่า: “ทั้งสองคนรับประทานอาหารได้ดี ถ้าหากมีจุดใดที่ดูแลไม่ทั่วถึง โปรดยกโทษให้ด้วย”

ในเวลานี้ผนึกสินจ้องมองรพีพงษ์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ ไม่ได้มีสายตาที่มองดูรุ่นน้องแบบนั้นนานแล้ว

เดิมทีเขาคิดว่าเมื่อตอนที่รพีพงษ์สู้ปภาวิชญ์ไม่ไหว สามารถก้าวออกไปเผชิญหน้าอย่างห้าวหาญ แสดงหน่วยก้านของกลุ่มสิงโต แต่กลับคาดไม่ถึงว่าปภาวิชญ์จะกินยาเม็ตไอกิแดน และสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงที่สุดคือ รพีพงษ์จะฆ่าปภาวิชญ์ที่กินยาเม็ตไอกิแดน

นี่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของเขา และแผนการก่อนหน้านี้ของเขา ก็ล้มเหลวเป็นธรรมดา

“รพีพงษ์ นายไม่คิดที่จะเข้าร่วมกลุ่มสิงโตของพวกเราจริงๆเหรอ? ดูการต่อสู้เมื่อกี้นี้ของนาย ฉันรู้ว่าพวกเราต้องการยอดฝีมืออย่างนายจริงๆ”ผนึกสินเอ่ยปาก

“อืม เกรงว่าคนเหล่านั้นที่ดูการต่อสู้เมื่อกี้นี้ของฉัน คงจะพูดแบบนั้น”รพีพงษ์เอ่ยปาก

ผนึกสินกระอักกระอ่วนทันที ความแข็งแกร่งที่รพีพงษ์แสดงออกมานั้นเหนือจินตนาการของเขา ดังนั้นเขาจึงพูดโดยไม่คิด กลับจะดึงกลุ่มสิงโตให้อยู่ในระดับที่เหนือกว่าตระกูลศิลปะการต่อสู้

“ฉันรู้ตอนนี้ต้องการให้นายเข้าร่วมกับพวกเรา มันเป็นเรื่องยากไปบ้าง แต่ว่านายอย่าคิดว่าความแข็งแกร่งแบบนี้ของนาย ก็จะทำถึงขนาดที่ไม่เอากลุ่มสิงโตของฉันไว้ในสายตาได้”

“ในกลุ่มสิงโต สามารถเพียงพอที่จะปราบนายได้ มีจำนวนไม่น้อย ระดับอย่างฉัน ไม่มีอะไรเลยนอกจากการช่วยทำธุระเท่านั้น ที่สำคัญนายก็ไม่ใช่ยอดอัจฉริยะเพียงคนเดียวในโลก ในที่ของพวกเรา มีคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับนาย ได้บรรลุถึงแดนปรมาจารย์อยู่ด้วย ในสิ่งที่พวกเขามีอยู่ มันยังน่ากลัวกว่านายอีก”

“ผู้แข็งแกร่ง มักจะก้าวเดินไปพร้อมกับผู้แข็งแกร่งเสมอ กลุ่มสิงโต ถึงเป็นที่ที่นายควรอยู่มากที่สุด ไม่ว่านายจะยอมรับคำเชิญชวนของฉันหรือไม่ ฉันก็อยากจะบอกนายสักคำ โชคชะตาบางอย่าง หลีกเลี่ยงไม่พ้น ”

ผนึกสินพูดกับรพีพงษ์ไม่กี่คำอย่างจริงจัง

รพีพงษ์ยิ้มแล้วสองมือประสานคำนับให้ผนึกสิน โดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็เดินไปด้านหน้าต่อ

ผนึกสินและครองสุขมองดูร่างของรพีพงษ์ที่หายไปในลานอีกแห่งหนึ่ง ต่างก็ทอดถอนใจ

“ผู้อาวุโสผนึกสิน ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?”ครองสุขเอ่ยปากถาม

“ไปกันเถอะ พวกเราไม่มีทางเอาเด็กคนนี้อยู่ ดูเหมือนว่าให้รพีพงษ์เข้าร่วมกับพวกเรา ก็ต้องปล่อยให้ผู้อาวุโสพวกนั้นออกโรงเท่านั้น”ผนึกสินกล่าว บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมา

……

ในห้องนอน รพีพงษ์เห็นอารียาที่กำลังเฝ้าเปลอยู่ด้านข้าง จ้องมองขวัญนลินที่หลับไปแล้วด้วยใบหน้าที่จริงจัง และเดินไปด้วยรอยยิ้ม

อารียาเงยหน้าขึ้นมา มองไปที่รพีพงษ์ เอ่ยปากถาม: “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นที่ข้างนอกเหรอ? ฉันฟังดูเหมือนจะวุ่นวาย ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นใช่มั้ย?”

“ไม่มีอะไร ปัญหาเล็กน้อยเท่านั้นเอง จัดการเรียบร้อยแล้ว”รพีพงษ์เอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม

“งั้นก็ดีแล้ว นายดูสิ ท่าทางที่หนูลินนอนหลับ เหมือนกับนายเลย”อารียาเอ่ยปาก

รพีพงษ์เดินไปที่ด้านข้างของเปล ก้มหน้ามองลงไปที่ขวัญนลินแวบหนึ่ง ยิ้มแล้วพูดว่า: “ท่าทางตอนที่ฉันนอนหลับก็แบบนี้เหรอ? ทำไม่รู้สึกว่าโง่จัง”

อารียากลอกตาใส่รพีพงษ์ เอ่ยปากว่า: “เหมือนกันทุกอย่างเลย ถ้านายไม่เชื่อ คืนนี้ฉันจะถ่ายรูปนายไว้”

รพีพงษ์หัวเราะ กอดอารียาไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง และพูดว่า: “เชื่อๆ คำพูดของภรรยาฉัน ฉันจะไม่เชื่อได้อย่างไร”

ผนึกสินพูดถูก ผู้แข็งแกร่งชอบที่จะก้าวหน้าไปพร้อมกับผู้แข็งแกร่ง แต่สำหรับรพีพงษ์ ตราบใดที่อารียาและขวัญนลินปลอดภัย ก็เพียงพอแล้ว

นี่จึงเป็นสิ่งที่เขาต้องการยึดติดจริงๆ

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท