พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่803 ท่อนไม้

บทที่803 ท่อนไม้

บทที่802 สุขภาพแข็งแรงดี

ได้ยินคำถามของอารียา ชายชุดดำตอบไม่ถูก คำนี้ สำหรับนักกลั่นยาแล้ว เป็นการดูถูกอย่างหาที่สุดไม่ได้

ยาพิษเม็ดหนึ่ง แม้จะหมดอายุ ก็ยังคงฆ่าคนได้ ยิ่งไปกว่านั้นยาของเขาเพิ่งจะผลิตออกมาได้ไม่นาน

แล้วเขาก็มั่นใจเป็นอย่างมาก ว่าตัวเองไม่ได้หยิบยาผิดมา ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหรือสี ล้วนมีความพิเศษของมัน ถ้าหยิบมาผิด เขาก็รู้ตั้งนานแล้ว

แต่หลังจากที่อารียากินเข้าไปแล้วนั้น ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นี่ทำให้ชายชุดดำรู้สึกอับอายเช่นกัน เพราะตอนแรกที่เขาผลิตยานี้ออกมา ยังคิดว่าได้ผลิตยาพิษที่ไร้ซึ่งยาแก้ได้แล้วเสียอีก แล้วยังมั่นใจอีก

ใครจะรู้ว่าพอกินไปแล้วจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” รพีพงษ์จ้องไปที่ชายชุดดำ ถามอย่างสงบ

“กู……กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” ชายชุดดำตอบอย่างตรงไปตรงมา

“หรือว่ามันไปผสมกับยาที่กินไปก่อนหน้านี้แล้ว?” อารียาถาม

“เป็นไปไม่ได้ ยาที่กูผลิตออกมาก็รู้ดีว่ามันเป็นไง ไม่มีทางเป็นกลางได้” ชายชุดดำกล่าวอย่างมั่นใจ

เพราะตอนนี้ไม่รู้สถานการณ์ของอารียา รพีพงษ์ก็ไม่อยากยืดเวลา จึงได้กล่าวต่อชายชุดดำว่า “มึงรู้แล้วว่าตอนนี้เป็นไง การข่มขู่ของมึงไม่เป็นผลล่ะ ถ้ามึงไม่เชื่อฟัง ก็ตายสถานเดียว ตอนนี้มึงรีบไปเอายาแก้ที่เมียกูกินเข้าไปก่อนหน้านี้มาเดี๋ยวนี้”

ชายชุดดำเข้าใจรพีพงษ์ ถ้าเมื่อกี๊ เขายังสามารถเอาชีวิตของอารียามาข่มขู่รพีพงษ์ได้ แต่ตอนนี้อารียาได้กินยาพิษที่ร้ายแรงที่สุดแล้วแต่ไม่เป็นไร เขาได้ถูกรพีพงษ์จับไว้ ดังนั้นทำได้เพียงทำตามคำสั่งของรพีพงษ์เท่านั้น

เพื่อความปลอดภัย มือหนึ่งของรพีพงษ์ได้วางไว้บนคอของชายชุดดำ เมื่อเขาคิดจะทำอะไร รพีพงษ์ก็สามารถบิดคอเขาได้ในทันที

ชายชุดดำมองไปที่อารียา กล่าว “ถกแขนเสื้อด้านซ้ายของแกขึ้น”

อารียาทำตามคำขอของเขา ถกแขนเสื้อขึ้น แขนขาวราวกับหยก ละเอียดยิ่งนัก

หลังจากที่ชายชุดดำได้เห็นแขนของอารียาแล้วนั้น สีหน้าเปลี่ยนทันที แล้วกล่าวอย่างตะลึงว่า “นี่มันอะไรกัน! ทำไมไม่มียาพิษในเส้นเลือดเลย!”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วพลางมองไปที่ชายชุดดำ แล้วถาม “หมายความว่าไง?”

“ยาที่กูมห้มันกินคือยาเรื้อรัง จะค่อยๆกัดกินเลือดเนื้อ แล้วยังโผล่ออกมาทางเส้นเลือดอีกด้วย แต่บนแขนของเธอไม่มีอะไรเลย นี่หมายถึงเธอไม่มียาพิษใดๆในร่างกาย แต่กูให้มันกินกับมือกูเองเลยนี่หน่า” ชายชุดดำกล่าว

รพีพงษ์จ้งไปที่แขนของอารียาอย่างขะมักขะเม่น บนแขนสะอาด ดูๆไปไม่มีอะไรเลยจริงๆ

“มึงมั่นใจว่าบนแขนไม่มีเส้นเลือดที่มึงว่านั่น หมายถึงไม่มียาพิษ?” รพีพงษ์จ้องไปที่ชายชุดดำแล้วถาม

ชายชุดดำพยักหน้า กล่าว “กูเอาชีวิตเป็นประกัน ในฐานะที่เป็นนักกลั่นยา กูไม่มีทางเอาเรื่องยามาล้อเล่นแน่นอน”

ได้ยินคำพูดนี้ของนักกลั่นยา รพีพงษ์ก็ตาลุกวาว เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคนเรียกตัวเองแบบนี้

แม้รพีพงษ์อยากรู้ประวัติของชายชุดดำนี้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาถาม เขาต้องทำให้แน่ชัดก่อนว่าอารียามีปัญหาหรือไม่

ดังนั้นเรื่องด่วน ก็คือพาอารียาไปเช็คร่างกายที่โรงพยาบาล แม้ยาพิษกับการรักษาแบบตะวันตกจะเป็นไปไม่ได้ แต่พื้นฐานก็เหมือนกันอยู่ หากร่างกายของอารียามีปัญหาจริงๆล่ะก็ ใช้เครื่องตรวจก็น่าจะตรวจพบอยู่

รพีพงษ์จ้องไปที่ชายชุดดำ กล่าว “กูจะปล่อยมึงไปก่อน ถ้าเมียกูเป็นอะไรไป กูไม่มีทางปล่อยมึงไว้แน่”

ชายชุดดำได้ยินรพีพงษ์ ก็รู้ว่ารพีพงษ์ต้องการทำอะไร ในฐานะที่เป็นยอดฝีมือแดนปรมาจารย์ เขาไม่มีทางรอความตายอย่างไม่ทำอะไรได้ ดังนั้นจึงได้ไหลเวียนเน่ยจิ้ง แล้วหยิบยาออกมาจากชุดตัวเอง จะกินเข้าไป

รพีพงษ์แย่งยาในมือของเขามาอย่างง่ายดาย ดูๆแล้ว น่าจะเป็นยาเพิ่มพลัง

จากนั้นรพีพงษ์ก็ผลักไปที่อกของชายชุดดำ ชายชุดดำส่งเสียงกระอัก จากนั้นก็กระอักเลือดออกมา ในขณะที่เขากำลังอยากจะหมุนเวียนเน่ยจิ้งอยู่นั้น กลับพบว่าตัวเองไม่มีแรงแล้ว

“อย่าคิดว่ามึงเป็นแดนปรมาจารย์และมียาเพิ่มพลังแล้วจะสู้กับกูได้ ถ้าตอนนั้นเมียกูไม่กินยาพิษของมึงเข้าไป กูหักขามึงแล้วบีบมึงให้พูดว่ายาถอนพิษอยู่ไหนแล้ว” รพีพงษ์กล่าว

หลังจากที่ชายชุดดำได้ยินคำพูดของรพีพงษ์แล้วนั้นก็เกิดไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา เขาประเมินฝีมือของรพีพงษ์ต่ำไป แล้วยังคิดว่าความสามารถของตน แม้จะสู้ไม่ไ่ด้แต่หนีได้แน่นอน

ตอนนี้ดูแล้ว คิดมากไปจริงๆ

แต่เมื่ออารียาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์แล้วนั้น ก็อับอายขึ้นมา รู้สึกว่าการกระทำเมื่อกี๊มันชั่งบ้าบอสิ้นดี ถ้ารู้ว่ารพีพงษ์คิดวิธีที่จะต่อกรไว้นานแล้ว เธอก็จะไม่บ้ากินยาเข้าไปหรอก

เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงชายชุดดำก่อเรื่อง รพีพงษ์ทุบเขาจนมึนแล้ววางไว้กระโปรงหลังรถ

จากนั้นรพีพงษ์ก็พาอารียากลับไปยังในเมือง จากนั้นก็ไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเกียวโต เช็คร่างกายให้อารียา

ในขณะที่กำลังรอผลการตรวจร่างกาย รพีพงษ์และอารียาก็กระวนกระวายใจ กลัวว่าร่างกายของอารียาจะดูสดใส แต่แท้ที่จริงแล้วร่างกายเกือบจะเต็มไปด้วยยาพิษแล้ว

ในขณะที่รอผล อารียาได้วางแผนเรื่องต่างๆนานาหลังจากตัวเองตายไว้เรียบร้อยแล้ว แล้วยังเน้นย้ำรพีพงษ์ว่าต่อไปต้องหาแฟนดีๆให้หนูลิน อย่างน้อยก็ต้องเป็นระดับเดียวกับรพีพงษ์ มิเช่นนั้นไม่อนุญาติให้เธอคบกันเป็นแฟนได้

รพีพงษ์ได้ยินอารียาพูดเรื่องเหล่านี้ ทั้งรู้สึกร้อนรนและตลก ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อไปบทที่803 ท่อนไม้

ระหว่างทางกลับ รพีพงษ์และอารียายังคงอึ้ง มีแต่คำพูดของหมอดังกึกก้องอยู่ในหู

“หากร่างกายของเธอสามารถเป็นแบบนี้ไปได้ตลอด ก็ไม่น่าจะมีโรคภัยใดๆ สุขภาพดีตลอดชีวิต

แม้คำพูดนี้ของหมอเมื่อฟังแล้วควรจะดีใจสิถึงจะถูก แต่อารียากินยาพิษเข้าไปสองประเภท แต่ร่างกายของอารียา ทำให้คนรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก

“รพีพงษ์ คุณว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลนี้มีปัญหาหรือเปล่า ไม่งั้นเราลองไปตรวจที่โรงพยาบาลอื่นดูกันไหม” อารียายังคงกล่าวอย่างกังวล

“โรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของเกียวโตแล้ว อุปกรณ์ของพวกเขาทันสมัยกว่าที่อื่น แม้อุปกรณ์จะมีปัญหา ก็ไม่น่าจะมีปัญหาทุกตัวนะ ถ้าผลของพวกเขาไม่น่าเชื่อถือล่ะก็ ผลของโรงพยาบาลอื่นไม่น่าเชื่อถือยิ่งกว่า” รพีพงษ์กล่าว

“งั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย ฉันรู้สึกว่ามันไม่ปกตินะ ฉันมักจะรู้สึกว่าพลังในช่วงนี้มันมหาศาลเหลือเกิน ไม่เหนื่อย คุณว่าฉันคงไม่โดนของอะไรเข้าตัวหรอกมั้งนะ?” อารียากล่าวอย่างกังวล

รพีพงษ์มองบน กล่าว “เค้าถูกทำของใส่ ร่างกายจะเป็นโรค ร่างกายไม่มีแรง แต่นี่คุณโดนของแต่ร่างกายกลับมีพลัง ไม่มีโรคภัย ถ้าแบบนี้ ของที่เข้าคุณก็เป็นของดีนะสิ”

อารียาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ก็รู้ว่ารพีพงษ์กำลังหัวเราะตัวเองอยู่ คิดๆก็ใช่ โลกนี้จะมีของอยู่ได้ไงกัน เธอคิดมากไป

รพีพงษ์ขับรถพลาง ก็คิดพลางว่าเกิดอะไรขึ้นกับอารียากันแน่ ไม่นาน ตาเขาก็เป็นประกาย แล้วกล่าว “ผมรู้ว่าทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้แล้ว”

“ทำไม?” อารียารีบถาม

“คุณจำวันนั้นที่คุณฝันได้ไหม คุณได้กินท่อนไม้ดำไปนิดนึง?”

อารียาพยักหน้า

“คุณคิดว่าตัวเองเริ่มมีพลังมหาศาล เพราะเริ่มตั้งแตกที่คุณกินไม้ท่อนนั้นไหม?” รพีพงษ์ถามต่อ

อารียาคิดๆ พบว่าหลังจากที่ตัวเองได้กินท่อนไม้นั้นแล้ว ก็มีพลังมหาศาลขึ้นจริงๆ และถ้าจะพูดว่าพลังมหาศาลก็พูดไม่ได้ หลังจากที่ครั้งนั้นได้กินท่อนไม้แล้วนั้น เธอได้ใช้มันกับรพีพงษ์หลายวัน ถึงจะเริ่มเพลาลง

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อารียาก็หน้าแดงขึ้นมา

“ถ้าพูดแบบนี้ ก็น่าจะเริ่มจากวันนั้น ฉันก็กระปรี้กระเปร่ามาโดยตลอด แม้หนูลินจะงอแง ฉันก็ไม่รู้สึกเหนื่อย ตอนแรกฉันคิดว่าเป็นเพราะอยู่กับคุณ ฉันมีความสุข จึงไม่รู้สึกเหนื่อย” อารียากล่าว

คำพูดนี้ของเธอทำให้รพีพงษ์ยิ่งมั่นใจ ว่าที่อารียาเป็นอยู่ปัจจุบันนี้ เป็นเพราะไม้ท่อนดำนั้นจริงๆ

เพราะสิ่งนี้ได้ถูกเก็บไว้กับยาพิษอีกสองชนิด ดังนั้นรพีพงษ์จึงลืมฉวยโอกาสนี้ให้อาจารย์ดูว่ารู้จักที่มาที่ไปของของนี้หรือไม่

ถ้าไม่ใช่เพราะคิดเรื่องนี้ออก รพีพงษ์ก็คงจะลืมเรื่องของท่อนไม้นี้ไปแล้ว

“ท่อนไม้นั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่คาดคิดว่าหลังจากกินเข้าไปแล้ว ยังทำให้คนที่ได้รับพิษไม่เป็นไรอีกด้วย แม้จะยังไม่แน่ใจว่าท่อนไม้นั้นมาจากที่ไหน แต่ตอนนี้ที่รู้ๆ ของสิ่งนี้ไม่ได้เป็นโทษ” รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ

รู้ว่าที่ตัวเองเป็นอยู่นี้เป็นเพราะท่อนไม้นั่นแล้ว อารียาก็สบายใจไปไม่น้อย ช่วงนั้นที่วางท่อนไม้ไว้บนหัวเตียงเธอก็รู้สึกว่ามันเป็นของที่แปลกประหลาด ไม่คาดคิดว่ากินเข้าไปแล้วยังเป็นยาถอนพิษอีกด้วย เป็นของดีที่หาได้ยากจริงๆ

“ไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ไม่มีประโยชน์พวกนี้อีกแล้ว คนไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เดี๋ยวถ้ามีโอกาส ผมจะไปศึกษาที่มาของท่อนไม้ว่ามันมาจากไหนกันแน่” รพีพงษ์กล่าว

อารียาพยักหน้า ถอนหายใจยาวๆ

คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์

ในห้องที่มืดมิด ชายชุดดำถูกมัดตัวไว้ ใบหน้าเขาได้ปรากฏออกมา เป็นชายวัยกลางคนอายุราวๆสี่สิบกว่าปี

อายุนี้สามารถเป็นแดนปรมาจารย์ได้ ถือว่ามีพรสวรรค์ไม่น้อยเช่นกัน

ที่เขามีโต๊ะวางอยู่ตัวหนึ่ง บนโต๊ะขณะนี้มีขวดเล็กๆใบ ป้ายไม้ และมีกระดาษที่ม้วนๆหลายแผ่นกำลังวางอยู่

ของเหล่านี้ได้มาจากการค้นตัวชายชุดดำ เพราะรพีพงษ์เน้นย้ำเรื่องยาพิษที่เขาพกติดตัวมา ดังนั้นครองภพที่รับผิดชอบเรื่องการค้นตัวจึงไม่กล้าแตะต้องสิ่งของที่ได้จากการค้นตัวนี้ ล้วนวางมันไว้บนโต๊ะ รอรพีพงษ์มาดู

ผ่านไปไม่นาน ประตูห้องถูกเปิดออก รพีพงษ์เดินมาจากด้านนอก

ครองภพอยู่ข้างๆเขา หลังจากที่ทั้งสองเดินเข้ามาแล้ว เขาก็ได้ปิดประตู

“ปลุกมัน” รพีพงษ์กล่าว

ครองภพได้ถือถังน้ำที่เตรียมไว้ข้างๆ เทลงไปที่ชายชุดดำนั้นในทันที

ชายชุดดำตื่นขึ้นมา เห็นตัวเองถูกมัด ด้านหน้าคือรพีพงษ์แล้วนั้น ก็ผวาขึ้นมา พยายามจะใช้พลังเน่ยจิ้งเพื่อปลดเชือกในทันที แต่เขาก็พบว่าตัวเองไม่สามารถไหลเวียนเน่ยจิ้งในร่างกายได้

“ตอนนี้ฉันจะถามคำถามบางคำถามกับแก ตอบให้ดีๆ มิเช่นนั้น อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” รพีพงษ์กล่าว

“แกเป็นใคร?”

ชายชุดดำเห็นรพีพงษ์ กล่าว “ฉันบอกแกไปแล้ว ว่าฉันคือเพื่อนของชินาธิป”

ครองภพที่อยู่ข้างๆได้ยินชายชุดดำพูดแล้วนั้น ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย จากนั้นก็เดินไปด้านหน้าของชายชุดดำ ไม่พูดพร่ำทำเพลงหยิบมีดสั้นจากหลังตัวเองออกมา ทิ่มไปที่ต้นขาของชายชุดดำทันที

เสียงร้องโอดครวญดังขึ้น ราวกับเสียงฆ่าหมูอย่างไรอย่างนั้น ชายชุดดำอดกลั้นจนหน้าดำหน้าแดง นัยน์ตาสองข้างเต็มไปด้วยเลือดเป็นสาย

ครองภพในฐานะเจ้าสำนักของลอบสังหาร ปฏิบัติการลอบสังหารมาตลอด มีประสบการณ์ในการบีบถามอย่างโชกโชน อีกฝั่งพูดเท็จหรือไม่ แค่ดูก็รู้แล้ว

และเมื่อเขาบีบคลั้นอีกฝั่ง จะต้องทำให้ได้ ก็คือให้อีกฝั่งรู้ ว่าตนไม่ใช่แค่ทำให้กลัวเท่านั้น ถ้าอีกฝั่งไม่ตรงไปตรงมา เขาก็สามารถลงมือฆ่าได้จริงๆ

“ลูกพี่กูถามว่ามึงเป็นใคร ไม่ได้ถามว่ามึงเป็นเพื่อนใคร มึงพกขวดกระป๋องมาหลายอัน แล้วยังมีป้ายไม้ที่เขียนชื่อของยาไว้ ดุๆไปน่าจะไม่ธรรมดา รีบพูดออกมา ไม่งั้นกูจะกรีดเนื้อมึงแล้ววนรอบๆ” ครองภพเกรี้ยวกราด

รพีพงษ์เห็นครองภพไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็รู้สึกนับถือ ที่แท้เรื่องเฉพาะก็ต้องเอาคนที่ทำเฉพาะด้านมาทำ

ชายชุดดำดูออกว่าครองภพเป็นคนดุร้าย บวกกับเมื่อกี๊ที่ครองภพทำมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แม้จะเป็นแดนปรมาจารย์ ก็ขวัญหายได้ ดังนั้นจึงไม่กล้าลองใจใดๆ

“ฉัน ฉันคือคนของสำนักเทพยาเซียน ป้ายไม้นั้นเป็นสำนักเทพยาเซียนทำขึ้นเอง พวกแกถามคนที่รู้จักสำนักเทพยาเซียนดูก็รู้” ชายชุดดำรีบกล่าว

ได้ยินสำนักเทพยาเซียนคำนี้ รพีพงษ์ก็แปลกใจ เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสำนักเทพยาเซียนมาก่อน และไม่รู้ว่าสำนักเทพยาเซียนทำอะไรกันแน่

แต่เมื่อฟังชื่อ ก็รู้แล้วว่าเกี่ยวข้องกับยาแน่นอน

ครองภพที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินชายชุดดำกล่าว ก็ตาโตขึ้นมาทันใด แล้วกล่าวอย่างตกใจว่า “พระเจ้า มันเป็นคนของสำนักเทพยาเซียนหรอเนี่ย!”

ดี

สุดท้าย นางพยาบาลเดินมา บอกว่าผลได้ออกมาแล้ว ให้พวกเขาเข้าไปในห้องทำงานของหมอ

ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องทำงานของหมอ เห็นหมอกำลังดูรูปภาพและผลบนโต๊ะอย่างเคร่งเครียด ใจก็เต้นรัวๆ

อารียาขี้ขลาดตาขาวขึ้นมาทันที รู้สึกว่าอารมณ์ของหมอนี้ เธอต้องไม่รอดแน่ๆ ถึงขั้นไม่อยากฟังหมอจะพูดอะไรอีกแล้ว

รพีพงษ์กระวนกระวายยิ่งกว่า แต่ตอนนี้เขาก็ถอยหลังไม่ได้ ดังนั้นทำได้เพียงเผชิญหน้า ถาม “คุณหมอ ผลการตรวจร่างกายของภรรยาผม เป็นไงบ้าง?”

หมอเงยหน้ามองรพีพงษ์ จากนั้นก็มองไปที่อารียา กล่าวอย่างแปลกใจว่า “ผมเป็นหมอมายี่สิบกว่าปี ไม่เคยเห็นหญิงที่ร่างกายแข็งแรงแบบนี้มาก่อน แต่ละรายการ ล้วนเป็นไปตามมาตรฐาน หากถ้าบางรายการไม่ได้ตามมาตรฐานก็ไม่เป็นไร เพราะคนจะมีปัญหาเล็กๆน้อยๆก็ไม่เป็นไร”

“คุณได้มาตรฐานหมดทุกตัว ร่างกายคุณไม่มีปัญหาใดๆเลยนี่!”

หังจากที่รพีพงษ์และอารียาได้ยินคำพูดของหมอ ก็ชะงัก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท