พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่817 ทวงความยุติธรรมแทนสวรรค์

บทที่817 ทวงความยุติธรรมแทนสวรรค์

บทที่817 ทวงความยุติธรรมแทนสวรรค์

เมื่อปัณณธรเห็นกระทำนี้ของรพีพงษ์ บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความมึนงง เอ่ยปากว่า: “คุณหมายความว่ายังไง? หรือว่ากลัวว่าฉันได้ใบทำยาแล้วจะกลับคำเหรอ?”

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย เหตุผลที่เขาแสดงท่าทีเช่นนี้ต่อปัณณธรเมื่อออกมาจากข้างใน ทั้งหมดเป็นเพราะไม่อยากต่อสู้กับปัณณธรแล้วกระทบต่อเด็กเหล่านั้น

ตอนนี้แน่ใจว่าปัณณธรเป็นคนจิตวิปริตเสียสติ รพีพงษ์ตั้งใจว่าจะไม่เกรงใจเขาแล้ว

แม้ว่าที่นี่จะเป็นสำนักเทพเซียน แต่เมื่อเห็นปัณณธรแม้แต่เด็กไม่กี่ปีและเด็กทารกก็ไม่ยอมปล่อย รพีพงษ์ก็เต็มไปด้วยความโกรธ

คนแย่ๆแบบนี้ ถ้าไม่กำจัด มันจะทำให้เกิดความหายนะกับผู้คนมากขึ้นในอนาคต ต่อให้ยาที่เขากลั่นออกจะมีผลที่ดี เกรงว่าจะถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง

รพีพงษ์ได้วางแผนไว้แล้วในใจ ตอนนี้เขาลงมือกับปัณณธร แต่มั่นใจได้ว่าจะสามารถฆ่าเขาได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อพิจารณาแล้วสิ่งนี้จะทำให้คนอื่นๆในสำนักเทพยาเซียนแตกตื่น

หากคนอื่นๆในสำนักเทพยาเซียนไม่รู้ว่าผู้อาวุโสใหญ่กำลังทำสิ่งชั่วร้ายที่ไม่อาจแพร่งพรายแบบนี้ และยังคงเป็นคนจิตใจที่ดีอีกด้วย ถ้าอย่างนั้นก็แค่นั้น แต่ถ้าคนในสำนักเทพยาเซียนเป็นคนจำพวกเดียวกันกับปัณณธรแล้วล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นการต่อสู้ครั้งใหญ่ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ยอดฝีมือแดนปรมาจารย์ยี่สิบกว่าคน ด้วยพลังของรพีพงษ์ อยากที่จะจัดการ ก็ยังคงยากไปบ้าง แต่ถ้ารพีพงษ์ต้องการจะหนี พวกเขาก็ห้ามไม่อยู่

อย่างไรก็ตามสำนักเทพยาเซียนไม่มีทางย้ายสถานที่ ไม่สามารถฆ่าสิ่งเหล่านี้ที่ไร้จิตสำนึกให้หมดภายในวันเดียวได้ ก็แบ่งออกไปฆ่าหลายๆวัน ต้องสักวันที่ฆ่าหมด

“แกมีสิทธิ์อะไรได้ใบทำยาทั้งสามใบนี้ไป? แกเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักเทพยาเซียน แต่ลับหลังแม้แต่เด็กกลับไม่ปล่อย”

“วันนี้ฉันรพีพงษ์จะทวงความยุติธรรมแทนสวรรค์เอง กำจัดไอ้เชี้ยที่ไร้มโนธรรมอย่างแก!”

สีหน้าของปัณณธรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ เอ่ยปากว่า: “รพีพงษ์? นายไม่ใช่คนของตระกูลอุเอสึงิ! นายคือรพีพงษ์ที่ท้าทายแวดวงศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนเหรอ?!!!”

รพีพงษ์เปิดปากยิ้มให้กับเขา แล้วพูดว่า: “ยินดีกับแกด้วย ตอบถูก!”

หลังจากพูดจบ รพีพงษ์พุ่งไปที่ปัณณธรอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกัน

ในห้องพิพากษาของสำนักเทพยาเซียน

ในเวลานี้เจ้าสำนักจิรภัทรกำลังนั่งอยู่ในที่นั่งหลัก ผู้อาวุโสผอมและอ้วนสองคนนั้นกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ในห้องโถงยังมีผู้อาวุโสคนอื่นๆ ทุกคนกำลังจ้องมองไปที่ผงหนึ่งกำมือที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างไม่ละสายตา

แม้ว่าสำนักเทพยาเซียนส่วนมากที่มีจะเป็นปรมาจารย์ทั้งหมด แต่ปรมาจารย์เหล่านี้มักจะไม่ค่อยอยู่ในสำนักเทพยาเซียน มีบางคนออกไปปฏิบัติภารกิจบางอย่าง ดังนั้นตอนนี้ปรมาจารย์ทั้งในสำนักเทพยาเซียน มีทั้งหมดสิบหกคน

“เจ้าสำนัก ก้อนหินทดสอบความแข็งแกร่งกลายเป็นแบบนี้หลังจากที่ฉันฟาดไปด้วยกำลังทั้งหมดจริงๆ ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อาจจะเป็นในตอนนั้น เส้นลมปราณสองเส้นของฉันทะลุ ดังนั้นจึงระเบิดพลังที่น่ากลัวออกมา ทำให้ข้างในก้อนหินนั้นสั่นกลายเป็นผง”ผู้อาวุโสอ้วนเอ่ยปาก

ผู้อาวุโสผอมที่อยู่ด้านข้างมองไปที่เขาอย่างดูถูก และเอ่ยปากว่า: “พอได้แล้ว ความสามารถแค่นั้นของท่าน คนที่อยู่ในเหตุการณ์ใครบ้างที่ไม่รู้ ฉันประลองฝีมือกับท่านเมื่อกี้นี้ ก็ไม่เห็นว่าความแข็งแกร่งของท่านจะเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน”

หลังจากพูดเสร็จ เขามองไปที่จิรภัทร เอ่ยปากว่า: “ฉันรู้สึกว่าในสำนักของพวกเรา น่าจะมีผู้ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากเข้ามา ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป้าหมายของผู้แข็งแกร่งคนนี้คืออะไร ถ้าคนชั่วมีเจตนาไม่ดี ถ้าอย่างนั้นสำนักเทพยาเซียนของพวกเรากำลังจะเผชิญกับหายนะ”

เมื่อจิรภัทรได้ยินเขาพูดเช่นนี้ รู้สึกว่ามีเหตุผล ถามทันที: “วันนี้ในสำนักมีคนนอกมาหรือเปล่า?”

ศิษย์พี่ที่พารพีพงษ์พวกเขาเข้ามาในสำนักเทพยาเซียนในเวลานี้ก็อยู่ในห้องโถงด้วยเช่นกัน หลังจากได้ยินสิ่งที่ผู้อาวุโสผอมบอก ก็นึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งขึ้นมาทันที จึงรีบลุกขึ้นยืนและพูดว่า: “เจ้าสำนัก วันนี้มีคนนอกสองกลุ่มเข้ามาในสำนัก”

“ผมพาพวกเขาไปทดสอบความแข็งแกร่ง แต่ว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ก็แค่เน่ยจิ้งชั้นต้น แต่ตอนที่คนสุดท้ายทดสอบ โจมตีด้วยพลังทั้งหมด มีเพียงเสียงโครมดังออกมา แต่การไหลของน้ำไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผมคิดว่าเขาเป็นเพียงคนธรรมดา ตอนนี้คิดดูแล้ว ที่หินก้อนนั้นกลายเป็นแบบนี้”

“ที่สำคัญตามเวลาที่ผู้อาวุโสทั้งสองบอกกล่าว การทดสอบของคนคนนั้น ก็อยู่ก่อนหน้าผู้อาวุโสทั้งสองท่านไม่นาน”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็นิ่งสงบ คาดไม่ถึงว่ายังมียอดฝีมือที่น่าสงสัยเข้ามาที่สำนักเทพยาเซียนจริงๆ

“คนคนนั้นอยู่ที่ไหน?”จิรภัทรเอ่ยปากถาม

“เขาคือคนที่ผู้อาวุโสใหญ่ต้องการพบ หลังจากที่เข้ามาที่สำนัก ผมก็พาเขาไปที่ผู้อาวุโสใหญ่”ศิษย์พี่ตอบอย่างตรงไปตรงมา

จิรภัทรขมวดคิ้วทันที เอ่ยปากว่า: “ช่วงนี้ผู้อาวุโสใหญ่ก็ไม่รู้ว่ากำลังยุ่งอยู่กับอะไร มักจะทำตัวลึกลับ ฉันไปถามเขาดู เขายังไม่บอกฉัน คาดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับพาผู้แข็งแกร่งมาที่น่าสงสัยมาสำนักอีก ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป จะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”

หลังจากคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังสักพัก จิรภัทรมองไปที่ทุกคน เอ่ยปากว่า: “เรียกรวมตัวผู้อาวุโสทั้งหมดในสำนัก ตอนนี้รีบไปที่พักของผู้อาวุโสใหญ่ทันที ฉันต้องการจะดูว่า เขากำลังทำอะไรกันแน่”

หลังจากพูดเสร็จ เขาก็ลุกขึ้น และเดินออกจากห้องโถง

บนถนนลึกของสำนักเทพยาเซียน

ดรัณและเพ็ญรตีทั้งสองคนต่างก็เดินไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะเวลาถึงตอนเย็นแล้ว การต้อนรับของสำนักเทพยาเซียนก็ทั่วถึงเช่นกัน จัดที่พักให้พวกเขาทั้งสองคน และอนุญาตให้เดินเล่นในสำนักเทพยาเซียนได้

และพวกเขาก็ใช้ข้อต่อรองที่มากเพียงพอแลกเปลี่ยนยาที่ตัวเองต้องการได้แล้ว

สำนักเทพยาเซียนไม่ได้กีดกันห้ามผู้คนภายนอกเข้ามาขอรับยาที่ในสำนัก เนื่องจากคนในสำนักก็จำเป็นต้องใช้ชีวิต พวกเขาจำเป็นต้องบรรลุสภาพความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานบางประการ และที่นี่ สิ่งเหล่านี้ล้วนได้มาจากผู้คนจากภายนอกที่มาขอยา

“ก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนั้นที่มาจากประเทศญี่ปุ่นกับผู้อาวุโสสำนักเทพยาเซียนตกลงว่าเป็นอะไรกันแน่ กลับได้รับการต้อนรับในฐานะแขกผู้มีเกียรติของผู้อาวุโสใหญ่”ดรัณเอ่ยปากพูด

“เชอะ จะมีความสัมพันธ์อะไรได้ ในความคิดของฉัน ไม่แน่นังจิ้งจอกนั้นอาจมีอะไรกับผู้อาวุโสคนนั้น”เพ็ญรตีพูดอย่างไม่หลีกเลี่ยงคำต้องห้าม

ดรัณขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า: “น้องสาว เธอพูดอะไรระวังบ้าง”

“ฉันพูดผิดเหรอ แม้ว่าพลังของนังจิ้งจอกนั้นจะแข็งแกร่งไปบ้าง แต่ผู้ชายที่มาพร้อมกับเขาเป็นขยะที่สู้ฉันไม่ได้ อย่างพวกเขานะเหรอ ยังสามารถมีความสัมพันธ์กับผู้อาวุโสของสำนักเทพยาเซียนได้”

“พูดถึงขยะนั้นฉันก็โมโห ทั้งที่ตัวเองอะไรก็ไม่ใช่ กลับยังคงเสแสร้งทำเป็นว่ามีความแข็งแกร่งมาก ไม่รู้ไปเอาความกล้าหาญมาจากไหน ฉันเกลียดคนที่เสแสร้งแบบนี้ที่สุด”

“ถ้าเขาต้องการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองจริงๆ ถ้าอย่างนั้นมีความสามารถไปต่อสู้กับผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักเทพยาเซียนได้มั้ย เกรงว่าให้ความกล้าหนึ่งร้อยเท่ากับเขา เขาก็ไม่กล้า”

เพ็ญรตีพูดตัดรากถอนโคน

ทันทีที่เขาพูดจบ หลังคาบ้านที่อยู่ไม่ไกลก็พังลงมา รพีพงษ์และปัณณธรทั้งสองคนพุ่งออกมาจากด้านใน ยืนอยู่บนหลังคา

เห็นเพียงหัวของปัณณธรเต็มไปด้วยเหงื่อ หายใจหอบมาก ใบหน้าซีดเซียว มองไปที่รพีพงษ์อย่างระมัดระวัง ดวงตาเต็มไปด้วยความแค้น ที่มาพร้อมกับความหวาดกลัว

เมื่อดรัณและเพ็ญรตีเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกตะลึงในทันที

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท