พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่824 บ่อน้ำ

บทที่824 บ่อน้ำ

บทที่824 บ่อน้ำ

หลังจากที่จิรภัทรได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที และเอ่ยปากถามอย่างรวดเร็ว: “ไม่รู้ว่าน้องรพีพงษ์ต้องการอะไร ตราบเท่าที่ฉันสามารถเอาออกมาให้ได้ ฉันไม่มีทางที่จะใจแคบ”

สำหรับรพีพงษ์แล้ว ความจริงแล้วใบทำยาชั้นเลิศไม่ได้แตกต่างจากกระดาษธรรมดามากนัก เนื่องจากเขากลั่นยาไม่เป็น ถือไว้ในมือก็ไม่มีประโยชน์อะไร

แต่สำหรับสำนักเทพยาเซียนแล้ว ยาชั้นเลิศทั้งสามเม็ดของตันหยางเรียกได้ว่าเป็นสมบัติชั้นยอด ถ้าหากพวกเขายินยอมเอาของที่มีค่ามาแลกเปลี่ยนกับรพีพงษ์ เป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างชนะอย่างไม่ต้องสงสัย

“ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องวัตถุดิบและยา ตอนนี้สิ่งที่ฉันหวังมากที่สุดคือการเพิ่มความแข็งแกร่งได้ฉันโดยเร็วที่สุด ไม่ทราบว่าพวกคุณมีวิธีที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วหรือเปล่า?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม

เจ้าสำนักจิรภัทรของสำนักเทพยาเซียนยอมรับออกมาเอง ใบทำยาชั้นเลิศของสำนักเทพยาเซียนใบนั้นไม่มีทางที่จะกลั่นยาชั้นเลิศออกมาได้ ซึ่งนั้นหมายความว่าสำนักเทพยาเซียนไม่มีใบทำยาของยาชั้นเลิศ

จากตรงนี้ สำนักเทพยาเซียนเทียบกับรพีพงษ์ไม่ได้ เนื่องจากบนตัวรพีพงษ์ยังมียาชั้นเลิศเหลืออยู่หนึ่งเม็ด

ดังนั้นยาของสำนักเทพยาเซียนจึงไม่มีผลช่วยเหลืออย่างชัดเจนต่อรพีพงษ์ได้อย่างเห็นชัด

สำหรับวัตถุดิบล้ำค่าเหล่านั้น รพีพงษ์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องจัดการอย่างไร เขากลั่นยาไม่เป็น คงจะไม่สามารถกินวัตถุดิบยาดิบๆได้

ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่มีรพีพงษ์ต้องการ คือวิธีที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ ถ้าหากสำนักเทพยาเซียนไม่มีสิ่งของอำนวยความสะดวกนี้ที่จะเอาออกมาได้จริงๆ รพีพงษ์ถึงจะพิจารณายาและวัตถุดิบยา

หลังจากที่จิรภัทรได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองไปที่ผู้อาวุโสที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่กี่ครั้ง ราวกับว่ากำลังแน่ใจอะไรบางอย่างอยู่

หลังจากนั้นไม่นาน จิรภัทรก็พูดกับรพีพงษ์: “วิธีเพิ่มความแข็งแกร่งสำนักเทพยาเซียนของเราก็มีอยู่วิธีหนึ่ง แต่ว่าเรื่องนี้พวกเราต้องปรึกษาหารือกันก่อน ไม่ทราบว่าทั้งคนจะสามารถหลีกเลี่ยงได้มั้ย?”

รพีพงษ์เข้าความหมายของจิรภัทร หลังจากนั้นก็พยักหน้าให้กับเขา ก็ลุกขึ้นยืน หันหลังจะเดินออกไปข้างนอก

ในเวลานี้อุเอสึงิ ฮารุยังคงเหม่อลอย ไม่ได้ยินพวกเขากำลังพูดถึงอะไร ดังนั้นก็ไม่ได้สังเกตว่ารพีพงษ์กำลังจะออกไปข้างนอก

เมื่อรพีพงษ์เห็นว่าหล่อนไม่ได้เคลื่อนไหว จึงยื่นมือออกไปตบไหล่ของอุเอสึงิ ฮารุ แล้วพูดว่า: “หยุดเหม่อลอยได้แล้ว พวกเราออกไปก่อน”

อุเอสึงิ ฮารุลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับความกระอักกระอ่วนบนใบหน้า รีบเดินตามรพีพงษ์ออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว

เมื่อมาถึงด้านนอกห้องประชุม รพีพงษ์หายใจเข้าลึกๆ รู้สึกว่าอากาศในสำนักเทพยาเซียนดีกว่าภายนอก ที่คือทำเลทองตามหลักฮวงจุ้ย ไม่ใช่เรื่องเกินจริง

ในตอนนี้เขาหันหน้าไปมองอุเอสึงิ ฮารุที่อยู่ข้างๆ แล้วถามว่า: “ดูเหมือนเธอจะมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ เป็นเพราะฉันเอาใบทำยาของตระกูลอุเอสึงิของเธอครอบครองเอาไว้เองเหรอ ดังนั้นในเธอจึงรู้สึกลำบากใจเหรอ?”

อุเอสึงิ ฮารุรีบส่ายหัว และพูดว่า: “ชีวิตของฮารุก็มอบให้คุณชายไปแล้ว แล้วจะสนใจใบทำยาได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่ตอนที่รับปากจะมอบชีวิตไว้ในเงื้อมมือของคุณชาย ฮารุก็ไม่ใช่คนของตระกูลอุเอสึงิแล้ว”

รพีพงษ์พยักหน้า เขาก็ไม่ตั้งใจจะเกรงใจอุเอสึงิ ฮารุ เนื่องจากรู้ว่าคนของตระกูลอุเอสึงิกำลังฝึกฝนวิธีการชั่วร้าย หลังจากที่ไม่เอาชีวิตของเด็กไว้ในสายตา รพีพงษ์ถือว่าตระกูลอุเอสึงิอยู่ในบัญชีดำอย่างสมบูรณ์ อย่าว่าแต่ใบทำยาทั้งสามใบเลย ต่อให้ทำให้ตระกูลอุเอสึงิพังพินาศนาย่อยยับ รพีพงษ์ก็จะไม่เกรงใจแม้แต่น้อย

ยิ่งไปกว่านั้นใบทำยานี้ควรจะเป็นของประเทศจีน

“แล้วทำไมเธอดูไปแล้วเหมือนมีเรื่องหนักใจมากล่ะ?”รพีพงษ์ถามอย่างสงสัย

อุเอสึงิ ฮารุลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ และเอ่ยปากว่า: “คุณชาย คุณคิดว่าฉันเป็นคนของตระกูลอุเอสึงิใช่หรือเปล่า คิดว่าฉันก็ได้ฝึกฝนวิธีการชั่วร้าย ดังนั้นจึงรังเกียจฉัน เมื่อวานถึงได้ไม่ยอมให้ฉันแก้ไขปัญหาของคุณชายเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของอุเอสึงิ ฮารุ รพีพงษ์ก็หัวเราะเสียงดังออกมา คาดไม่ถึงว่าหล่อนจะอุตลุดกับเรื่องนี้

“ฉันก็เคยบอกกับเธอแล้ว ฉันมีภรรยาและลูกสาวแล้ว ดังนั้นไม่มีทางที่จะทำเรื่องที่ผิดต่อพวกเขา เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอก็อย่าคิดมาก”รพีพงษ์เอ่ยปาก

เมื่อได้ยินรพีพงษ์พูดเช่นนี้ อุเอสึงิ ฮารุก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็มีความชื่นชมนับถือรพีพงษ์อยู่ในใจ

หล่อนเคยพบเจอผู้ชายหลายคนที่เอาแต่พูดว่าไม่มีทางทำเรื่องที่ผิดต่อภรรยามามากมาย แต่เมื่อผู้ชายเหล่านั้นอยู่ต่อหน้าสิ่งล่อใจ ก็ยังคงฝ่าฝืนกับสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้

คนที่พูดอย่างไรทำอย่างนั้นอย่างรพีพงษ์ หล่อนเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวของหล่อนถอดเสื้อผ้าต่อหน้ารพีพงษ์

หลังจากนั้นไม่นาน จิรภัทรก็เดินออกจากห้องประชุม พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า

“น้องรพีพงษ์ พวกเราได้พูดคุยกันแล้ว สามารถใช้โอกาสช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งมาแลกกับใบทำยาทั้งสามใบนั้นได้”จิรภัทรเอ่ยปาก

ดวงตาของรพีพงษ์ก็เปล่งประกายขึ้นมาเช่นกัน ในใจก็อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโอกาสที่เพิ่มความแข็งแกร่งที่จิรภัทรพูดมา

นับตั้งแต่ที่บรรลุถึงพลังวิเศษเสนชั้นสูง เป็นเวลานานที่รพีพงษ์ไม่สามารถก้าวหน้าเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองได้

หลังจากที่ได้เห็นความน่ากลัวของยอดฝีมือแดนดั่งเทพ รพีพงษ์ก็ยิ่งรู้สึกว่าโลกนี้อันตรายกว่าที่เขาคิด ดังนั้นการเพิ่มความแข็งแกร่งจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน

ตราบใดที่เขาแข็งแกร่งเพียงพอ ถึงจะสามารถปกป้องอารียาสองแม่ลูกได้อย่างถี่ถ้วนละเอียดรอบคอบ ดังนั้นเมื่อพบกับโอกาสที่จะเพิ่มความแข็งแกร่ง เขาไม่มีทางที่จะปล่อยมันผ่านไปได้

“ที่พื้นที่เขตหวงห้ามสำนักเทพยาเซียนของเรา มีบ่อน้ำที่แปลกประหลาด บ่อน้ำนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่ในสำนักเทพยาเซียนเป็นเวลาหลายพันปี น้ำในบ่อมีฤทธิ์พิเศษในการเปลี่ยนแปลงสมรรถภาพทางกายรวมถึงศักยภาพ รวมทั้งการสืบทอดหลายร้อยปีของสำนักเทพยาเซียน ทุกๆปีจะมีการเอายาหายยากและล้ำค่าจำนวนมากมายมาใส่ไว้ในบ่อน้ำแห่งนี้ ในบ่อน้ำนี้ จึงกลายเป็นสมบัติที่สำคัญที่สุดของสำนักเทพยาเซียนของเรา”

“ศิษย์ทุกคนของสำนักเทพยาเซียน ต่างก็มีโอกาสเข้าสู่บ่อน้ำนั้นหนึ่งครั้ง สาเหตุที่มียอดฝีมือแดนปรมาจารย์มากมายขนาดนี้ในสำนักเทพยาเซียน แปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเพราะฤทธิ์ของบ่อน้ำแห่งนี้”

“ศิษย์ทุกคนที่แช่ตัวในบ่อน้ำแห่งนี้ หลังจากที่ออกมาแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือพลิกเป็นหลังมือ แม้แต่คนโง่ศิลปะการต่อสู้ หลังจากแช่ตัวแล้ว ก็สามารถกลายเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ที่ไม่แย่ไปกว่าใคร”

“ถ้าหากน้องรพีพงษ์ยินดีที่จะมอบให้ใบทำยาทั้งสามใบให้ฉัน พวกเราสามารถทำลายกฎเกณฑ์ให้น้องรพีพงษ์แช่ในบ่อน้ำนั้นสักครั้งหนึ่ง ว่ายังไงล่ะ?”

หลังจากฟังคำพูดของจิรภัทร รพีพงษ์สนใจขึ้นมาในทันที คาดไม่ถึงว่าในสำนักเทพยาเซียนจะมีสถานที่มหัศจรรย์เช่นนี้

เขาไม่ลังเล ตอบตกลงจิรภัทรทันที

“น้องรพีพงษ์โปรดให้เราดูใบทำยาทั้งสามใบก่อน ถ้าหากเป็นใบทำยาชั้นเลิศ ฉันก็จะพาน้องรพีพงษ์ไปที่เขตหวงห้ามของสำนักเทพยาเซียน”จิรภัทรเอ่ยปาก

รพีพงษ์หยิบใบทำยาทั้งสามใบออก ยื่นให้จิรภัทร

จิรภัทรรับมันด้วยมือที่สั่นเทา จากมองดูอย่างละเอียด ยิ่งดูรูปลักษณ์ใบหน้าก็ตื่นเต้นมากขึ้น ท้ายที่สุดก็ไม่สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิด

“ใบทำยาทั้งสามใบนี้เป็นของจริง เป็นใบทำยาชั้นเลิศที่แท้จริง ฉันจะพานายไปที่เขตหวงห้ามของสำนักเทพยาเซียน หวังว่าบ่อน้ำสำนักเทพยาเซียนของเรา สามารถทำให้ความแข็งแกร่งของน้องรพีพงษ์เพิ่มขึ้น”

หลังจากพูดจบ เขาก็เดินไปด้านหน้า และเกือบจะสะดุดล้มเพราะความตื่นเต้น

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท