พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่826 แผนสำรอง

บทที่826 แผนสำรอง

บทที่826 แผนสำรอง

กลุ่มผู้อาวุโสรายล้อมอยู่ข้างๆบ่อน้ำ มองดูสีของน้ำที่กำลังจะจางหายไป ต่างก็กระวนกระวายใจ และถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า

รพีพงษ์ยังคงนั่งสมาธิอยู่ในบ่อน้ำ โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่เทียบกับไม่กี่วันก่อน ผิวหน้าของรพีพงษ์เริ่มมีสีแดงขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งคล้ายกับตอนที่กำลังใช้พลังวิธีลับแล้วร่างกายใกล้จะระเบิด

“ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว เด็กคนนี้อยู่ในนี้มาได้ครึ่งเดือน น้ำในบ่อก็แทบจะไม่มีสี ซึ่งนั่นหมายความว่าฤทธิ์ยาในบ่อกำลังจะถูกเขาดูดซึมไปทั้งหมด”

“ฤทธิ์ยาที่มีอยู่ในน้ำในบ่อนี้ได้รวมเอาคุณสมบัติของยาหลายร้อยหลายพันชนิดเข้าด้วยกัน รวมทั้งฤทธิ์ยาที่มีอยู่ในบ่อน้ำนั้น ไม่ได้ผ่านการแปรรูป สำหรับร่างกายมนุษย์แล้ว ค่อนข้างรุนแรง อยู่ในนั้นเป็นเวลานาน ร่างกายจะทนไม่ไหว เด็กคนนี้ก็ทนเกินไปแล้ว”

“เป็นประวัติการณ์จริงๆ ในประวัติศาสตร์ของสำนักเทพยาเซียน คนที่อยู่ในบ่อน้ำนี้เป็นเวลานานที่สุด ก็ไม่เกินเวลาห้าวันเท่านั้น แต่เขากลับอยู่ได้ครึ่งเดือน ทำให้คนได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆจริงๆ”

“ตอนนี้นายยังคงมีความรู้สึกอยู่ในใจ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป สมบัติล้ำค่าของสำนักเทพยาเซียนของฉันจะถูกเด็กคนนี้กอบโกยไปหมด ในอนาคตสำนักเทพยาเซียนของฉันจะบ่มเพาะผู้แข็งแกร่งได้อย่างไร นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นและลงของสำนักเทพยาเซียนของฉัน”

……

ในเวลานี้จิรภัทรก็มองไปที่รพีพงษ์ที่อยู่ในบ่อน้ำอย่างกังวล บนใบหน้าก็เสียใจอย่างสุดซึ้ง ถ้ารู้ก่อนว่ารพีพงษ์จะอยู่ในบ่อน้ำได้นานขนาดนี้ ตอนนั้นเขาก็คงจะไม่พูดคำพูดที่ว่าให้รพีพงษ์อยากอยู่นานแค่ไหนก็อยู่นานแค่นั้น

ตอนนี้ฤทธิ์ยาในบ่อน้ำนี้ถูกรพีพงษ์ดูดซึมไปคนเดียวจนเกือบจะหมด จิรภัทรก็เจ็บปวดเช่นกัน

“น้องรพีพงษ์ พวกเราพอดีก็พอแล้ว นายอยู่ข้างในนานขนาดนี้ ก็ไม่กลัวเหรอว่าฤทธิ์ยาที่รุนแรงในบ่อน้ำนี้จะระเบิดนาย นายรีบออกมาเถอะ ถ้ายังไม่ออกมาอีก หน้าของฉันก็อับอายจนไม่มีที่ไหวแล้ว”จิรภัทรพึมพำพบกับตัวเอง

“เจ้าสำนัก ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเราไปปลุกให้เขาตื่นเถอะ เขาอยู่ในนั้นมาครึ่งเดือนแล้ว ถึงยังไง ก็ควรค่ากับใบทำยาชั้นเลิศทั้งสามใบนั้นแล้ว ตอนนี้ให้เขาออกมา พวกเราอาศัยวัตถุดิบยาสามารถทำให้ฟื้นฟู่ฤทธิ์ยาในบ่อน้ำได้บ้าง ไม่อย่างนั้นรอเมื่อฤทธิ์ยาถูกเขาดูดซึมไปทั้งหมด บ่อน้ำนี้ก็ไร้ประโยชน์แล้ว”ผู้อาวุโสคนหนึ่งเดินไปตรงหน้าจิรภัทร และพูดอย่างจริงจัง

ผู้อาวุโสอีกคนก็รีบพูดต่ออย่างรวดเร็ว: “ใช่แล้ว สำนักเทพยาเซียนของเราสามารถมียอดฝีมือแดนปรมาจารย์ออกมาได้มากมายขนาดนี้ ก็อาศัยบ่อน้ำนี้ ถ้าฤทธิ์ยานี้ถูกดูดซึมไปทั้งหมด ในอนาคตสำนักเทพยาเซียนคงจะเสื่อมลง”

จิรภัทรหันหน้ามองไปที่พวกเขาแวบหนึ่ง เอ่ยปากว่า: “การพัฒนาในอนาคตของสำนักเทพยาเซียน ทุกท่านต่างก็ไม่ต้องกังวล ในใบทำยาชั้นเลิศทั้งสามใบที่รพีพงษ์มอบให้ฉัน มีหนึ่งอย่างในนั้นเป็นรากเหง้าที่มั่นคงของยา รากเหง้าชั้นเลิศที่มั่นคงของยา เพียงแค่กินหนึ่งเม็ด ฤทธิ์ยาดีกว่าแช่อยู่ในบ่อน้ำหนึ่งครั้งเป็นมาก ดังนั้นสำนักเทพยาเซียนของฉันไม่มีทางเดินเส้นทางแห่งความเสื่อมหรอก”

เมื่อได้ยินคำพูดของจิรภัทร ผู้อาวุโสก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ซึ่งถ้าคิดเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็รู้สึกว่ารพีพงษ์ดูดซึมฤทธิ์ยาในบ่อน้ำไปทั้งหมดก็ไม่เป็นไร

“แต่เวลาที่เขาอยู่ด้านในมันนานเกินไปจริงๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่แน่อาจเกิดเรื่องได้ วันนี้เขาไม่ตื่นมา ฉันจะปลุกเขาเอง”จิรภัทรพูดต่อ

สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นห่วงเกี่ยวกับอาการของรพีพงษ์จริงๆ เนื่องจากในประวัติศาสตร์ของสำนักเทพยาเซียนก็ไม่มีใครอยู่ในนั้นได้เป็นเวลานานขนาดนี้ แม้ว่าจะบอกว่าการขัดจังหวะรพีพงษ์ไม่ค่อยดี แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เขาเสียชีวิต

จากคำอธิบายของจิรภัทรแล้ว หลังจากที่ผู้อาวุโสทุกคนต่างก็รู้ว่าสรรพคุณของใบทำยาชั้นเลิศสามารถแทนที่บ่อน้ำนี้ได้ ก็ไม่มีอะไรที่เคืองใจต่อรพีพงษ์ จากนั้นทั้งหมดก็ค่อยๆทยอยออกจากที่นี่

จิรภัทรไม่ได้อยู่รอ คิดว่าจะรอพรุ่งนี้ค่อยมาดูอีกครั้ง ถ้ารพีพงษ์ยังไม่ตื่นขึ้นมา ก็จะปลุกเขา

หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้ว อุเอสึงิ ฮารุก็เดินไปที่ขอบบ่อน้ำอย่างระมัดระวัง และมองไปที่รพีพงษ์ที่อยู่ในบ่อน้ำ

เนื่องจากในเวลานี้น้ำในบ่อเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่ใสขึ้นแล้ว ดังนั้นเมื่ออุเอสึงิ ฮารุมองลงไป แทบจะสามารถมองเห็นร่างที่จมอยู่ในบ่อน้ำของรพีพงษ์

หลังจากที่เห็นสถานการณ์ ใบหน้าของอุเอสึงิ ฮารุก็แดงเขินอายทันที จากนั้นก็ละสายตาที่มองไปที่บนตัวรพีพงษ์ออกไป

แต่เมื่อคิดดูแล้วไม่มีใครอยู่รอบๆ รพีพงษ์ก็หลับตาแน่นอีก ไม่มีใครรู้ว่าหล่อนแอบมองรพีพงษ์ สายตาของอุเอสึงิ ฮารุก็มองไปที่บนตัวรพีพงษ์อีกครั้ง

ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา อุเอสึงิ ฮารุอยู่แต่ในสำนักเทพยาเซียน หล่อนไม่ได้ฉวยโอกาสตอนที่รพีพงษ์แช่อยู่ในน้ำหนีไป ในทางกลับกัน หล่อนได้ฝากความหวังทั้งหมดไว้กับรพีพงษ์

ผ่านความเข้าใจในช่วงที่มีต่อรพีพงษ์ อุเอสึงิ ฮารุรู้ว่ารพีพงษ์เป็นคนที่พูดสิ่งไหนก็ทำสิ่งนั้น ในเมื่อรพีพงษ์รับปากกับหล่อนว่าจะช่วยแม่ของหล่อนออกมา ถ้าอย่างนั้นก็สามารถทำได้แน่นอน

ที่ผ่านมาอุเอสึงิ ฮารุเป็นคนที่ไม่มีอิสระ ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครเป็นห่วง“คนที่ถูกหลอกใช้” ตราบใดที่คนของตระกูลอุเอสึงิต้องการ หล่อนก็ต้องอุทิศชีวิตของตัวเองได้ทุกเมื่อ

แต่ในช่วงที่หล่อนอยู่ในสำนักเทพยาเซียน หล่อนได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในโลก อยู่ในสำนักเทพยาเซียนก็รู้จักกับเพื่อนๆ รู้สึกได้ถึงความห่วงใยจากลูกศิษย์ในสำนักเทพยาเซียน เมื่อหล่อนมีเวลาก็จะวิ่งมาที่บ่อน้ำ พูดเรื่องในใจของตัวเองกับรพีพงษ์ที่ไม่เคลื่อนไหว

ครึ่งเดือนนี้ เรียกได้ว่าในชีวิตของหล่อน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด

สิ่งเดียวที่ทำให้หล่อนรู้สึกเสียใจ ช่วงนี้รพีพงษ์อยู่แต่ในบ่อน้ำ เหมือนราวกับท่อนไม้ ความจริงถ้าหากสามารถพูดได้ หล่อนต้องการใช้เวลาครึ่งเดือนนี้ไปพร้อมกับรพีพงษ์ แน่นอนว่า หล่อนรู้ดี นี่ก็เป็นเพียงแค่ความหวังที่เกินตัวของหล่อน

“คุณชาย….รูปร่างของคุณ ดีมากจริงๆ”จ้องมองไปที่รพีพงษ์เป็นเวลานาน อุเอสึงิ ฮารุพูดเหมือนกับสาวน้อย จากนั้นปิดปากแล้วหัวเราะขึ้นมา

……

ประเทศญี่ปุ่น ตระกูลอุเอสึงิ

ในห้องที่ค่อนข้างมืดมน

อุเอสุงิ ทาคิโนะนายใหญ่ของตระกูลอุเอสึงิยืนอยู่หน้าโต๊ะด้วยสีหน้าโกรธขึ้งไม่พอใจ และผู้ชายทั้งสามคนกำลังคุกเข่าอยู่ข้างหลังเขา ตัวสั่นเทา

หลังจากนั้นไม่นาน อุเอสุงิ ทาคิโนะหันกลับมาและเตะหนึ่งในพวกเขาทันที และด่าว่า: “ครึ่งเดือนแล้ว พวกเขาถึงที่ประเทศจีนได้ครึ่งเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการส่งข่าวกลับ และวิธีการติดต่อสื่อสารทั้งหมดก็ไม่สามารถติดต่อได้ นั้นก็หมายความว่าพวกเขาได้ถูกฆ่าในประเทศจีนเท่านั้น!”

“สุนัขประเทศจีนเหี้ยๆพวกนี้ ไม่มีความซื่อสัตย์แม้แต่น้อย พวกเราแลกเปลี่ยนกับพวกเขาด้วยความจริงใจ แต่สิ่งที่แลกมากลับเป็นผลลัพธ์แบบนี้!”

พวกเขาทั้งสามไม่กล้าส่งเสียงใดๆ อดกลั้นแล้วปล่อยให้อุเอสุงิ ทาคิโนะระบายความโกรธกับพวกเขา

หลังจากนั้นไม่นาน อุเอสุงิ ทาคิโนะก็หายใจเข้าลึกๆ จัดแต่งทรงผมของตัวเองให้เรียบร้อย และพูดกับคนสามคนว่า: “ที่ประเทศจีนเชื่อถือไม่ได้ ตอนนี้ทำได้แค่ใช้แผนสำรอง ค้นหาสิ่งที่ฉันต้องการจากในประเทศญี่ปุ่น”

“พวกแกรีบจัดการให้เร็วที่สุด ฉันรอไม่ไหวแล้ว ฉันต้องการภายในหนึ่งอาทิตย์ ให้ได้สิ่งของเหล่านี้มา เข้าใจไม่มั้ย?”

“ครับ!”|ทั้งสามคนตอบพร้อมเพรียงกัน

“อีกอย่างหนึ่ง เรื่องที่คุณหนูของตระกูลฮารุฮิแต่งงานกับฉันมาเป็นภรรยาน้อยก็กำหนดให้เป็นวาระโดยเร็วที่สุด หลังจากที่ฉันเลื่อนขั้นจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวพรหมจารีคนใหม่ คุณหนูของตระกูลฮารุฮิเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เรื่องนี้จะต้องไม่มีข้อผิดพลาด ไม่อย่างนั้นฉันก็จะถือเป็นความรับผิดชอบของพวกแก!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท