พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่833 การพบเจอ

บทที่833 การพบเจอ

บทที่833 การพบเจอ

อุเอสึงิ ฮารุเห็นปฏิกิริยาของรพีพงษ์ ก็เกิดสงสัยขึ้นมา ด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง บอกเธอว่าฝนสุดาชื่อนี้ มีความหมายที่พิเศษต่อรพีพงษ์

“คุณชาย คุณรู้จักคุณหนูของตระกูลฮารุฮิหรอ?” อุเอสึงิ ฮารุถาม

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วพึมพำว่า “เพื่อนเก่าหนะ”

ตอนที่อยู่บนเครื่องบิน รพีพงษ์ได้คิดไว้แล้วว่าจะได้เจอฝนสุดาที่นี่หรือไม่ แล้วถ้าเจอฝนสุดาแล้วนั้น ตนจะทำอย่างไรดี

ตามความคิดของรพีพงษ์ ถ้าไม่เจอ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แม้หญิงสาวคนนี้จะเป็นผู้มีพระคุณ พาตนกลับมาจากความตาย และในระยะเวลาอันยาวนาน ยอมละทิ้งความเป็นคุณหนู มาดูแลเขาอย่างเต็มใจตั้งนาน แต่รพีพงษ์ยังคิดไม่ตกว่าจะจัดการกับความสัมพันธ์ขอบฝนสุดาครั้งนี้อย่างไร

เขากลัวว่าหลังจากที่ฝนสุดาเห็นตัวเองแล้ว จะไม่ยอมปล่อยเขาไปอีก ต้องเผชิญหน้ากับผู้มีพระคุณ รพีพงษ์ทำอะไรเธอไม่ได้

ดังนั้นครั้งนี้รพีพงษ์ตัดสินใจที่จะไม่ปฏิสัมพันธ์ใดๆกับฝนสุดา เขาวางแผนว่าเมื่อจัดการเรื่องของตระกูลอุเอสึงิเสร็จ ได้หยกโยงจิตมา จะรีบออกจากญี่ปุ่นโดยเร็ว

แต่ทว่าสิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ ฝนสุดา ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับตระกูลอุเอสึงิด้วย

ตอนนี้รพีพงษ์ได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของตระกูลอุเอสุงิแล้ว หลังจากที่อุเอสึงิ ฮารุได้พูดถึงเรื่องที่นายใหญ่ของตระกูลอุเอสึงิแต่งงานกับฝนสุดา ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการเลื่อนขั้นและดองกัน จากการเล่นของของตระกูลอุเอสึงินั้น สำหรับฝนสุดาแล้ว เหมือนตายเลยก็ว่าได้

แม้รพีพงษ์ไม่อยากสร้างสัมพันธไมตรีใดๆกับฝนสุดาอีก แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าฝนสุดากำลังตกอยู่ในอันตราย แล้วรพีพงษ์จะมองข้ามได้ยังไง

ผู้หญิงคนนี้ เป็นผู้มีพระคุณ แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เขาก็ไม่ลังเลที่จะช่วยฝนสุดา ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับเขา

หลังจากที่สูดหายใจเข้าลึกๆแล้ว รพีพงษ์ก็เงยหน้ามองฮัตโตริ ทาคุยะ แล้วถาม “ตอนนี้ตระกูลฮารุฮิเป็นไง?”

“ตามข่าวที่พวกเราได้มา คุณหนูคนนี้ของตระกูลฮารุฮิไม่อยากแต่งงานกับนายใหญ่ตระกูลอุเอสึงิ ด้วยเหตุนี้เองเธอจึงมีความขัดแย้งกับนายใหญ่ของตระกูลอุเอสึงิอีกด้วย ตอนนี้คุณหนูคนนี้ของตระกูลฮารุฮิถูกกักบริเวณในคฤหาสน์ของตระกูลฮาอุฮิ” ฮัตโตริ ทาคุยะตอบกลับ

รพีพงษ์พยักหน้า เดาว่าพ่อแม่ของฝนสุดาไม่รู้ว่าคนของตระกูลอุเอสึงิกำลังเล่นไสยศาสตร์ จึงให้แต่งงานกัน เรื่องเกี่ยวกับตระกูลใหญ่ รพีพงษ์รู้เป็นอย่างดี

“เอาที่อยู่ของคฤหาสน์ตระกูลฮารุฮิให้ผม ผมจะไปที่นั่น” รพีพงษ์กล่าว

ไม่ว่ายังไง รพีพงษ์ต้องดูแลความปลอดภัยของฝนสุดาก่อน วิธีที่ดีที่สุด ก็คือให้เธออยู่ข้างๆหาย ถ้าคนของตระกูลฮารุฮิไม่เปิดทางให้ล่ะก็ รพีพงษ์จะแย่งฝนสุดามา

อุเอสึงิ ฮารุที่อยู่ข้างๆกำลังมองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่ลังเล เดาออกว่าระหว่างรพีพงษ์และฝนสุดา จะต้องมีอะไรแน่ๆ มิเช่นนั้นรพีพงษ์ไม่มีทางตัดสินใจเร็วขนาดนี้

ไม่รู้ทำไม เมื่อเห็นรพีพงษ์ทำเพื่อคุณหนูตระกูลฮารุฮิแบบนี้ ก็รู้สึกอิจฉา และเจ็บปวดขึ้นมา

ฮัตโตริ ทาคุยะหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อจะส่งที่อยู่ของตระกูลฮารุฮิให้รพีพงษ์ ในขณะเดียวกันนี้เอง เขาได้รับข้อความฉบับหนึ่ง

“เพิ่งได้รับข้อความ คุณหนูของตระกูลฮารุฮิได้หนีออกจากคฤหาสน์แล้ว ตอนนี้ตระกูลฮารุฮิกำลังหาตัวเธออยู่ ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าคุณหนูตระกูลฮารุฮิอยู่ไหน” ฮัตโตริ ทาคุยะกำลังมองไปที่รพีพงษ์แล้วกล่าว

ไม่รู้ทำไม หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้แล้ว รพีพงษ์รู้สึกอยากหัวเราะออกมา เพราะนี่ เป็นสไตล์ของฝนสุดา

“ใช้ทุกวิถีทางตามหาฝนสุดา ได้ข่าวแล้วบอกผมอย่างเร็ว” รพีพงษ์พูดกับฮัตโตริ ทาคุยะ

ฮัตโตริ ทาคุยะพยักหน้า แล้วกล่าว “ครับ!”

จากนั้นก็ถามเรื่องอื่นกับฮัตโตริ ทาคุยะแล้วนั้น รพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุก็ออกจากร้านกาแฟ ตอนนี้ฝนสุดาหนีออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลฮารุฮิแล้ว เขาก็ทำได้เพียงรอข่าวจากฮัตโตริ ทาคุยะเท่านั้น

เมืองใหญ่อย่างเมืองโตเกียว และเขาเป็นคนต่างถิ่นที่ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ อยากหาฝนสุดาให้เจอเป็นเรื่องที่ยาก

เรื่องที่จะไปเผชิญหน้ากับตระกูลอุเอสึงิ รพีพงษ์คิดว่าอุเอสึงิ ฮารุพูดมีเหตุผล ตอนนี้ถ้าไปตระกูลอุเอสึงิ ก็เหมือนกับแหวกหญ้าให้งูตื่น เมื่อคนของตระกูลอุเอสึงิเตรียมตั้งรับไว้ รพีพงษ์จะหานายใหญ่ของตระกูลอุเอสึงิให้เจอก็ยากแล้ว

ถ้านายใหญ่ตระกูลอุเอสึงิซ่อนตัว เสร็จสิ้นพิธีเลื่อนขั้นแล้วค่อยปรากฏตัว สำหรับรพีพงษ์แล้วถือเป็นปัญหาใหญ่มาก

ตอนนี้รู้วันแล้วเวลาพิธีเลื่อนขั้นของนายใหญ่ตระกูลอุเอสึงิแล้ว จัดขึ้นในวันแต่งงาน วันที่ดีที่สุดที่รพีพงษ์จะลงมือได้ ด็คือวันนั้น

ตระกูลอุเอสึงิไม่รู้จักรพีพงษ์ รอให้นายใหญ่ตระกูลอุเอสึงิเตรียมการให้พร้อม ถึงพิธีการเลื่อนขั้น รพีพงษ์ปรากฏตัว จึงจะให้ผลดีที่สุด

ดังนั้นภารกิจต่อไปของรพีพงษ์ ก็หาฝนสุดาให้พบก่อน จากนั้นค่อยจัดการแผนการขั้นต่อไป

ทั้งสองเดินกลับไปที่โรงแรมซากุระ อุเอสึงิ ฮารุมีท่าทีลังเล เธออยากรู้มากว่ารพีพงษ์กับฝนสุดามีความสัมพันธ์แบบไหน แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ควรถามคำถามแบบนี้

ทำได้เพียงอดกลั้นตลอดทางกลับ

ไม่นาน กลับมาถึงโรงแรมซากุระ ทั้งสองเดินขึ้นที่บันได ไปที่ห้องชุด

ในขณะนี้ฝนสุดาเพิ่งจะกลับมาจากซื้อของด้านนอก เธอเดินเข้าไปยังห้องโถงโรงแรม หลังจากที่มองไปรอบๆอย่างละเอียดแล้ว ก็รีบวิ่งไปที่บันได

เพราะเธอมีบัตรวีไอพีของโรงแรมซากุระ ดังนั้นเข้าพักที่นี่ก็นอนห้องที่พิเศษที่สุด

หลังจากที่ถึงทางเดินแล้วนั้น ฝนสุดาก็เดินไปข้างหน้า พบว่ามีชายหญิงคู่หนึ่งเดินอยู่หน้าเธอ และเมื่อสายตามองไปยังแผ่นหลังของฝ่ายชายแล้วนั้น ฝนสุดาก็ต้องชะงัก

เธอมองอย่างละเอียด คิดว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในจินตนาการ แต่คนที่อยู่ด้านหน้าเสมือนจริงมาก ดูยังไงก็ไม่เหมือนฝนสุดาจินตนาการ

“น่าจะแค่คล้ายๆเท่านั้น คนนั้นจะปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ได้ไงกัน ฝนสุดา อย่าบ้าเลย” ฝนสุดาปลอบใจตัวเอง

ตอนนี้รพีพงษ์เดินถึงประตูหน้าห้อง หันหน้าไปเปิดประตู

ตอนที่ฝนสุดาเห็นใบหน้านั้น อาหารที่อยู่ในมือ ก็หล่นลงกับพื้น

“เป็น……เป็นเขาจริงๆด้วย?”

ฝนสุดาใจเต้นเร็วขึ้น เลือดสูบฉีด อกแน่นขึ้น

ยังไงเธอก็ไม่คาดคิด ว่าตนเองจะเจอรพีพงษ์ที่นี่ ชายที่เธอคิดถึงทุกคืนวัน ได้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอ

แต่……ทำไมเขาพาผู้หญิงเข้าห้องล่ะ?

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท