พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่835 ไม่เชื่อหรอกว่าจะเอาคุณไม่ได้

บทที่835 ไม่เชื่อหรอกว่าจะเอาคุณไม่ได้

บทที่835 ไม่เชื่อหรอกว่าจะเอาคุณไม่ได้

รพีพงษ์มองบนต่อฝนสุดา แล้วกล่าว “ช่วยคุณหนะเป็นเรื่องรอง เป้าหมายหลักของผมคือการเอาหยกโยงจิตจากตระกูลอุเอสึงิมา และล้างบางตระกูลอุเอสึงิ”

“เชอะ ช่วยฉันก็ช่วยฉันแล้วยังพูดให้ดูดีอีก พวกผู้ชายนี่น่าเบื่อจริงๆ”ฝนสุดาเงยหน้ามองรพีพงษ์ ด้วยความดีใจ

“ผมพูดเรื่องของเราจบแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณต้องเล่าเรื่องตัวเองบ้าง ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้” รพีพงษ์เบื่อที่จะต่อปากต่อคำกับเธอ จึงได้เปลี่ยนหัวข้อคุย

หลังจากที่ฝนสุดารู้เรื่องแล้ว ก็ไม่หาเรื่องอีก แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอในช่วงนี้ให้รพีพงษ์ฟัง หลังจากที่เธอหนีออกมาจากตระกูลฮารุฮิแล้ว ก็มาที่นี่ การที่ได้เจอรพีพงษ์กับอุเอสึงิ ฮารุเป็นเรื่องบังเอิญ

หลังจากที่ได้พูดชัดเจนแล้ว รพีพงษ์ก็ผ่อนคลายขึ้น แม้การที่ได้เจอฝนสุดเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของเขา แต่ความจริงเขาก็จะหาฝนสุดาให้เจอ แบบนี้ก็ทำให้สบายขึ้นเยอะ

ฝนสุดามองไปที่อุเอสึงิ ฮารุที่อยู่ข้างๆ แล้วถาม “คุณกับรพีพงษ์ แค่ร่วมมือกันเท่านั้น?”

อุเอสึงิ ฮารุพยักหน้า แล้วกล่าว “คุณชายสัญญากับฉันว่าจะช่วยแม่ฉันออกมา และฉันก็สัญญากับคุณชาย ว่าจะมอบชีวิตให้กับเขา คุณชายให้ฉันทำอะไร ฉันจะไม่ลังเลเด็ดขาด”

“งั้นบอกฉันมา ถ้าเขาให้คุณมีอะไรกับเขา คุณจะตกลงมั้ย?” ฝนสุดดาถาม

อุเอสึงิ ฮารุถูกฝนสุดาถามคำถามนี้จนหน้าแดง สักพักจึงได้กล่าวอย่างกระบุ่มกระบ่ามว่า “คุณ……คุณชายไม่ได้เป็นคนแบบนั้น”

ฝนสุดานิ่งเงียบไป จ้องไปที่อุเอสึงิ ฮารุอีกครั้ง แล้วถามต่อ “งั้นคุณจะคิดอะไรกับเขามั้ย?”

คำถามนี้ของฝนสุดาถามได้ตรงประเด็นมาก เธอหันไปมองรพีพงษ์ ด้วยความสับสนมากมาย แต่สุดท้ายเธอก็พูดว่า “คุณชายมีพระคุณกับฉัน และชีวิตของฉันเป็นของคุณชาย ฉันแค่อยากตอบแทนพระคุณของคุณชาย ไม่กล้าใครอะไรกับคุณชาย”

ได้ยินอุเอสึงิ ฮารุพูดแบบนี้ ฝนสุดาก็ผ่อนคลายขึ้น เพียงแค่อุเอสึงิ ฮารุไม่คิดอะไรกับรพีพงษ์ เธอก็สามารถเป็นเพื่อนกับอุเอสึงิ ฮารุได้ เพราะถ้าอุเอสึงิ ฮารุคิดอะไรกับรพีพงษ์ ก็ต้องเป็นศัตรูตัวฉกาจคนหนึ่งเลยทีเดียว

“แหะแหะ ตอนนั้นฉันบุ่มบ่ามไป เข้าใจคุณผิด ได้โปรดอย่าถือสา” ฝนสุดาจับมือของอุเอสึงิ ฮารุ สนิทสนมกับเธอราวกับเป็นพี่น้องกันอย่างไรอย่างนั้น

อุเอสึงิ ฮารุมองฝนสุดาอย่างประหลาดใจ แล้วพยักหน้าให้เธอ

รพีพงษ์มองไปยังทั้งสองที่เมื่อกี๊ยังทำหน้าหยิ่งผยองให้กันไม่ทันไรก็เปลี่ยนเป็นพี่น้องกันแล้ว ด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เข้าใจมนุษย์เพศหญิงจริงๆ ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่

“ในเมื่อคุณอยากปกป้องพวกเรา งั้นฉันก็นอนที่นี่เลยแล้วกัน ฉันไม่เข้าไปยุ่งห้องของอุเอสึงิ ฮารุ ยอมเสียเปรียบสักหน่อย ฉันจะนอนเตียงเดียวกับรพีพงษ์” ฝนสุดาประกาศออกมา

พูดจบ เธอจะไปหยิบชุดเครื่องนอนในห้องของเธอมาไว้ที่นี่

รพีพงษ์ขัดขวางเธอไว้

ฝนสุดาทำหน้าเสียใจ มองรพีพงษ์ด้วยสีหน้าที่น่าสงสาร แล้วกล่าว “หรือคุณทนให้ฉันนอนอีกห้องได้หรอ? ถ้าคนของตระกูลอุเอสึงิมาจับฉันจะทำไง? คุณไม่กลัวฉันตกอยู่ในอันตรายหรอ?”

“คุณไม่ต้องไปย้ายชุดเครื่องนอน ใช้ของที่นี่ก็ได้” รพีพงษ์กล่าว

ฝนสุดาตาลุกวาว แล้วถาม “หรือ หรือคุณยอมให้ฉันนอนเตียงเดียวกับคุณแล้วหรอ?”

รพีพงษ์มองบน แล้วกล่าว “ฝันไปเถอะ คุณกับอุเอสึงิ ฮารุนอนให้ห้องนอน ผมนอนห้องรับแขก”

ฝนสุดาผิดหวัง กล่าวอย่างไม่พอใจต่อรพีพงษ์ว่า “ไม่คว้าโอกาสไว้เลย ดึงดัน!”

รพีพงษ์ไม่สนใจฝนสุดา แล้วเดินไปที่หน้าต่าง เริ่มครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไป

เหลือเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันงานแต่งระหว่างตระกูลอุเอสึงิกับตระกูลฮารุฮิ รพีพงษ์เพียงแค่รออีกสัปดาห์เดียวเท่านั้น รอให้ถึงวันงานแต่ง ฆ่าตระกูลอุเอสึงิ ถึงเวลานั้นนายใหญ่ตระกูลอุเอสึงิจะต้องเตรียมการไว้พร้อมแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีทางหนีไปไหนได้แน่นอน ต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เตรียมมา ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่รู้ฝีมือของรพีพงษ์ น่าจะไม่มีความคิดที่จะหลบหนีแต่อย่างใด

แล้วก่อนหน้างานแต่ง รพีพงษ์คิดว่าตนเองต้องคุมตระกูลอุเอสึงิให้อยู่หมัด ตอนนี้ฝนสุดาอยู่กับเขา ตระกูลฮารุฮิจะต้องหาที่อยู่ของฝนสุดา ตระกูลฮารุฮิเพื่อหน้าตาของวงศ์ตระกูลตัวเอง จึงไม่มีทางให้ตระกูลอุเอสึงิรับรู้เรื่องนี้แน่นอน แต่ก่อนหน้างานแต่ง รพีพงษ์จะต้องควบคุมตระกูลฮารุฮิไว้ จึงจะสามารถจัดการวันงานแต่งได้ราบรื่น

แน่นอน รพีพงษ์ไม่มองว่าเป็นเรื่องที่ยากอะไร ดังนั้นจึงไม่ได้เร่งรีบใดๆ

พลบค่ำ รพีพงษ์ทำหน้าที่ดำเนินการ ไปซื้อของกินให้กับอุเอสึงิ ฮารุและฝนสุดา และทั้งสองรออยู่ที่โรงแรม

ฝนสุดามองอุเอสึงิอย่าเบื่อหน่าย จากนั้นก็เดินไปที่เธอ ยิ้มพลางถาม “อุเอสึงิ ฮารุ คุณชอบดื่มเหล้ามั้ย?”

อุเอสึงิ ฮารุมองไปที่ฝนสุดา แล้วกล่าว “เคยดื่มบ้าง รู้สึกไม่เลว”

“เริ่ด ตอนกลางคืนพวกเราไปผับกันเถอะ ฉันเพิ่งจะหนีออกมาได้ อยากระบายสักหน่อย กินเหล้าเป็นวิธีระบายที่ดีที่สุด” ฝนสุดากล่าว

“เอิ่ม……ฟังคุณชายแล้วกัน” อุเอสึงิ ฮารุกล่าว

“ไอ้หยา เพียงแค่พวกเราทั้งสองอยากไป เขาไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน คุณฟังฉันก็พอแล้ว” ฝนสุดากล่าว

อุเอสึงิ ฮารุรู้สึกว่าออกไปกินเหล้าก็ไม่มีปัญหาอะไร หลายปีมานี้เธอไม่ได้เอนเตอร์เทนอะไรเลย พูดๆไป ก็อยากรู้เหมือนกันว่าชีวิตกลางคืนของเมืองโตเกียวเป็นอย่างไรกันแน่

“อืม……อืมก็ได้” อุเอสึงิ ฮารุกล่าว

ฝนสุดาจุ๊บไปที่หน้าผากของเธอ กล่าว “เป็นน้องสาวที่ดีของฉันจริงๆ”

ครั้งนี้ที่เจอรพีพงษ์โดยบังเอิญ ฝนสุดาดีใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ และที่นี่ก็คือประเทศญี่ปุ่น ภรรยาของรพีพงษ์อยู่ไกล นี่เป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะคว้ารพีพงษ์มา

และพอดีที่พวกเขานอนอยู่ในห้องเดียวกัน อุเอสึงิ ฮารุต้องนอนที่ห้องของตัวเองไม่วุ่นวายอย่างแน่นอน แล้วเธอก็ไม่ต้องพูดถึง

แต่รพีพงษ์ท่อนไม้ไร้ความรู้สึก เธอจะบีบบังคับก็ทำไม่ได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือมอมเหล้า

คนนั้นเมื่อเมาแล้ว ควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่

ที่เธอชวนอุเอสึงิ ฮารุไปผับตอนกลางคืนนั้น ก็เพราะเหตุนี้

“แหะแหะ ตัวเล็ก ฉันไม่เชื่อล่ะว่าอยู่ในดินแดนของประเทศญี่ปุ่นนี้ ฉันจะเอาคุณไม่ได้ รพีพงษ์ เตรียมตัวตกเป็นของฉันได้เลย!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน