บทที่834 เขาคือชายเลว
“คง……คงไม่ใช่ดูผิดหรอกนะ เขาบอกว่าตัวเองรักเดียวใจเดียวตลอดไม่ใช่หรอ ตอนนั้นฉันอยู่กับเขาตั้งนาน ถึงขั้นนอนห้องเดียวกันตั้งนาน เขาไม่ทำอะไรฉันเลย แล้วจะพาหญิงอื่นเปิดโรงแรมได้ไงกัน” ฝนสุดาพูดกับตัวเอง
ผู้ชาย พาผู้หญิงเข้าโรงแรม สามารถรู้ได้ ว่าพวกเขามาทำอะไรกัน
ดังนั้นฝนสุดาจึงสงสัยว่าคนที่ตัวเองเห็นเป็นรพีพงษ์หรือไม่
“แต่ใบหน้าเมื่อกี๊ ต้องเป็นเขาแน่ๆ ฉันไม่มีทางจำผิด” ฝนสุดาให้ความมั่นใจตัวเองอีกครั้ง
หากชายเมื่อกี้เป็นรพีพงษ์จริงๆล่ะก็ ฝนสุดาพบว่าตัวเองยอมรับเรื่องราวในครั้งนี้ไม่ได้
“แกไอ้ต่ำช้า ตอนนั้นแกบอกว่าแกมีอารีคนเดียวในใจไม่ใช่หรอ ทำไมตอนนี้มาที่ประเทศเรา แล้วเปิดห้องกับหญิงอื่นอีก?”
“แกไอ้หลอกลวง ในเมื่อแกกล้าพาหญิงคนอื่นมา ทำไมตอนแรกไม่กล้ามีอะไรกับฉัน แกรังเกียจฉันหรอ?”
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ฝนสุดาก็ร้องไห้ออกมา เรื่องการแต่งงานกับตระกูลอุเอสึงิทำให้เธอกดดันอย่างหนัก และแล้วความศรัทธาสุดท้าย กลับพาหญิงคนอื่นเข้าโรงแรม ทำให้ใจเธอพังลงทันใด
“ฮือฮือฮือ แกไอ้เลว ฉันถูกบังคับแต่งงาน แกกลับพาหญิงเข้าโรงแรม แกโกหกได้โล่ห์ ฉันตาบอดจริงๆ ชอบคนเลวๆอย่างแกได้ไงกัน”
ฝนสุดานั่งร้องบนพื้น
ผ่านไปไม่นาน เธอยืนขึ้นมาทันใด มองไปที่รพีพงษ์ที่กำลังเดินเข้าไปในห้อง แล้วกล่าว “ไม่ได้ ฉันไม่มีทางปล่อยไอ้เลวนี่ให้หญิงอื่น แม้มันจะเลว ฉันก็ต้องเอามันให้ได้!”
ด้วยนิสัยของฝนสุดา ไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้อยู่แล้ว ในเมื่อพระเจ้าให้เธอเจอรพีพงษ์ที่นี่ แสดงว่าพระเจ้าได้ให้โอกาสเธออีกครั้ง
เธอเงยหน้าเช็ดน้ำตาตัวเอง แล้วกล่าว “รพีพงษ์ ครั้งนี้ฉันจะปล้ำแก ดูว่าแกจะพูดว่าอะไรอีก!”
พูดจบ เธอก็เดินไปที่ห้องของรพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุอย่างรวดเร็ว
ในห้อง รพีพงษ์เพิ่งนั่งรถบนโซฟา ในสมองเต็มไปด้วยความคิดที่ว่าจะหาฝนสุดาเจอได้อย่างไร อุเอสึงิ ฮารุยืนอยู๋ข้างๆ ก็ยังคงอยากถามว่ารพีพงษ์กับฝนสุดามีความสัมพันธ์กันอย่างไร
ในขณะที่อุเอสึงิ ฮารุกำลังรวบรวมความกล้า จะถามรพีพงษ์นั้น
ประตูห้องได้ถูกถีบออก ฝนสุดาที่เกรี้ยวกราดได้พุ่งเข้ามา เห็นรพีพงษ์นั่งอยู่บนโซฟา และอุเอสึงิ ฮารุสาวงามที่อยู่ข้างๆแล้วนั้น ก็ยิ่งโมโหเข้าไปอีก ชี้รพีพงษ์แล้วด่า
“แกไอ้หน้าคดใจซื่อ! แกบอกว่าแกรักเมียแกคนเดียวหนิ ทำไมตอนนี้พาหญิงอื่นเข้าโรงแรม? แล้วยังมาที่ประเทศญี่ปุ่นของฉันอีก กลัวเมียรู้หรือไง?”
“ถ้าแกเป็นชายโฉดก็ช่้าง แต่ทำไมตอนที่แกอยู่กับฉัน แกไม่ทำอะไรฉันเลย? แกรังเกียจฉันหรือไง? หรือฉันไม่สวยเท่าสาวนี่?”
ฝนสุดามองไปที่อุเอสึงิ พบว่าตัวเองกับอุเอสึงิ ต่างกันอยู่บ้างจริงๆ จึงรู้สึกอับอายขึ้นมา จากนั้นก็ด่ารพีพงษ์ในใจว่าเป็นไอ้จอมปลอม ไม่ตกหลุมพรางของเธอ แล้วยังหลงใหลให้กับความงามอย่างมากอีกด้วย
เอ๊ะ? ทำไมรู้สึกว่าผู้หยิงคนนี้คุ้นๆนะ? เหมือนกับเคยเจอที่ไหนมาก่อน?
รพีพงษ์ดูฝนสุดาที่พุ่งเข้ามา ก็รู้สึกประหลาดใจ เมื่อกี้เขายังคาดเดาอยู่เลยว่าหลังจากที่ฝนสุดาได้หนีออกมาจากตระกูลฉารุฮิแล้วนั้น จะไปอยู่ไหน สุดท้ายนาทีถัดมาหญิงคนนี้ก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาทันใด ทำให้คนคาดไม่ถึงจริงๆ
ฟังคำพูดที่ฝนสุดาตะคอกใส่ตน รพีพงษ์พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงได้ตื่นตระหนกขนาดนั้น จึงรู้สึกพูดไม่ออก
เขายืนขึ้นจากโซฟา เดินไปยังด้านหน้าของฝนสุดา ยื่นมาไปจับที่ไหล่ของเธอ ให้เธอนั่งลงบนโซฟา
“แก……แกจะทำอะไร? แกคงไม่ใช่เพราะจะถูกฉันปล้ำ แล้วจะฆ่าปิดปากฉันหรือกนะ?” ฝนสุดามองไปที่รพีพงษ์อย่างเคร่งเครียด
“ผมอยากให้คุณใจเย็นๆหน่อย” รพีพงษ์กล่าว
“ฉันจะใจเย็นได้ไง ฉันพูดผิดหรือไง แกไอ้ชายโฉด!” ฝนสุดาตะคอก
อุเอสึงิ ฮารุที่อยู่ข้างๆรู้สึกแปลกใจกับฝนสุดาที่จู่ๆก็ปรากฏกายออกมา เธอรู้ว่าฝนสุดาหน้าตาเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงรู้ว่าหญิงที่อยู่ตรงหน้าคือใคร
และดูจากการกระทำของฝนสุดาที่มีต่อรพีพงษ์ เหมือนกับแฟนสาวกระทำต่อฝ่ายชายอย่างไรอย่างนั้น อุเอสึงิ ฮารุก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทันใด
คุณชื่อบอกว่าในใจมีแต่ภรรยากับลูกสาวไม่ใช่หรอ? ทำไมคุณฝนสุดากลับปฏิบัติต่อเขาเหมือนแฟนเลยล่ะ?
หรือเหมือนอย่างที่คุณฝนสุดาได้กล่าวไว้ ว่าคุณชายเป็น……ชายโฉดจริงๆ?
เห็นอุเอสึงิ ฮารุก็มองเขาอย่างมีคำถามเช่นกัน รพีพงษ์รู้สึกปวดหัวขึ้นมา จึงให้อุเอสึงิ ฮารุนั่งลงบนโซฟาเช่นเดียวกัน
หญิงทั้งสองเกิดอาการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกันอย่างทันใด ราวกับเอาอีกฝั่งเป็นศัตรูหัวใจของตนไปแล้ว ดูภายนอกเหมือนสงบ แต่มองจากสายตา ได้สู้รบกันไปจนนับไม่ถ้วนแล้ว
“อธิบายก่อนเลยแล้วกัน ผมกับเธอ ไม่ได้มาที่นี่เพื่อมีอะไรกัน คุณเข้าใจผิดไปเอง ผมมีแค่ภรรยากับลูกเท่านั้นจริงๆ เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย” รพีพงษ์กล่าว
“ถ้าพวกแกไม่ไ่ด้มาทำอะไรกันแล้วทำไมนอนห้องเดียวกัน? รพีพงษ์ หยุดโกหกได้แล้ว!” ฝนสุดาไม่เชื่อ
รพีพงษ์เซ็ง ทำได้เพียงบอกเหตุผลที่เขาและอุเอสึงิ ฮารุต้องอยู่ห้องเดียวกัน เพราะห้องชุดนี้มีสองห้องนอน เขากับอุเอสึงิ ฮารุไม่ได้นอนเตียงเดียวกันสักหน่อย
ฝนสุดาเพิ่งจะนึกตัวตนของอุเอสึงิ ฮารุออก เมื่อก่อนเธอเคยเห็นอุเอสึงิ ฮารุอยู่บ้าง และรู้เกี่ยวกับอุเอสึงิ ฮารุ แต่ยังไงเธอก้ไม่คาดคิด ว่ารพีพงษ์จะอยู่กับคุณหนูของตระกูลอุเอสึงิได้
“รพีพงษ์ คุณคงไม่ใช่เป็นคนของตระกูลอุเอสึงิจัดมาให้จับฉันหรอกนะ?” ฝนสุดาจ้องรพีพงษ์อย่างสงสัย
รพีพงษ์บอกเหตุผลที่ตนต้องมาประเทศญี่ปุ่น แล้วบอกเธอถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและอุเอสึงิ ฮารุให้ฟัง และบอกเธอถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมตระกูลอุเอสึงิต้องเอาเธอเป็นนางบำเรอ
ฝนสุดายิ่งฟังยิ่งประหลาดใจ ไม่คาดคิด ว่าการแต่งงานของตน จะซับซ้อนซ่อนเงื่อนขนาดนี้
“ถ้า……ถ้าแบบนี้ ที่พวกคุณทั้งสองอยู่ที่นี่ ก็เพราะช่วยฉัน ไม่ใช่มาลักลอบสมสู่กัน?