พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่841 คุณจะทำอะไร

บทที่841 คุณจะทำอะไร

บทที่841 คุณจะทำอะไร

โรงแรมซากุระ

หลังจากที่รพีพงษ์ทั้งสามดื่มเหล้าเสร็จแล้วนั้น ก็กลับมาที่นี่

ตอนขากลับ อุเอสึงิ ฮารุเมา เริ่มไม่ค่อยรู้เรื่อง เดินเซไปเซมา

แม้เธอจะดื่มเหล้าได้ แต่ระดับแอลกอฮอล์ไม่ดีสักเท่าไหร่ หลังจากที่ฝนสุดาเทเหล้าแก้วนั้นให้เธอ ก็ไม่ไหวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตอนขากลับรพีพงษ์และฝนสุดาพยุงกลับมา

ฝนสุดารู้ดีถึงระดับแอลกอฮอล์ของตัวเอง ถ้าเธอดื่มเยอะขนาดนี้เหมือนกันล่ะก็ จุดจบก็ไม่ต่างจากอุเอสึงิ ฮารุสักเท่าไหร่ ดังนั้นตอนนั้นที่เธอเทเหล้าให้กับรพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุแล้ว ได้เปลี่ยนแก้วเหล้าของตัวเองให้เป็นเหล้าธรรมดา

ทำไมเธอต้องมอมเหล้าอุเอสึงิ ฮารุ ก็เพื่อให้มั่นใจว่าตอนที่ลงมือกับรพีพงษ์ จะไม่มีใครมารบกวนได้

หลังจากที่รพีพงษ์ดื่มเหล้าแก้วนั้นหมดแล้วก็มึนๆหัวเช่นกัน ไม่คาดคิดว่าเหล้าแก้วสุดท้ายจะดีกรีเยอะขนาดนี้

แต่เขายังคงสภาพตื่นตัวเอาไว้ได้ จนกระทั่งถึงโรงแรม

หลังจากถึงห้องพัก รพีพงษ์พาอุเอสึงิ ฮารุวางไว้บนเตียงในห้อง หลังจากที่ห่มผ้าให้เธอแล้ว ก็หันหลังเดินออกมา

ฝนสุดาแสดงละครว่าตัวเองก็แทบจะไม่ไหวแล้วเช่นกัน แล้วกล่าว “ฉันมึนมากเลย ฉันไปอาบน้ำนอนแล้วนะ”

พูดจบ เธอก็เดินไปที่ห้องน้ำ

รพีพงษ์ไม่ได้สังเกตท่าทีของฝนสุดา เขาเดินไปนั่งที่โซฟา รู้สึกบ้านหมุน อยากจะรีบหลับให้เร็วที่สุด

ในขณะเดียวกันนี้เอง ในห้องน้ำมีเสียงดังขึ้นมา รพีพงษ์ตกใจ ตื่นขึ้นทันที คิดว่ามีคนมาจับฝนสุดา จึงได้รีบพุ่งเข้าไปในห้องน้ำ

เปิดประตูห้องน้ำ รพีพงษ์เห็นฝนสุดาที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นซึ่งถอดชุดออกไปครึ่งตัวแล้ว รพีพงษ์ก็รู้สึกรำคาญขึ้นมา

ฝนสุดากำลังมองรพีพงษ์อย่างน้อยใจ แล้วกล่าว “ฉัน ฉันยืนขึ้นไม่ไหว พยุงฉันที”

รพีพงษ์เซ็ง ทำได้เพียงเดินไปด้านหน้าของฝนสุดา ไม่มองเธอ แล้วยื่นมือให้ไป

“คุณทำแบบนี้เค้าก็ลุกขึ้นไม่ไหวหรอกนะ เค้าขาพลิกแล้ว ต้องอุ้มถึงจะได้” ฝนสุดาที่เขิลอาย น่าสงสาร ไม่ว่าชายคนไหนเห็นท่าทีของเธอ ก็ยากที่จะปฏิเสธได้

รพีพงษ์ทำได้เพียงคุกเข่าลง กอดฝนสุดาขึ้นมาอย่างระมัดระวัง พยายามไม่แตะต้องเธอ

ฝนสุดาไม่มีทางพลาดโอกาสดีๆแบบนี้แน่นอน แล้วเอนไปยังร่างของรพีพงษ์โดยตรง แนบข้างๆหูของเขา แล้วพูดเบาๆ “คืนนี้ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ฉันจะไม่ต่อต้านเด็ดขาด”

รพีพงษ์ตื่นเพราะคำพูดของฝนสุดา รู้ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะต้องมีปัญหาแน่ๆ ดังนั้นจึงรีบผลักฝนสุดาออก แล้วกล่าว “คุณลุกขึ้นได้แล้ว รีบอาบน้ำเถอะ ผมออกไปล่ะ”

พูดจบ ก็เดินออกไปจากห้องน้ำ ไม่ให้โอกาสใดๆฝนสุดาอีก

ฝนสุดาเห็นรพีพงษ์อดกลั้นไว้ได้ ก็กระทืบเท้าอย่างโมโห เมื่อกี๊ที่เธอล้มนั้นเป็นเพราะเธอแสดงละคร เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับรพีพงษ์

แต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ รพีพงษ์หนักแน่นได้ขนาดนี้ มาถึงขั้นนี้แล้ว เขายังอดกลั้นได้อีก

“เชอะ ยังไงคุณก็เมาแล้ว โดยทั่วไป เดี๋ยวคุณก็นอนหลับ ถึงเวลานั้น ฉันจะทำอะไรก็ได้ คุณขัดขวางไม่ได้แล้ว!”

ฝนสุดาเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ

หลังจากที่รพีพงษ์เดินออกมาจากห้องน้ำ ก็ส่ายหัวไปมา อยากให้ตัวเองตื่นตัวกว่านี้ แต่แอลกอฮอล์ทำให้เขาชาไปหมดทั้งตัว อยากตื่น ก็ต้องนอนหลับอย่างเดียว

เขาเดินไปที่โซฟา แล้วนอนลง เพื่อจะหลับ

ตอนนี้ในสมองเขาทันใดนั้นได้นึกถึงวิธีของพลังวิเศษเสนที่จะสร่างเมา หลับตาลง จากนั้นก็ทำตามขั้นตอน เริ่มไหลเวียนพลังวิเศษเสน สลายแอลกอฮอล์ในร่างกาย

จากการไหลเวียนพลังวิเศษเสน รพีพงษ์รู้สึกตัวเยอะขึ้น อาการเมาแบบนั้นเริ่มลดน้อยลง

คิดไม่ถึงว่าพลังวิเศษเสนนี้จะมีประโยชน์แบบนี้ด้วย ลดระดับแอลกอฮอล์ มหัศจรรย์อย่างเทียบไม่ได้จริงๆ

ผ่านไปไม่นาน ฝนสุดาได้เดินออกมาจากห้องน้ำ เธอนุ่งผ้าเช็ดตัวไว้ ผมเปียกหมาดๆ ชั่งน่าดึงดูดยิ่งนัก

เธอมองไปที่รพีพงษ์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ พบว่ารพีพงษ์กำลังนอนอยู่บนโซฟา ยิ้มอย่างมีความสุข

เธอเดินไปข้างๆโซฟาอย่างช้าๆ หลังจากที่จ้องรพีพงษ์อยู่สักพัก ก็คิดว่าคุณไม่ยอมขนาดนี้ สุดท้ายก็ต้องเป็นของฉันอยู่ดี

จากนั้นเธอก็นั่งข้างๆรพีพงษ์ ยื่นมือไปถอดชุดเขาออก

ขณะนี้รพีพงษ์ได้ใช้พลังวิเศษเสนสลายระดับแอลกอฮอล์ที่มีในร่างกายหมดแล้ว สมองตื่นตัวอย่างมาก หลังจากที่รู้สึกว่ามีคนกำลังถอดชุดตัวเองอยู่นั้น ก็รีบลืมตาขึ้น

ฝนสุดาที่ตื่นเต้นมองไปยังรพีพงษ์ที่เปิดตาขึ้นกะทันหัน ก็ตกใจทันใด มือที่กำลังถอดชุดอยู่ก็รีบหยุดทันที

รพีพงษ์และเธอสบตากัน บรรยากาศเหม่งๆไปชั่วครู่

“คุณกำลังทำอะไร?” รพีพงษ์ถาม

ฝนสุดากำลังฟังน้ำเสียงที่เหมือนไม่เมาแล้วของรพีพงษ์ ก็รู้สึกอับอายขึ้นมา แล้วถาม “คุณเมาไม่ใช่หรอ เปิดตาทำไม รีบปิดตานอนสิ”

“ผมสร่างแล้ว” รพีพงษ์กล่าว

ฝนสุดารู้สึกอับอายมากขึ้นไปอีก สิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่เธอคิดว่าไม่เหมือนกันเลย คนนี้เมื่อกี้ยังเมาๆอยู่เลย ทำไมตอนนี้สร่างเมาแล้วล่ะ?”

“เอิ่ม คือ ฉันว่าคุณน่าจะร้อน ดังนั้นจึงช่วยถอดชุดออกให้ เดี๋ยวเหงื่อออกจะเหนอะตัวเอา” ฝนสุดารีบนึกเหตุผลที่แม้แต่เธอก็ไม่กล้าเชื่อออกมา

รพีพงษ์มองบน จากนั้นมือของฝนสุดาก็ออกไปจากร่างกายของตน แล้วกล่าว “อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ ผมบอกตั้งหลายครั้งแล้ว ว่าในใจผมมีแค่อารีคนเดียว”

ฝนสุดายืนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด แล้วกล่าว “มีแค่เธอคนเดียวแล้วไง คุณเก่งกาจขนาดนี้ ก็เป็นเรื่องธรรมดา

ที่จะมีผู้หญิงมากมายที่ชอบคุณ ฉันชอบคุณไม่ผิดอะไรผิดหนิ”

“ฉันไม่สน วันนี้ฉันจะต้องเอาคุณให้ได้”

พูดจบ ฝนสุดาก็ปลดผ้าเช็ดตัวออก ตัดสินใจคงสภาพนั้นต่อหน้ารพีพงษ์ เธอไม่เชื่อว่ารพีพงษ์จะอดกลั้นได้ตลอด

รพีพงษ์เห็นดังนี้ ก็รีบจับข้อมือเธอ แล้วรีบลุกจากโซฟา ลากเธอเข้าไปในห้อง ใช้แรง ผลักเธอลงบนเตียง

“นอนให้ดีๆ ถ้ายังคิดจะทำอะไร ผมจะโยนคุณออกนอกหน้าต่างซะ”

พูดจบ รพีพงษ์ก็เดินออกจากห้อง แล้วปิดประตู

ฝนสุดาทุบลงไปบนเตียงอย่างโกรธเคือง คิดไม่ถึงว่าแผนการของตัวเอง จะต้องพังลงอีกแล้ว

“รพีพงษ์! แกไอ้ท่อนไม้ ไม่ได้ลิ้มลองฉัน แล้วคุณจะเสียใจ!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท