พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่855 มีอะไรน่าอวด

บทที่855 มีอะไรน่าอวด

บทที่855 มีอะไรน่าอวด

ความเร็วของแสงดาบสีดำในมือของอุเอสุงิ ทาคิโนะนั้นเร็วมาก จนทำให้ท่านพระจิรัฎฐ์ที่ความแข็งแกร่งที่บรรลุถึงแดนปรมาจารย์ชั้นสูงสุดไม่สามารถตอบสนองกลับคืนมาได้ เขาเบิกตากว้างโดยสัญชาตญาณ ในช่วงเวลาต่อมา ความแข็งแกร่งของทั้งหมดร่างกายหายไป และการรับรู้ก็เริ่มเบลอขึ้นมา

อุเอสุงิ ทาคิโนะเตะท่านพระจิรัฎฐ์ลงเวทีประลอง ราวกับว่าเขากำลังจัดการกับสุนัขที่ตายแล้วอย่างชัดเจน

ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ตกตะลึงกับฝีมือที่อุเอสุงิ ทาคิโนะแสดงออกมา มีคนไม่น้อยใช้เริ่มใช้มือขยี้ตาของตัวเอง คิดว่าเมื่อกี้นี้ตัวเองมองผิดไป

“เมื่อกี้นี้ฉันไม่ได้ตาลายไปใช่มั้ย? บนมือของนายใหญ่ตระกูลอุเอสึงิ กลายเป็นดาบด้วยมือที่ว่างเปล่าเหรอ?”

“ฉันก็เห็น พระเจ้า นี่ยังเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำได้เหรอ? นี่กำลังถ่ายทำละครอยู่เหรอ?”

“นายใหญ่ตระกูลอุเอสึงินี่เป็นวิธีการเทพอสูร ฉันเคยได้ยินปู่เล่าว่าอันที่จริงบนโลกใบนี้มีเทพอสูรอยู่ ที่ผ่านฉันไม่เคยเชื่อ แต่เมื่อเห็นฝีมือของนายใหญ่ตระกูลอุเอสึงิ ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่ปู่ของฉันพูดเป็นความจริง”

……

ในเวลานี้ทุกคนในตระกูลฮารุฮิต่างก็มองไปที่อุเอสุงิ ทาคิโนะที่อยู่บนเวทีประลองอย่างแน่วแน่ พวกเขาต่างก็รู้ความแข็งแกร่งของอุเอสุงิ ทาคิโนะ แต่คาดไม่ถึงว่าอุเอสุงิ ทาคิโนะจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้

ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็หันหน้ามองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง เพราะสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาก็เคยเห็นบนตัวรพีพงษ์มาก่อน

“ระ…..รพีพงษ์ นายใหญ่ตระกูลอุเอสึงิ แข็งแกร่งเหมือนกับนายหรือเปล่า? เขา….เขาสามารถเปลี่ยนมือเปล่าให้เป็นดาบได้ ที่สำคัญพลังก็แข็งแกร่งขนาดนี้”ฮารุฮิ กันตะถามรพีพงษ์ด้วยเสียงสั่นหนึ่งประโยค

ในขณะนี้รพีพงษ์กำลังหรี่ตาจ้องมองไปที่อุเอสุงิ ทาคิโนะ จากนั้นก็พยักหน้า แล้วพูดว่า: “แดนของเขาบรรลุถึงแดนดั่งเทพแล้ว เพียงแต่พลังที่แสดงออกมาไม่ได้น่ากลัวเท่ากับแดนดั่งเทพที่แท้จริง ดูเหมือนว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับวิธีทางไสยศาสตร์ที่เขาฝึกฝน”

จากการโจมตีเมื่อกี้นี้ของอุเอสุงิ ทาคิโนะ รพีพงษ์ตัดสินความแข็งแกร่งของอุเอสุงิ ทาคิโนะได้พอประมาณ แม้ว่าแดนจะบรรลุถึงแดนดั่งเทพ แต่พลังก็อ่อนแอไม่น้อย รวมทั้งลมปราณไม่คงที่ รพีพงษ์ยังคงมีกำลังที่จะต่อสู้กับเขาได้

เมื่อคาโต้ แดนโซพวกเขาทั้งสามคนเห็นว่าท่านพระจิรัฎฐ์ถูกอุเอสุงิ ทาคิโนะจัดการได้ย่างง่ายดาย ที่สำคัญอีกฝ่ายยังแสดงฝีมือออกมาราวกับเทพอสูร สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาในทันที

คาโต้ แดนโซวิ่งไปที่ท่านพระจิรัฎฐ์ ก้มลงไปจับลำคอของท่านพระจิรัฎฐ์ แน่ใจว่าเขาไม่มีลมหายใจแล้ว

ในเวลานี้อาจารย์ทั้งสามท่านที่เหลืออยู่ถึงได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของเหตุการณ์ในวันนี้ อุเอสุงิ ทาคิโนะจะเชิญพวกเขามา ก็เตรียมตัวมาก่อนแล้ว

“ความแข็งแกร่งของอุเอสุงิ ทาคิโนะนี้แปลกประหลาด เกรงว่าน่าจะสัมผัสถึงพื้นฐานนั้นมาแล้ว การต่อสู้เพียงลำพังพวกเราก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ทำได้เพียงร่วมมือกันเท่านั้น”คาโต้ แดนโซหันหน้ามองไปที่อาจารย์อีกทั้งสองท่าน และกล่าวอย่างเคร่งขรึม

อาจารย์ทั้งสองท่านนั้นพยักหน้า เหตุการณ์ที่เกี่ยวกับเรื่องใหญ่ของชีวิต ใครก็ไม่กล้าอวดดี

ทั้งสามคนหันไปทางอุเอสุงิ ทาคิโนะที่อยู่บนเวทีประลอง จากนั้นนำโดยคาโต้ แดนโซ กระโดดขึ้นไปบนเวทีประลอง

อุเอสุงิ ทาคิโนะมองดูทั้งสามคนที่ขึ้นมาบนเวทีพร้อมกัน บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เอ่ยปากว่า: “ทำไม อยากสู้คนเดียวกับฉันคนเดียวไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ลุยขึ้นมาพร้อมกันล่ะ ในเวลานี้พวกแกไม่สนใจหนังหน้าของพวกแกแล้วเหรอ?”

คาโต้ แดนโซส่งเสียงเย็นชา เอ่ยปากว่า: “อุเอสุงิ ทาคิโนะ แกอย่าได้จองหองเลย วิธีการที่แกใช้ออกมาเมื่อกี้นี้ชั่วร้ายขนาดนี้ คงจะเข้าสู่ลัทธิมาร วันนี้พวกเราจะกำจัดลัทธิมารให้ถูกต้อง ทางที่แกควรจะยอมวางมือแต่โดยดี!”

อุเอสุงิ ทาคิโนะส่งเสียงเย็นชาในทันที บนใบหน้าก็แสดงความโหดเหี้ยมออกมา เอ่ยปากว่า: “ไอ้แก่ตายยากที่หน้าเคร่งขรึมอย่างพวกแกนะเหรอ จะกำจัดลัทธิมารให้ถูกต้องเหรอ? อย่าใจร้อนเลย พวกแกที่เรียกว่าสี่ปรมาจารย์นินโดใหญ่ ในสายตาของฉันอุเอสุงิ ทาคิโนะ ก็เป็นเรื่องตลกเท่านั้นเอง!”

หลังจากที่เสียงลดลง แสงดาบสีดำในมือของอุเอสุงิ ทาคิโนะก็สว่างวาบขึ้นอีกครั้ง และร่างกายของเขาก็เปล่งประกายแสงสีดำออกมา ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการปลดปล่อยพลัง

ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างร้องอุทานอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาลาย วิธีการของอุเอสุงิ ทาคิโนะ บรรลุถึงแดนเทพอสูรจริงๆ

เมื่อคาโต้ แดนโซพวกเขาทั้งสามคนเห็นท่าทางของอุเอสุงิ ทาคิโนะ ก็ไม่กล้าชักช้า ต่างคนต่างก็รีบชักดาบออกมาอย่างรวดเร็ว พลังอานุภาพบนตัวพุ่งขึ้นถึงขีดสุดแล้ว จากนั้นก็ล้อมรอบอุเอสุงิ ทาคิโนะไว้อย่างรวดเร็ว

ระหว่างแดนปรมาจารย์ชั้นสูงสุดกับแดนดั่งเทพ มีความแตกต่างกันเป็นหลัก แม้ว่าอุเอสุงิ ทาคิโนะจะเป็นแดนดั่งเทพที่ไม่ได้เรื่อง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่คาโต้ แดนโซพวกเขาทั้งสามคนจะเข้าใจได้เลย

พวกเขาทั้งสามคนยกดาบขึ้นแล้วฟันไปที่บนตัวอุเอสุงิ ทาคิโนะ คาโต้ แดนโซอยู่ในพริบตาเดียว ต้านทานการโจมตีของพวกเขาทั้งสามคนไว้ ด้วยความเร็วนี้ บรรลุถึงระดับที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า

ทุกคนในด้านล่างเวทีเห็นเพียงแสงของดาบที่วิบวับ ดาบฟาดฟันจนเกิดเป็นเสียงเหล็ก ซึ่งมาพร้อมกับแสงสีดำที่สะท้านไปมา และมองไม่เห็นว่าทั้งสี่คนบนเวทีกำลังปะทะกันอย่างไร

หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็รู้สึกได้ถึงแรงผลักดันที่รุนแรงปรากฏขึ้นมา จากนั้นดาบดำลวงตาขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น ทุกคนรู้สึกว่าผิวหนังของตัวเองก็สั่นขึ้นมา และการหายใจก็มีสิ่งปิดกั้นไว้

ช่วงเวลาต่อมา กลลวงตาเส้นนั้นก็ฟันไปทางบนตัวของคาโต้ แดนโซทั้งสามคน ใบหน้าทั้งสามคนถอดสี พวกเขาไม่เคยเจอการโจมตีแบบนี้มาก่อน ต่างคนต่างก็หลบไปเป็นสองด้าน

ดาบดำลวงตาฟันเวทีประลองให้กลายเป็นสองท่อน แม้ว่าคาโต้ แดนโซพวกเขาทั้งสามคนจะไม่ถูกกลลวงตาฟันโดนโดยตรง แต่พลังที่กลลวงตานำพามาให้นั้นทำให้พวกเขาทั้งสามคนพลิกคว่ำ แล้วล้มลงบนพื้น

คาโต้ แดนโซกระอักเลือกออกมาหนึ่งคำ เขารู้สึกว่าอวัยวะภายในร่างกายของตัวเองทั้งหมดได้รับความเสียหาย แม้ว่าจะรอดชีวิตมาได้ แต่ร่างกายก็ไร้ประโยชน์ไปแล้ว

อุเอสุงิ ทาคิโนะยืนอยู่บนเวทีประลองที่พังย่อยยับ แล้วดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองไปคาโต้ แดนโซพวกเขาทั้งสามคน และเยาะเย้ยว่า: “พวกแกที่เรียกว่าปรมาจารย์นินโดทั้งสี่คน มีความสามารถเพียงแค่นี้เองเหรอ พวกแกดูถูกตระกูลอุเอสึงิของฉันมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้แม้แต่ท่วงท่าเดียวของฉันก็รับไม่ไหว ตลกมั้ยล่ะ?”

หลังจากพูดจบ เขาก็หันมองไปที่ทุกคนในสวนลานบ้าน และพูดเสียงดัง: “วันนี้ ฉันต้องการพิสูจน์ให้พวกคุณทุกคนเห็นว่า ตระกูลอุเอสึงิของฉัน มีพลังแข็งแกร่งที่สุดในประเทศญี่ปุ่น พวกที่เรียกว่าปรมาจารย์นินโดทั้งสี่ก็ไม่ถือได้ว่าสำคัญอะไรเลย ถ้าพวกคุณมีใครไม่พอใจ ตอนนี้ก็สามารถขึ้นมาท้าทายฉันที่บนเวทีได้เลย!”

หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดของอุเอสุงิ ทาคิโนะ บนใบหน้าก็ปรากฏร่องรอยของความหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าที่จะออกมายืนหยัดต่อสู้กับอุเอสุงิ ทาคิโนะ

คาโต้ แดนโซพวกเขาสามคนต่างก็ถอนหายใจอย่างจนใจ ในใจพวกเขาทุกคนรู้ว่า ตอนนี้ในประเทศญี่ปุ่น น่าจะไม่มีใครที่สามารถสู้กับอุเอสุงิ ทาคิโนะได้

ในตอนนี้ รพีพงษ์ลุกขึ้นยืน เขาพอจะเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของอุเอสุงิ ทาคิโนะโดยประมาณหนึ่งแล้ว อาจารย์ทั้งสี่คนของประเทศญี่ปุ่นได้รับการสั่งสอนที่เหมาะสม ก็ถึงเวลาที่เขาจะออกโรงแล้ว

“มันก็เป็นเพียงพลังที่ได้รับมาจากการอาศัยวิธีทางไสยศาสตร์ มีอะไรน่าอวดเหรอ?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท