พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่866 การประลอง

บทที่866 การประลอง

บทที่866 การประลอง

“ท่านผู้อาวุโส ท่านมีไม่ที่ว่างให้ได้อธิบายก็จะลงมือกับฉัน แบบนี้มากเกินไปหรือเปล่า ท่านรู้ได้อย่างไรว่านี่ไม่ใช่คำพูดด้านเดียวของเหลนสาวของท่าน!”

รพีพงษ์ถอยไปด้านหลัง พร้อมกับตะโกนใส่นิรภัฏ

นิรภัฏส่งเสียงเย็นชา แล้วพูดว่า: “นุชน่าเอ็นดูขนาดนี้ จะโกหกฉันได้อย่างไร กลับเป็นแก ในฐานะลูกศิษย์ของโจรเก่าอย่างธัชธรรม กลับไม่ใช่ของดีอะไร”

แม้ว่าปากจะพูดเช่นนั้น นิรภัฏก็ประหลาดใจกับความเร็วในการตอบสนองของรพีพงษ์ เดิมทีเขาเพียงแค่จะต้องการทำให้รพีพงษ์กลัว ทำให้รพีพงษ์เป็นตัวตลกในที่สาธารณะ หรือร้องขอความเมตตากับเขาต่อหน้าธัชธรรม

แต่รพีพงษ์ก็ถอยกลับไปข้างหลังในทันที และไม่ได้ถูกโจมตีด้วยวิธีการของเขา

สิ่งนี้ทำให้นิรภัฏอดไม่ได้ที่จะเกิดความสนใจ อยากจะดูว่าลูกศิษย์คนนี้ของธัชธรรมจะสามารถยืนหยัดอยู่ภายใต้วิธีการของเขาได้นานแค่ไหน

รพีพงษ์แอบด่าในใจ ถ้าณีรนุชสามารถเรียกได้ว่าน่าเอ็นดู ถ้าอย่างก็เจอกับผีจริงๆแล้ว

ในเวลาเดียวกันในใจของเขายังรู้สึกสยองกับความแข็งแกร่งของสัตว์ประหลาดแก่ที่มีชีวิตอยู่มากว่าร้อยปี เพียงแค่ลงมือครั้งเดียว ก็สามารถสร้างใบมีดลมจำนวนมากได้ วิธีการนี้ ต่อให้รพีพงษ์บรรลุถึงแดนดั่งเทพก็คงจะทำไม่ได้

ที่สำคัญเขารู้สึกได้ว่า พลังของใบมีดลมทุกใบ สามารถเทียบได้กับพลังของการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนหน้านั้นของเขา ถ้าถูกโดนใบมีดลมเหล่านี้โจมตีจริงๆ เขาไม่มีโอกาสรอดชีวิตอย่างแน่นอน

นี่คือความแข็งแกร่งที่อยู่ห่างจากแดนเทพเพียงหนึ่งก้าวเหรอ?

เมื่อนึกถึงตอนที่ธัชธรรมบอกว่าตัวเองอยู่ห่างจากแดนเทพเพียงหนึ่งก้าว ถ้าอย่างความแข็งแกร่งของนิรภัฏคนนี้ ก็น่าจะอยู่ในระดับนี้เช่นกัน

เมื่อเห็นใบมีดลมที่กำลังจะโจมตีโดนบนร่างของตัวเอง ในใจของรพีพงษ์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกวิตกกังวล เมื่อเห็นธัชธรรมยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ รพีพงษ์ก็รีบหันกลับมา ในพริบตาเดียว ก็พุ่งไปที่ด้านหลังธัชธรรม และหลบซ่อนตัว

ธัชธรรมถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ยกมือขึ้นโบกสะบัดเบาๆ ใบมีดลมก็กลายเป็นกระแสอากาศ และสลายหายไป

“นิรภัฏ ความคับแค้นใจระหว่างฉันกับนาย ไม่จำเป็นต้องไปกระทบต่อตัวลูกศิษย์”ธัชธรรมเอ่ยปากเสียงเรียบ

นิรภัฏส่งเสียงเย็นชา เอ่ยปากว่า: “เมื่อกี้นี้นายไม่ได้ยินเหรอ ลูกศิษย์ของนายเป็นคนรังแกเหลนสาวของฉัน ฉันเพียงแค่ต้องการสั่งสอนเขาเท่านั้นเอง”

ธัชธรรมหันหน้ามองไปที่ณีรนุชแวบหนึ่ง เอ่ยปากว่า: “หญิงสาว เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ได้โปรดช่วยพูดความจริงด้วย เรื่องระหว่างของผู้อาวุโส เธอก็อย่าเอามาปะปนกัน”

ณีรนุชรู้ว่าธัชธรรมเป็นยอดฝีมือในระดับเดียวกับท่านปู่ทวดของหล่อน หล่อนไม่กล้าล้อเล่นมากเกินไป ดังนั้นจึงพูดกับนิรภัฏอย่างละลายว่า: “ท่านปู่ทวด อันที่จริงแล้วคำพูดเมื่อกี้นี้เป็นแค่คำพูดความโกรธของฉัน ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ทำอะไรฉัน เขาเพียงทำให้ฉันโกรธเท่านั้นเอง”

นิรภัฏส่งเสียงเย็นชา แล้วพูดว่า: “ถ้าอย่างนั้นแล้วยังไงล่ะ ถ้าเธอโกรธยิ่งเป็นความผิดครั้งใหญ่”

ในใจรพีพงษ์รู้สึกไม่พอใจ ชายชราคนนี้เข้าข้างคนของตัวเองถึงระดับนี้ แต่ความแข็งของฝ่ายตรงข้ามก็สุดลึกล้ำ รพีพงษ์ก็ไม่กล้าหาเรื่องเขา ถ้าถูกเขาฟาดตายด้วยฝ่ามือก็จะลำบากแย่ ดังนั้นตอนนี้ทำได้เพียงแค่อดทน

ธัชธรรมมองไปที่นิรภัฏแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า: “เพื่อนเก่า ฉันมาหานาย คือมาคุยเรื่องสำคัญ ไม่ใช่มาหานายเพื่อทะเลาะ ถ้าหากนายอยากทะเลาะ ฉันสามารถหาเรื่องเวลามาอยู่เป็นเพื่อนนายได้ ตอนนี้ท่านนั้นยืนหยัดไม่ไหวแล้ว ฉันมาหานาย เพื่อขอของสิ่งนั้น นายแน่ใจว่ายังจะทะเลาะกับฉันอีกเหรอ?”

เมื่อนิรภัฏได้ยินคำพูดของธัชธรรม สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาบ้าง แม้ว่าเขาและธัชธรรมจะขัดหูขัดตากันมาหลายปีแล้ว แต่ในโลกตอนนี้เขาก็เหลือเพียงธัชธรรมเป็นเพื่อนคนเดียว สิ่งที่เรียกทะเลาะกัน เป็นเพียงเพื่อความสนุกสนานแค่นั้นเอง

ตอนนี้ได้ยินธัชธรรมพูดถึงเรื่องสำคัญ นิรภัฏก็ไม่ก่อกวนอีกต่อไป

เขาจ้องมองไปที่ธัชธรรมแวบหนึ่ง เอ่ยปากถามว่า: “ท่านนั้นยืนหยัดต่อไปไม่ไหวจริงเหรอ?”

ธัชธรรมพยักหน้าอย่างจริงจัง แล้วพูดว่า: “ถ้าไม่ใช่แบบนั้น ฉันจะมาปรากฏตัวอยู่ในที่ของนายได้อย่างไร?”

นิรภัฏก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ บนใบหน้าก็แสดงถึงความเคร่งขรึมเหมือนกับธัชธรรม ทุกคนไม่เข้าใจว่าทั้งสองคนกำลังพูดถึงอะไร แล้วทำไมถึงแสดงท่าทางเช่นเดียวกันออกมา

“ตามข้อตกลงตอนนั้น ของฉันก็ต้องให้นายเป็นธรรมดาอยู่ แต่ลูกศิษย์ของนายทำให้โกรธ ตอนนั้นยังกล้ากล่าวหาว่าฉันทำมากเกินไป เรื่องนี้ไม่สามารถปล่อยผ่านแบบนี้ไปได้”นิรภัฏมองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง เอ่ยปากเสียงเรียบ

“ฉันก็จะไม่ลงมือจัดการเขาด้วยตัวเอง จะได้ไม่ถูกกล่าวหาว่าผู้ใหญ่รังแกผู้ที่ด้อยกว่าอีก ช่วงไม่กี่ปีมานี้การประลองฝีมือระหว่างนายกับฉันยิ่งอยู่ยิ่งน่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆ พวกเราให้ลูกศิษย์ใต้บังคับบัญชามาประลองฝีมือกันดีกว่า”

“ถ้าหากลูกศิษย์คนนี้ของนายชนะ ฉันก็จะเอาของที่นายต้องการให้นาย แต่ถ้าลูกศิษย์ของนายพ่ายแพ้ เขาต้องขอโทษนุชต่อหน้านายและฉัน และต้องรับปากความต้องการหนึ่งข้อที่นุชเสนอออกมาอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ว่ายังไงล่ะ?”

เมื่อณีรนุชได้ยินคำพูดของนิรภัฏ แววตาก็เปล่งประกายในทันที เอ่ยปากว่า: “ฉันเห็นด้วย”

ต่อจากนั้นหล่อนก็มองไปทางรพีพงษ์อย่างยินดีในความโชคร้าย ในแววตาให้ความรู้สึกว่าฉันกินนายอย่างแน่นอน

ธัชธรรมไม่ได้รับปากในทันที เพราะความจริงรพีพงษ์ไม่ใช่ลูกศิษย์ของเขา เขาไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้แทนรพีพงษ์ได้ จึงหันหน้ามองไปที่เขาแวบหนึ่ง

รพีพงษ์พยักหน้าให้กับธัชธรรม ส่งสัญญาณว่าความต้องการนี้สามารถยอมรับได้

ธัชธรรมยิ้มขึ้นมาในทันที ตราบใดที่รพีพงษ์รับปาก เรื่องนี้ก็พูดง่าย เนื่องจากความแข็งแกร่งตอนนี้ของรพีพงษ์คือแดนครึ่งดั่งเทพ ก็มีกำลังในการต่อสู้

แม้ว่านิรภัฏจะเป็นยอดฝีมือในระดับเดียวกับธัชธรรม แต่ลูกศิษย์ใต้บังคับบัญชาจะมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นแค่ไหน แต่ความแข็งแกร่งก็เป็นเพียงแดนปรมาจารย์ชั้นสูงสุด ปีศาจอย่างรพีพงษ์ ไม่ใช่ว่าจะสามารถฝึกฝนออกมาได้อย่างง่ายดาย

หากเป็นความต้องการอย่างอื่น ธัชธรรมอาจจะลังเล แต่ให้ลูกศิษย์ใต้บังคับบัญชาประลองฝีมือกัน เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆทั้งนั้น

“ได้ ในเมื่อนายอยากให้ลูกศิษย์ประลองฝีมือกัน ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะรับปากนาย ฉันก็อยากจะดูว่า นายหลายปีมานี้ อบรมสั่งสอนอัจฉริยะแบบไหนออกมา”ธัชธรรมกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทันใดนั้นรอยยิ้มเหยียดหยามก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนิรภัฏ ราวกับว่ามีความเชื่อมั่นในศิษย์ของตัวเองเป็นอย่างมาก

“ฉันสามารถประลองฝีมือกับลูกศิษย์ของท่านได้ แต่ถ้าหากฉันชนะ ฉันต้องการให้ณีรนุชหญิงสาวคนนี้ ยอมรับความต้องการของฉันโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ”ในเวลานี้รพีพงษ์เอ่ยปากขึ้นมาในทันใด

นิรภัฏหันหน้ามองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง ส่งเสียงเย็นชาว่า: “นายไม่มีทางชนะได้”

ณีรนุชเอ่ยปากว่า: “รับปากก็รับปาก คิดว่าฉันกลัวนายหรือไง ถึงยังไงนายก็ไม่มีทางชนะ”

เมื่อเห็นณีรนุชรับปาก รพีพงษ์ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

ในเวลานี้นิรภัฏเหลือบมองไปที่กลุ่มลูกศิษย์ที่ยืนอยู่ที่นั่นแวบหนึ่ง เอ่ยปากว่า: “พรยศ นายออกมาเถอะ”

ในบรรดากลุ่มลูกศิษย์ ทันใดนั้นมีชายหนุ่มในชุดขาวก็ลุกขึ้นยืน เดินมาทางพวกเขา ทำความเคารพให้นิรภัฏและธัชธรรม

หลังจากนั้นพลังอานุภาพที่รุนแรงก็ปะทุออกมาจากบนตัวคนคนนี้ ก็คือระดับยอดฝีมือแดนปรมาจารย์ชั้นสูงสุด

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท