บทที่852 คุณคู่ควรมั้ย
คำตอบของรพีพงษ์เหมือนราวกับฟ้าผ่าลงบนผิวน้ำที่นิ่งสงบคงที่ ทำให้หอศิลปะการต่อสู้ระเบิดในทันที
ทุกคนมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความเหลือเชื่อ คาดไม่ถึงว่าเขาจะบอกว่าการบรรยายของอาจารย์ทั้งสี่ท่าน ก็แค่ธรรมดา
ซึ่งจะต้องมีความกล้าหาญมากเพียงใด ถึงกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าอาจารย์ทั้งสี่ท่าน
ต้องรู้ว่าแม้ว่าเมื่อกี้นี้ทั้งสี่ท่านนี้จะแค่นั่งบรรยายกันที่นี่ แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งแก่สายตาของทุกคนในประเทศญี่ปุ่น หากสิ่งนี้ทำให้พวกเขาทั้งสี่คนโกรธ จะรักษาชีวิตไว้ได้หรือไม่ก็เป็นปัญหา
“คนรุ่นน้องที่กำเริบเสิบสานอย่างแก กลับกล้าพูดได้เต็มปากว่าระดับของอาจารย์ทั้งสี่ท่านธรรมดา แล้วแกเป็นใคร กล้ามาพูดจาเหลวไหลที่นี่!”
“สมองกลวงจริงๆ อาจารย์เขาถามอย่างถ่อมตัว ไม่รู้จักยกย่องก็ช่างเถอะ กลับกล้าว่าให้ระดับของอาจารย์ทั้งสี่ท่านแค่ธรรมดา นี่เท่ากับว่ารนหาที่ตาย”
“เด็กน้อย แกอยากทำให้พวกเราขำตายเหรอ แกแค่รุ่นน้องโง่เขลาอายุยี่สิบกว่า ก็กล้าพูดว่าระดับของอาจารย์ทั้งสี่ท่านธรรมดา ฉันว่าแกมาเพื่อหาเรื่อง ระวังเดี๋ยวอาจารย์ทั้งสี่ท่านจะจัดการแกด้วยตัวเอง”
……
คาโต้ แดนโซที่ถามคำถามรพีพงษ์ก็เต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน คาดไม่ถึงสิ่งที่ตัวเองได้กลับมาจะเป็นคำตอบแบบนี้
ในฐานะอาจารย์ทั้งสี่ท่านอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่น พวกเขาก็มีอารมณ์เหมือนกัน หลังจากที่คาโต้ แดนโซจ้องมองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง ส่งเสียงเย็นชาว่า: “ในเมื่อนายว่าให้ระดับของพวกเราธรรมดา ถ้าอย่างนั้นไม่รู้ว่านายมีความคิดเห็นอะไร สามารถที่จะแบ่งปันให้พวกเราได้มั้ย?”
“อันที่จริงสิ่งที่พวกคุณเพิ่งพูดไปเมื่อกี้นี้ ไปหาสำนักสักแห่งหนึ่งในประเทศจีน พวกเขาก็สามารถที่จะบรรยายให้พวกคุณฟังได้ ฉันขอแนะนำถ้าพวกคุณมีเวลาลองไปเดินเล่นที่ประเทศจีน อยู่ที่นั่น พวกคุณจะเกิดความเข้าใจกับนินโดใหม่”รพีพงษ์อย่างเสียงเรียบ
คาโต้ แดนโซพวกเขาสี่คนได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ สีหน้าก็เปลี่ยนไป ปกติแล้วพวกเขาทั้งสี่คนคิดเองเออเองว่าตัวเองไม่ได้แย่กว่าสิ่งที่เรียกว่านักรบประเทศจีน ตอนนี้รพีพงษ์กลับบอกว่าสิ่งที่พวกเขาบรรยายสามารถไปหาได้ตามสำนักสักแห่งก็สามารถบรรยายออกมาได้
นี่คือการด่าพวกเขาว่าไม่มีอิทธิพลอย่างไม่ต้องสงสัย
“คาดไม่ถึงว่านายอายุน้อยไปก็กล้าพูดจาสามหาว นินโดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้แย่ไปกว่าศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนแม้แต่น้อย ให้พวกเราไปเรียนรู้จากประเทศจีน ช่างไร้สาระจริงๆ”คาโต้ แดนโซเอ่ยปาก
“เด็กน้อย ในเมื่อนายยกย่องเทิดทูนศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนขนาดนี้ ดูเหมือนว่านายน่าจะมาจากประเทศจีน ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสของนายมาด้วยหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นให้เขาออกมาประลองฝีมือกับพวกเราดีกว่า เป็นการดีที่จะได้ดูว่าศิลปะต่อสู้ประเทศจีนความแข็งแกร่ง หรือว่านินโดของพวกเราแข็งแกร่งกว่า”อีกคนในบรรดาอาจารย์ทั้งสี่คน ท่านพระจิรัฎฐ์ ก็ถกเถียงตะโกนใส่รพีพงษ์อย่างไม่พอใจ
รพีพงษ์เบะปาก สำหรับคนที่มองการณ์ตื้นเขินแบบนี้ เขาก็รำคาญที่จะปฏิบัติตัวด้วย ประลองฝีมือกับคนแบบนี้ ยิ่งเสียเวลาของตัวเอง
“ขอโทษด้วย ความแข็งแกร่งของคุณ ไม่สามารถสู้ฉันได้ ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้อาวุโสของฉัน”รพีพงษ์จ้องมองไปที่ท่านพระจิรัฎฐ์แล้วพูด
ท่านพระจิรัฎฐ์ก็โกรธจัดในทันที ก็ตะโกนใส่รพีพงษ์: “เด็กจองหองอย่างแก ในเมื่อแกรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขนาดนั้น กล้าที่จะต่อสู้กับฉันมั้ย!”
เดิมทีท่านพระจิรัฎฐ์ก็เป็นคนใจร้อนอยู่แล้ว เมื่อได้ยินรพีพงษ์พูดเช่นนี้ ก็ระงับไม่อยู่เป็นธรรมดา
“ไม่สนใจ”รพีพงษ์ประโยคเดียวก็ปฏิเสธท่านพระจิรัฎฐ์ เขาไม่สนใจที่จะต่อสู้กับคนที่ไม่มีอิทธิพล
ท่านพระจิรัฎฐ์หมดปัญญากับรพีพงษ์ในทันที ในฐานะผู้อาวุโส เขาไม่สามารถบุ่มบ่ามลงมือกับรพีพงษ์ได้
ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็รู้สึกว่ารพีพงษ์บ้าเลือดกล้าหาญ กล้าท้าทายอาจารย์ทั้งสี่ท่าน ที่สำคัญยังปฏิเสธการท้าทายของท่านพระจิรัฎฐ์อย่างหน้าตาเฉย
ทุกคนคิดว่าเขาฉวยโอกาสที่ในฐานะตัวเองเป็นคนรุ่นน้อง จงใจหาเรื่องอาจารย์ทั้งสี่ท่าน
“ฉันรู้คนคนนี้ คนคนนี้ก็คือผู้ชายคนที่ใช้ร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์ประมูลซื้อดาบมารมุรามาสะ ดาบในอ้อมแขนของเขา ก็คือดาบมารมุรามาสะ!”ในเวลานี้มีคนจำรพีพงษ์ได้ เอ่ยปากตะโกน
หลังจากที่ผู้คนได้ยิน ก็ยิ่งวิพากษ์วิจารณ์รพีพงษ์อย่างเป็นประเด็นร้อน
“ที่แท้คือคนบ้านนอกคอกนาที่มีเงิน ฉันว่าเขาก็เหลือเงินสกปรกเพียงแค่นั้น มุรามาสะตกอยู่ในมือของคนแบบนี้ น่าเศร้าสลดจริงๆ”
“คนอย่างเขาก็คู่ควรจะที่มีดาบอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นของเราเหรอ? น่าเกลียดมากจริงๆ ก็แค่มีเงินสกปรกไม่เท่าไหร่ เขามีสิทธิ์อะไรมาเอ็ดตะโรตรงหน้าอาจารย์ทั้งสี่ท่าน!”
“คิดจริงๆเหรอว่าตัวเองได้ดาบมารมุรามาสะมาแล้ว เขาก็สามารถเอาชนะปรมาจารย์ทั้งสี่ท่านได้ ตลก ตลกจริงๆ!”
……
หลังจากที่อาจารย์ทั้งสี่คนได้ยินทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ สายตาก็ตกไปอยู่ที่ดาบในอ้อมแขนของรพีพงษ์ ในดวงตาเผยให้เห็นถึงความโลภ
พวกเขาทั้งสี่คนต่างก็เป็นนินโดที่ใช้ดาบ เป็นสิ่งที่ดีพอสำหรับความต้องการเป็นอย่างมาก มุรามาสะในฐานะดาบอันหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น พวกเขาก็ต้องสนใจเป็นธรรมดา
แต่ดาบเล่มนี้อยู่ในมือของนักสะสมคนหนึ่งมาโดยตลอด พวกเขาอยากได้ ต้องใช้เงินซื้อ แม้ว่าทั้งสี่คนจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่มีเงินทุนมากมายขนาดนั้น ดังนั้นจึงทำได้เพียงทำใจ
หลังจากที่ท่านพระจิรัฎฐ์รู้ว่าดาบในอ้อมแขนของรพีพงษ์คือดาบมารมุรามาสะ ก็กลอกตาทันที ตะโกนใส่รพีพงษ์ว่า: “เด็กน้อย มุรามาสะของดีแบบนี้ตกอยู่ในมือของนาย ก็คือสิ้นเปลือง ฉันสามารถที่จะไม่ถือสาเอาความเรื่องเมื่อกี้นี้กับนายก็ได้ แต่นายต้องเอามุรามาสะส่งมอบให้ฉันเป็นของคำขอโทษ ว่าไงล่ะ?”
เมื่อรพีพงษ์ได้ยินคำพูดของท่านพระจิรัฎฐ์ ก็เบะปากทันที คาดไม่ถึงว่าคนที่เรียกตัวเองว่าอาจารย์ กลับจะหน้าหนาขนาดนี้ ถึงกับเอ่ยปากขอดาบกับเขาโดยที่คาดไม่ถึง
“อยากได้ดาบเล่มนี้ คุณคู่ควรมั้ย?”รพีพงษ์พูดอย่างเย็นชา
ท่านพระจิรัฎฐ์คาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีขนาดนี้ พลังอานุภาพบนตัวก็ระเบิดออกมาในทันที อยากจะสั่งสอนรพีพงษ์ทันที
รพีพงษ์ก็เตรียมพร้อมที่จะลงมือ แต่ท่านพระจิรัฎฐ์ยังไม่ทันได้ลงมือ ก็ถูกคาโต้ แดนโซห้ามไว้
“ใจเย็นๆเถอะ นายมองไม่ออกเหรอว่าเด็กคนนี้จงใจกวนประสาทนาย จะว่าไป เขาก็เป็นเพียงแค่คนรุ่นน้อง พวกเราในฐานะผู้อาวุโส ถ้าหากลงมือกับเขาแบบนี้ ในอนาคตอาจมีคนว่าให้พวกเรารังแกรุ่นน้องก็ได้ ถึงเวลานั้นชื่อเสียงของพวกเรา ก็จะกลายเป็นเรื่องตลก”คาโต้ แดนโซเอ่ยปาก
ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ท่านพระจิรัฎฐ์ได้ทำเพียงส่งเสียงเย็นชา และจ้องมองไปที่รพีพงษ์อย่างโหดเหี้ยม
รพีพงษ์คิดในใจว่าคนเหล่านี้คิดมากจริงๆ ยังคิดว่าเขาจงใจใช้วิธีกวนประสาท
สำหรับผู้ชายทั้งสี่คนที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในแดนปรมาจารย์เท่านั้นเอง รพีพงษ์ไม่คุ้มค่าที่จะใช้วิธีกวนประสาท
“สู้แล้วใช่มั้ย? ถ้าไม่สู้ ฉันก็จะไปแล้ว การบรรยายของพวกคุณน่าเบื่อหน่ายมาก ฟังจนฉันแทบจะนอนหลับอยู่แล้ว”
รพีพงษ์ลุกขึ้นยืนและมองไปที่อาจารย์ทั้งสี่ท่านแวบหนึ่ง
เมื่อเห็นพวกเขาไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จึงหันหลังและเดินออกไปข้างนอก
เมื่อฝนสุดาพวกเขาทั้งหลายเห็นสิ่งนี้ก็รีบตามไป โดยทิ้งผู้ชมไว้ข้างหลัง รพีพงษ์กลายเป็นเนื้อหาหลักของการวิพากษ์วิจารณ์ในการบรรยายของวัน