พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่857 ฉันยังมีท่วงท่าที่แข็งแกร่งกว่านี้

บทที่857 ฉันยังมีท่วงท่าที่แข็งแกร่งกว่านี้

บทที่857 ฉันยังมีท่วงท่าที่แข็งแกร่งกว่านี้

เมื่ออุเอสุงิ ทาคิโนะได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

แม้ว่าจะไม่รู้แน่ชัดว่าทำไมรพีพงษ์ถึงได้มีฝีมือแดนดั่งเทพในวัยอายุยี่สิบกว่า แต่ก็เขาถือว่ารพีพงษ์เป็นศัตรูที่ไม่สามารถคุกคามตัวเองได้

ที่สำคัญเมื่อรพีพงษ์ยังคงถือดาบอยู่เล่มหนึ่ง อุเอสุงิ ทาคิโนะก็อดสงสัยไม่ได้ว่าความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ยังบรรลุไม่ถึงแดนดั่งเทพ เนื่องจากแดนดั่งเทพที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ พวกเขาต้องการจะใช้อาวุธอะไร ใช้พลังแปลงร่างก็พอ

สิ่งนี้ ทำให้อุเอสุงิ ทาคิโนะเกิดการดูถูกรพีพงษ์

“พูดจาโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากอายจริงๆ อย่าคิดแกคลี่คลายฝีมือเล็กๆน้อยๆของฉันได้ ก็มีสิทธิ์มาพูดจาแบบนี้กับฉัน ความแข็งแกร่งตอนนี้ของฉัน ไม่ใช่สิ่งที่เด็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างแกจะสามารถจินตนาการได้!”

อุเอสุงิ ทาคิโนะตะโกนใส่รพีพงษ์ จากนั้นแสงสีดำก็ปรากฏขึ้นทั่วร่าง เหนือศีรษะของเขา มีควันสีดำจางๆลอยขึ้นมา ดูชั่วร้ายอย่างยิ่ง

รพีพงษ์ก็หมุนเวียนเน่ยจิ้ง ปกคลุมบนดาบ บนดาบทั้งเล่มก็ปรากฏแสงสีขาวขึ้นหนึ่งชั้น เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของอุเอสุงิ ทาคิโนะขึ้นมา พลังของรพีพงษ์ดูบริสุทธิ์มากกว่า

หลังจากที่อุเอสุงิ ทาคิโนะเห็นดาบในมือรพีพงษ์เปลี่ยนแปลงไป ก็หรี่ตาลง คาดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะมีความสามารถอยู่จริงๆ

เขาไม่ชักช้า ดาบดำลวงตาเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในฝ่ามือทันที จากนั้นก็พุ่งไปทางรพีพงษ์อย่างรวดเร็ว

ทั้งสองคนปะทะกันในทันที ความเร็วที่รวดเร็ว ช่างมหัศจรรย์เหลือเกิน

ทุกคนสามารถเห็นเพียงแสงสีดำและแสงสีขาวที่ฟาดฟันกันด้วยความเร็วสุดขีด เห็นเพียงเงาของรพีพงษ์และอุเอสุงิ ทาคิโนะทั้งสองคนเป็นบางครั้ง

การต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองคนพกพาการโจมตีพลังลมปราณภายในร่างกายที่กระทบต่อบนตัวของผู้คนรอบข้าง ทำให้คนถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

การต่อสู้ในระดับนี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบ ก็สามารถทำให้คาโต้ แดนโซพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดาอย่างพวกเขาแล้ว

พวกเขาคิดไม่ถึงว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะส่งผลกระทบ ดังนั้นต่างก็ถอยหลังกลับไปให้ไกลๆ

เวทีประลองที่ถูกอุเอสุงิ ทาคิโนะฟันเป็นสองท่อน ตอนนี้ทั้งสองคนปะทะกันอย่างดุเดือด เวทีประลองนี้ก็สุดที่จะรับภาระหนักได้ แตกกระจายไปทั่ว

ที่สำคัญถึงในระดับอย่างพวกเขา เวทีประลองเล็กๆก็ไม่เพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะแสดงฝีมือ ผ่านไปไม่นาน สนามรบของทั้งสองคนก็กลายเป็นสวนลานบ้านทั้งหมด ผู้คนต่างหวาดกลัวรีบวิ่งกระจายออกไปรอบๆ กลัวว่าเกิดวิ่งช้า แม้แต่ชีวิตของตัวเองก็จะไม่มีแล้ว

“นี่ถึงจะเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงเหรอ? พวกเราป่าวประกาศเกินจริงว่าเป็นอาจารย์ แม้แต่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ของพวกเขาก็สู้ไม่ได้ น่าตลกสิ้นดี ก่อนหน้านั้นที่น้องชายคนนั้นบอก เป็นคำพูดจากส่วนลึกของหัวใจ พวกเรากลับยังคิดเองเออเอง ขายขี้หน้าคนแก่หมด!”คาโต้ แดนโซส่ายหัวครั้งแล้วครั้งเล่า

“แข็งแกร่งมากจริงๆ คาดไม่ถึงว่ายังมีคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้อยู่บนโลกใบนี้อีกเหรอ หรือพวกที่เรียกว่าเทพอสูร มีอยู่จริงๆ เพียงแต่พวกเขาเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งเหนือจินตนาการของคนทั่วไป ดังนั้นทุกคนต่างก็คิดว่าพวกเขาเป็นเทพอสูรเหรอ?”ดวงตาทั้งสองของฮารุฮิ กันตะจ้องมองไปที่ทั้งสองคนที่กำลังต่อสู้กัน การคาดเดาอย่างหนึ่งก็ผุดขึ้นในความคิด“แดนของแกกับแดนดั่งเทพที่แท้จริงเห็นได้ชัดว่ายังมีช่องว่างห่างไกลมาก แต่ทำไมพลังของแกถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ล่ะ?”หลังจากที่อุเอสุงิ ทาคิโนะฟันรพีพงษ์ไปหนึ่งครั้ง จ้องมองไปที่เขาแล้วถาม

“เอาชนะฉันให้ได้ ก็จะบอกแก!”

รพีพงษ์ตอบกลับหนึ่งประโยค จากนั้นก็ยกมุรามาสะในมือขึ้นมา แสงจากด้านบนก็สาดส่องลงมา ฟันไปที่บนหัวของอุเอสุงิ ทาคิโนะ กลลวงตา ขนาดใหญ่ห่อหุ้มมุรามาสะขึ้นมา ฟันไปที่อุเอสุงิ ทาคิโนะ มีอานุภาพเกรียงไกร

เมื่ออุเอสุงิ ทาคิโนะเห็นเช่นนี้ ก็ใช้พลังของตัวเอง สร้างม่านขนาดผืนใหญ่ไว้ที่ตรงหน้า บดบังทั้งร่างกายของตัวเองไว้

ดาบลวงตาของรพีพงษ์ฟันลงบนผ้าม่านของอุเอสุงิ ทาคิโนะ คลื่นอันทรงพลังก็กระจายไปรอบๆ ทำให้เวทีประลองที่อยู่ด้านล่างของทั้งสองคนถูกบดขยี้

ม่านก็แตกสลาย แสงของดาบก็สลายไป ร่างของทั้งสองคนกระโดดขึ้นไปบนหลังคาในทันที อุเอสุงิ ทาคิโนะยกมือขึ้นแล้วเหวี่ยงใส่รพีพงษ์ ลูกดอกสีดำหลายลูกก็บินไปหารพีพงษ์

รพีพงษ์ยกดาบในมือขึ้น แล้วฟันไปที่ลูกดอกสีดำให้กลายเป็นหมอกดำอย่างรวดเร็ว ซึ่งจางหายไปในอากาศ

เมื่ออุเอสุงิ ทาคิโนะเห็นว่าตัวเองหมดปัญญากับรพีพงษ์แล้ว ก็หงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย

“เด็กที่สมควรตาย ตกลงว่าแกโผล่มาจากที่ไหนกันแน่ ฉันเลื่อนขั้นได้สำเร็จแล้ว ยังจัดการเขาไม่ได้ง่ายๆ หรือว่ารับมือกับเด็กคนนี้ ฉันยังต้องใช้วิธีนั้นเหรอ?”อุเอสุงิ ทาคิโนะแอบด่าในใจ

เมื่อรพีพงษ์เห็นอุเอสุงิ ทาคิโนะยังลังเลอยู่ที่เดิม ในใจก็รู้แล้วว่าเขากำลังคิดอะไร หลังจากที่ท่าทางของอุเอสุงิ ทาคิโนะราวกับผีสิงร่าง รพีพงษ์รู้ว่าวิธีทางไสยศาสตร์ของตระกูลอุเอสึงิสามารถทำให้พลังของผู้คนพลุ่งพล่านได้ในเวลาอันสั้น

ตอนนี้รพีพงษ์จำเป็นต้องบีบคั้นสถานะแบบนั้นของอุเอสุงิ ทาคิโนะออกมา ถึงจะรู้ว่าพึ่งพาอาศัยฝีมือของตัวเอง สามารถที่จะกำจัดเขาได้หรือไม่

โดยไม่ลังเลใดๆ รพีพงษ์หมุนเวียนพลังวิเศษเสนภายในร่างกายอย่างรวดเร็ว จากนั้นด้วยวิธีที่ชาญฉลาด ถ่ายทอดไปยังมุรามาสะ

รพีพงษ์ถือดาบไว้ในมือข้างหนึ่ง รูปร่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และดาบในมือก็เริ่มแสดงการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกับก่อนหน้านี้

ในไม่ช้า รพีพงษ์พุ่งไปตรงหน้าอุเอสุงิ ทาคิโนะ จากนั้นตะโกนเสียงดัง และแทงเข้าหาอุเอสุงิ ทาคิโนะ

“ท่าดาวฟ้า!”

เมื่อเห็นแสงดาบเล็กๆนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นทั่วมุรามาสะ บินพุ่งตรงไปที่ร่างของอุเอสุงิ ทาคิโนะ ถ้าอุเอสุงิ ทาคิโนะยังอยู่ที่นั่น คงจะถูกแทงกลายเป็นตะแกรงอย่างแน่นอน

สีหน้าของอุเอสุงิ ทาคิโนะถอดสี คาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะแสดงท่วงท่าที่น่ากลัวเช่นออกมาได้ โดยที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ดวงตาทั้งสองข้างของเขา ปรากฏเส้นเลือดเล็กๆ ดวงตาของพวกเขาก็แดงระเรื่อ เส้นริ้วรอยสีดำที่น่ากลัวปรากฏขึ้นบนหน้าผาก

หลังจากที่รูปลักษณ์เปลี่ยนไป ทั่วตัวอุเอสุงิ ทาคิโนะก็มีควันดำปรากฏขึ้นทันที ห่อหุ้มคนทั้งคนไว้ข้างในโดยตรง แสงดาบที่รพีพงษ์ปลดปล่อยออกมาโจมตีไปที่หมอกสีดำภายในพริบตา เสียงระเบิดหนาแน่นดังขึ้นอย่างฉับพลัน ทันใดนั้นร่างอุเอสุงิ ทาคิโนะก็ถอยไปด้านหลัง

ท่าดาวฟ้าคือท่วงท่าเทคนิคดาบที่รพีพงษ์ศึกษาจากฝ่ามือดาวฟ้ามาอย่างแจ่มแจ้ง รพีพงษ์รู้สึกถึงพลังของมันเป็นครั้งแรก เขาคาดไม่ถึงว่าหลังจากที่สามกระบวนท่วงท่าของตัวเองพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปเป็นเทคนิคดาบ กลับสามารถระเบิดพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ออกมา

เขาค่อนข้างคาดหวังกับพลังของสองท่วงท่าที่เหลือว่าจะสามารถแสดงออกมาได้แค่ไหน

หลังจากคลี่คลายความเสียหายที่เกิดจากการท่วงท่านี้ของรพีพงษ์แล้ว หมอกสีดำรอบๆตัวอุเอสุงิ ทาคิโนะก็จางหายไป เขาจ้องมองไปที่รพีพงษ์อย่างโหดร้าย กัดฟันพูดว่า: “เด็กน้อย ฉันประเมินแกต่ำเกินไปจริงๆ สามารถบีบคั้นสถานะร่างเทพของฉันออกมาได้ แกก็ถือได้ว่าเป็นคนแรก”

ในเวลานี้รพีพงษ์มองไปที่ท่าทางคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เหมือนของอุเอสุงิ ทาคิโนะ เบะปาก แล้วพูดว่า: “มันเป็นวิธีทางไสยศาสตร์อย่างเห็นได้ชัด ยังตั้งชื่อที่ดีอีก ตลกสิ้นดี!”

“ฉันยังมีท่วงท่าที่แข็งแกร่งกว่านี้ ตอนนี้ก็จะให้แกได้ลิ้มลอง!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท