พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่871 กิ่งก้าน

บทที่871 กิ่งก้าน

บทที่871 กิ่งก้าน

นิรภัฏไม่ค่อยเข้าใจความหมายของรพีพงษ์ เดินไปแล้วกล่าว “คุณไม่ให้นุชเข้าห้องน้ำกับคนอื่น? หรือนุชก็ไปห้องน้ำกับคนอื่น? แล้วยังวิดีโอที่คุณพูดอีกคืออะไร นุชเป็นกุลสตรี แล้วคุณจะให้เธอเป็นกุลสตรีอีกทำไมกัน?”

รพีพงษ์มองนิรภัฏ ยิ้มพลางกล่าว “ผู้อาวุโส นี่เป็นเรื่องระหว่างวัยรุ่น คุณอายุมากแล้วไม่เข้าใจหรอก”

ณีรนุชรู้สึกอึดอัด เดิมทีที่รพีพงษ์ให้เธอทำนั้นก็รู้สึกว่าเสียหน้าแล้ว นิรภัฏยังมาอธิบายโดยเฉพาะอีก ถ้าท่านปู่ทวดคนนี้รู้ว่าคืออะไร ต่อไปเธอจะไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อไปอีกแล้ว

“ท่านปู่ทวด ท่านแก่ขนาดนี้แล้ว ไม่เข้าใจคำพูดของเราก็ถือว่าปกติ ท่านก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ ที่คนนี้เขาเรียกร้องก็ไม่เกินไป หนูรับได้ เรื่องนี้จบแค่นี้ก็แล้วกัน ท่านไม่ต้องถามแล้ว” ณีรนุชรีบพูดกับนิรภัฏ

นิรภัฏเห็นณีรนุชพูดแบบนี้ ก็ยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่ แต่เห็นณีรนุชไม่อยากถามต่อไป เขาจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ

เขามองไปยังรพีพงษ์ กล่าวอย่างหมดอาลัยตายอยากว่า “อายุเท่านี้ แล้วเป็นระดับแดนครึ่งดั่งเทพ พรสวรรค์แบบนี้ มีน้อยจริงๆเทียบกับพรยศแล้ว ต่างกันไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าโจรอย่างธัชธรรมหาคุณเจอได้อย่างไร เด็กน้อย คุณสนใจจะเป็นศิษย์ของฉันไหม ฉันรับรองว่าได้ค่าตอบแทนดีกว่าธัชธรรมหมื่นเท่า”

ได้ยินคำพูดของนิรภัฏ รพีพงษ์ยิ้มไม่ออก คิดไม่ถึงว่าเขาจะแย่งลูกศิษย์ต่อหน้าธัชธรรมแบบนี้ ไม่ไว้หน้าธัชธรรมเลยแม้แต่น้อย

รพีพงษ์จับมือกับนิรภัฏ แล้วกล่าว “ความหวังดีของผู้อาวุโสผู้น้อยขอรับไว้ แต่เรื่องให้ไหว้ครู เชื่อว่าผู้อาวุโสสามารถฝึกฝนให้ศิษย์พี่พรยศเป็นยอดฝีมือได้”

เห็นรพีพฃษ์ปฏิเสธ นิรภัฏก็ไม่พูดอะไร เพราะเขารู้ว่านี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ธัชธรรมจ้องนิรภัฏ แล้วกล่าว “เพื่อน ทำแบบนี้ไม่ถูกต้องนะ”

นิรภัฏส่งเสียงไม่พอใจ ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย แล้วหันไปมองพรยศ กล่าว “แกก็อย่าไปคิดมากกับเรื่องนี้ พวกเขากลุ่มสิงโตมีคอนเน็คชั่นและข้อมูลที่แกไม่รู้ทั้งหมด ฝีมือของคนนี้ไม่แน่อาจจะพึ่งอะไรสักอย่างในการเลื่อนขั้นก็ได้นะ แกเพียงแค่ตั้งใจพัฒนาฝีมือ อนาคตประสบความสำเร็จ ไม่มีทางแย่ไปกว่าเขาแน่”

พรยศพยักหน้า กล่าว “ศิษย์เข้าใจ!”

รพีพงษ์มองไปที่นิรภัฏอย่างยิ้มไม่ออก คิดไม่ถึงว่าอะไรเขาก็กล้าพูดออกมา แต่ความสามารถของอีกฝั่งก็เห็นๆกันอยู่ แม้จะพูดแบบนี้ ธัชธรรมก็ไม่มีทางพูดอะไรแน่นอน เพราะเขามาเพื่อเอาของ ต้องเกรงใจสักหน่อย

หลังจากที่ฟังพรยศแล้ว นิรภัฏมองไปที่ธัชธรรม กล่าว “มากับฉัน จะไปเอาของที่แกต้องการเดี๋ยวนี้แหละครั้งนี้ฉันเห็นแก่ศิษย์ของแก เอาของให้แก ครั้งหน้าจะไม่ง่ายแบบนี้แล้วนะ”

ธัชธรรมยิ้ม แล้วกล่าว “งั้นฉันก็ต้องขอบคุณกับความใจกว้างของแก”

นิรภัฏชักตาไปที่เขา จากนั้นก็เดินเข้าไปด้านใน

รพีพงษ์แปลกใจว่าธัชธรรมเอาอะไรจากนิรภัฏ สามารถทำให้เจ้าสำนักกลุ่มสิงโตมาหานิรภัฏได้ ดังนั้นจึงได้ถามว่า “ผมไปด้วยได้มั้ย?”

ธัชธรรมตามนิรภัฏไป แล้วกล่าว “มาสิ”

รพีพงษ์เดินตามไปทันที ด้วยความหวัง กำลังคิดว่าสามารถทำให้เกือบจะเป็นแดนเทพทั้งสองให้ความสำคัญได้ จะต้องไม่ใช่สิ่งธรรมดาแน่นอน

ทั้งสามเดินเข้าไปในสวนบ้านพักตากอากาศ นิรภัฏเดินเข้าไปในห้องๆหนึ่งในสวน

ธัชธรรมและรพีพงษ์ตามไป หลังจากที่เข้าไปในห้องนั้นแล้ว ที่เห็นคือ ชั้นวางของที่วางของเอาไว้มากมาย บนชั้นวางของเต็มไปด้วยของสะสม มีหลายอย่างที่รพีพงษ์ไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่รู้ว่ามันคืออะไร

“แม้จะบอกว่ากลุ่มสิงโตของฉันมีคอนเน็คชั่นเยอะ แต่ถ้าพูดถึงความสะสม ก็เทียบกับเพื่อนเก่าไม่ได้นะ” ธัชธรรมมองไปยังของที่อยู่บนชั้นวางของเหล่านั้น แล้วอุทานออกมา

“เหอะ หยุดเสแสร้งได้ล่ะ ของของฉันแม้แต่ห้องเก็บของกลุ่มสิงโตก็เทียบไม่ได้ ตอนนี้ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเร็ว กลับมาก่อน มิเช่นนั้น ของพวกนี้ถูกกลุ่มสิงโตของพวกแกแย่งไปแล้ว” นิรภัฏพูดอย่างไม่สบายใจ

ธัชธรรมเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้ปฏิเสธ

“ที่นี่มีสิ่งเดียวที่แกชอบ ก็น่าจะเป็นของที่แกอยากได้” นิรภัฏพึมพำ แล้วเดินไปด้านใน บนชั้นวางของด้านในสุด ได้หยิบกล่องไม้ วางไว้บนโต๊ะ

ธัชธรรมและรพีพงษ์เดินมายังด้านหน้าโต๊ะ รอนิรภัฏเปิดกล่องออก

นิรภัฏจ้องธัชธรรม แล้วถาม “แกแน่ใจว่าคนนั้นไม่ไหวแล้ว?”

ธัชธรรมพยักหน้า กล่าว “ฉันรู้ว่าครั้งนี้เวลาสั้นลงไปมาก แต่ว่าสถานการณ์ของคนนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้ว กลัวว่าต่อไปเวลาจะสั้นลงไปอีก”

หลังจากที่นิรภัฏได้ยินคำนี้ สีหน้าเคร่งเครียด แล้วกล่าว “ดูๆแล้วอะไรที่ควรมาก็ต้องมา ตอนแรกที่ฉันได้มา คิดว่าจะได้ใช้เอง สุดท้ายก็ต้องให้แก”

“ที่ฉันเหลือ ไม่น่าจะพอสามครั้ง ถ้าสามครั้งใช้หมด ก็จะไม่มีแล้วนะ ปัจจุบันคนนั้นจะมีชีวิตอยู่ได้สั้นลง เกรงว่าไม่น่าจะถึงสิบปี หายนะกำลังจะมา” นิรภัฏกล่าว

ธัชธรรมหันไปมองรพีพงษ์ แล้วกล่าว “ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ รอให้วันนั้นมาถึง ฉันจะคิดวิธีออกเอง”

นิรภัฏไม่พูดอะไรต่อ หลังจากถอนหายใจแล้วนั้น ก็เอามือไปวางไว้บนกล่องนั้น

รพีพงษ์ฟังบทสนทนาของพวกเขาทั้งสองรู้สึกไม่ชัดเจน ไม่เข้าใจว่าพวกเขาพูดอะไรกัน

แต่ดูออกว่าสิ่งที่พวกเขาพูดทั้งหมดไม่ได้เป็นเรื่องไม่ดี โดยเฉพาะนิรภัฏยังพูดว่าหายนะกำลังจะมา

น่าจะเกี่ยวกับปัญหาที่รพีพงษ์ได้พูดไว้ก่อนหน้านี้

หรือที่ธัชธรรมหาเขา เพราะจะให้เขามาต่อสู้กับหายนะที่ว่ามานี้?

ไม่คิดเรื่องนี้ สายตารพีพงษ์มองไปที่บนกล่องนั้น ตอนนี้ฝีมือเขายังห่างอีกเยอะ คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์

นิรภัฏเปิดกล่องออก เอากิ่งก้านสีดำที่อยู่ด้านในออกมา ออกไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็หยิบใบมีด และขวดหยกออกมา

หลังจากที่รพีพงษ์เห็นกิ่งก้านดำแล้วนั้น นัยน์ตาลุกวาว เพราะบนกิ่งก้านนั้น เป็นไม้สีดำที่รพีพงษ์ได้มาจากอาจารย์โอบนิธิ เหมือนกัน!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท