พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่880 ผมไม่เคยคิดจะลวนลามคุณ

บทที่880 ผมไม่เคยคิดจะลวนลามคุณ

บทที่880 ผมไม่เคยคิดจะลวนลามคุณ

รพีพงษ์มองหงส์อย่างประหลาดใจ จากนั้นก็ก้มหน้ามองไปที่ขาของหงส์ รู้สึกเขินอายขึ้นมา

เมื่อกี๊เขาทำเพื่อหยุดพลังของหงส์ไว้ ต้องกดจุดฝังเข็มบนขาอ่อนไว้ ไม่ได้คิดเรื่องขาอ่อนของผู้หญิงแต่อย่างใด

ก็ไม่แปลกที่หงส์จะทั้งอายทั้งโกรธในเวลาเดียวกัน ที่แท้ตัวเองก็ถูกลวนลามนี่เอง

แต่เรื่องในระหว่างการต่อสู้ ใครจะไปคิดเรื่องแบบนี้ ถ้าอีกฝั่งเป็นศัตรูของตัวเอง ยังสามารถขอให้อีกฝั่งอย่าลวนลามตัวเองตอนต่อสู้ได้ด้วยหรอ?

พรดรัลและคนอื่นๆก็ไม่คาดคิดว่าเรื่องที่หงส์ใส่ใจจะเป็นเรื่องนี้ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรตามใจปากแล้ว เมื่อกี๊ที่รพีพงษ์แสดงฝีมือออกมา ก็ทำให้พวกเขาหวาดกลัวได้แล้ว

“ขอ……ขอโทษนะ การต่อสู้เมื่อกี๊ ผมไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลย” รพีพงษ์ขอโทษหงส์

หงส์ยังคงมองรพีพงษ์ด้วยความโกรธ แล้วกล่าวอย่างโมโหว่า “เหอะ ฉันว่าแกตั้งใจ จะบอกให้นะ ฉันอายุมากกว่าแกหลายปี แกยังกล้าลวนลามฉัน แกไม่เคารพรุ่นพี่ ฉันจะไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่!”

“อย่าคิดว่าแกฝีมือดีแล้วฉันจะปล่อยไปนะ จิตใจแกไม่ปกติ ฝีมือดีก็ไม่ช่วยอะไร”

รพีพงษ์เห็นท่าทีของหงส์ ก็รู้สึกว่าเธอแก่กว่าเขาแค่ห้าหกปีเอง แล้วยังบอกว่าตัวเองไม่เคารพรุ่นพี่อีก นี่มันหาเรื่องกันชัดๆ

และเขาก็คิดว่าตัวเองทำถูกต้อง จะเป็นคนที่จิตใจไม่ปกติได้ไงกัน เธอคิดมากเป็นเองแท้ๆ

“คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้อยากลวนลามคุณเลยนะ ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งตอนนี้ ผมไม่ได้สังเกตความสวยงามของคุณด้วยซ้ำ ในสายตาผม คุณก็เป็นแค่คนที่รับผิดชอบการทดสอบเท่านั้น ผมจะลวนลามคุณได้ไงกัน” รพีพงษ์กล่าว

หงส์ชักตา รู้สึกว่าคำพูดนี้ของรพีพงษ์ กำลังบอกกับตนว่า เขาไม่ได้กระทำต่อเธอเหมือนเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

คำพูดแบบนี้สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง มันหมายถึงการเหยียดหยามอย่างมาก

รพีพงษ์ลวนลามหงส์ หงส์โมโหอย่างบรรยายไม่ถูก แต่รพีพงษ์พูดว่าตัวเองไม่ได้สังเกตลักษณะของหงส์ นี่มันเหมือนกำลังประชดประชันหงส์ว่าเธอหลงตัวเองหรอกหรอ?

เธอกัดฟันมองรพีพงษ์ รู้สึกว่าตัวเองได้เจอเข้ากับตัวซวยของจริงที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตนี้

แต่ทว่าฝีมือของอีกฝั่งแข็งแกร่งอย่างมาก ตัวเองไม่ได้เป็นคู่ต่อกรของเขา และคนเก่งที่ไม่มีใครเทียบได้แบบนี้ ตัวเองก็ไล่เขาไปไม่ได้อีก ดังนั้นบทสรุปก็คือ ทำได้เพียงอดกลั้นเท่านั้น

“แกชนะ แต่แกอย่าคิดว่าเรื่องนี้จะจบง่ายๆแบบนี้นะ แม้แกจะเป็นคนเก่งที่ไม่มีใครเทียบได้ หลังจากที่เข้ากลุ่มสิงโตแล้ว ยังไงฉันก็เป็นรุ่นพี่ของแก อย่าให้ฉันมีโอกาสนะ ฉันจะให้แกได้ลองดี” หงส์พูดกับรพีพงษ์อย่างเกรี้ยวกราด

รพีพงษ์ยักไหล่ ไม่แคร์

หงส์มองไปที่พรดรัลและคนอื่นๆ แล้วกล่าว “พวกแกยืนบ้าอะไรอยู่ รีบขึ้นเวทีสิ!”

พรดรัลทั้งสามตกใจกับท่าทีของหงส์ ไม่กล้าเชื่องช้า คนหนึ่งรีบพุ่งขึ้นไปบนเวที

จากนั้นเหลือสองคนเข้าทดสอบในขณะที่หงส์กำลังเกรี้ยวกราดอยู่ ทั้งสองตัวสั่น กลัวว่าหงส์จะโมโหแล้วไล่พวกเขาออกไป

ดีที่ทั้งสองมีฝีมือจริงๆ เป็นแดนปรมาจารย์ที่แท้จริง ดังนั้นสุดท้ายจึงไม่เกิดข้อผิดพลาดอะไร

หลังจากที่ทั้งห้าคนทดสอบเสร็จแล้วนั้น หงส์ก็พาพวกเขาเข้าไปในภูเขา

พรดรัลแปลกใจกับตัวตนของรพีพงษ์ ได้เดินไปข้างรพีพงษ์ แล้วถาม “น้องชาย ฝีมือของคุณไร้ที่ติขนาดนี้ หาได้ยากจริงๆ มิทราบว่าน้องชายบอกชื่อหน่อยได้หรือไม่?”

รพีพงษ์มองเขา แล้วตอบอย่างเรียบง่ายว่า “รพีพงษ์”

หลังจากที่พรดรัลได้ยินเสียงนี้ก็ชะงักไป แม้ตอนนั้นเขาคาดเดา แต่ไม่มั่นใจ เพราะแม้ว่ารพีพงษ์จะแสดงฝีมือที่สำนักเทพยาเซียน แต่ก็ยังไม่ถึงแดนดั่งเทพ แต่วัยรุ่นที่อยู่ตรงหน้านี้ ฝีมือเป็นแดนครึ่งดั่งเทพแล้วจริงๆ

ตอนนี้ได้ยินรพีพงษ์พูดชื่อตัวเองออกมา พรดรัลก็ตะลึงเป็นอย่างมาก

“หรือคุณคืออัจฉริยะที่สำนักเทพยาเซียน ที่ต่อกรกับแดนปรมาจารย์สิบกว่าคนนั้น?” พรดรัลกล่าว

รพีพงษ์ไม่ปฏิเสธ แล้วพยักหน้า

พรดรัลตื่นเต้นขึ้นมา แล้วรีบเข้าใกล้รพีพงษ์กล่าว “พรหมลิขิตจริงๆ ตอนนั้นลูกชายและลูกสาวของฉันอยู่ที่สำนักเทพยาเซียน ลูกชายฉันชื่อดรัณ ลูกสาวฉันชื่อเพ็ญรตี พวกเขาพูดว่า พวกเขากับคุณไปสำนักเทพยาเซียนด้วยกัน ไม่รู้ว่าน้องชายยังพอจำได้มั้ย?”

“พอจำได้บ้าง” รพีพงษ์ตอบ

พรดรัลรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของตัวเองกับรพีพงษ์เริ่มใกล้เข้าไปอีก สามารถสร้างสัมพันธไมตรีกับคนเก่งแบบนี้ มีประโยชน์อย่างมาก

คนรอบข้างทั้งสามคนมองไปที่พรดรัลอย่างอิจฉา ดูออกชัดเจนว่าอยากเข้าใกล้รพีพงษ์ด้วย

“ตอนแรกที่เกิดเรื่องสำนักเทพยาเซียน ฝีมือของน้องชายน่าจะเป็นแดนปรมาจารย์ขั้นสูงสุดใช่มั้ย? คิดไม่ถึงว่านี่ผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน ฝีมือของน้องชายก็เป็นครึ่งแดนดั่งเทพแล้ว ชั่งน่าตะลึงจริงๆ” พรดรัลกล่าวต่อ

ครั้งนี้ไม่ใช่แค่พวกพรดรัลเลื่อมใสรพีพงษ์ แม้แต่หงส์ก็เหลือบมองรพีพงษ์ ด้วยความตะลึง ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะสามารถใช้ระยะเวลาอันนี้จากแดนปรมาจารย์ขั้นสูงสุดเป็นแดนครึ่งแดนดั่งเทพได้

“เหอะ มีพรสวรรค์แล้วไง ก็เป็นแค่คนชั้นต่ำอยู่ดี” หงส์พึมพำ

รพีพงษ์เซ็ง ดูๆไปน่าจะเปลี่ยนแปลงลักษณะของเขาในสายตาของหงส์ได้ยากแล้ว

ผ่านไปไม่นาน หงส์พาทุกคนมายังห้องที่เต็มไปด้วยหน้าจอแสดงผล ในห้องมีพนักงานไอทีจำนวนไม่น้อยปฏิบัติงานอยู่

พรดรัลและคนอื่นๆอายุไม่น้อยแล้ว ไม่ค่อยคุ้นเคยกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ แต่รพีพงษ์กลับไม่รู้สึกพิเศษอะไร

“นี่เป็นห้องป่าวประกาศภารกิจของกลุ่มสิงโต เดี๋ยวฉันจะให้พนักงานสมัครไอดีให้ทุกคน วันข้างหน้าพวกคุณสามารถใช้ไอดีนี้เข้าไปยังเว็บของกลุ่มสิงโต รับภารกิจ” หงส์กล่าว

พรดรัลและคนอื่นๆรู้สึกอับอาย ชัดเจนว่าพวกเขาใช้อินเตอร์เน็ตไม่เป็น

“คุณหงส์ผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับของพวกนี้ มันดียังไงหรือ” พรดรัลกล่าว

หงส์ชักตาไปที่เขา แล้วกล่าว “ใช้ไม่เป็นก็เรียนรู้ พวกคุณเป็นแดนปรมาจารย์กันแล้ว เรื่องง่ายๆแค่นี้เรียนรู้ไม่ได้หรือไง?”

เห็นหงส์มีท่าทีไม่เกรงใจใคร พรดรัลก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก

รพีพงษ์ไม่สนใจพวกพรดรัล แล้วเดินไปที่หน้าด้านของหน้าจอ มองไปยังหน้าจอ ที่เขียนว่า “อันดับรางวัลนำจับ” คำนี้ ข้างล่างตามด้วยรายชื่อ

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท